“ท่านป้าเฉิน คำพูดของท่านข้าฟังไม่เข้าใจ” หลิงมู่เอ๋อร์เชิดใบหน้าน้อยๆที่งดงาม ดวงตาที่สงบไร้ระลอกคลื่นใสบริสุทธิ์อย่างยิ่ง หากมิใช่เพราะเข้าใจถึงนิสัยของนางอยู่นานแล้ว ป้าเฉินจะต้องถูกความใสซื่อนี้หลอกเอาแน่
ดวงตาที่ใสสะอาดคู่นั้นราวกับน้ำพุที่ใสสะอาด น่าเสียดายเหลือเกิน หากนางยังคงไม่รู้เื่รู้ราวต่อไปเช่นนี้ น้ำพุที่ใสสะอาด ช้าเร็วก็จะต้องเปลี่ยนเป็ขุ่นมัวแน่
“เ้ากับซั่งกวนเซ่าเฉิน ไม่ ไม่ว่าเ้าจะอยู่กับใคร ข้าก็ไม่มีทางขัดขวาง แต่เื่ที่ซูเหล่าฟูเหรินขอให้เ้าทำเื่นั้น ไม่อาจรับปาก”
คำพูดของป้าเฉินไม่ใช่การปรึกษา แต่เป็คำสั่ง
ก็ราวกับเป็กษัตริย์ที่อยู่เบื้องบน ออกคำสั่งอย่างอหังการ ไม่ให้โอกาสหลิงมู่เอ๋อร์ได้ปฏิเสธแม้แต่น้อย
“ข้าเป็หมอ ผู้เป็แพทย์ย่อมมีจิตเมตตากรุณา ในสายตาของข้า บนโลกใบนี้ไม่มีคนดีและคนเลว ขอเพียงได้รับาเ็ ข้าก็จะต้องรักษาให้ แน่นอนว่า หากคนผู้นั้นกระทำเื่เลวร้ายไม่ละเว้น ภายหลังข้ารักษาเสร็จแล้ว ก็จะสังหารทิ้งซะ แต่ไม่รู้ว่าที่ป้าเฉินกล่าวเมื่อครู่คือผู้ใดกันเล่า”
ท่าทางสงสัยและใสซื่อของหลิงมู่เอ๋อร์ ก็ราวกับเด็กตัวน้อยที่แสนเชื่อฟังกำลังถามคำถามที่ธรรมดาเป็อย่างมาก ทำเอาป้าเฉินโมโหจนเกือบจะกระอักเืชราออกมา
“หลิงมู่เอ๋อร์ นี่เ้ากำลังแสร้งทำเป็ไม่รู้กับข้า เ้าควรรู้ว่า หากเ้ายังทำเช่นนี้ต่อไป ความสงบที่เ้า้านั่น จะต้องถูกทำลายลงแน่ ตัวเ้าเองไม่เป็ไร แต่เหล่าญาติสนิทที่เ้าให้ความสำคัญที่สุดเล่า?”
ตีงูต้องตีที่เจ็ดนิ้ว ไม่อาจไม่ยอมรับว่า คำพูดของป้าเฉินตีถูกจุดที่เ็ปของหลิงมู่เอ๋อร์
ที่นางมาที่เมืองหลวง ก็เพียง้าเผยแพร่วิชาแพทย์ของสกุลหลิง มิใช่้าให้คนในครอบครัวเดือดร้อน หากเป็เพราะคนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องบางคนทำให้ความสงบสุขของบ้านสกุลหลิงวุ่นวาย ทำให้ท่านพ่อท่านแม่ และญาติสนิททั้งหมดถูกทำร้าย นางจะต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต
“ดังนั้น ท่านจึงตั้งใจมาที่โรงหมอของข้า และก็จงใจพักอาศัยอยู่ที่นี่ เพราะข้าคือเซียนแพทย์ ท่านมั่นใจว่าซูเหล่าฟูเหรินช้าเร็วจะต้องมาหาข้า” สีหน้าของหลิงมู่เอ๋อร์เคร่งขรึม ดวงตาที่เมื่อครู่ยังสงบอยู่ เปล่งประกายเฉียบคมออกมา
ป้าเฉินรู้สึกผิดอยู่บ้าง “ข้าขออภัยอย่างยิ่งที่ใช้วิธีเช่นนี้ทำลายความสงบสุขของเ้า แต่ของเพียงเ้าเก็บมือในตอนนี้ ข้ารับรองว่าเ้าและคนในครอบครัวของเ้าจะมีชีวิตที่สุขสงบเช่นนี้ต่อไป ส่วนฟูเหรินชราของสกุลซูผู้นั้น ก็จะไม่สร้างความลำบากให้เ้า”
ไม่อาจไม่ยอมรับว่า เงื่อนไขนี้มีความเย้ายวนต่อหลิงมู่เอ๋อร์เป็อย่างมาก
ขอเพียงนางล้มเลิกการรักษาสตรีวิปลาสนางนั้น ก็จะไม่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลซูมากไปกว่านี้อีก และก็จะไม่เป็เพราะเหตุนี้ไปล่วงเกินท่านผู้นั้นในวังเข้า ก็จะไม่ชักนำเภทภัยที่ร้ายแรงถึงชีวิตเข้ามา
แต่สตรีที่เสียสตินางนั้น นางสงสารถึงเพียงนั้น
เป็ผู้ใดกันที่ทำให้นางต้องแท้งถึงสามครั้ง เป็ผู้ใดกันที่บีบคั้นนางจนเสียสติ เป็ผู้ใดทำให้นางไม่กล้ายอมรับว่าบุตรชายของตนเป็นางให้กำเนิด
คำพูดนั้นของโจวฉี่เยี่ยนกล่าวได้ถูกต้องแล้ว อย่าได้เรียกนางว่าเซียนแพทย์ เรียกนางว่าพระโพธิสัตว์ดีแล้ว
“ขออภัยด้วย ในเมื่อข้ารับปากไปแล้ว ก็ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจตามใจ ข้าเป็แพทย์ การช่วยคนเป็ภารกิจที่์มอบให้ข้า” น้ำเสียงของหลิงมู่เอ๋อร์ราบเรียบ แต่ใบหน้าที่เรียบเฉยดวงนั้นเด็ดขาดอย่างมาก
“เ้า…” ป้าเฉินโมโหและร้อนใจ แขนที่ชี้หน้าของนางสั่นอย่างรุนแรง “ดื้อรั้นและโฉดเขลา! หลิงมู่เอ๋อร์ ช้าเร็วเ้าจะต้องเสียจเพราะการตัดสินใจในวันนี้ของเ้า!”
อยู่ภายใต้หลังคาเดียวกันกับหลิงมู่เอ๋อร์มานานหลายเดือน ป้าเฉินเข้าใจอารมณ์และนิสัยของนางเป็อย่างดี เปลวเพลิงที่อยู่ในใจราวจะถูกพ่นออกมาจากลำคอ
“ป้าเฉินคิดจะทำสิ่งใดก็เป็เื่ของพวกท่าน ท่านคิดจะต่อสู้กับผู้ใดข้าก็ไม่มีความสนใจ ทว่า หากท่าน้าจากไปแล้วล่ะก็ อย่าได้ลืมเื่ที่ท่านเคยรับปากข้าไว้”
“ครอบครัวของเ้าสงบอย่างมาก ไม่มีการแก่งแย่งชิงดี และก็ไม่มีคนคอยวางแผนทำร้าย ข้าอยู่ที่นี่ใช้ชีวิตอย่างสบายใจมาก รอจนข้าอยากจากไปแล้ว จะต้องจากไปแน่ ถึงเวลานั้น ย่อมไม่ทำให้พวกเ้าต้องเสียเปรียบแน่” แน่นอนว่าป้าเฉินย่อมจำคำพูดที่เคยพูดกับป้าเฉินในยามนั้นได้ นางทิ้งตั๋วเงินสองสามใบไว้ด้วยความโมโห แล้วจากโรงหมอไปพร้อมกับความเย่อหยิ่ง
ห้าพันตำลึง พักอยู่ในโรงหมอกว่าครึ่งปี ค่าที่พักนี้ก็ถือว่าแพงอย่างมาก
หลิงมู่เอ๋อร์หยิบตัวเงินขึ้นมาอย่างเบิกบาน ส่งตั๋วเงินเข้าไปในมิติก่อนซางจือและเจี้ยงเซียงจะเข้ามา ้านี้ประทับตราตั๋วเงินของราชวงศ์ไว้ อาจนำพาเภทภัยถึงชีวิตมาสู่ตนได้ ยังคงซ่อนไว้ให้มิดชิดจะดีกว่า
“คุณหนู ท่านป้าเฉินฝากคำพูดไว้ว่านางไปแล้ว กลับบ้านแล้ว วันหลังจะไม่กลับมาแล้วเ้าค่ะ ป้าเฉินผู้นี้แปลกประหลาดเหลือเกิน อยู่ดีๆก็เข้ามาพักอาศัยไม่ยอมจากไป คราวนี้ก็จากไปอย่างกะทันหัน ที่แท้นางเป็ผู้ใดกันแน่เ้าคะ?” ซางจือเป็ห่วงหลิงมู่เอ๋อร์จากใจจริง ที่สืบข่าวฐานะของป้าเฉิน ก็เพื่อคิดเตรียมการให้พร้อมก่อนอันตรายจะเข้ามา
“นั่นสิ สายตาเมื่อครู่ของนางน่ากลัวมาก ราวกับจะกินคุณหนูก็ไม่ปาน วันหลังคุณหนูไม่อาจรับผู้ป่วยมาไว้ที่บ้านได้ตามใจนะเ้าคะ”
คำพูดนี้ของเจี้ยงเซียงกลับเป็การเตือนหลิงมู่เอ๋อร์
นับจากโจวฉี่เยี่ยนจนถึงซูเช่อ จนถึงป้าเฉิน มีผู้ใดบ้างที่มิใช่ตัวปัญหา?
ดูท่า จิตเมตตาของนางบางครั้งก็ต้องเก็บบ้างแล้ว
“วางใจเถอะ นางเป็คนชนชั้นสูง ไม่มาถือสาตัวละครเล็กๆอย่างข้าหรอก” ต่อให้จะเอาเื่ ก็จะมุ่งมาที่นางหลิงมู่เอ๋อร์เพียงคนเดียวเท่านั้น ที่กล่าวเช่นนี้ ก็เพื่อที่จะปลอบใจซางจือและเจี้ยงเซียงเท่านั้น เมื่อครู่นางปฏิเสธข้อขอร้องของป้าเฉินอย่างเด็ดขาด เกรงว่าปมขัดแย้งที่ยากจะคลี่คลายนี้คงจะถูกสร้างขึ้นมาแล้ว
นางไม่แน่ใจว่าป้าเฉินมีฐานะใด แต่จะเป็ผู้ใดที่ไม่้าให้มารดาผู้ให้กำเนิดรัชทายาทฟื้นชีวิตกลับมา เมื่อใคร่ครวญอย่างละเอียดแล้ว ไม่ว่าสิ่งใดก็ชัดเจน
ทำอย่างไรดี นางพลันรู้สึกคิดถึงซั่งกวนเซ่าเฉินขึ้นมาแล้ว ขอเพียงมีเขาอยู่ จะต้องปกป้องนางแน่นอนใช่หรือไม่ นางได้เห็นอย่างชัดเจนว่า ซั่งกวนเซ่าเฉินใช้สายตาข่มขู่ป้าเฉิน เช่นนั้น เฉินของนางมีฐานะใดกันแน่นะ?
คิดมากแล้ว หัวก็รู้สึกปวดอยู่บ้าง มิได้รู้สึกว้าวุ่นใจเช่นนี้มานานแล้ว หลิงมู่เอ๋อร์จึงถือโอกาสให้ซางจือและเจี้ยงเซียง สาวใช้ทั้งสองหยุดพักเสียเลย กลับไปที่จวนสกุลหลิง
นางชอบแช่น้ำร้อนในฤดูหนาวที่สุด สามารถขับไล่ความเหนื่อยล้าตลอดร่างและก็อบอุ่นอย่างมาก ราวกับสามารถทำให้คนลืมความขุ่นมัวทั้งหมดได้
ถอดเสื้อคลุมออก เปลือยเท้าเดินขึ้นไปบนแท่นสามขั้น ถังอาบน้ำเป็หลิงจือเซวียนสร้างให้นางด้วยตนเอง ด้านล่างประดิษฐ์การรักษาความร้อนไว้ ดังนั้น ไม่ว่านางจะแช่น้ำร้อนนานเท่าใดก็จะไม่เย็น
สายลมระลอกหนึ่งพัดโชยมา หน้าต่างไม้ราวกับจะถูกลมพัดจนขยับ หลิงมู่เอ๋อร์พลันใ รีบกระชับคอเสื้อสีขาวทันที แววตาของนางเย็นดุจน้ำแข็ง ในยามที่หมุนกลับมา เข็มเงินเล่มหนึ่งก็ซ่อนอยู่ในฝ่ามือแล้ว “ใครกัน?”
คำพูดพึ่งกล่าวออกไป กลิ่นอายที่คุ้นเคยกลิ่นหนึ่งก็โชยมาสู่จมูก ในขณะเดียวกับที่นางขมวดคิ้วก็แอบถอนใจอย่างโล่งอกไปด้วย เป็ถึงจวิ้นอ๋องผู้หนึ่ง กลับเชี่ยวชาญในการบุกรุกห้องหอของสตรี ยังแอบดูการอาบน้ำอีก เื่นี้หากถูกแพร่ออกไป ไม่รู้ว่าชื่อเสียงของจวิ๋นอ๋องน้อยท่านจะเป็อย่างไร?
ไม่ผิด กลิ่นหอมที่ภายนอกดูเรียบสงบแต่กลับแฝงความคลุ้มคลั่งไว้ภายในนั้นเป็เอกลักษณ์เฉพาะตัวของซูเช่อ ทุกครั้งที่บุรุษผู้เลอลักษณ์ผู้นั้นเดินผ่านข้างกายไป มักจะทำให้นางอดกลั้นหายใจมิได้
รูปโฉมงดงามก็ช่างแล้ว กลิ่นน้ำหอมบนร่างยังยั่วยวนเช่นนั้นอีก ช่างเข้ากับบรรยากาศมารร้ายของเขาจริงๆ
“ขอโทษด้วย ข้ามิได้มีเจตนาจะรบกวนการอาบน้ำของเ้า เป็เพราะโรงหมอของเ้าปิด ข้าจึงได้มาหาที่นี่ เ้า้าพบข้าหรือ?” เสียงที่น่าฟังของซูเช่อดังสูงต่ำ ราวกับท่วงทำนองที่เปรมปรีดิ์ มิได้ปิดบังความยินดีของเขาแม้แต่น้อย
เห็นเขาเป็เพื่อนมาโดยตลอด และก็รู้ถึงความคิดของซูเช่อมาโดยตลอดเช่นกัน แต่เมื่อเห็นเขาร่างหยัดตรงหันหลังให้นาง หลิงมู่เอ๋อร์ก็ถอนใจโล่งอกอย่างพึงพอใจ
เหตุใดนางจึงลืมซูเช่อไปได้ หากถูกซั่งกวนเซ่าเฉินเ้าไหน้ำส้มนั่นรู้เข้า ว่าเ้าตัวนี้เคย บุกเข้ามาในห้องส่วนตัวของนางและเกือบจะเห็นนางอาบน้ำ ก็ไม่แน่ว่าจะฆ่าเขาด้วยวิธีใด
“จวนอัครเสนาบดีมีเจตนาจะเชื่อมสัมพันธ์ดองเป็ญาติกับจวิ๋นอ๋อง ได้ยินว่าซูเหล่าฟูเหรินเห็นด้วยกับการแต่งงานในครั้งนี้แล้ว ่นี้กำลังดูปฏิทินฤกษ์ยาม ดูท่าอีกไม่นาน คงได้ดื่มสุรามงคลของจวิ้นอ๋องน้อยแล้ว?”
เสื้อผ้าของหลิงมู่เอ๋อร์ แต่งกายอย่างเรียบร้อย แต่ผมที่ปล่อยสยายอยู่นั้น คร้านเกินกว่าที่จะสางเกล้า จึงปล่อยให้เส้นไหมสามพันเส้นโปรยปรายอยู่บนหัวไหล่ นางนั่งอยู่หน้าโต๊ะในห้องโถงหน้าราวกับแมวน้อยที่อ่อนนุ่ม ความสุขใสในยามปกติเปลี่ยนเป็เย้ายวน ในยามที่รินน้ำชา เส้นไหมสองสามเส้มละผ่านข้างแก้ม เพิ่มเสน่ห์ที่ยั่วเย้าขึ้นมากอีก
นางปีศาจที่แสนเย้ายวนตัวนี้นี่!
“เ้าหึงแล้ว?” ซูเช่อกำมือ ก้าวเท้ายาวมายังเบื้องหน้าของนาง แย่งจอกชาที่ส่งถึงริมฝีปากของหลิงมู่เอ๋อร์ดมาดื่มจนหมด น้ำเสียงยิ่งรื่นรมย์กว่าเมื่อครู่แล้ว “หากเ้าไม่พอใจ เื่นี้ก็จะยุติั้แ่บัดนี้ ท่านย่าแต่ไรมาก็เอ็นดูข้า คำขอร้องของข้า นางไม่มีทางไม่รับปาก”
“ได้ เห็นแก่ที่รู้จักกันมา ในยามที่ท่านแต่งงาน เชิญข้าดื่มซักจอกก็พอ ส่วนเ้าสาวจะเป็ผู้ใดนั้น ข้าไม่มีความสนใจแม้แต่น้อย แต่ว่า…” นางวางจอกชาลงบนโต๊ะอย่างหนัก วิธีการพูดเปลี่ยนจากอ่อนโยนเป็โกรธา เ้าสาวที่ถูกกำหนดไว้แน่นอนแล้วของท่าน คิดทำเื่ที่ทำร้ายผู้อื่นจนย้อนมาทำร้ายตน ท่านผู้เป็คู่หมั้น ควรจะรับผิดชอบทั้งหมดหรือไม่?
ซูเช่อลุกขึ้นยืนขึ้นมาทันที ใบหน้าที่เดิมร่าเริงเปลี่ยนเป็มืดคลึ้ม “เ้าพูดอะไร? หลันเชี่ยนหยิ่งนางเบื่อที่จะมีชีวิตแล้ว!”
ไม่ถูก ที่เขาพูดเช่นนี้ มิใช่เท่ากับยอมรับว่าเขาจะแต่งกับหลันเชี่ยนหยิ่งหรือ?
ในยามที่ซูเช่อรู้สึกตัวกลับมานั้น ก็เห็นใบหน้าของหลิงมู่เอ๋อร์เต็มไปด้วยความโกรธ เขารีบอธิบายว่า “การเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างจวนตระกูลซูกับจวนอัครเสนาบดี เป็ความคิดเหล่าผู้าุโ หากเ้าไม่พอใจ พรุ่งนี้ข้าก็จะประกาศความคิดของข้าออกไป แน่นอนว่า หลันเชี่ยนหยิ่งทำสิ่งใดต่อเ้า ข้าจะต้องให้นางได้ชดใช้แน่!”
“หากข้าคิดจะจัดการกับนาง เทียบกับท่านแล้วง่ายกว่ามากนัก คิดไปคิดมา จะอย่างไรนางก็เป็ผู้ที่ซูเหล่าฟูเหรินเห็นชอบ หากข้าลงมือโดยพลการ มีแต่ผลเสียไร้ผลดีต่อข้า” ดื่มชาหลงจิ่งที่พึ่งชงมา ในใจและในกระเพาะต่างก็อบอุ่น หลังจากหลิงมู่เอ๋อร์บิดี้เีอย่างเกียจคร้าน ก็ค่อยๆลุกขึ้น “จวิ้นอ๋องน้อยคิดทำสิ่งใดเป็เื่ของท่าน”
ผ่านข้างกายของซูเช่อไป หลิงมู่เอ๋อร์กลับไปยังข้างอ่างอาบน้ำอีกครั้ง เห็นซูเช่อไร้ความเคลื่อนไหวอยู่ครู่หนึ่ง นางขมวดคิ้วบางๆ อย่างไรกัน จวิ้นอ๋องน้อยคงมิได้คิดทำเื่เช่นการขโมยดูเด็กสาวอาบน้ำ ที่ทำลายทั้งชื่อเสียงของตนและชื่อเสียงอันดีงามของผู้อื่นกระมัง?
ยามนี้ ซูเช่อกำลังโมโห ยามหันศีรษะกลับมาก็เห็นหลิงมู่เอ๋อร์ยิ้มให้เขาอย่างเฉิดฉัน ในเสี้ยววินาทีนั้น สติของเขาก็หลุดลอย
มีหรือที่เขาจะไม่อยากดู? ยิ่งแทบจะอยากโดดลงไปในอ่างใบใหญ่นี้กับนางด้วย แต่กลับมีคนมีความคิดจะแตะต้องนาง นี่เป็เื่ที่สมควรตายจริงๆ!
“เื่นี้ข้าจะต้องมอบคำอธิบายให้เ้าแน่
ซูเช่อะโขึ้น จากไปในจุดที่มา แม้จะจากไปแล้ว เสียงที่น่าฟังยังดังลอยมา “ทว่า ครั้งหน้าในยามอาบน้ำ ยังคงขอให้คุณหนูหลิงปิดหน้าต่างให้ดี เพราะมิใช่โจรเด็ดบุปผาทุกคนที่จะรักถนอมหยกเช่นข้า”
“เพ้ย!”
หลิงมู่เอ๋อร์ถลึงตาใส่นอกหน้าต่างอย่างอับอายและมีโทสะ ในยามที่หันสายตากลับมานั้น ก็ได้หลับตาลง ปล่อยให้ร่างของตนแช่อยู่ในน้ำ อย่างไม่รู้ตัว ก็หลับลึกลงไป
“ระวัง!”
ะโจนสุดคอ ตะเบ็งจนเสียงแตกพร่า ชายที่หันหลังให้นางพลันหันสายตากลับมา และในยามนั้น ลูกธนูแหลมคมดอกหนึ่งพลันทะลุผ่านร่างไป หน้ากากหนังมนุษย์ที่เดิมกระด้างเยียบเย็นพลันตกลง เผยรูปโฉมงามเลิศล้ำที่สามารถล่มชาติและสร้างความเดือดร้อนให้ปวงประชาได้ออกมา
“ซั่งกวนเซ่าเฉิน!” หลิงมู่เอ๋อร์จำไม่ได้ว่าในยามนั้นนางะโจนเสียงแหบแห้งอย่างสิ้นหวังเพียงใด นางเบิกตามองชายที่รักนาง ถนอมนาง เห็นนางเป็ดั่งชีวิตล้มลงในกองเื หายใจรวยริน…