“ อืม! จัดว่าน่ากลัวทีเดียวแล้วพวกท่านสงสัยว่าเป็สัตว์ประเภทไหนเ้าคะที่จับตัวผู้สูญหายไป”
“ มีแต่ชาวบ้านพูดไปต่างๆนานา บ้างก็ว่าถูกปีศาจจับตัวไปบ้างก็ว่าถูกสัตว์อสูริญญาระดับสูงทำร้ายเอา แต่คนที่เข้าไปในป่านั้นต่างก็เป็ผู้มีฝีมือทั้งนั้น ถ้าเป็สัตว์อสูรก็น่าจะเห็นร่องรอยอะไรบ้างถ้าเป็ปีศาจ มันคือปีศาจอะไรกัน”
“ เอาเป็ว่าเ้าก็อย่าเข้าไปใกล้ก็แล้วกัน แม่หนูเ้ามาจากต่างเมืองได้มุกิญญาที่ขายผลไม้มีพลังนี้ไป เ้าก็เช่าโรงเตี๊ยมอยู่อย่าได้เข้าไปพักอยู่แถวชายป่านั่นเด็ดขาด”
“ ผลไม้ของเ้านับได้หนึ่งร้อยห้าสิบผล รวมเป็เก้าสิบมุกิญญาใหญ่ แค่นี้เ้าก็มีชีวิตสุขสบายหลายปีแล้ว อายุยังน้อยไม่สนใจจะเรียนกับสำนักเทพสุริยันรึ แม่หนู”
“ สนใจเ้าค่ะแต่ว่าเห็นเวลาเหลืออีกตั้งสามเดือนข้าค่อยมาสมัครก็ได้ ข้าไปละขอบคุณเถ้าแก่มากนะเ้าคะ ที่ให้ราคาเป็ธรรมและพูดคุยเป็กันเองกับพวกข้า”เย่วซิงรีบเดินออกจากร้าน
“ เดินหาร้านขายเสื้อผ้ากันเถอะ ข้า้าชุดเดินป่าและหาซื้อรองเท้าด้วย”
“ ตรงนี้เ้าค่ะคุณหนูเห็นมีเสื้อผ้าเดินป่าและรองเท้า ที่จอมยุทธ์ทั้งหลายซื้อไปใส่กัน” ร้านค้าดังกล่าวมีพื้นที่ขว้างขวางทั้งด้านข้างและด้านหลัง ข้างหน้าก็เป็ลานกว้าง ขายชุดเดินป่าของชาวยุทธรวมทั้งเสื้อผ้า จัดแต่งร้านอย่างสวยงามมีที่นั่งจิบชาอยู่ข้างทางเข้าด้านหน้าของร้าน
“ โอ้! มีใบประกาศตามหาตัวคนที่หายไปติดอยู่ตรงหน้าทางเข้าด้วย ค่าจ้างแพงทีเดียวแถมมีหลายใบด้วย ถ้าหาพวกเขาเจอทุกคนในใบกระดาษนี้ ข้าไม่กลายเป็เศรษฐีเลยรึ”
“ฮ่าๆๆ แม่หนูน้อยเ้าแค่มีชีวิตรอดกลับมาก็พอแล้ว เื่เป็เศรษฐีมีเงินเป็เื่ฝันเฟื่องมากกว่า มีผู้คนเข้าไปหาแต่ไม่มีใครกลับออกมา บางคนญาติต้องมาเสียค่าจ้างเพิ่ม” ชายรูปร่างใหญ่วัยกลางคน เขาเป็เ้าของร้านหัวเราะ เมื่อได้ยินเสียงนางพูดขึ้น
“ ทุกคนที่ญาติหายตัวต้องมาติดประกาศไว้ตรงนี้หรือเ้าค่ะเป็เพราะเหตุใด ทำไมถึงไม่ติดประกาศไว้ที่สำนักหรือส่วนที่ทำการของส่วนเ้าหน้าที่”
“ เพราะร้านค้ามีจอมยุทธ์ที่เดินทางไปมา แวะเข้ามาจับจ่ายซื้อของยังไงล่ะถ้าติดไว้ที่สำนัก จอมยุทธ์พวกนั้นคงจะไปอ่าน”
“ เป็แบบนี้นี่เองแล้วถ้าเกิดมีคนทำสำเร็จ ต้องไปรับมุกิญญาจากที่ไหนกันหรือเ้าค่ะ”
“ ก็มาติดต่อที่ร้านข้านี่แหละ เพราะญาติแต่ละคนทิ้งค่าจ้างจำนวนครึ่งหนึ่งไว้ที่นี่เ้าอย่าเสียงดังไปล่ะ”
“ ไว้มีโอกาสข้าจะมารับค่าจ้างตามใบประกาศที่ติดไว้ที่นี่ก็แล้วกัน แต่ตอนนี้ข้าขอไปดูชุดเดินป่าก่อนข้า้ารองเท้าด้วย” เ้าของร้านมองเด็กน้อยด้วยความแปลกใจ นางจะมารับค่าจ้างอะไรที่นี่นอกเสียจากว่าจะตามผู้สูญหายกลับมาเท่านั้น
“ เอาชุดสีเข้มที่เปื้อนยากสีเทาสีดำสีน้ำเงินสีเขียวอย่างละชุดเ้าค่ะ รองเท้าขออย่างดีที่สุดคู่หนึ่งก็พอ”
“ เ้าจะไปเดินป่าจริงหรือ แม่หนูน้อยแต่คงไม่ใช่ป่าจันทร์ดับใช่หรือไม่ รองเท้าเดินป่าน่าจะมีปัญหาเพราะเท้าเ้าเล็ก มีคู่หนึ่งที่เล็กที่สุดแต่กลัวว่าเท้าเ้าจะใส่ไม่ได้”
“ ท่านไม่สร้างรองเท้าเดินป่าสำหรับผู้หญิงหรือเ้าค่ะ ถึงข้าจะตัวเล็กแต่เท้าก็ใหญ่อยู่นะท่านเอามาให้ข้าลองดูเถอะ ข้าตัดสินใจเองว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อ” เ้าของร้านเอารองเท้ามาสองคู่สำหรับผู้หญิง และคู่เล็กที่สุดในร้านออกมาให้เย่วซิงดู
“ เห็นไหมคู่นี้ข้าใส่ได้พอดี เพราะเท้าข้าไม่ได้ห่อหุ้มแบบของคนโบราณ เออ!ไม่ใช่ของคนเมืองนี้ ข้าเติบโตมากับป่า เท้าเลยใหญ่”
“ เ้าใส่ได้ก็ดีแล้วได้ชุดกับรองเท้า เ้ามีมีดเดินป่าหรือยังถุงย่ามล่ะ”
“ ท่านเอามาให้ข้าดูเลยเ้าค่ะถุงย่ามข้ามีอยู่แล้ว แต่ถ้ามีถุงย่ามเดินป่าน่าจะทนทาน มีดเอาไว้ตัดเถาวัลย์หรือต้นหญ้า”
“ ถุงย่ามใบนี้ทำมาจากหนังสัตว์จุของได้เยอะแล้วยังเหนียวทนทานอีกด้วย ส่วนมีดนี่ก็คมเ้าใช้สังหารสัตว์ยังได้เลยไม่ใหญ่เทอะทะด้วย”
“ ข้าตกลงเอาทั้งหมดเ้าค่ะท่านคิดมาเลยว่าต้องใช้กี่มุกิญญา”
“ ทั้งหมดมีเสื้อผ้าสี่ชุดรองเท้าหนึ่งคู่ถุงย่ามหนึ่งใบมีดอีกหนึ่งเล่ม รวมกันแล้วเป็แปดมุกิญญาใหญ่ นี่ข้าลดพิเศษให้เ้าไปถึงห้ามุกิญญาเล็กเลยนะ”
“ นี่เ้าค่ะแปดมุกิญญาใหญ่ ขอบคุณที่ลดราคาให้ไว้วันหลังถ้าผ่านมาข้าจะแวะมาอุดหนุนท่านอีก”ทั้งสองเดินออกจากร้านค้า
“ พี่ซูลี่ท่านก็ซื้อชุดหรือผ้าพับที่สวยงามจากที่นี่ไปตัดเย็บเถอะ ซื้อไปเผื่อพี่ซิงอีด้วยเ้าค่ะมีลวดลายสีสันให้เลือกมากกว่านอกเมืองไหนๆก็มาแล้ว”เย่วซิงเดินนำหน้าเข้าร้านขายเสื้อผ้าขนาดใหญ่
“ หยุดก่อนแม่นางน้อย ที่ร้านตอนนี้มีลูกสาวเ้าเมืองกำลังเดินเลือกซื้อผ้าในร้านอยู่ เ้ารออยู่ตรงนี้สักพักรอให้นางเลือกเสร็จแล้วค่อยเข้าไป”
“ อ้อ! ไม่เป็ไรข้าไปร้านอื่นก็ได้เพิ่งรู้ว่าร้านนี้สร้างมาเพื่อลูกสาวเ้าเมืองเท่านั้น ข้าจะได้จำไว้วันหลังจะได้ไม่เข้ามาเหยียบที่นี่อีก”เย่วซิงเดินออกจากร้านไป มองหาร้านใหม่
“ ตอนนี้ร้านเรายังเข้าไปไม่ได้เ้าค่ะ คุณหนูใหญ่ทั้งสี่ของจวนใหญ่อย่างตระกูลหม่ากำลังเดินเลิกซื้อของอยู่ เ้ารอสักครู่คุณหนูเลือกอยู่พักหนึ่งแล้วน่าจะใกล้เสร็จแล้วล่ะ”
“ฮึ! ให้ข้ารอเพื่ออะไรกัน รอแล้วร้านเ้าจะลดครึ่งราคาให้ค่ะอย่างงั้นรึ ”เย่วซิงเดินออกมาจากร้านค้า มองหาร้านที่อยู่ใกล้กัน
“ คุณหนูยังไม่ต้องรีบซื้อก็ได้เ้าค่ะ ดูเหมือนวันนี้จะมีแต่คนใหญ่คนโตมาซื้อเสื้อผ้าหรือว่าพวกเราจะไปดูร้านที่เล็กกว่า”
“ ก็ได้ตามใจพี่ซูลี่ ข้าเคยเดินแต่ห้างสรรพสินค้าที่บริการทุกระดับประทับใจ ไม่ใช่เลือกบริการแต่ตระกูลใหญ่ แบบนี้ใครไปเลือกเสื้อผ้าก็เลือกไป อยู่คนละมุมทำไมถึงจะเปิดขายให้ผู้อื่นไม่ได้กัน”ซูลี่เดินตามหลังสิ่งที่คุณหนูของนางพูดมาเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง แต่ก็รู้เื่ทางร้านเลือกขายให้แก่ตระกูลใหญ่โตก่อน
ทั้งคู่ได้ผ้าหลายพับมาจากร้านขนาดเล็ก ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากร้านใหญ่เท่าไหร่นัก"พี่ซูลี่ก่อนจะกลับหาของอร่อยกินกันเถอะ ข้าอยากชิมขนมเมืองนี้ว่ารสชาติเป็ยังไง"
กว่าทั้งคู่จะกลับมาถึงจวนตระกูลกัวก็เป็เวลาเย็นแล้ว“โอ้!ดูเหมือนพวกเขาจะเร่งมือบูรณะซ่อมแซมจวน มองจากข้างนอกเหมือนจวนปกติที่มีคนอยู่อาศัยตลอดมาแล้ว”
“ แม่นางน้อยเ้ากลับมาแล้ว ข้าซื้อทาสมาห้าสิบคน เ้าสื่อสารกับิญญาได้ถามท่านบรรพชนให้หน่อย ว่าพวกเขาเป็ยังไงไว้ใจได้ไหม เ้าตามเข้ามาทางนี้”เย่วซิง เดินตามชายชราไปยังลานกว้างเป็ส่วนกลางของจวนใหญ่
เพราะเป็เวลาใกล้มืดแล้ว ิญญาผีสาวยืนดูชายหนุ่มทั้งคนห้าสิบคนที่ได้รับการเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว เย่วซิงหลังจากได้ไปจับจ่ายซื้อของกลับมาแล้วอารมณ์นางก็เย็นขึ้น
“ พี่สาวว่าอย่างไรหรือ ทั้งคนห้าสิบคนมีใครที่ท่าทางไว้วางใจไม่ได้บ้างจะได้คัดออกไปก่อน ให้ไปดูแลส่วนอื่นก็ได้”
“ พวกเขาดูเป็คนดีแต่ไม่มีความมั่นใจ ว่าอยู่ในตระกูลนี้จะมั่นคงสำหรับพวกเขาไปตลอดไหม ข้า้าให้เ้าช่วยแสดงฝีมือให้พวกเขาเห็นว่าในตระกูลนี้มีผู้อยู่เื้ัที่ยิ่งใหญ่”
“ อย่างข้าน่ะหรือ เป็ผู้อยู่เื้ัตระกูลผู้ยิ่งใหญ่ ไม่ตลกไปหน่อยรึข้าเป็แค่แม่นางน้อยผู้หนึ่งเท่านั้นจะไปแสดงอะไรให้พวกเขาดูได้”
“ เ้าจะเขียนข่ายอาคมควบคุมจวนของข้าได้หรือไม่ ถ้าเ้าตกลงเมื่อเ้าทำสำเร็จแล้วข้ายินดีที่จะไปปรโลกพร้อมกับเหล่าบรรพชนทั้งหลายที่อยู่ในห้องป้ายิญญา”เย่วซิงไม่พูดแต่พยักหน้า
“ท่านลุงเรียกทุกคนให้รวมกันที่นี่ ถ้าไม่ใช่คนในนี้ก็ถือว่าเป็ผู้บุกรุก ถ้าใครจะเข้ามาพวกเ้าต้องเชิญเท่านั้นถึงจะเข้ามาได้ ข้าจะวางข่ายอาคม” ชายชราใเมื่อได้ยินว่า แม่นางน้อยผู้หนึ่งถึงกับจะวางข่ายอาคมคุมจวนใหญ่ รีบวิ่งไปเรียกลูกหลาน
เมื่อทุกคนมาพร้อมแล้ว เย่วซิงอัญเชิญพู่กันออกมา แล้วเขียนข่ายอาคมขึ้นกลางอากาศ ท้องฟ้าที่เริ่มมืดทำให้พวกเขาเห็นอักขระ จำนวนมากที่เป็ขอบขยายกว้างออกคุมทั้งจวนไว้ ตัวหนังสืออักขระลอยเด่นเป็สีทองปรากฏอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็หายไป เป็อันรับรู้กันว่าจวนหลังนี้ได้รับการปกป้องจากตาข่ายอาคมเรียบร้อยแล้ว
หลายคนยังมีอาการตกตะลึงอ้าปากค้าง ที่เห็นตาข่ายอาคมอันศักดิ์สิทธิ์และที่น่าทึ่งกว่านั้นคือ เ้าของพู่กันที่เป็เด็กผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้น ทาสทั้งห้าสิบคนที่ตอนแรกไม่ค่อยมีความมั่นใจว่าตัวเองอยู่แล้ว จะเอาชีวิตมาทิ้งเสียมากกว่า เห็นว่าผู้อยู่เื้ัมีความสามารถั้แ่เด็กขนาดนี้ก็มีกำลังใจ จะอยู่ปกป้องที่นี่
“ ท่านลุงอุ้มหม้อสีดำไปรวมไว้ในห้องบูชาป้ายิญญา ข้าจะได้ท่องมนต์คาถาส่งพวกเขาไปยังปรโลกพร้อมกัน” ชายชรารีบอุ้มหม้อสีดำไปยังห้องบรรพชน
“ ถ้าพวกท่านไปปรโลกกันหมดแล้ว ใครจะอยู่ปกปักรักษาจวนของพวกเราล่ะ” มีเสียงดังขึ้นมาจากทางเดิน
“ พวกท่านก็ต้องฝึกฝนตัวเองให้เก่งไม่ต้องรอให้บรรพบุรุษหรือบรรพชนคอยช่วยเหลืออยู่ตลอด หากพวกเ้าอยู่กันเองด้วยดีมีความกตัญญู ทำบุญทุกปีเซ่นไหว้ิญญาบรรพชน ถึงจะไม่ได้อยู่ที่นี่แต่อยู่สักที่หนึ่งคอยดูแลพวกเ้าอยู่ และไม่แน่หากไปยังปรโลกแล้วถูกตัดสินให้ไปเกิดใหม่ พวกเขาอาจจะมาเกิดเป็ญาติของพวกเ้าก็ได้”
เย่วซิงยืนอยู่ท่ามกลางป้ายิญญาทั้งหลายที่มีวางไว้อยู่เต็มห้อง และเริ่มท่องมนต์คาถาส่งิญญาไปยังปรโลก เมื่อบทมนต์คาถาที่ท่องจบลงิญญาทั้งหลายที่อยู่ในห้องก็หายไปพร้อมด้วยิญญาของหญิงสาว
“ ิญญาทั้งหมดได้ไปสู่ปรโลกแล้ว ข้าจะพักอยู่ที่นี่คืนหนึ่ง พรุ่งนี้เช้าจะรีบเดินทาง”
“ แม่นางน้อยเ้าพักอยู่ที่นี่สักหลายวันไม่ได้รึ เ้าไปเดินซื้อของในตลาดร้านค้าในเมืองไม่ได้ข่าวเื่ของ ป่าจันทร์ดับบ้างเลยหรือ มีญาติที่ตระกูลของข้าหายเข้าไปในป่านั้นด้วย” ผู้พูดคือหญิงวัยกลางคนผู้หนึ่ง
“ ข้าเห็นแม่นางมีฝีมือ และบทมนต์คาถาที่ส่งิญญาไปปรโลกได้ แม้ญาติที่อยู่ในป่าเสียชีวิตไปแล้วข้าก็อยากให้เขาไปปรโลกเพราะมีข่าวว่ามีิญญากักขังพวกเขาไว้”
“ อืม!ก็น่าคิดที่นี่ไม่ไกลจากป่าจันทร์ดับเท่าไหร่นัก ข้าไม่ได้จะไปปราบิญญาหรอกนะข้าไปหาสมุนไพรและผลไม้มีพลังต่างหาก”
“ ก็ได้ที่นี่กว้างขวางพี่ซูลี่จะได้มีเพื่อนคุย ข้าอยู่ที่นี่สักพักหนึ่งพรุ่งนี้ข้าจะเดินทางไปสำรวจป่าจันทร์ดับดู”
คนในจวนดีใจต่างกระตือรือร้นหาห้องพักอย่างดีให้เย่วซิง ที่นางตอบตกลงที่จะพักอยู่ที่นี่ต่อ
“ คุณหนูจะเข้าไปในป่าที่มีชื่อเสียงเื่อันตรายแบบนั้นจริงหรือเ้าคะ ข้าอดเป็ห่วงไม่ได้มันไม่เหมือนป่าที่หมู่บ้านต้าซานนะเ้าคะ”