ความอ่อนนุ่มของส่วนที่เพิ่งได้รับััยังคงอยู่ ปลายนิ้วของเขาไม่ได้อ่อนโยนนัก เขี่ยวนวดในช่องทางรักที่ชื้นแฉะ ความเหนอะหนืดของน้ำรัก เสียงครางแหบพร่าของชายหนุ่ม ทั้งหมดล้วนยั่วยวนเขา
เขาคิดมาตลอดว่าตัวเองสุขุมมากพอ แต่ที่แท้ก็เป็เพราะไม่เคยเจอปีศาจ!
"อ๊ะ... อ๊ะ..." ดวงตาคู่สวยของชิวฮว๋ายจุนพร่าเลือน กัดนิ้วมือแน่น ไม่รู้ว่าเจ็บหรือสุข ภาพลักษณ์ที่ทั้งสะบักสะบอมและเร่าร้อนนั้น ทำให้เซี่ยชิงหลิวอดไม่ได้ที่จะโน้มตัวลง จูบซับน้ำตาของเขาเบาๆ
"ถ้ายังร้องไห้อีก ฉันจะขยี้นายให้ตาย"
เขาไม่ค่อยพูดจาหยาบคาย การอบรมสั่งสอนทำให้เขาไม่เคยปริปากถ้อยคำหยาบคายออกมา แม้จะไม่พอใจเพียงใด แต่ต่อหน้าแมวน้อยตัวนี้ เขากลับปล่อยตัวตามสบายอย่างหาได้ยาก
ชิวฮว๋ายจุนสะดุ้งเฮือก เงยหน้ามองเขาด้วยดวงตาที่เปียกชื้นไปด้วยน้ำตา มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย กระซิบข้างหูเขาเบาๆ ว่า "…ผมคาดหวังมากเลยครับ" พูดจบก็ค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง ยังอุตส่าห์เอื้อมมือมาััแก่นกายที่ยังเปียกชุ่มของเขาอีกด้วย
ฝ่ามือที่อ่อนนุ่มและอุ่นร้อนของชายหนุ่มมอบความระทึกใจอย่างยิ่งให้กับส่วนที่บอบบางของเขา ทำให้ลมหายใจที่เพิ่งสงบลงกลับมาถี่กระชั้นอีกครั้ง เขาหอบหายใจ มองดูชายหนุ่มนั่งคร่อมอยู่ตรงหน้า อ้าขาทั้งสองข้างกว้าง ปรนนิบัติลูบไล้เขา ความปรารถนาอันแรงกล้าทำให้แก่นกายที่เพิ่งปลดปล่อยไปเมื่อครู่กลับผงาดขึ้นมาอีกครั้งอย่างควบคุมไม่ได้
ในคืนนั้น พวกเขาร่วมรักกันนับครั้งไม่ถ้วน ชิวฮว๋ายจุนกรีดร้องเสียงหลงอยู่ใต้ร่างเขา จนถึง่กลางดึกก็แทบจะเปล่งเสียงออกมาไม่ได้ ทำได้เพียงส่งเสียงครางอู้อี้คล้ายลูกแมวน้อย แม้ร่างกายจะอ่อนล้าแทบหมดเรี่ยวแรง แต่เรียวขายาวยังคงหนีบเขาไว้แน่น ไม่ยอมปล่อย บดเบียดเสียดสีอย่างไม่ลดละ
ตอนที่เขากดชิวฮว๋ายจุนแนบกับผนัง ปลดปล่อยภายในร่างกายอีกครั้งในท่าเข้าด้านหลัง ฟ้าก็เริ่มสางแล้ว ชิวฮว๋ายจุนขาสั่นพับทรุดลงกับพื้น ่ล่างเลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปหมด เขาผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ ช้อนอุ้มร่างบอบบางที่ถูกเขากระทำจนแทบสิ้นลมหายใจขึ้นมา แล้วโยนลงบนเตียงอย่างหยาบกระด้าง แม้แต่จะอาบน้ำก็ยังไม่มีแรง จึงโอบกอดร่างบางไว้แล้วมุดเข้าไปในผ้าห่มโดยตรง
ชิวฮว๋ายจุนรวบรวมเรี่ยวแรงที่เหลือโอบรอบเอวเขา ซุกหน้าเข้ากับอกที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อของเขา แล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
"ฉันเปียกเหงื่อไปหมด" เขายิ้มลูบผมของชิวฮว๋ายจุน คล้ายเป็ความเอ็นดูที่เ้านายมีให้ลูกน้อง
"ผมชอบ" ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ ริมฝีปากแดงระเรื่ออ้าออกพ่นลมหายใจอุ่นร้อนใส่หน้าอกเขา ทำให้รู้สึกกระซ่านอย่างบอกไม่ถูก
'บอกชอบไม่ชอบอะไรกัน เด็กนี่จริงๆ เลย…' ขณะที่เซี่ยชิงหลิวคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่นั้น ชิวฮว๋ายจุนก็เงยหน้าขึ้นมา ปลายนิ้วแตะริมฝีปากเขา ดวงตากลมโตดำขลับที่ยังคงคลอเคล้าไปด้วยหยาดน้ำตาจ้องมองเขาเขม็ง
ชิวฮว๋ายจุนถูกเขากัดจนทั่วร่างมีแต่รอยฟัน มีเพียงใบหน้าขาวผ่องที่สะอาดสะอ้าน ริมฝีปากรูปทรงสวยงามบวมแดง แต่เป็ร่องรอยที่เกิดขึ้นเพราะชายหนุ่มกัดตัวเองตอนถึงจุดสุดยอด พวกเขาร่วมรักกันอย่างบ้าคลั่ง แต่เขากลับไม่เคยจูบเด็กคนนี้เลย
เขามองดูสีหน้าเฝ้ารอคอยของชิวฮว๋ายจุนและริมฝีปากแดงก่ำนั้น เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าชายหนุ่มกำลังรอคอยอะไรอยู่ แต่เขาไม่อยากทำ
เมื่อเห็นว่าเขาไม่มีทีท่าว่าจะทำอะไร ชิวฮว๋ายจุนก็ค่อยๆ โน้มตัวเข้ามาใกล้ เมื่อริมฝีปากของทั้งสองกำลังจะแตะกัน เขาก็เอื้อมมือไปบีบคางเรียวเล็กของชายหนุ่มไว้ พร้อมกับใช้นิ้วโป้งกดริมฝีปากของเขา
"นอนเถอะ"
เขาพูดแต่เพียงเท่านั้น แต่คนฉลาดอย่างชิวฮว๋ายจุนย่อมรู้ความหมายของเขาดี ในดวงตามีแววผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง ซุกตัวเข้าสู่อ้อมกอดเขา กอดเขาไว้แน่นขึ้น ราวกับเด็กที่กำลังกอดของเล่น
......
เซี่ยชิงหลิวตอบรับคำเชิญของโรงเรียนเก่า แทรกการกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมเข้าไปในตารางงานที่แน่นขนัดอย่างเสียไม่ได้ ศาสตราจารย์เน้นย้ำว่าเขาเพียงแค่กล่าวคำทักทายง่ายๆ ในฐานะศิษย์เก่าาุโก่อนเริ่มการสัมมนาเท่านั้น และเขาคิดว่างานเลี้ยงอาหารค่ำในตอนเย็นก็อยู่ใกล้กับโรงเรียนพอดี จึงไม่ได้ปฏิเสธ
วิทยาเขตไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนัก ยังคงเป็อาคารอิฐแดงโบราณและต้นไม้เขียวชอุ่มเหมือนเดิม เขาเดินอยู่ใต้ร่มเงาไม้กับชิวฮว๋ายจุน ฟังเสียงหัวเราะของวัยรุ่น พลันเกิดความรู้สึกหดหู่ใจเพราะกาลเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เซี่ยชิงหลิวไม่ได้เป็ที่รู้จักมากนัก แถมยังสวมชุดสูทที่เนี้ยบกริบและมีรูปร่างหน้าตาที่สุภาพเรียบร้อย ด้านหลังยังมีหนุ่มน้อยหน้าตาดีตามมาด้วย นักศึกษามหาวิทยาลัยที่ถึงแม้จะรู้สึกว่าเขาไม่คุ้นหน้า ก็ยังร้องทักทายว่า "สวัสดีครับอาจารย์" โดยสัญชาตญาณ
'แก่แล้วจริงๆ สินะ…' เซี่ยชิงหลิวคิดอย่างเลื่อนลอย ขณะที่ดื่มกาแฟในมือจนหมดแก้ว หลังจากได้รับคำทักทายว่า "สวัสดีครับอาจารย์" เป็ครั้งที่ห้า
จบการศึกษามายี่สิบปีแล้ว เซี่ยชิงหลิวยังคงสามารถค้นหาห้องประชุมที่ศาสตราจารย์เอ่ยถึงได้ด้วยความทรงจำของเขา เขายกย่องความจำของตัวเองมาก ระหว่างทางนักเรียนต่างก็จับจ้องมองพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสายตาของเด็กผู้หญิง ส่วนใหญ่แปะอยู่ที่ใบหน้าของชิวฮว๋ายจุนที่อยู่ข้างๆ เขา ความชื่นชมที่เห็นได้ชัดเจนนั้น ทำให้เซี่ยชิงหลิวอมยิ้มออกมาอย่างขมขื่น
เห้อ นี่แหละนะชีวิตวัยรุ่น เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาเหมือนคนแก่
เขาหันสายตาไปพิจารณาชิวฮว๋ายจุนที่อยู่ข้างๆ อย่างถี่ถ้วน ชุดสูทสีดำพอดีตัวขับเน้นเอวคอด สะโพกผาย และเรียวขายาวของเขา วันนี้อากาศแจ่มใส ใบหน้าที่หล่อเหลาถูกแสงแดดส่องจนส่องประกาย แม้แต่แว่นตากรอบทองก็ดูมีคุณภาพเป็พิเศษ ขนาดเขาที่คุ้นเคยกับใบหน้านี้ก็ยังรู้สึกว่ามีเสน่ห์ แล้วนับประสาอะไรกับเด็กผู้หญิงเ่าั้
แต่หนุ่มหล่อกลับไม่สนใจสายตาคนรอบข้าง ทำหน้าบึ้งตึงเหมือนน้ำแข็ง ใครเข้าใกล้เป็ต้องหนาว ทำให้เซี่ยชิงหลิวรู้สึกขบขัน
ตกลงว่ากำลังเสแสร้ง หรือว่าไม่สนใจจริงๆ กันแน่ เซี่ยชิงหลิวคิดอย่างสนุกสนาน จึงพูดว่า "ฮว๋ายจุน นักศึกษาสาวๆ มองนายกันใหญ่เลยนะ" เขาหัวเราะเบาๆ อย่างเย้าแหย่
ชิวฮว๋ายจุนหันไปมองนักศึกษาสาวที่ไม่ไกลนัก เด็กผู้หญิงที่สบตาเขามีสีหน้าแดงก่ำ จากนั้นก็เบือนหน้าหนีอย่างขวยเขิน
"ท่าน สส. อย่าล้อผมสิครับ" เมื่อเห็นกลุ่มเด็กผู้หญิงหัวเราะคิกคักกัน ชิวฮว๋ายจุนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างจนปัญญาจริงๆ
เขามีรูปร่างหน้าตาดี ผิวพรรณผุดผ่อง ชุดสูทพอดีตัวนี้ยิ่งขับเน้นให้เขาดูสง่างามดุจต้นไม้หยก รูปร่างสูงโปร่งยืนตัวตรง เมื่อมองไปที่เสื้อเชิ้ตสีขาวบนเรือนร่างของชิวฮว๋ายจุนที่ติดกระดุมครบทุกเม็ด เซี่ยชิงหลิวกลับนึกถึงเื่ราวในสำนักงานเมื่อบ่ายวานนี้อย่างไม่เข้าท่า
'ตอนนั้นฉันกัดนายไว้ตั้งหลายรอยเชียวนะ นายกลับใส่เสื้อผ้าปิดมิดหมดเลย น่าเสียดายจริงๆ'
พวกเขาเดินเข้าไปในอาคารเรียนพอดี อาจเป็เพราะเป็บ่ายวันศุกร์ นักเรียนจึงเหลือน้อยแล้ว บันไดกว้างขวางจึงมีเพียงเสียงรองเท้าหนังของคนทั้งสองที่เหยียบลงบนขั้นบันไดเท่านั้น
พวกเขาเดินผ่านมุมอับ กระจกเงาวาววับยังคงอยู่ตรงนั้น เขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย พลันสบตากับชายหนุ่มในกระจก ชิวฮว๋ายจุนกำลังจ้องมองเขาอย่างร้อนแรง
'แมวน้อยเ้าเล่ห์ พอไม่มีใครอยู่รอบๆ ก็เก็บซ่อนความคิดในใจไว้ไม่อยู่แล้วสินะ' เซี่ยชิงหลิวหัวเราะในใจ พลันหยุดฝีเท้า
"ท่าน สส. ครับ?" ชิวฮว๋ายจุนถามด้วยความสงสัย
เซี่ยชิงหลิวหันหลังกลับ เอนกายพิงราวบันไดอย่างเกียจคร้าน สายตาเลื่อนลอยไปยังห้องน้ำของอาจารย์ที่อยู่ตรงมุม
"ตอนผมอยู่ปีสามผมชอบมาที่นี่บ่อยๆ เพราะไม่มีใครผ่านไปมา ไม่ต้องอั้นเสียงครางไว้"
เขาพูดอย่างไม่คลุมเครือ ชิวฮว๋ายจุนย่อมเข้าใจความหมายของเขาดี สีหน้าจึงเปลี่ยนไปเป็สับสนในทันที
ชอบมาที่นี่บ่อยๆ กับใคร? ผู้ชายหรือผู้หญิง… ชิวฮว๋ายจุนคิดฟุ้งซ่านในหัว เขารู้ว่าคำถามนี้เป็เื่หยุมหยิม แต่ก็อดไม่ได้ที่จะใส่ใจ ทว่าเซี่ยชิงหลิวกลับทำสีหน้าสบายๆ ราวกับกำลังรอให้เขาถาม ซึ่งความรู้สึกที่ความคิดเล็กๆ น้อยๆ ถูกเปิดเผยอย่างหมดเปลือกนั้นมันน่าอึดอัดใจเกินไป เขาจึงเงียบอยู่อย่างนั้น
เมื่อเห็นท่าทางที่ขัดแย้งในใจของเขา เซี่ยชิงหลิวก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ จากนั้นก็เหลือบมองนาฬิกาข้อมือ พึมพำออกมาในระดับเสียงที่ได้ยินคนเดียวว่า "เหลือเวลาอีกตั้งชั่วโมงกว่าจะเริ่มประชุม"
เห็นเพียงชายหนุ่มกัดริมฝีปากล่างครุ่นคิดหนักอยู่ครู่หนึ่ง แล้วดึงรั้งแขนเสื้อนอกของเขา นำเข้าไปในห้องน้ำที่ว่างเปล่า ล็อกประตูอย่างห้าวหาญ
ั้แ่ตอนที่ชายหนุ่มกดเขาไว้กับขอบหน้าต่าง ปลดกระดุมกางเกงเขา และคุกเข่าลงปรนนิบัติอยู่ตรงหน้า เขาก็มีแต่รอยยิ้มอยู่ในดวงตา
'หมาน้อยที่หวงแหนอาหารของตัวเอง...' เขานึกในใจ จากนั้นก็เอื้อมมือไปลูบศีรษะที่ก้มลงมาดูดดื่มแก่นกายของเขา ราวกับกำลังปลอบโยน
ห้องน้ำน่าจะได้รับการปรับปรุงใหม่เมื่อไม่นานมานี้ นอกจากอุปกรณ์ที่ทันสมัยและสะอาดสะอ้านแล้ว แม้แต่แสงก็ยังสว่างไสว แถมยังไม่ค่อยมีคนใช้ อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของน้ำยาปรับอากาศที่หอมชื่นใจ
เซี่ยชิงหลิวพิงอยู่กับขอบหน้าต่าง แสงแดดอบอุ่นสาดส่องลงบนพื้น ทั้งยังกระทบใบหน้าหล่อเหลาที่ก้มลงอยู่ตรงหว่างขาของเขา ผิวที่เกลี้ยงเกลาของชายหนุ่มเปล่งประกายราวกับผ้ากำมะหยี่ งดงามดั่งเทพบุตร
เทพบุตรที่งดงามกำลังปรนเปรอความปรารถนาที่แดงก่ำและน่าเกลียดของเขา ทำให้เซี่ยชิงหลิวรู้สึกถึงความรักใคร่ในทางที่ผิดอย่างฉับพลัน ความปรารถนาที่ควบคุมได้ยากอยู่แล้วก็ยิ่งทวีมากขึ้นไปอีก
ปลายนิ้วขาวผ่องของชายหนุ่มลูบไล้แก่นกายของเขา ปลายลิ้นสีแดงสดเลียไล้ไปตามรูปทรง ไม่ได้ใช้เทคนิคดีเลิศอะไรนัก แต่การกระตุ้นทางสายตาและความชื้นแฉะในช่องปากนั้นรุนแรงมากพอ ทำให้เซี่ยชิงหลิวแข็งขืนจนแทบะเิ
ชิวฮว๋ายจุนขมวดคิ้วเล็กน้อย อาจเป็เพราะอมได้ค่อนข้างลำบาก แต่ก็ยังพยายามใช้ทั้งปากและมือ และยังเงยหน้าขึ้นมองปฏิกิริยาของเขาด้วยดวงตาที่ฉ่ำน้ำ แต่ในดวงตากลับลุกโชนไปด้วยไฟ
"แมวน้อยเ้าเสน่ห์" เขาหัวเราะเบาๆ พลางลูบศีรษะชายหนุ่ม