ตอนที่ 8 งูอสรพิษเกล็ดน้ำแข็ง
แสงจันทร์สีเงินอาบไล้ไปทั่วแนวป่าทึบ ทิ้งเงาดำตะคุ่มของต้นไม้โบราณให้ดูราวกับอสูรกายั์ที่กำลังหลับใหล เสียงหรีดหริ่งเรไรและเสียงร้องของสัตว์กลางคืนประสานกันเป็บทเพลงแห่งพงไพรที่ทั้งวังเวงและน่าพรั่นพรึง
ร่างของเด็กหนุ่มผู้หนึ่งเคลื่อนผ่านหมู่ไม้ไปอย่างเงียบเชียบและรวดเร็วราวกับสายลมในยามราตรี...
สองวันเต็มแล้วที่เสี่ยวเฉินออกเดินทางจากเมืองหลิงโจว ด้วยเคล็ดวิชาก้าวย่างเมฆา ที่ฝึกฝนจนเข้าสู่ระดับที่สอง ก้าวย่างไร้เสียง ประกอบกับการวิเคราะห์เส้นทางของหลู่ปิง ทำให้เขาสามารถเดินทางได้เร็วกว่าคนทั่วไปถึงสามเท่า และหลีกเลี่ยงเส้นทางของกองคาราวานหรือกลุ่มโจรป่าได้อย่างสมบูรณ์แบบ
“หลู่ปิง รายงานสถานะ” เขาเอ่ยถามในใจขณะหยุดพักบนกิ่งไม้สูงใหญ่
[...อีกประมาณ 20 ลี้จะถึงเขตชายขอบของ หุบเขาเมฆาเร้น ตรวจพบร่องรอยของสัตว์อสูรระดับหนึ่งและสองกระจายตัวอยู่ประปราย ยังไม่พบอันตรายในระดับที่คุกคามโฮสต์ แนะนำให้พักผ่อนเป็เวลา 2 ชั่วโมงเพื่อรักษาสภาพร่างกายให้สมบูรณ์ที่สุดก่อนเข้าสู่เขตอันตราย]
“ดี”
เขานั่งลงพิงลำต้นไม้ใหญ่ หยิบน้ำเต้าและเนื้อแห้งออกมากินอย่างเงียบๆ สายตาของเขากวาดมองไปรอบๆ อย่างระแวดระวังตามสัญชาตญาณของนักฆ่า แม้หลู่ปิงจะบอกว่าปลอดภัย แต่เขาไม่เคยเชื่อใจเทคโนโลยี 100% ประสาทััของมนุษย์ที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างโชกโชนต่างหาก คือเครื่องมือชี้ขาดความเป็ความตายที่แท้จริง
ทันใดนั้น หูของเขาก็กระดิกเล็กน้อย
เขาได้ยินเสียง เสียงฝีเท้าและเสียงพูดคุยแ่เบาที่ลอยมาตามลม
[...ตรวจพบคลื่นเสียงมนุษย์ 4 คน กำลังเคลื่อนที่เข้ามาในทิศทางนี้ระยะห่าง 500 เมตร...]
เสี่ยวเฉินขมวดคิ้ว เขารีบเก็บข้าวของและซ่อนตัวอยู่ในเงามืดของพุ่มใบไม้อย่างแเี กลั้นลมหายใจจนแทบจะกลืนกินเป็หนึ่งเดียวกับสภาพแวดล้อม
ไม่นานนัก กลุ่มคนสี่คนก็ปรากฏตัวขึ้นในระยะสายตา พวกเขาสวมชุดหนังรัดกุมที่เหมาะกับการเดินทางในป่า บนแผ่นหลังสะพายอาวุธครบมือ ทั้งดาบ กระบี่ และธนู ดูจากลักษณะแล้วน่าจะเป็กลุ่มนักล่าอสูรรับจ้าง
“บัดซบเอ๊ย! เดินทางมาสองวันเต็มแล้ว ยังไม่ได้แม้แต่เงาของหมูป่าเกราะเหล็ก เลย!” ชายร่างกำยำที่สุดในกลุ่มสบถออกมาอย่างหัวเสีย เขาคือหัวหน้ากลุ่ม ชื่อว่า ต้าหู่
“ใจเย็นหน่อยน่าพี่ใหญ่” ชายร่างผอมที่เดินตามหลังพูดขึ้น เขาชื่อ จี้ซาน เป็มันสมองของกลุ่ม “่นี้มีนักล่าอสูรเข้ามาในป่าแถบนี้เยอะขึ้น บางทีพวกมันอาจจะอพยพหนีลึกเข้าไปในหุบเขาแล้วก็ได้”
“งั้นเราก็ต้องเข้าไปลึกขึ้นน่ะสิ!” ต้าหู่กล่าวอย่างไม่พอใจ
“ไม่ได้นะพี่ใหญ่!” หญิงสาวเพียงคนเดียวในกลุ่มร้องห้าม นางมีชื่อว่า เสี่ยวเยว่ (คนละคนกับเสี่ยวเยว่เอ๋อร์) หน้าตาสะสวยแต่แววตากลับแข็งกร้าว “ข้างในหุบเขาเมฆาเร้นมีแต่สัตว์อสูรระดับสามขึ้นไป ด้วยฝีมือของพวกเราตอนนี้เข้าไปก็มีแต่ตายกับตายนะ!”
“เสี่ยวเยว่พูดถูก” ชายหนุ่มอีกคนที่มีท่าทางสุขุมที่สุดในกลุ่มกล่าวเสริม เขาชื่อ หลินเฟิง “ภารกิจครั้งนี้ถึงจะสำคัญ แต่ก็ไม่คุ้มที่จะเอาชีวิตไปเสี่ยง”
เสี่ยวเฉินที่ซ่อนตัวอยู่ได้ยินบทสนทนาทั้งหมดแล้วก็คลายความระแวงลงเล็กน้อย ดูเหมือนจะเป็แค่นักล่าอสูรทั่วไปจริงๆ แต่เขาก็ยังไม่ขยับตัว รอจนกว่าพวกเขาจะเดินผ่านไป
แต่แล้ว...
ซ่า... ซ่า...
เสียงบางอย่างแหวกพงหญ้าดังขึ้นอย่างรวดเร็ว!
“ระวัง!” หลินเฟิงะโลั่น!
เงาดำสายหนึ่งพุ่งออกจากพงหญ้าข้างทางด้วยความเร็วสูง มันคือ อสรพิษเขี้ยวดิน สัตว์อสูรระดับสองที่มีความยาวกว่าห้าเมตร! เขี้ยวของมันอาบไปด้วยพิษที่สามารถทำให้คนเป็อัมพาตได้ในชั่วลมหายใจ!
มันพุ่งเข้าใส่เสี่ยวเยว่ที่ยืนอยู่ใกล้ที่สุด!
“เสี่ยวเยว่!”
ต้าหู่คำรามลั่น! เขาชักดาบใหญ่ที่หลังออกมาหมายจะเข้าช่วยเหลือ แต่ก็ช้าไปก้าวหนึ่ง!
ในเสี้ยววินาทีแห่งความเป็ความตายนั้นเอง...
ฉึก!
กิ่งไม้แหลมคมกิ่งหนึ่งพลันพุ่งแหวกอากาศมาราวกับลูกธนู! มันปักเข้าที่กลางหัวของอสรพิษเขี้ยวดินอย่างแม่นยำ!
ฟ่ออออ!
อสรพิษร้องโหยหวนด้วยความเ็ป พลังทำลายล้างของมันลดลงอย่างฮวบฮาบ แต่มันก็ยังไม่ตายในทันที! มันสะบัดหัวอย่างบ้าคลั่ง สลัดกิ่งไม้นั้นทิ้งแล้วหันมาแยกเขี้ยวใส่กลุ่มของต้าหู่อย่างอาฆาตแค้น!
“มันาเ็แล้ว! ฆ่ามัน!” ต้าหู่ะโสั่ง เขาฉวยโอกาสนี้พุ่งเข้าฟันดาบใหญ่ลงไปที่ลำตัวของมันอย่างแรง!
เคร้ง!
เสียงโลหะปะทะกันดังลั่น! เกล็ดของอสรพิษเขี้ยวดินแข็งแกร่งกว่าที่คิด! ดาบของต้าหู่ทำได้เพียงสร้างรอยขีดข่วนตื้นๆ เท่านั้น!
ในขณะเดียวกัน จี้ซานก็เคลื่อนตัวไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว สะบัดแส้ในมือเข้าพันรัดส่วนหางของมันไว้ ส่วนหลินเฟิงก็ชักกระบี่คู่ใจออกมา คอยหาจังหวะโจมตีจุดอ่อนที่ดวงตาของมัน
การต่อสู้เป็ไปอย่างดุเดือด เสี่ยวเยว่ที่เพิ่งรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิดก็รีบตั้งสติแล้วยิงธนูเข้าใส่ลำตัวของมันเพื่อสร้างความรำคาญ
เสี่ยวเฉินที่ซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาไม่ได้ตั้งใจจะช่วยเหลือคนพวกนี้ แต่เมื่อครู่ตอนที่อสรพิษพุ่งออกมา สัญชาตญาณของเขามันขยับไปเอง เขาดีดกิ่งไม้ที่อยู่ใกล้มือออกไปโดยไม่ทันได้คิด
“ช่างเถอะ แค่กลุ่มนักล่าอสูรที่บังเอิญผ่านมาเท่านั้น” เขาคิดในใจแล้วเตรียมจะล่าถอยออกจากบริเวณนั้นอย่างเงียบเชียบ
แต่แล้ว บทสนทนาที่แ่เบาของคนกลุ่มนั้นก็ทำให้เขาต้องหยุดชะงัก
“พี่ใหญ่! แย่แล้ว! พิษของมันเริ่มออกฤทธิ์แล้ว!” จี้ซานร้องขึ้นเมื่อเห็นว่าิับริเวณที่ถูกคมเขี้ยวของอสรพิษเฉี่ยวไปของต้าหู่เริ่มเปลี่ยนเป็สีเขียวคล้ำ!
“บัดซบ!” ต้าหู่กัดฟันแน่น เขารู้สึกว่าร่างกายเริ่มชาและเคลื่อนไหวช้าลง
“ต้องรีบจบการต่อสู้แล้วไปหาหญ้าิญญาเขียว มาถอนพิษ!” หลินเฟิงกล่าวอย่างร้อนรน “แต่เ้าอสรพิษนี่มันหนังเหนียวเกินไป!”
ทันใดนั้นเอง เสี่ยวเยว่ที่กำลังน้าวธนูก็ร้องอุทานออกมาด้วยความใ “นั่น นั่นมันอะไรน่ะ!”
ทุกคนหันไปมองตามที่นางชี้...
ที่โคนต้นไม้ใหญ่ห่างออกไปไม่ไกล มีร่างของเด็กหนุ่มผู้หนึ่งยืนพิงต้นไม้อยู่ั้แ่เมื่อไหร่ไม่มีใครทราบ เขาสวมอาภรณ์สีดำธรรมดา ใบหน้าหล่อเหลาแต่เรียบเฉยราวกับรูปสลักน้ำแข็ง ในมือของเขาถือผลึกเหมันต์ ก้อนเล็กๆ ที่กำลังเคี้ยวกินเล่นราวกับมันเป็เพียงผลไม้ธรรมดาๆ!
บรรยากาศพลันเงียบสงัดลงในบัดดล
ต้าหู่และพรรคพวกต่างจ้องมองเด็กหนุ่มปริศนาคนนั้นด้วยความตกตะลึงระคนหวาดระแวง เขามาอยู่ที่นี่ั้แ่เมื่อไหร่? ทำไมพวกตนถึงไม่รู้สึกตัวเลยแม้แต่น้อย! และที่น่ากลัวที่สุดคือ เขากำลังกินผลึกเหมันต์เล่น! นั่นมันสมุนไพรหยินสุดขั้วที่คนธรรมดากินเข้าไปมีหวังแข็งตาย!
“เ้า...เ้าเป็ใคร!” ต้าหู่ถามเสียงสั่น
เสี่ยวเฉินเคี้ยวผลึกเหมันต์ในปากจนหมด เขากลืนมันลงไปแล้วมองไปยังกลุ่มคนและอสรพิษที่กำลังคุมเชิงกันอยู่ด้วยสายตาเรียบเฉย
“แค่คนเดินทางที่ผ่านมาเท่านั้น พวกท่านสู้กันต่อไปเถอะ ไม่ต้องสนใจข้า”
พูดจบ เขาก็ทำท่าจะเดินจากไปจริงๆ!
“เดี๋ยวก่อน!” เสี่ยวเยว่ร้องเรียกไว้ “ท่าน...ท่านไม่คิดจะช่วยพวกเราหน่อยหรือ?”
เสี่ยวเฉินหยุดเดินแล้วหันกลับมามองนาง “ทำไมข้าต้องช่วยพวกท่านด้วย? ข้ากับพวกท่านรู้จักกันรึ?”
คำตอบที่เ็าและตรงไปตรงมานั้นทำให้ทุกคนถึงกับพูดไม่ออก!
“แต่...แต่เมื่อครู่ ท่านเป็คนช่วยข้าไว้ไม่ใช่รึ!” เสี่ยวเยว่เถียง
“นั่นเป็เพราะสัญชาตญาณของข้ามันขยับไปเอง” เขายักไหล่ “ถือว่าพวกเราหายกันแล้ว”
ฟ่อออ!
อสรพิษเขี้ยวดินที่เห็นว่าศัตรูกำลังหันเหความสนใจไปที่อื่น มันจึงฉวยโอกาสนี้พุ่งเข้าฉกใส่ต้าหู่อีกครั้ง!
“พี่ใหญ่!”
แต่คราวนี้... มีบางสิ่งที่เร็วกว่ามัน!
ฉึบ!
เข็มน้ำแข็งสีดำสนิทเล่มหนึ่งพุ่งแหวกอากาศมาราวกับสายฟ้าฟาด! มันปักเข้าที่ดวงตาข้างซ้ายของอสรพิษอย่างแม่นยำ ทะลุเข้าไปจนถึงสมอง!
ร่างมหึมาของอสรพิษชะงักค้างกลางอากาศ ก่อนจะร่วงลงกระแทกพื้นเสียงดังสนั่น แน่นิ่งไปในที่สุด
ทุกคนยืนตัวแข็งทื่อ จ้องมองเข็มน้ำแข็งที่ค่อยๆ สลายกลายเป็ไอเย็นหายไปในอากาศ แล้วหันกลับไปมองเด็กหนุ่มคนนั้นด้วยสายตาที่ราวกับกำลังมองดูปีศาจ!
เมื่อครู่ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!?
เสี่ยวเฉินค่อยๆ ลดมือที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อลง เขาไม่ได้ตั้งใจจะเปิดเผยพลังของตัวเอง แต่สถานการณ์มันบังคับ
“เอาล่ะ ทีนี้พวกเราก็หายกันจริงๆ แล้ว” เขากล่าวเสียงเรียบแล้วเตรียมจะจากไปอีกครั้ง
“เดี๋ยวก่อน! ท่านผู้กล้า!” หลินเฟิงรีบวิ่งเข้ามาขวางหน้าเขาไว้ เขาโค้งคำนับอย่างสุดซึ้ง “ข้าน้อยหลินเฟิง ขอขอบคุณท่านผู้กล้าที่ช่วยชีวิตพวกเราไว้! หากไม่รังเกียจ โปรดบอกนามของท่านให้พวกเราได้ทราบเป็บุญบารมีด้วยเถิด!”
เสี่ยวเฉินมองชายหนุ่มตรงหน้า ดูจากท่าทางแล้วน่าจะเป็คนที่พอจะคุยด้วยรู้เื่ที่สุดในกลุ่ม
“ข้าไม่มีนาม” เขาตอบสั้นๆ
“เช่นนั้น เช่นนั้นโปรดรับสิ่งนี้ไว้เป็ของตอบแทนน้ำใจของท่านด้วย!” หลินเฟิงรีบหยิบถุงเงินใบใหญ่ออกมาส่งให้
เสี่ยวเฉินเหลือบมองถุงเงินนั้นแล้วก็ส่ายหน้า “ข้าไม่้าเงิน”
สายตาของเขาพลันเหลือบไปเห็นแผนที่เก่าๆ ที่เหน็บอยู่ที่เอวของหลินเฟิง มันคือแผนที่ของหุบเขาเมฆาเร้น!
“แต่ข้า้าแผนที่นั่น แลกกับข้อมูลบางอย่าง”
หลินเฟิงชะงักไปเล็กน้อย แต่ก็รีบหยิบแผนที่ออกมาส่งให้ทันที “นี่คือแผนที่ของหุบเขาเมฆาเร้นส่วนนอกขอรับ ไม่ทราบว่าท่านผู้กล้า้าข้อมูลอันใดรึ?”
“ข้ากำลังตามหา งูอสรพิษเกล็ดน้ำแข็ง”
คำพูดนั้นทำให้สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปอีกครั้ง!
“งูอสรพิษเกล็ดน้ำแข็ง!” ต้าหู่ที่กำลังนั่งข่มพิษอยู่ร้องออกมาอย่างใ “นั่นมันสัตว์อสูรระดับสาม! ท่านจะไปหามันทำไมกัน! มันอันตรายเกินไป!”
“ข้ามีเหตุผลของข้า” เสี่ยวเฉินกล่าวพลางคลี่แผนที่ออกดู “ในแผนที่นี้ไม่ได้ระบุตำแหน่งของมันไว้ พวกเ้ารู้หรือไม่ว่ามันอยู่ที่ไหน?”
ทุกคนมองหน้ากันไปมา ก่อนที่จี้ซานจะพูดขึ้น “ข้า...ข้าเคยได้ยินมาจากนักล่าอสูรรุ่นพี่ว่า พวกมันมักจะอาศัยอยู่ที่ถ้ำน้ำแข็งพันปี ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปในหุบเขา แต่ที่นั่นอันตรายมากนะขอรับ! ไม่เคยมีใครที่เข้าไปแล้วได้กลับออกมาเลย!”
“ถ้ำน้ำแข็งพันปี” เสี่ยวเฉินพยักหน้าเบาๆ ตำแหน่งนั้นตรงกับที่หลู่ปิงคาดการณ์ไว้พอดี
เขาเก็บแผนที่เข้าแขนเสื้อแล้วหันไปมองต้าหู่ “พิษในร่างของเ้า หากไม่รีบรักษา ภายในหนึ่งชั่วยาม แขนข้างนั้นคงต้องถูกตัดทิ้ง”
“ข้ารู้! แต่หญ้าิญญาเขียวมันไม่ได้หาง่ายๆ!” ต้าหู่กล่าวอย่างหงุดหงิด
เสี่ยวเฉินส่ายหน้า “หญ้าิญญาเขียวใช้ได้แค่กับพิษของสัตว์อสูรระดับต่ำเท่านั้น พิษของอสรพิษเขี้ยวดินตัวนี้มีไอดินผสมอยู่ ต้องใช้ ดอกหินละลายที่เติบโตอยู่ตามหน้าผาเท่านั้นถึงจะถอนพิษได้อย่างสมบูรณ์”
ความรู้เื่สมุนไพรที่ล้ำลึกนั้นทำให้ทุกคนตกตะลึงอีกครั้ง!
“ห่างจากที่นี่ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณสองลี้ มีหน้าผาอยู่แห่งหนึ่ง ไปหาดูเถอะ”
พูดจบ เขาก็ไม่รอให้ใครได้กล่าวอะไรอีก ร่างของเขาพลันเลือนหายเข้าไปในเงามืดของป่าราวกับไม่เคยมีตัวตนอยู่ตรงนั้นมาก่อน ทิ้งไว้เพียงกลุ่มนักล่าอสูรที่ยังคงยืนอึ้งตะลึงกับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น
ในขณะเดียวกัน ณ ชายป่าอีกฟากหนึ่ง...
เงาร่างสองสายกำลังยืนซ่อนตัวอยู่บนยอดไม้ จ้องมองไปยังจุดที่เสี่ยวเฉินเพิ่งจากไป
“นายน้อย นั่นมันพลังปราณน้ำแข็งสายมารชัดๆ! เด็กนั่นมันเป็พวกนอกรีตจริงๆ!” ชายชุดดำคนหนึ่งกล่าวขึ้น เขาคือลูกน้องคนสนิทของเสี่ยวจื่อหาน
เสี่ยวจื่อหาน ที่ยืนอยู่ข้างๆ หรี่ตาลง แววตาของเขาเต็มไปด้วยความริษยาและเกลียดชังอย่างรุนแรง! เขาแอบสะกดรอยตามเสี่ยวเฉินออกมาจากจวน! และได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเมื่อครู่ด้วยตาของตัวเอง!
“หึ... พวกนอกรีตงั้นรึ” เขากำหมัดแน่นจนข้อนิ้วขาวซีด “ไม่เพียงแต่เป็พวกนอกรีต แต่มันยังแข็งแกร่งกว่าที่ข้าคิดไว้มาก!”
เข็มน้ำแข็งที่สังหารอสรพิษระดับสองได้ในพริบตา! ความเร็วที่เคลื่อนไหวราวกับภูตพราย! ความรู้เื่สมุนไพรที่แม้แต่นักล่าอสูรยังต้องอึ้ง!
ทั้งหมดนี้ มันตอกย้ำให้เห็นว่าเสี่ยวเฟิงหลิวไม่ได้เป็ขยะอีกต่อไปแล้ว! แต่กลับกลายเป็ภัยคุกคามที่น่ากลัวที่สุดของเขา!
“แล้วเราจะทำอย่างไรต่อไปดีขอรับนายน้อย? จะลงมือเลยหรือไม่?”
“ไม่!” เสี่ยวจื่อหานห้ามไว้ “ตอนนี้มันกำลังระวังตัวสูง การเข้าปะทะตรงๆ ไม่ใช่ความคิดที่ดี อีกอย่างมันกำลังจะไปหาที่ตายด้วยตัวเองอยู่แล้ว”
เขายิ้มออกมาอย่างเ็า “ถ้ำน้ำแข็งพันปี งูอสรพิษเกล็ดน้ำแข็ง ช่างเป็สถานที่ที่เหมาะกับการตายโดยอุบัติเหตุเสียจริง”
เขามองไปยังลูกน้องอีกคนที่ยืนอยู่อย่างเงียบๆ “ไปนำของขวัญที่เราเตรียมไว้ ไปโปรยไว้ที่หน้าถ้ำน้ำแข็งนั่นซะ ข้าอยากจะเพิ่มความสนุกให้กับมันอีกสักหน่อย”
ลูกน้องคนนั้นโค้งคำนับรับคำแล้วร่างก็เลือนหายไปในความมืด
เสี่ยวจื่อหานมองลึกเข้าไปในหุบเขาเมฆาเร้นที่มืดมิดและอันตราย
“ไอ้ขยะ ต่อให้เ้าจะมีวาสนาล้นฟ้าแค่ไหน แต่สุดท้ายเ้าก็ต้องตายด้วยน้ำมือของข้าอยู่ดี!”
แผนซ้อนแผนได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว โดยที่เสี่ยวเฉินไม่รู้เลยว่า เบื้องหน้าของเขาไม่ได้มีเพียงอสรพิษน้ำแข็งที่น่ากลัวรออยู่ แต่ยังมีอสรพิษในร่างคนที่ร้ายกาจยิ่งกว่า กำลังรอขย้ำเขาอยู่ในเงามืด
