“แล้วเ้าล่ะ เหตุใดจึงมีแผลเต็มตัวเช่นนั้น” ทำให้หยางเซียว รีบถกแขนเสื้อปกปิดไว้ แล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“แผลของข้าเล็กน้อย ดูแผลของท่านก่อนเถอะ” ว่าแล้วหยางเซียว ก็เปิดผ้าพันแผลของเขาออก แล้วนำสมุนไพรอันใหม่ทาเข้าไป พร้อมสายตาสั่นไหวของชายหนุ่มจะจับจ้องมองมา เมื่อหยางเซียวรักษาาแเสร็จสิ้นแล้ว นางจึงยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยนแล้วพูดขึ้น
“อาการของท่านดีขึ้นมาก ไม่เป็อันตรายถึงชีวิตแล้วล่ะ หลังจากนี้ ก็ต้องรักษาแผลให้ดี ห้ามโดนน้ำเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นแผลจะหายยาก”
“ขอบใจเ้ามาก ที่ช่วยรักษาข้า” เขาหยิบเสื้อขึ้นมาแล้วสวมใส่ช้า ๆ ก่อนหญิงสาวจะยิ้ม แล้วเอื้อมไปเก็บสมุนไพร
“แผลเ้าไปโดยอะไรมา หรือเพราะข้าทำให้เ้าโดนทำโทษใช่หรือไม่” เขาถามพร้อมเลื่อนสายตามองาแของนางที่เป็รอยแส้ คล้ายการถูกทำโทษเยี่ยงบ่าวไพร่ หยางเซียวรีบส่ายศีรษะปฏิเสธ
“หากเ้าไม่บอก ข้าจะแจ้งทางการให้รับรู้ ว่าเ้าถูกทำโทษอย่างไม่เป็ธรรม” สุรเสียงนุ่มลึกเอ่ยขึ้นคล้ายข่มขู่
“ไม่ได้นะ” หยางเซียวเอ่ยห้ามในทันที ก่อนสายตาบังคับของต้าเหริน จะทำให้หญิงสาวยอมเปิดปากในที่สุด
“เพราะเมื่อคืน กล้ากลับดึก และใช้เงินที่จะนำไปจ่ายตลาด ซื้อสมุนไพรมารักษาท่าน พี่ใหญ่รู้เข้าจึงไม่พอใจ สั่งให้คนเฆี่ยนตีข้า” ต้าเหรินนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ
“เ้าหมายถึง เยว่จางเหม่ยน่ะเหรอ” หยางเซียวพยักหน้า ก่อนเขาจะควักเงินจำนวนหนึ่งยื่นคืนกลับมา
“รับเงินนี้ไว้ เป็เพราะข้า เ้าจึงถูกทำโทษ ข้ามีเวลาไม่มากนัก หากมีโอกาสข้าจะตอบแทนเ้ามากกว่านี้” ว่าแล้วเขาก็ค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน พลันหันไปหยิบกระบี่คู่กาย แล้วเตรียมเดินจากไป
“ท่านจะไปไหน แผลของท่านยังไม่หายดี” เขาหันใบหน้าหล่อเหลากลับมายังหญิงสาว แล้วเอ่ยขึ้น
“ข้าต้องไปแล้ว ข้ามีเวลาไม่มาก หยางเซียวข้าขอบใจเ้ามากที่ช่วยชีวิตข้า” ว่าแล้วชายหนุ่มก็เบี่ยงตัวเดินจากไปท่ามกลางสายตาสั่นไหวของหยางเซียว ที่ก้มมองเงินจำนวนมากที่เขาให้ไว้ต่างหน้า
‘ในตอนนั้นเขาแต่งตัวเป็ชาวบ้านธรรมดาสามัญ ไม่มีวี่แววว่าเขาจะมีฐานะสูงส่ง เป็ถึงองค์ชายสามของวังหลวง’ ก่อนเสียงของหลิวเหมย จะดังขึ้นจนทำให้หยางเซียวในร่างของจางเหม่ยได้สติกลับมา
“พระชายา ตอนนี้น้องสามหายตัวไป เกี่ยวกับท่านหรือไม่เพคะ!” หลิวเหมยพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ น้ำตาหยดลงอาบแก้ม คล้ายกับกำลังเสียใจอย่างถึงที่สุด ทว่าท่าทีราบเรียบของพระชายา ทำให้องค์ชายสามจับจ้องไปยังพฤติกรรมของนางอย่างเงียบ ๆ
“แล้วยังไง?” นางถามกลับด้วยน้ำเสียงเ็า
“พระชายาไม่เสียใจสักนิดเลยเหรอเพคะ” หลิวเหมยแสร้งน้ำตาซึมต่อหน้าทุกคน
“นั่นสิ! เ้าไม่แปลกใจสักนิดเลยเหรอจางเหม่ย” ฮ่องเต้ขมวดคิ้ว แล้วเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ
“ทูลฮ่องเต้เพคะ ความจริงแล้วน้องสามกับข้า ไม่ค่อยสนิทกัน ความสัมพันธ์ของเราสองคนไม่ค่อยดีเท่าใดเพคะ แต่ที่หม่อมฉันแปลกใจ คือความสัมพันธ์ระหว่างน้องรองกับน้องสามเอง ก็ไม่ค่อยดีเช่นกัน...เหตุใดการหายตัวไปของน้องสาม จึงทำให้น้องรองเสียใจมากมายเพียงนั้นด้วยเล่า!” คำพูดของจางเหม่ย ทำให้หลิวเหมยชะงักนิ่ง แล้วกลืนน้ำลายอึกใหญ่ พยายามปรับน้ำเสียง
“ต่อให้ไม่สนิทกันเพียงใด แต่นางก็มีสายเืเป็คนสกุลเยว่! การหายตัวไปของนาง ย่อมทำให้หม่อมฉันเสียใจอยู่แล้วเพคะ หรือที่พระชายาไม่เสียใจเลย เพราะทุกอย่างเป็ฝีมือของพระองค์!” จางเหม่ยชะงักนิ่ง พลันทอดสายตาไปยังหลิวเหมย พลันขบคิดเงียบ ๆ
‘นางกำลังจะทำอะไรกันแน่’
“เ้ามีหลักฐานหรือไม่?” พระชายาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนน้ำตาของหลิวเหมยที่ไหลทะลักออกมา จึงทำให้ฮองเฮารีบลุกขึ้น เดินตรงไปปลอบใจด้วยความเมตตา
“ไม่ต้องร้องไห้นะ ข้าเข้าใจดี ความสัมพันธ์ของพี่น้องย่อมมีทะเลาะกันบ้าง แต่ถึงขนาดหายออกจากจวน ยังไงก็ต้องใและเสียใจเป็ธรรมดา จางเหม่ย! ตกลงแล้วเื่ที่เ้าปรุงสมุนไพรมารักษาข้านั้น เป็ฝีมือของเ้า...หรือเป็ฝีมือของน้องสาวเ้าที่หายไปแล้วกันแน่!” ฮองเฮาทวงถาม นั่นทำให้จางเหม่ยเลื่อนสายตาไปยังหลิวเหมย ก่อนอีกฝ่ายจะเอ่ยขึ้น
“พระชายาเพคะ หม่อมฉันไม่ได้กล่าวเท็จเลยแม้แต่น้อย พระองค์ก็รู้อยู่แก่ใจ ว่าท่านไม่มีความสามารถด้านสมุนไพร ยาที่ใช้รักษาฮองเฮา ก็เป็ฝีมือของน้องสามทั้งนั้น ต่อให้วันนี้ทุกคนไม่รู้ความจริง วันหน้าทุกคนก็ต้องรู้ความจริงอยู่ดี”
“ยาสมุนไพรที่ใช้รักษาฮองเฮา เป็ฝีมือหม่อมฉันเพคะ” จางเหม่ยไม่เสียเวลาต่อความ ทว่าหันมายังฮองเฮาแล้วตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนองค์ชายสามที่นั่งอยู่จะลุกขึ้น แล้วเดินตรงมายังพระชายา
“เช่นนั้น เ้าก็ต้องพิสูจน์ให้ทุกคนเห็น ว่าเ้าเป็คนปรุงสมุนไพรรักษาเสด็จแม่ของข้า แต่หากพิสูจน์ได้ว่าไม่ใช่ฝีมือของเ้าล่ะก็....นอกจากข้าจะปลดเ้าออกจากตำแหน่งแล้ว เ้าก็ต้องได้รับโทษที่กล้าหลอกลวงเบื้องสูง”
“หม่อมฉันยินดีพิสูจน์เพคะ” จางเหม่ยสบตาชายหนุ่มนิ่ง
‘ในเมื่อต้าเหรินคือองค์ชายสาม ยามนี้ข้าเข้าใจแล้วว่าทำไมกลุ่มัขาว จึงลงมือปลิดชีวิตข้า ทั่วทั้งวังหลวงมีเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่เป็ศัตรูกับท่านพ่อ บางทีการตายของข้าอาจเป็ประโยชน์ต่อเขาก็ได้’ ร่างของพระชายามองเขาด้วยความผิดหวัง ก่อนการพิสูจน์ความจริงได้เริ่มต้น พร้อมหมอหลวงหลายคนร่วมพิสูจน์ด้วย ท่ามกลางสายตาของเยว่หลิวเหมยยืนมองด้วยใจจดจ่อ