เซียวเหลียงหัวเราะอย่างใสซื่อ"ดีไม่ดีอะไรกัน เพียงแค่หาเลี้ยงชีพเท่านั้น จะเหมือนเถ้าแก่ซ่งได้อย่างไร อายุยังน้อยก็ประสบความสำเร็จเช่นนี้ในภายภาคหน้ามีอนาคตยาวไกล ไม่อาจประเมินได้! "
ซ่งฉางชิงยิ้มทีหนึ่ง"ได้ยินมาว่าหมู่บ้านสกุลเซียวขึ้นชื่อเื่ผู้คนมีความสามารถโดดเด่น มีผู้มากความสามารถปรากฏเป็นิจ? เหมือนว่าจะมีคนได้เป็ซิ่วไฉหลายคนทีเดียว? "
เซียวเหลียงพยักหน้า"อืม มีหลายคนทีเดียว ถึงแม้ตอนนี้จะยังไม่มีจวี่เหริน แต่ข้าคิดว่า ต่อไปต้องมีจวี่เหรินแน่นอน!"
"จวี่เหรินนั้นสอบไม่ง่ายเลยเถ้าแก่เซียวมีความเชื่อมั่นในตัวผู้ใดถึงเพียงนี้ ถึงมั่นใจว่าเขาจะสอบผ่านแน่? "
เมื่อเซียวเหลียงเอ่ยถึงเซียวยวี่ก็มีความเชื่อมั่นเกินร้อย "ข้าจะบอกให้ ในหมู่บ้านสกุลเซียวของเรามีเด็กอัจฉริยะคนหนึ่งสามารถแต่งบทความได้ั้แ่ตอนอายุน้อย แต่งกลอนกวีได้ในสามก้าว บุคคลเช่นนี้ต่อไปต้องสอบเป็จวี่เหรินได้แน่นอนถึงแม้ตอนนี้เขาจะยังไม่ได้เป็ซิ่วไฉด้วยซ้ำ แต่ข้ายืนยันได้เลย ว่าคนผู้นี้ ต่อไปต้องไต่เต้าขึ้นเป็ใหญ่เป็คนไม่ธรรมดาแน่นอน! "
ซ่งฉางชิงกล่าวอย่างสนอกสนใจ"เด็กอัจฉริยะ? อยากทำความรู้จักเหมือนกัน!"
เซียวเหลียงกล่าวทันที"ท่านก็รู้จัก เขาเป็สามีของเซี่ยยวี่หลัวที่เป็คนจัดหาวัตถุดิบให้ท่าน นามว่าเซียวยวี่!"
มือของซ่งฉางชิงหยุดชะงักเล็กน้อยเขาไม่ได้เอื้อมมือไปหยิบถ้วยชา แต่ชักมือกลับ สอดมือไว้ในแขนเสื้อ กุมมือเบาๆ ก่อนจะปล่อยออก
"อ่อ เช่นนั้นก็รู้จัก!" ซ่งฉางชิงกล่าว
"ก็ใช่น่ะสิ ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าภรรยาเซียวยวี่จะทำการค้าขายกับท่านได้ทั้งยังประสบความสำเร็จ แต่นางมีฝีมือการทำอาหารที่ดี ถือว่าเข้าใจได้" เซียวเหลียงกล่าวด้วยความตื่นเต้น
"ฮูหยินเซียวผู้นั้นแซ่เซี่ย ไม่ใช่คนของหมู่บ้านสกุลเซียวกระมัง? "
"ไม่ใช่ เป็คนจากหมู่บ้านสกุลเซี่ยแต่งเข้าหมู่บ้านสกุลเซียวในภายหลัง! " เซียวเหลียงกล่าว
ซ่งฉางชิงดื่มชาหนึ่งคำเหมือนจะรู้สึกสนใจเื่นี้เล็กน้อย "ได้ยินมาว่าจากหมู่บ้านสกุลเซี่ยถึงหมู่บ้านสกุลเซียวมีระยะห่างที่ต้องเดินทางถึงสองชั่วยามกว่าใช่หรือไม่? หมู่บ้านสกุลเซี่ยและหมู่บ้านสกุลเซียวมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันงั้นหรือมีชายหนุ่มหญิงสาวแต่งงานกันเป็ประจำอย่างนั้นหรือ? "
"หาใช่เช่นนั้นไม่หมู่บ้านสกุลเซียวอยู่ห่างจากหมู่บ้านสกุลเซี่ยมาก ปกติไม่มีการไปมาหาสู่กัน เพียงแต่ใน่เวลานั้นเป็จังหวะที่บิดามารดาของเซียวยวี่ล้มป่วยหนัก ไม่มีผู้ใดกล้ามารักษา มีเพียงท่านตาของเซี่ยยวี่หลัวที่กล้ามารักษาในภายหลังรักษาไม่หาย แม้แต่ท่านตาของเซี่ยยวี่หลัวก็ติดโรคร้ายแรงไปด้วย ก่อนจะสิ้นลมจึงฝากฝังให้เซียวยวี่แต่งกับเซี่ยยวี่หลัว ถือว่าให้คนน่าสงสารได้มีคู่ชีวิต"เซียวเหลียงกล่าวอย่างรู้สึกเสียดาย "ครอบครัวเซียวยวี่เดิมทีอาศัยอยู่ในอำเภอกว่างชางพื้นฐานครอบครัวไม่เลว แต่ช่างน่าเสียดาย บิดามารดาล้มป่วยอย่างหนัก ใช้จ่ายทรัพย์สินทั้งหมดที่มีในบ้านไปแล้วจึงย้ายไปอยู่ที่หมู่บ้านสกุลเซียว! "
"เช่นนั้นบิดามารดาของฮูหยินเซียวเล่า? เหตุใดถึงเป็ท่านตาของนางที่ให้นางแต่งกับเซียวยวี่? " ซ่งฉางชิงเอ่ยถามพลางขมวดคิ้ว
ที่แท้พวกเขาสองคนแต่งกันเพราะผู้ใหญ่จับคู่ให้
เซียวเหลียงเป็คนไม่ละเอียดอ่อนไม่ทันสังเกตเลยว่าหัวข้อสนทนาในตอนนี้ ถูกซ่งฉางชิงควบคุมไว้แล้ว
"นางไม่มีมารดา มารดาด่วนจากไปั้แ่ตอนนางยังเด็กบิดาผู้ให้กำเนิดแต่งภรรยาใหม่ เมื่อมีแม่เลี้ยงบิดาก็เหินห่าง ท่านก็เห็นรูปลักษณ์ของเซี่ยยวี่หลัวแล้วถือว่ามีรูปลักษณ์โดดเด่นที่สุดในหมู่บ้านใกล้เคียง แม่เลี้ยงมีบุตรอีกสองคน จึงหวังจะให้เซี่ยยวี่หลัวแต่งงานกับคนมีฐานะร่ำรวยเพื่อเรียกสินสอดได้เพิ่มขึ้นไม่ว่าจะมีรูปลักษณ์หน้าตาหรืออุปนิสัยอย่างไรก็ไม่เกี่ยง ต่อให้เป็ตาแก่อายุห้าสิบหกสิบภรรยาตายไปหลายคน ก็ไม่สน ขอเพียงมีเงินก็พอ! " เซียวเหลียงเอ่ยถึงเื่นี้ก็ได้แต่ทอดถอนใจ
"เซี่ยยวี่หลัวอยู่กับท่านตาของนางั้แ่เล็กจนโตท่านตาของนางมีบุตรสาวเพียงคนเดียว บุตรสาวของเขามีนางเป็ลูกคนเดียว จึงดูแลเอาใจใส่อย่างทะนุถนอมั้แ่เด็กจะปล่อยให้แม่เลี้ยงคิดร้ายได้อย่างไร ดังนั้น ท่านตาของนางถูกใจเซียวยวี่ เห็นว่าชายหนุ่มผู้นี้ไม่เลวเพื่อไม่ให้เกิดเื่ไม่คาดคิดขึ้น ก่อนสิ้นลมจึงให้ทั้งสองคนแต่งงานกัน ถือว่าได้ทำเื่ที่ค้างคาใจให้สำเร็จลุล่วงไปเื่หนึ่ง!"
ซ่งฉางชิงขมวดคิ้วเป็ปม
บิดาไม่รัก มารดาด่วนจากไปนางเติบโตมาในสภาพแวดล้อมเช่นนั้นั้แ่เด็กงั้นหรือ?
เมื่อเปิดหัวข้อสนทนานี้กับเซียวเหลียง ก็เหมือนเปิดหีบคำพูดของเขาทำอย่างไรก็ไม่อาจปิดได้อีก
"แต่เซี่ยยวี่หลัวผู้นี้เมื่อก่อนไม่ใช่คนเช่นนี้! " เซียวเหลียงคิดแล้วยังรู้สึกว่าน่าแปลกยิ่งนัก"เมื่อก่อนนางนิสัยเสียมาก ความสัมพันธ์กับเซียวยวี่ก็ต่างคนต่างอยู่ไม่ยุ่งเกี่ยวกันไม่รู้เพราะเหตุใด เวลานี้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดีขึ้นแล้ว อุปนิสัยของเซี่ยยวี่หลัวก็เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงช่างน่าแปลกเสียจริง! "
ซ่งฉางชิงเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างฉับพลัน
ในเสี้ยววินาทีนั้น เซียวเหลียงคิดว่าตัวเองพูดมากเกินไปรีบยิ้มพร้อมกล่าว "คือ พูดมากไปสองประโยค หวังว่าท่านซ่งจะไม่ถือสา! "
เขาพูดบ้าอะไรกัน ไม่ง่ายเลยกว่าเซี่ยยวี่หลัวจะได้ร่วมงานกับเซียนจวีโหลวเขากล่าววาจาเช่นนี้ เท่ากับทำให้เซียนจวีโหลวมองเซี่ยยวี่หลัวด้วยภาพลักษณ์ที่ไม่ดีไม่ใช่หรือ?
สมควรตาย สมควรตายนัก!พูดมากมีแต่ข้อเสียจริงๆ
เซียวเหลียงปิดปากไม่กล่าวอีก
"จะถือสาได้อย่างไร!" ซ่งฉางชิงลุกขึ้น เหมือนมีเจตนาจะส่งแขก "วันนี้ยินดียิ่งนักที่ได้พูดคุยกับเถ้าแก่เซียวหากครั้งหน้ามีเวลาว่าง ขอเชิญเถ้าแก่เซียวมาดื่มชาอีก! "
"แน่นอน แน่นอน"เซียวเหลียงแอบกำชับตัวเองอยู่ในใจ มาครั้งหน้าอย่าได้กล่าวอะไรซี้ซั้วอีก คุยเื่การร่วมงานอยู่ดีๆทำไมถึงกลายเป็เื่สองสามีภรรยาเซียวยวี่ไปได้
เซียวเหลียงหงุดหงิดที่ตัวเองพูดไม่คิดไม่รู้เลยว่า คนบางคนที่มองส่งเขาจากไปอยู่ด้านหลังก็กำลังหงุดหงิดตัวเองเหมือนกันพอได้ฟังเื่ราวเกี่ยวกับนาง เหตุใดถึงควบคุมตัวเองไม่ได้ หากเขาไม่เงยหน้า บางทีอาจได้ฟังเื่ราวจากปากเซียวเหลียงเพิ่มขึ้น!
เซียวเหลียงครุ่นคิดเื่ต่างๆขณะออกจากประตูใหญ่ของเซียนจวีโหลว จึงชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง เซียวเหลียงก้มหน้า รีบกล่าวขอขมา
แต่คนตรงข้ามได้ยินแล้วกลับทำเป็ไม่ได้ยินว่ากล่าวไม่หยุด “เ้าเดินอย่างไรของเ้า อุจจาระปิดตาเ้าหรือถึงไม่ดูทาง! ในมือข้าถือของล้ำค่าถึงเพียงนี้หากเ้าชนจนเสียหาย จะชดใช้ไหวหรือ? ”
คนตรงข้ามกล่าววาจาสกปรกอย่างหยาบคายเพียงแต่ ฟังเสียงนี้ช่างคุ้นหูยิ่งนัก เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน
“ขออภัยจริงๆ ! ” เซียวเหลียงขอขมาไม่หยุด
“เ้าคนตาบอด ทำของข้าเสียหายชดใช้...”
“เซียวเหลียง...” เถียนเอ๋อเห็นคนตรงข้ามจึงเอ่ยเรียกขึ้นมา
เซียวเหลียงเงยหน้าขึ้นเสียงของคนตรงข้ามที่ก่นด่าด้วยวาจาหยาบคายพลันหยุดชะงัก คำว่าเงินอุดอยู่ตรงลำคอ แม้แต่น้ำเสียงยังเปลี่ยนไป
“พี่… พี่เซียว… เหลียง!”
“เป็เ้าเอง! ” เซียวเหลียงขมวดคิ้ว
คนตรงข้าม เป็คนที่เขารู้จักจริงๆทั้งยังเป็คนจากหมู่บ้านเดียวกันด้วย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้