เื่ของการแต่งงานเป็เื่ปวดหัวของผู้เฒ่าหลี่ ทว่าหลี่เป่าจูกลับน่าปวดหัวยิ่งกว่า
การแต่งงานของนางนั้นยากอยู่แล้ว บวกเื่ของนางหลินทำให้ยิ่งยากขึ้นไปอีก
ตอนนี้ได้ยินคนสะกิดต่อมต่อหน้า สีหน้าของหลี่เป่าจูก็น่าเกลียดทันที
เสียแต่อีกฝ่ายเป็ผู้ใหญ่ แม้จะไม่พอใจแค่ไหนก็ทำได้เพียงอดทน
หลี่เป่าจูทนได้ แต่นางหลิวทนไม่ได้ นางลุกขึ้นเท้าสะเอว อีกมือชี้ด่าน้ำลายกระเด็น "เหลียวซิงฮวา พูดมาให้ชัดเจน อะไรคือไม่มีใครกล้าแต่งกับเป่าจู” นางรู้สึกว่าชื่อเสียงของเป่าจูโดนผู้หญิงขี้นินทาในหมู่บ้านทำลาย หากไม่ใช่เพราะพวกนาง การแต่งงานของเป่าจูจะยากขนาดนี้ได้อย่างไร?
ถ้านางรู้ว่าใครเป็ผู้เริ่มจะต้องจับฉีกเป็ชิ้นๆ
เมื่อนางเหลียวถูกชี้หน้าด่าเช่นนี้ สีหน้าก็มืดลงทันที นางผุดลุก สบตากับนางหลิว "เป่าจูเป็คนยังไง มีใครในหมู่บ้านที่ไม่รู้บ้าง" นางชี้ชาวบ้านที่มุงดู "ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นว่ามีบรรพบุรุษร่วมกัน เ้าคิดว่าข้าจะใจดีมาเตือนเหรอ?” คนอื่นหวังอยากให้หลี่เป่าจูรีบแต่งงานจะได้มีเื่นินทาเพิ่มด้วยซ้ำไป
หากไม่ใช่เพราะครอบครัวนางก็นามสกุลหลี่ มีบรรพบุรุษร่วมกับผู้เฒ่าหลี่ นางคงไม่อยากเข้ามายุ่ง
นางหลิวเย้ยหยันนางเหลียว มองด้วยหางตา "พอเลย รักษาน้ำใจให้ตัวเองเถอะ บ้านข้าไม่้า” ที่พูดมาก็คือเป่าจูแต่งไม่ออกไม่ใช่หรือไง นางไม่้าน้ำใจนี้
นางคิดว่าคนหนุ่มสาวเ่าั้มีตาหามีแววไม่ เป่าจูรูปร่างดีผิวเนียนสวย ไม่ดีตรงไหน?
คนไร้เนื้อหนังอย่างหลี่ชิงหลิงนี่สิ จะคลอดลูกได้ไหม!
หากหลานชายหาภรรยา นางจะให้หาภรรยาแบบเป่าจู
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หน้าอกของนางเหลียวก็กระเพื่อมอย่างรุนแรงด้วยความโกรธ นางมองนางหลิวอย่างแข็งกร้าว ก่อนจะหันไปทางผู้เฒ่าหลี่ "ผู้เฒ่าหลี่ ดูภรรยาสิ สอนเด็กแบบนี้จะออกมาดีได้ยังไง? ถ้าไม่ดูแลอีก หลานๆ จะนิสัยเสียแน่" ซึ่งก็แน่นอนว่ายกเว้นพี่น้องหลี่ชิงหลิง นางมองยังไงก็เหมือนคนดี ไม่เหมือนพี่น้องเป่าจูที่นิสัยแย่มาก
ผู้เฒ่าหลี่สีหน้าแย่ลง เขาจ้องนางหลิวเขม็ง ทำให้นางหลิวสะดุ้ง จากนั้นเขาก็กระตุกมุมปากและตอบรับเบาๆ
ดังคำกล่าวที่ว่า สั่งสอนบุตรต่อหน้าผู้คน ติเตียนภรรยาลับหลังผู้คน เขาไม่สามารถหักหน้านางหลิวได้ เพราะนั่นเท่ากับหักหน้าตระกูลหลี่ เขาไม่มีวันทำเื่แบบนี้แน่
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เหลียวซิงฮวาพูดนั้นถูกต้อง ถ้าไม่สั่งสอนนางหลิวให้ดีอาจสร้างเื่ใหญ่โตยิ่งกว่านี้
เขาต้องดูแลให้ดีเพื่อความสงบสุขของตระกูลหลี่
เหลียวซิงฮวาพูดทุกอย่างที่จำเป็ต้องพูดแล้ว ผู้เฒ่าหลี่จะทำหรือไม่ขึ้นอยู่กับเขา
หลี่ชิงหลิงเห็นเื่สนุกจบลงแล้วจึงเปิดปากพูดช้าๆ ขอให้ผู้เฒ่าหลี่วางข้าวบนที่โล่งที่ตนกวาดเสร็จแล้ว นางจะสลับที่ตรงที่นางหลิวยืนอยู่
ผู้เฒ่าหลี่มองหลี่ชิงหลิงนิ่งๆ เริ่มวางของบนพื้นที่หลี่ชิงหลิงกวาดเสร็จโดยไม่ลังเล เขาสั่งให้หลี่เป่าจูเฝ้าไว้ เรียกนางหลิวแล้วหันหลังจากไป
หลี่เป่าจูชำเลืองมองหลี่ชิงหลิงด้วยความพอใจ กวาดได้เก่งแล้วยังไง? ยังไงก็ต้องยอมให้พวกนาง
หลี่ชิงหลิงยกมุมปากยิ้ม ตอนนี้มีความสุขก็จริง เดี๋ยวกลับบ้านโดนผู้เฒ่าหลี่จัดการแล้วหวังว่าจะยังยิ้มออกนะ
ผู้เฒ่าหลี่รักศักดิ์ศรีขนาดนั้น ขายหน้าต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ เขาอาจไม่ทำอะไรกับคนอื่นได้ แต่เขาสามารถสอนบทเรียนให้ภรรยาและหลานสาวของเขาได้
น่าเสียดายที่หลี่เป่าจูมองสถานการณ์ไม่ออก ยังมีอารมณ์ที่จะมาสะใจเื่ของคนอื่น คนไร้สมองเช่นนางมีชีวิตอยู่จนถึงทุกวันนี้ก็ไม่ใช่เื่ง่าย
"หลี่ชิงหลิง เห็นว่าบ้านเ้าจ้างคนเก็บเกี่ยวใช่ไหม” หลี่เป่าจูนั่งลงข้างๆ เขย่าสบายๆ เมื่อเห็นหลี่ชิงหลิงยังคงกวาดพื้นก็ไม่สามารถควบคุมปากตนได้ “ที่เล็กๆ แค่นั้น วันเดียวก็เก็บเสร็จแล้ว ไว้เก็บบ้านเ้าเสร็จ ให้สองคนนั้นมาเก็บบ้านข้าเถอะ ท่านปู่กับท่านย่าแก่แล้ว จะให้พวกท่านเหนื่อยนักคงไม่ดี!” เมื่อได้ยินมีคนบอกว่าหลี่ชิงหลิงจ้างคนเกี่ยวข้าว นางก็อิจฉาอย่างรุนแรง ทำไมหลี่ชิงหลิงไม่ต้องทำ แต่นางต้องไปเก็บเกี่ยวข้าวเหน็ดเหนื่อยแทบแย่?
หลี่ชิงหลิงก็เป็หลานสาวของปู่ย่าของนางด้วย ดังนั้นนางควรกตัญญูสิ
หลี่ชิงหลิงชำเลืองมองหลี่เป่าจูด้วยรอยยิ้มกึ่งๆ มองความคิดอีกฝ่ายออกอย่างรวดเร็ว
"ได้..." นางพยักหน้า เมื่อหลี่เป่าจูกำลังจะยิ้มก็กล่าวเสริมว่า "ยังไงพวกเ้าก็เป็คนจ่าย จะจ้างนานแค่ไหนก็ได้” คิดจะเอาเปรียบนางเนี่ยนะ ฝันเถอะ
รอยยิ้มของหลี่เป่าจูแข็งค้าง ถลึงมองหลี่ชิงหลิงด้วยความโกรธ "เ้าหมายความว่าไง? หา?" ได้เงินมาเยอะขนาดนั้นแต่ไม่ยอมจ่ายแค่ค่าแรงเล็กน้อยเนี่ยนะ? ในใจเ้ายังมีปู่ย่าอยู่ไหม?
“ความหมายง่ายๆ แค่นี้ พี่เป่าจูไม่เข้าใจเหรอ?”
หลี่ชิงหลิงเย้ยว่านางโง่เหรอ? ดวงตาของหลี่เป่าจูเบิกกว้างกว่าเดิม ไฟโทสะติดพรึบ นางยกเท้าขึ้นและ้าเดินไปหาหลี่ชิงหลิงเพื่อสอนบทเรียน
แต่เมื่อหางตาสังเกตเห็นฝูงชนมุงดูอยู่อย่างตื่นเต้นจึงหยุดฝีเท้า พอตั้งสติได้ก็หยุดนิ่ง นึกขอบคุณตนเองอยู่ในใจว่าโชคดีที่ไหวตัวทัน มิฉะนั้นคงตกหลุมหลี่ชิงหลิงเต็มเปา
"ฟังดูเหมือนเ้าไม่คิดจะกตัญญูต่อท่านปู่ท่านย่าสินะ?” หากชื่อเสียงของหลี่ชิงหลิงที่ไม่กตัญญูต่อปู่ย่าแพร่กระจายออกไปคงเงยหน้าไม่ขึ้น
หลี่ชิงหลิงถือไม้กวาดไว้ในมือ มองหลี่เป่าจูเงียบๆ พูดด้วยน้ำเสียงที่สงบเหมือนเดิม "พี่เป่าจู ข้าบอกตอนไหนว่าข้าจะไม่กตัญญูต่อท่านปู่ท่านย่า" คำว่ากตัญญูมันยิ่งใหญ่เกินไป นางไม่อยากแบกรับชื่อเสียงว่าเป็คนอกตัญญู
ถ้านางได้รับชื่อเสียงว่าเป็คนอกตัญญู นับประสาอะไรกับคนอื่น แม้แต่คนในหมู่บ้านยังอยากเจาะกระดูกสันหลังนางเลย
หลี่เป่าจูตะคอกอย่างเ็า "ถ้ากตัญญูแล้วทำไมไม่จ้างคนช่วยเกี่ยวข้าวล่ะ" นางอุตส่าห์จับจุดหลี่ชิงหลิงได้แล้วจะปล่อยไปง่ายๆ ได้อย่างไร
หลี่ชิงหลิงถอนหายใจหนักๆ หน้าตาดูหมดหนทาง "พี่เป่าจู พี่ไม่ใช่จะไม่รู้ว่าสถานการณ์ในครอบครัวของข้าเป็ไง แค่เลี้ยงน้องให้รอดได้ก็ดีมากแล้ว ข้าจะไปมีความสามารถที่เลี้ยงดูคนเยอะขนาดนั้นได้ที่ไหน" หลังจากหยุดเล็กน้อยก็พูดต่อ "แต่ถ้าท่านลุงไม่้าเลี้ยงดูท่านปู่ท่านย่า ให้ข้าเลี้ยงก็ได้อยู่ ข้าจะไม่ผลักความรับผิดชอบ”
สิ้นเสียง ความโกรธบนใบหน้าของหลี่เป่าจูก็ทวีความรุนแรงขึ้น "หลี่ชิงหลิง อย่ามาพูดจาใส่ร้ายคนอื่น พ่อข้าบอกเมื่อไหร่ว่าจะไม่เลี้ยงปู่ย่า“ หลี่ชิงหลิงใจดำขึ้นเรื่อยๆ แค่เปิดปากก็บิดเบือนคำพูดของนางได้เช่นนี้
ถ้าปู่ย่าได้ยินเื่นี้ พวกเขาจะต้องถลกหนังของนางแน่
หลี่ชิงหลิงมองหลี่เป่าจูอย่างไร้เดียงสา "หรือข้าเข้าใจผิด? ไม่ได้หมายความแบบนี้หรือ?”
"เ้า..." หลี่เป่าจูกระทืบเท้า กำลังจะปฏิเสธคำพูดของหลี่ชิงหลิงก็ได้ยินเสียงเรียกของผู้เฒ่าหลี่
“เป่าจู ยืนทำอะไรอยู่ ทำไมไม่รีบมาช่วยอีก”
ผู้เฒ่าหลี่วางข้าวเปลือกลงบนพื้น หลี่เป่าจูเม้มริมฝีปาก รีบเดินไปหาและแก้เชือก
หลี่ชิงหลิงพูดขึ้น "ท่านปู่ พี่เป่าจูขอให้ข้าจ้างคนมาช่วยเกี่ยวข้าว ไม่ใช่ว่าข้าไม่อยากจ้างคนมาช่วยนะ แต่ท่านก็รู้สถานการณ์ของครอบครัวข้า เงินค่าจ้าง…” เมื่อเห็นสีหน้าผู้เฒ่าหลี่ไม่สู้ดีนัก นางรีบพูด "ถ้าท่านย่าทำงานไม่ไหว ที่บ้านไม่มีเงิน ต่อให้ยืมเงินข้าก็จะจ้างคนมาช่วย”
ทันทีที่หลี่เป่าจูได้ยิน ใบหน้าของนางก็ซีดลงทันที นางหันไปเห็นผู้เฒ่าหลี่มองมาด้วยใบหน้าที่มืดมนแล้วเสียงสั่น “ท่านอย่าฟังหลี่ชิงหลิงพูดจามั่วซั่ว ข้าไม่ได้พูดอะไรเลย” หลี่ชิงหลิงคนนี้โเี้จริงๆ ฟ้องปู่งั้นหรือ
ดวงตาที่เฉียบคมของผู้เฒ่าหลี่จ้องหลี่เป่าจูเขม็ง จากนั้นพึมพำว่าเขายังทำงานไหว ไม่ต้องจ้างคน พูดจบก็เตรียมเดินจากไป
หลังจากเดินไปได้สองก้าว เขาก็หันศีรษะไปมองหลี่เป่าจู่อีกครั้ง ให้นางตามเขาไปที่นาด้วย
"ท่านปู่ ถ้าข้าไปที่นา ใครจะดูข้าว" หลี่เป่าจูไม่อยากไปเลย การเก็บเกี่ยวข้าวนั้นเหนื่อยมาก
"เสี่ยวหลิงช่วยข้าดูหน่อย เดี๋ยวชิงฝูจะมา” ผู้เฒ่าหลี่พูด "ไปกันเถอะ!" เขาหันศีรษะและจากไป
หลี่เป่าจูไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเดินตามรอยผู้เฒ่าหลี่อย่างไม่เต็มใจ
เมื่อไม่มีหลี่เป่าจู หลี่ชิงหลิงก็สบายตัว นางกวาดพื้นที่โล่งอย่างช้าๆ หลังจากกวาดเสร็จ เจิงเถียโถวก็กลับมาพร้อมเข็นรถเข็นที่เต็มไปด้วยข้าวเปลือก
ข้างหลังตามติดด้วยหลิวจือโม่
