เมื่อเ้าหน้าที่ตำรวจจมูกงุ้มเหมือนเหยี่ยวอย่างจางกั๋วฉายได้รับสายจากผู้กำกับหลิว ก็รีบบึ่งรถไปวิลล่าชิงเฟิงทันที ตำรวจชายคนนี้คือคนที่เคยจับเย่เฟิงหลังจากเขาเกิดใหม่บนโลกนี้ได้ไม่นาน ถึงไม่เจอกันนานแต่ก็ยังดูน่าเกรงขามไม่เปลี่ยน
“ท่านประธานจูวางใจเถอะครับ ไม่ว่าคนที่ทำร้ายคุณคือใคร ทางตำรวจจะให้ความเป็ธรรมกับคุณแน่นอน!” ตำรวจจมูกงุ้มกล่าวให้ความมั่นใจอีกฝ่าย
“มัน… มัน เป็มัน”
ชายวัยกลางคนสวมแว่นตาชี้เย่เฟิงที่กำลังเดินออกจากบ้าน ก่อนะโทันที
จางกั๋วฉายมองตามทิศทางของมือนั้น เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายคือเย่เฟิงก็ถึงกับผงะ นี่มันเ้าเด็กคนนั้นไม่ใช่หรือ? ครั้งก่อนเขาต้องถูกพักงานหนึ่งสัปดาห์ก็เพราะเ้าเด็กนี่! ตามที่รู้มาจากผู้กำกับหลิว เ้าเด็กคนนี้น่าจะมีตระกูลหลินแห่งเมืองเยี่ยนจิงคอยหนุนหลังอยู่?
จางกั๋วฉายครุ่นคิดเื่นี้อย่างรวดเร็วและเลือกที่จะไม่สนใจมากนัก ถึงเ้าเด็กนี่จะมีตระกูลหลินหนุนหลังแล้วอย่างไร? ท่านประธานจูเป็ถึงประธานไดมอนด์กรุ๊ป งานจัดแสดงอัญมณีของตระกูลหลินก็มีบริษัทของประธานจูเป็หนึ่งในผู้สนับสนุนหลัก! ตระกูลหลินไม่กล้าล่วงเกินประธานจูเพื่อช่วยเหลือเด็กอย่างมันแน่นอน จางกั๋วฉายคิดได้ดังนั้นก็สบายใจขึ้น
อย่างไรก็ตาม หญิงสาวที่อยู่ข้างเย่เฟิงคือใครกัน? ใบหน้าแดงระเรื่อน่ามองช่างดูยั่วยวนเกินไปแล้ว... ความอิจฉาผุดขึ้นในใจของจางกั๋วฉาย เมื่อคิดว่าทั้งสองคนเพิ่งออกมาจากบ้านหลังเดียวกัน ก็ทำให้เขาไม่พอใจขึ้นมาทันที ทำไมเ้าเด็กนี่ถึงได้โชคดีแบบนี้? ในความคิดของเขา หญิงชายอยู่บ้านเดียวกันยังจะทำอะไรกันได้อีก? แน่นอนว่ามันคือกิจกรรมอย่างว่า...
“เย่เฟิง นายไม่รู้หรือไงว่าประธานจูคนนี้คือใคร เขาเป็ถึงประธานไดมอนด์กรุ๊ป ผู้สนับสนุนรายใหญ่ที่สุดของงานจัดแสดงอัญมณีที่กำลังจะจัดขึ้นเชียวนะ!”
จางกั๋วฉายชี้เย่เฟิงและเอ่ยอย่างโมโห เขาเป็ตำรวจชั้นผู้น้อย ย่อมไม่รู้สถานะของหลินซือฉิง และไม่รู้เบื้องหน้าเื้ัของเย่เฟิงด้วยเช่นกัน
หลินซือฉิงได้ยินดังนั้นก็ประหลาดใจ “เอ๋? คุณคือคุณจูอี้ฉวินหรือคะ?”
เย่เฟิงอมยิ้มทันทีเมื่อได้ยินชื่อนี้ จูอี้ฉวินงั้นเหรอ?
“หืม? สาวสวยท่านนี้รู้จักผมด้วยเหรอ?”
จูอี้ฉวินถูกตำรวจพยุงตัวขึ้นมาพิงรถ พลันประหลาดใจ คาดไม่ถึงว่าสาวงามผู้นี้จะรู้จักตนด้วย
แน่นอนว่าเมื่อคิดดูแล้ว นี่ไม่ใช่เื่น่าแปลกใจ ในเมื่อไดมอนด์กรุ๊ปเป็แบรนด์จำหน่ายเครื่องประดับที่ใหญ่ที่สุดในประเทศซึ่งดังระดับสากลและเป็ที่ชื่นชอบของผู้หญิง ในฐานะที่เป็ประธานบริษัท เขาย่อมเป็ที่รู้จักแน่นอนอยู่แล้ว
“ต้องขอโทษด้วยนะคะ ฉันไม่รู้จักคุณหรอก แค่เคยได้ยินชื่อก็เท่านั้น”
หลินซือฉิงหลุดยิ้ม ชื่อของอีกฝ่ายทำเอาเธอกลั้นหัวเราะแทบไม่ไหว
จูอี้ฉวิน? ชื่ออย่างกับหมูหนึ่งฝูง!
“พี่หลิน ในเมื่อคุณคนนี้เป็พาร์ทเนอร์ของตระกูลหลิน งั้นผมให้พี่จัดการแล้วกันนะ”
ทันทีที่เย่เฟิงได้ยินว่าอีกฝ่ายเป็คู่ค้าของตระกูลหลินก็ไม่อยากยุ่งเกี่ยว
“นายนี่นะ ไปทำร้ายคนอื่นแล้วโยนเื่มาให้พี่อีก”
หลินซือฉิงรู้สึกจนปัญญาจริงๆ
บทสนทนาของทั้งคู่ทำให้จางกั๋วฉาย จูอี้ฉวิน และคนอื่นๆ ถึงกับมึนงง เป็ไปไม่ได้ สาวงามคนนี้เป็คนของตระกูลหลินงั้นเหรอ?
“สวัสดีค่ะคุณจูอี้ฉวิน ฉันชื่อหลินซือฉิงเป็ผู้รับผิดชอบงานจัดแสดงอัญมณีในครั้งนี้ค่ะ”
หลินซือฉิงค้อมศีรษะก่อนยิ้มและกล่าวทักทายตามมารยาท
“เอ่อ สวัสดีครับคุณหนูหลิน คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเราจะได้พบกันโดยบังเอิญในสถานที่ซอมซ่อแบบนี้ เป็เกียรติที่ได้เจอครับ”
จูอี้ฉวินตกตะลึง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสาวงามคนนี้ถึงมีเสน่ห์ดึงดูดนัก ที่แท้ก็สาวงามอันดับหนึ่งแห่งเมืองเยี่ยนจิงนี่เอง!
สำนักงานใหญ่ของไดมอนด์กรุ๊ปตั้งอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ จูอี้ฉวินที่เป็ถึงประธานบริษัทก็ซื้อบ้านพักตากอากาศริมทะเลสุดหรูในเซี่ยงไฮ้ แน่นอนว่าวิลล่าชิงเฟิงแห่งนี้เทียบกับบ้านพักของเขาไม่ได้เลย เขามาพักที่เมืองเยี่ยนจิงแค่ชั่วคราวเท่านั้นแหละ ดังนั้นจะกล่าวว่าที่นี่ซอมซ่อก็ไม่เกินจริงสำหรับเขาเลยสักนิด อีกทั้งเขา้าใช้คำพูดเหล่านี้เพื่อดูถูกเย่เฟิง สาวงามอันดับหนึ่งอย่างหลินฉือชิงจะอยู่ใน ‘สถานที่ซอมซ่อ’ แบบนี้ได้อย่างไร? หลังกล่าวจบ จูอี้ฉวินก็มองเย่เฟิงด้วยสายตาดูแคลน คนบ้าบิ่นอย่างมัน หลังจากนี้จะต้องสูญเสียครั้งใหญ่ และพ่ายแพ้ราบคาบ!
เมื่อรู้ทันความคิดของจูอี้ฉวิน หลินซือฉิงก็ยิ้มบาง เธอดึงแขนเย่เฟิงเข้ามาคล้องแขน “ขอแนะนำนะคะ นี่คือคู่หมั้นของฉัน ชื่อเย่เฟิงค่ะ เพราะงั้นถ้าคุณจูไม่พอใจ จะไม่เข้าร่วมงานจัดแสดงครั้งนี้ก็ได้นะคะ”
ทันทีที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ จางกั๋วฉาย จูอี้ฉวิน และคนอื่นๆ ก็ตกตะลึงไปตามๆ กัน
นี่มันอะไรกัน เ้าเด็กเย่เฟิงนี่เป็คู่หมั้นของหลินซือฉิงงั้นเหรอ?
บิดามันเถอะ!
พวกเขาแทบจะะโด่าออกมา นี่มันเื่บ้าอะไรกันวะ?
สีหน้าของเย่เฟิงเปลี่ยนไปทันที เขาไม่คิดว่าหลินซือชิงจะพูดออกไปแบบนั้น คู่หมั้นอะไร? อีกฝ่ายบอกเขาชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานไม่ใช่หรือไง?
“ในเมื่อคุณจูมาก่อกวนฉัน คู่หมั้นของฉันจัดการคุณไป มันก็เป็เื่ปกตินี่คะ?” หลินซือฉิงกล่าว “ถ้าคุณจู้าถอนการลงทุนงานนี้ก็ไม่เป็ไรค่ะ เพราะถึงยังไงฉันก็จะยืนหยัดอยู่ข้างคู่หมั้นของตัวเองแน่นอนค่ะ”
หญิงสาวเอ่ยอย่างไม่ไว้หน้าอีกฝ่าย
หากเปลี่ยนเป็คนอื่นในตระกูลหลิน เมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ พวกเขาจะหาทุกวิถีทางเพื่อประนีประนอมและพยายามไม่ให้จูอี้ฉวินถอนตัวจากงานครั้งนี้ แต่หลินซือฉิงกลับไม่สนใจ ในสายตาของเธอจูอี้ฉวินช่างน่าขยะแขยง ถ้าเธอรู้ว่าคู่ค้าเป็คนแบบนี้ คงไม่เลือกอีกฝ่ายแน่นอน
“ดี ดี เยี่ยมมาก”
จูอี้ฉวินเอ่ยขณะขบกรามแน่น ตัวสั่นด้วยความโกรธไปหมด ไม่คิดเลยว่าหลินซือฉิงจะกล้าหักหน้าเขาขนาดนี้!
“นี่...”
จางกั๋วฉายถึงกับช็อกตาตั้ง ครั้งนี้มันเกินกว่าที่เขาจะรับมือไหว แล้วตอนนี้จะทำอย่างไรดี?
“โทรหาผู้กำกับหลิวสิ” เย่เฟิงพูดกับจางกั๋วฉาย
จางกั๋วฉายได้ยินดังนั้นก็สะดุ้งราวกับตื่นจากฝัน รีบร้อนหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาผู้กำกับหลิว และเล่าเหตุการณ์ฝั่งนี้ให้ปลายสายฟังทันที
เพียงไม่นานเสียงก่นด่าก็ดังมาจากปลายสาย “นี่แกกล้ารบกวนคุณเย่เหรอ? แกอยากตายหรือไง! ช่างเื่ของจูอี้ฉวิน แกรีบไปขอโทษคุณเย่ซะ แล้วค่อยพาจูอี้ฉวินไปโรงพยาบาล!”
จางกั๋วฉายได้ยินดังนั้นก็หัวหด หลังจากวางสายก็รีบหันกลับมา
“เอ่อคุณเย่ ผมขอโทษจริงๆ ครับ เื่ก่อนหน้านี้ผมรู้เท่าไม่ถึงการณ์...”
นี่เป็ครั้งที่สองที่จางกั๋วฉายขอโทษเย่เฟิงเสียงอ่อย
คราวนี้เย่เฟิงไม่คิดกลั่นแกล้งอีกฝ่าย จึงโบกมือไล่ “หยุดพล่ามไร้สาระแล้วจะไปไหนก็ไป ไม่มีใครขวางแกไว้หรอก”
จางกั๋วฉายรีบแบกจูอี้ฉวินขึ้นรถตำรวจโดยไม่ต้องคิด และขับออกไปทันที ทิ้งไว้เพียงรถเบนซ์สีดำที่มีรอยบุบตรงประตู
ดูเหมือนว่าอาการาเ็ของจูอี้ฉวินจะหนักเอาการ...
หลินซือฉิงในเวลานี้ไม่อาจหุบยิ้มได้ เธอดูมีความสุขมากทีเดียว
“เฮ้ จะปล่อยผมได้ยัง?”
เย่เฟิงถูกมือขาวคล้องไว้ก็รู้สึกอึดอัด ไม่ต้องสงสัยเลยว่าภาพเหตุการณ์นี้ต้องอยู่ในสายตาหลงหว่านเอ๋อร์อย่างแน่นอน ไหนจะคำว่า ‘คู่หมั้น’ นั่นอีก...
“ยังไม่ได้ นายต้องชดใช้ให้ฉันก่อน”
หลินซือฉิงยิ้มสง่างามก่อนดึงแขนเย่เฟิงให้เข้ามาใกล้มากกว่าเดิม
“ชดใช้?”
เย่เฟิงชะงัก เขาเป็หนี้อะไรหลินซือฉิงถึงต้องชดใช้ให้อีกฝ่ายเนี่ย!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้