เมื่อเซี่ยเสี่ยวหม่านเห็นถึงสีหน้าตื่นตระหนกใของกูเฟยเยี่ยนจึงพอใจเป็อย่างมาก เขากำลังจะพูดขึ้นมา ทว่ากูเฟยเยี่ยนถามออกมาก่อน “หม่านกงกง สมุนไพรพวกนี้ ที่อยู่ในจวนล้วนมาจากที่ใดกัน? จะทำอะไรหรือ? ”
แม้ว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยจะไม่ได้ประทับในพระราชวัง ทว่าสามารถใช้สมุนไพรของห้องยาสำนักหมอหลวงได้เช่นเดียวกับราชสำนักและวังหลัง ภายในจวนของตนเองรวบรวมยาสมุนไพรทั่วไปไว้นับว่าเป็เื่ปกติ ทว่ารวบรวมไว้มากมายเพียงนี้ไว้ทำอะไรกัน? ตามความเข้าใจของกูเฟยเยี่ยนสุขภาพร่างกายของจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยนั้นดีมาก นานๆ ทีจึงจะประชวรแล้วทานยา
“ยาพวกนี้ล้วนเป็ข้าพเ้าที่จัดซื้อเข้ามา ในส่วนของอย่างอื่นเ้าไม่จำเป็ต้องถามมากมาย เ้าตรวจสอบสมุนไพรคงเหลือก็พอ”
หม่านกงกงเอ่ยตอบ พร้อมกับยื่นตาชั่งมาให้แล้วเอ่ยว่า “ในมือของข้าพเ้ามีใบแสดงรายละเอียดอยู่หนึ่งชุด และไม่รู้ว่าถูกต้องหรือไม่ เ้าตรวจสอบเรียบร้อยแล้วก็จัดทำใบแสดงรายละเอียดออกมาหนึ่งชุด ชนิดและปริมาณต้องละเอียดและชัดเจน เมื่อถึงเวลานั้นค่อยนำมาเปรียบเทียบดู”
ตรวจสอบสมุนไพรคงเหลือหมายถึงอะไรกัน แน่นอนว่าเป็การนำใบแสดงรายละเอียดที่มีอยู่มาเปรียบเทียบ เพื่อตรวจสอบสิ่งที่เหลืออยู่ หม่านกงกงไม่ให้ใบแสดงรายละเอียด ให้มาเพียงแค่ตาชั่ง เห็นได้ชัดเลยว่ากลั่นแกล้งนาง สมุนไพรในห้องแห่งนี้หากไม่มีหนึ่งร้อยชนิดก็ต้องมีถึงเก้าสิบชนิด สมุนไพรแต่ละชนิดอาจแบ่งย่อยได้อีก ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่รู้อะไรเลย และไม่ต้องพูดถึงการชั่งปริมาณสมุนไพรหลากหลายทีละชนิด เพียงแค่ชนิดเดียวก็วุ่นวายได้มากแล้ว
เซี่ยเสี่ยวหม่านกำลังรอให้กูเฟยเยี่ยนร้องขออ้อนวอน ทว่ากูเฟยเยี่ยนกลับไม่ได้พูดออกมา “ตาชั่งนั้นไม่ต้อง ให้กระดาษและพู่กันที่ข้าหนึ่งชุดก็พอแล้ว สมุนไพรพวกนี้ให้เวลาข้าสามวันก็แล้วกัน”
หม่านกงกงตะลึงตาค้าง “เ้า เ้าว่าอะไรนะ? ”
แม้แต่ตาชั่งก็ไม่เอา อีกทั้ง้าเพียงแค่สามวัน? แพทย์หญิงผู้นี้ล้อเล่นอะไรกัน?
“ข้าบอกว่าตาชั่งไม่ต้องแล้ว ให้กระดาษพู่กันและระยะเวลาสามวันก็พอแล้ว”
กูเฟยเยี่ยนนั้นจริงจังมาก นางก้าวเท้าเข้าไปด้านในก้าวใหญ่ แล้วพินิจพิเคราะห์ตู้ยาขนาดใหญ่ หม่านกงกงไล่ตามเข้ามาด้านในแล้วถามอย่างจริงจังต่อหน้านาง “เ้าแน่ใจ? ”
หากว่ากูเฟยเยี่ยนยังไม่รู้สึกว่าหม่านกงกงกลั่นแกล้งนาง นางก็เป็คนโง่ไปแล้ว เพียงแต่ว่าในตอนนี้นางไม่มีเวลามาประลองฝีมือกับหม่านกงกง นางจำเป็ต้องใช้ระยะเวลาที่สั้นที่สุดตรวจสอบสมุนไพรทุกชนิดที่นี่ให้ชัดเจน!
ต้องรู้ไว้ว่าคนร้ายตัวจริงผู้นั้นที่วางแผนประทุษร้ายเฉิงอี้เฟย กำลังจับตามองจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยอยู่
เดิมทีนางคิดว่าเพียงแค่ควบคุมยาสมุนไพร ที่ห้องยาสำนักหมอหลวงส่งมอบมาให้ก็เพียงพอแล้ว แต่ใครจะไปรู้ว่าจิ้งหวางฝู่กลับมีที่เก็บยามากมายเพียงนี้! ์รู้ดีว่าคนร้ายตัวจริงลงมือไปแล้วหรือยัง นางไม่สามารถสนใจสิ่งอื่นได้ และจะต้องมั่นใจถึงความปลอดภัยของสมุนไพรเหล่านี้ทั้งหมดโดยเร็วที่สุด!
หม่านกงกงทราบว่ากูเฟยเยี่ยนช่วยชีวิตเฉิงอี้เฟยเอาไว้ แต่เขาไม่สามารถที่จะจินตนาการได้ว่ากูเฟยเยี่ยจะตรวจสอบสมุนไพรเหล่านี้อย่างชัดเจนด้วยมือเปล่าในระยะเวลาเพียงแค่สามวันได้อย่างไร!
เขาไล่ตามมาแล้วถามด้วยความคิดไม่ถึง “นังหนูตัวน้อยเ้าเป็เพียงแค่แพทย์หญิงที่เพิ่งจะได้รับการเลื่อนขั้นมา เ้าจะมีความสามารถมากเพียงใดกันเชียว? มันจะไม่คุยโวโอ้อวดไปหน่อยหรือ? ”
คำว่า “สาวน้อย” คำนี้ก่อปัญหาให้กูเฟยเยี่ยนอย่างชัดเจน นางเอ่ยอย่างเ็า “หม่านกงกง เ้าไม่เชื่อหรือ? ถ้าเช่นนั้น พนันกันสักตาไหม? ”
พนัน?
หม่านกงกงตกลงโดยไม่แม้แต่จะคิด “พนันก็พนัน หากเ้าแพ้แล้วจะทำเช่นไร? ”
กูเฟยเยี่ยนพูดอย่างจริงจัง “หากข้าแพ้แล้ว ตามใจเ้าเลย หากเ้าแพ้แล้ว ภายในจิ้งหวางฝู่ ถ้าเป็เื่ที่เกี่ยวข้องกับศิลาโอสถแล้ว ต้องให้ข้ามีอำนาจรับผิดชอบ เ้าไม่สามารถก้าวก่ายข้าได้ และต้องช่วยเหลือข้าอย่างไม่มีเงื่อนไข! ”
หม่านกงกงมั่นใจเป็อย่างยิ่ง เขาเอ่ยว่า “เอาอย่างนี้ หากเ้าแพ้แล้ว เงินเดือนและเงินรางวัลของเ้าทั้งหมดใน่ระยะเวลาสามเดือนจะตกเป็ของข้า หากว่าเปิ่นกงกงแพ้แล้ว ก็จะทำตามสิ่งที่เ้ากล่าวมา! ”
กูเฟยเยี่ยนจริงจังมาก “คำไหนคำนั้น กลับคำจะเป็ลูกสุนัข! ”
หม่านกงกงยิ้มเยาะ “คำไหนคำนั้น! หากเ้ากลับคำ เปิ่นกงกงก็มีวิธีการมากมายที่จะลงทัณฑ์เ้า! ”
ทันทีที่หม่านกงกงจากออกไป กูเฟยเยี่ยนก็ปิดประตูทันที เริ่มงาน!
ในสายตาของทุกคนนางก็เป็เพียงแค่แพทย์หญิงตัวน้อยที่ไม่มีความสามารถ จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยจะไม่มีทางมอบหมายงานทั้งหมดให้แก่นาง กล่าวได้อีกนัยหนึ่งว่ายังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่นางไม่สามารถควบคุมและระวังไว้ได้ ดังนั้นนางจึงทำได้เพียงใช้โอกาสนี้คว้าตัวหม่านกงกงมาใช้เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ของตนเอง
หม่านกงกงเปรียบเสมือนกับหัวหน้าผู้ดูแลของจิ้งหวางฝู่ ในเื่ราวมากมายสามารถตัดสินใจแทนจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยได้
การพนันในครั้งนี้ ในบางความหมายก็เรียกได้ว่าเป็โอกาสที่นางจะแสดงระดับความสามารถทักษะแพทย์ให้แก่หม่านกงกงได้ดู นางต้องชนะและจะชนะอย่างแน่นอน!
ในอดีตสิบปีที่ผ่านมา ชีวิตของนางนอกจากท่านอาจารย์อาภรณ์ขาวแล้ว ก็มีเพียงแค่สมุนไพรเท่านั้น สมุนไพรชนิดเดียวกันส่วนใหญ่ปริมาณเท่าใดนางชำเลืองตามองก็รู้อยู่แก่ใจแล้ว ใช้มือวัดปริมาณก็สามารถแน่ใจถึงปริมาณได้อย่างเฉพาะเจาะจง ต่อให้ไม่มีหวางเป่าติงคอยช่วยเหลือ ระยะเวลาสามวันก็เพียงพออยู่ดี
กูเฟยเยี่ยนไม่ได้รีบร้อนที่จะตรวจสอบสมุนไพร นางเดินเรื่อยเปื่อยผ่านตู้ยาที่ตั้งสลอนอยู่ แล้วจดชื่อสมุนไพรที่ทำเครื่องหมายไว้บนตู้ นางเดินวนไปหนึ่งรอบพบว่าสมุนไพรเหล่านี้ส่วนใหญ่ใช้สำหรับขับไล่ความเย็น
หม่านกงกงอยู่ด้านนอกแอบมองมาสักระยะหนึ่งก็ไม่เห็นถึงสิ่งใด ในไม่ช้าก็ได้จากไป ทันทีที่เขามาถึงหน้าประตูทางเข้าลานก็ได้พบกับหมางจ้ง
เขายกยิ้มขึ้นมาทันทีแล้วพุ่งตัวไปหาอย่างดีอกดีใจ “พี่จ้ง เตี้ยนเซี่ยล่ะ? พระองค์เสด็จกลับมาด้วยหรือไม่? ”
น้ำเสียงและรอยยิ้มนี้ ไม่หยิ่งยโสและพิลึกแปลกประหลาดอย่างกับผู้ใหญ่อีกต่อไป แต่เป็วัยหนุ่มอายุสิบกว่าปี ผู้ที่ไม่ทราบล้วนมองไม่ออกว่าเขาคือเด็กน้อยผู้ไม่เจียม ผู้คนด้านนอกไม่รับรู้ ทว่าผู้คนภายในจิ้งหวางฝู่ทราบกันดีว่า ที่จริงแล้วหม่านกงกงไม่ได้น่ากลัว เขาก็คือเด็กน้อย!
หมางจ้งหัวเราะแล้วยกนิ้วโป้งตั้งตรงไปให้เขา “เสี่ยวหม่านจื่อ เ้าใช้ได้เลย! เ้ากล้าไปแย่งคนกับองค์หญิงหวายหนิง! ทำดีมาก! ”
เซี่ยเสี่ยวหม่านวางมาดยโสอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามอย่างจริงจัง “เตี้ยนเซี่ย้านังหนูผู้นี้ไปทำไมกัน? จวนของพวกเรามีคนนอกมาเพิ่มหนึ่งคนไม่ว่าจะเื่อะไรก็ตามล้วนไม่สะดวก! ”
หมางจ้งรีบกระซิบเอ่ยถึงเื่ราวที่เกิดขึ้นให้เซี่ยเสี่ยวหม่านฟังในทันที โดยเฉพาะจดหมายลับในใบสั่งยานั่น เมื่อเซี่ยเสี่ยวหม่านได้ยินก็ตื่นตระหนกใ
“อะไรนะ นางกล้าวางยาพิษเตี้ยนเซี่ย? ยังเตะเตี้ยนเซี่ยอีก? ”
“ชู่ว์! เ้าเสียงเบาลงหน่อย เื่ที่เตะเตี้ยนเซี่ย เตี้ยนเซี่ยไม่ได้บอก แต่เป็ข้าที่เดาเอาจากรอยเท้าบนตัวเตี้ยนเซี่ย! ”
“อะไรนะ มีคน้าจะวางแผนประทุษร้ายเตี้ยนเซี่ย! ”
“ชู่ว์ เบาๆ หน่อย! ”
“อะไรนะ เป็นางที่ให้เตี้ยนเซี่ยรับนางไว้? เหตุใดเตี้ยนเซี่ยต้องฟังนางด้วย? สมุนไพรที่ส่งมายังจวนของพวกเราเข้าล้วนหาคนมาตรวจสอบแล้ว! ไม่มีสิ่งผิดปกติเสียหรอก! นางเป็เพียงหนูน้อยต่อให้มีความสามารถมาก แต่จะมีความสามารถเท่าแพทย์ยาอวุโสหรือ? เตี้ยนเซี่ยอาจจะมองผิดไป! ”
“ชู่ว์…”
หมางจ้งนึกถึงฉากที่เตี้ยนเซี่ยมองกูเฟยเยี่ยนอย่างจิตใจเหม่อลอย เขามองไปรอบๆ เมื่อแน่ใจแล้วว่ารอบข้างไม่มีผู้คน จึงซุบซิบพูดคุยกับเซี่ยเสี่ยวหม่าน หมางจ้งเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ว่าเตี้ยนเซี่ยปฏิบัติต่อกูเฟยเยี่ยนไม่เหมือนกับผู้อื่น ทว่าเซี่ยเสี่ยวหม่านไม่เชื่ออย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามจวินจิ่วเฉินได้ประทับอยู่บนกำแพงสูงด้านข้างของพวกเขา แล้วหันหน้าไปทางห้องของกูเฟยเยี่ยน โดยหันหลังให้พวกเขา ดูเหมือนว่าเขาเพิ่งจะกลับมาได้ไม่นาน หน้ากากสีขาวเงินบนใบหน้าก็ยังไม่ได้ถอดออก
เป็ที่แน่ชัดว่าเขาได้ยินถึงการแสดงความคิดเห็นของผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งสอง เพียงแต่ว่าภายในใจของเขาคิดอย่างไรไม่มีผู้ใดรับรู้ได้ เขามองไปยังร่างที่เร่งมือทำงานของกูเฟยเยี่ยนในหอเก็บยา ดวงตาดำขลับดั่งทิวากาลคู่นั้น ลึกลับจนทำให้คาดเดาไม่ได้
เซี่ยเสี่ยวหม่านและหมางจ้งแลกเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขาสามารถพูดคุย และคาดเดากันได้อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะแยกจากไป หลังจากที่พวกเขาออกไป จวินจิ่วเฉินพลิกตัวไปมาหลายครั้งก่อนจะทะยานลงไปที่หน้าต่างของหอเก็บยา เขาเห็นถึงด้านใน กูเฟยเยี่ยนเลือกยาสมุนไพรมาสองชนิดกำลังจะบดรวมกันให้ละเอียด
จวินจิ่วเฉินไม่รู้ว่านางจะทำอะไร เขาสงสัยมากทีเดียว
ผ่านไปครู่หนึ่งก็เห็นว่ากูเฟยเยี่ยนนำยาที่บดละเอียดแล้วทาลงไปบนมือ ทุกครั้งที่ทาไปหนึ่งครั้งคิ้วของนางก็จะขมวดกันเป็ปมราวกับว่าเจ็บมาก
“าเ็แล้ว? ”
จวินจิ่วเฉินพึมพำเบาๆ คิ้วที่เคร่งขรึมขมวดเป็ปมขึ้นมา โดยที่ตนเองกลับไม่รู้ตัว…