ครั้นเซ่าหานอี้ขู่ว่าจะแต่งงานกับจางหนิง จุนฟานก็ไม่ยอม จนเกิดการต่อสู้ แต่สุดท้ายเขาก็ถูกบรรดาผู้คุ้มกันของเซ่าหานอี้ทำร้ายจนาเ็เจียนตาย จางหนิงยอมตายได้ แต่ไม่ยอมแพ้ นี่เป็ครั้งแรกที่เซ่าหานอี้ได้พบกับคนที่ไม่ยินยอมที่จะแต่งงานกับเขา เขาจึงยิ่งมีใจให้จางหนิง และมุ่งมั่นที่จะเอาชนะให้จงได้ เมื่อจางไท่เหลยรู้ว่าเซ่าหานอี้้าแต่งงานกับจางหนิง เขาก็หัวเราะออกมาจนฟันแทบร่วง รู้กันว่า ตระกูลเซ่าแข็งแกร่งกว่าตระกูลจุนมาก จุนฟานเป็เพียงแค่นายน้อยที่คนในตระกูลไม่รัก แต่เซ่าหานอี้เป็หลานชายเพียงหนึ่งเดียวของเ้าเมือง ใครดีใครด้อยก็เห็น ๆ กันอยู่ จางไท่เหลยจึงตกลงเื่งานแต่งอย่างง่ายดาย การคาดการณ์ก่อนหน้านี้ของเขาได้ถูกลืมจากหัวสมองไปหมดสิ้น เขาพอใจมากกับการปีนกิ่งไม้สูงเช่นนี้ และการที่จางหนิงจะเห็นด้วยหรือไม่ ก็ไม่ใช่เื่สำคัญสำหรับเขา
จางหนิงถูกขายโดยพ่อของเขา... แม้แต่เมืองอวี้หวา เขาก็ไม่อาจกลับไปได้อีกแล้ว จู่ ๆ เขาก็ถูกจับให้แต่งงานกับบ้านตระกูลเซ่า เมื่อคนรักถูก่ชิงไป มีหรือที่จุนฟานจะยอม เขาะเิออกมา และคิดว่าจักต้องชิงตัวจางหนิงคืนมาให้ได้ แต่เซ่าหานอี้ก็ย่อมไม่ปล่อยให้จุนฟานมาทำลายเื่ราวดี ๆ ของเขาเป็แน่ พอเห็นว่าจุนฟานดีกับจางหนิง เขาก็ยิ่งปล่อยผ่านจุนฟานไปไม่ได้ และจะแย่งชิงจางหนิงมา เขาไม่ยอมให้ใครมาแตะต้องของที่เขาหมายปองอย่างเด็ดขาด เขาเตรียมจ้างนักฆ่า เพื่อฆ่าจุนฟานแล้ว แต่ดันเป็จุนเช่อที่มารับแทน ถ้าเป็จุนฟานก็คงจะถูกฆ่าตายั้แ่ตรงนั้นแล้ว
เมื่อเห็นว่าคนรักเกือบถูกฆ่าตาย จางหนิงจึงขอร้องจางไท่เหลยให้ปล่อยจุนฟานไป เพราะอย่างไรจุนฟานก็ยังถือว่าเป็นายน้อยของตระกูลจุนอยู่ แต่จางไท่เหลยกลับไม่แยแส เพราะเขารู้ดีว่าตระกูลจุนไม่ได้มีความสำคัญอะไรต่อตระกูลเซ่า และตระกูลจุนก็คงจะไม่สนใจนายน้อยที่ไม่ได้เป็ที่รักของตระกูลอย่างจุนฟาน จนถึงขั้นยอมเป็ศัตรูกับตระกูลเซ่าหรอก เพราะความแข็งแกร่งนั้นต่างกัน และไม่คุ้มค่าที่จะทำเพื่อนายน้อยที่ไม่ได้เป็ที่รักเช่นนี้ ยิ่งไปกว่านั้นเมืองอวี้หวาหาใช่แผ่นเหล็กที่แข็งแกร่งไม่ หากตระกูลจุนถูกทำลายรากฐานขึ้นมา อีกไม่นานก็คงจะถูกผนวกรวมกับอีกสามตระกูลเป็แน่
เมื่อจางหนิงเห็นว่าเขาร้องขอท่านพ่อได้ไม่สำเร็จ เขาก็ทนไม่ได้ที่จะต้องเห็นจุนฟานตาย ถึงเขาจะไม่เห็นแก่ชีวิตตนเอง แต่เขาก็เป็ห่วงชีวิตของจุนฟาน เขาจึงหันมาขอร้องเซ่าหานอี้แทน เมื่อเห็นสายตาวิงวอนของจางหนิง เซ่าหานอี้ก็พลันนึกสนุกขึ้นมา สีหน้าของเขาบ่งบอกได้ถึงชัยชนะ ชีวิตของสุดที่รักของจางหนิงได้ตกอยู่ในกำมือเขาแล้ว เขาเชื่อว่าท้ายที่สุดเขาจะไม่ใช่ฝ่ายแพ้ ตราบใดที่จางหนิงยังรักจุนฟานอยู่ ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีใดก็ตาม เขาจะต้องจางหนิงให้ได้ จนในที่สุดจางหนิงก็ยอมแพ้ และคุกเข่าสัญญาว่าจะแต่งงานกับเซ่าหานอี้ ขอเพียงแค่เขายอมปล่อยจุนฟานไป เมื่อเห็นว่าจางหนิงยอมจำนนแล้ว เซ่าหานอี้จึงตกลงที่จะปล่อยจุนฟานไป แต่จุนฟานไม่ยอม และกล่าวว่าต่อให้เขาตายไป เขาก็จะไม่ยอมทิ้งจางหนิง จางหนิงรู้ถึงความดื้อรั้นของจุนฟานดี เขาจึงใช้สายตาอ้อนวอนจุนเช่อ เพื่อหวังว่าจุนเช่อจะพาจุนฟานหนีไป และไม่ปล่อยให้จุนฟานต้องมาสังเวยชีวิตอย่างไร้ค่า เหมือนกับการเอาไข่มาทุบก้อนหิน ที่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีโอกาสที่จะชนะ
จุนเช่อเข้าใจสิ่งที่จางหนิง้าจะสื่อ เขาจึงต่อยจุนฟานให้สลบไปแบบไม่ทันตั้งตัว พลางพยุงร่างของตนที่าเ็สาหัสและจุนฟานจากไป ในความเป็จริงแล้ว เซ่าหานอี้ไม่ได้ตั้งใจจะปล่อยพวกเขาไป แต่เพราะอยู่ต่อหน้าจางหนิงจึงต้องทำเป็ยอม ทว่าแท้จริงแล้ว เขาแอบส่งคนไปไล่ฆ่าสองพี่น้องอีก เขาจะปล่อยให้คนที่เขารังเกียจ สะอิดสะเอียนเช่นนี้มีชีวิตอยู่อีกได้อย่างไร
เมื่อเป็เช่นนี้ จุนเช่อจึงพยุงจุนฟานที่สลบไป ออกจากเมืองซวงหวา เมื่อจุนฟานฟื้นขึ้นมา เขาก็จะกลับไปหาจางหนิงทันที แต่จุนเช่อไม่อนุญาต และกล่าวกับจุนฟานว่า “ข้าไม่อาจทำให้จางหนิงที่หัวใจกำลังบอบช้ำผิดหวังได้ ตราบใดที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ ข้าจะต้องช่วยจางหนิงออกมาจากที่นั่นได้แน่ ขอเพียงแค่เ้าจะยังไม่รังเกียจจางหนิงในตอนนั้นก็พอ” จุนฟานเข้าใจความหมายของคำพูดจุนเช่อดี บัดนี้จางหนิงถูกเซ่าหานอี้ชิงตัวไป ต่อให้หลังจากนี้พวกเขาสามารถช่วยจางหนิงออกมาได้ก็จริง แต่จางหนิงก็คงจะไม่บริสุทธิ์แล้ว จุนฟานทรุดลงบนพื้น เขาพูดไป ร้องไห้ไป พลางใช้มือทั้งสองข้างกุมศีรษะ และกล่าวว่า “ข้าจะรังเกียจจางหนิงได้อย่างไรกัน ถึงจางหนิงจะตกลงแต่งงานกับไอ้ชั่วช้า เซ่าหานอี้นั่น! แต่เพื่อช่วยเขาแล้ว หากจะรังเกียจ ก็คงจะต้องรังเกียจตัวข้าเองที่ไร้ความสามารถ จนปกป้องคนรักเอาไว้ไม่ได้ ซ้ำยังทำให้พี่รองต้องมาาเ็เช่นนี้อีก”
จุนฟานฟังคำแนะนำของจุนเช่อ เขาจะไม่ฟังก็ไม่ได้ แต่เพราะนี่อาจเป็ลมหายใจเฮือกสุดท้ายของจุนเช่อ ที่จุนเช่อต้องกลายเช่นนี้ ก็เพราะเพื่อช่วยเขา เขาไม่อาจทำเป็ไม่แยแสจุนเช่อได้ จุนฟานเหลือบมองไปทางเมืองซวงหวาด้วยความอาลัยอาวรณ์และความเคียดแค้น จากนั้นก็พาจุนเช่อออกไปจากที่นั่น โดยไม่หันหลังกลับ เขารู้ว่าเซ่าหานอี้ต้องไม่มีทางปล่อยเขาไปแน่ ยามนี้เขาต้องดูแลคนาเ็ก่อน เพราะเขาไม่มีความสามารถอะไรที่จะไปเผชิญหน้ากับเซ่าหานอี้ได้ แม้พลังปราณของเซ่าหานอี้จะไม่ได้เก่งกาจมาก แต่คนที่ปู่ของเขาจัดหามาดูแลเขาต่างมีฝีมือดีกันทั้งสิ้น
จุนฟานเพิ่งจะหนีมาได้ไม่นาน คนที่ถูกสั่งให้ไล่ฆ่าก็ตามมา แต่ตามหาพวกจุนฟานไม่เจอ คนของเซ่าหานอี้ตามไปทางเมืองอวี้หวา ซึ่งจุนฟานไม่ใช่คนโง่ เขาจึงไม่ไปทางถนนใหญ่ เขาเดินมาทางถนนเล็ก และคอยเด็ดสมุนไพรระหว่างทางให้จุนเช่อกิน ส่วนจุนเช่อก็พยายามยื้อลมหายใจของตัวเองอยู่ตลอด เขาไม่กล้าฟุบสลบไป เพราะเกรงว่าหากเขาหมดสติขึ้นมา จุนฟานอาจจะทำเื่โง่ ๆ อีกได้ เขาจึงพยายามแข็งใจไว้