หลินเยว่รับเครื่องเคลือบมา แล้วหมุนตัวเดินจากไป
“สหายหนุ่ม ทิ้งเบอร์ติดต่อไว้หน่อยสิ ไม่แน่นะ พวกเราอาจจะได้ทำธุรกิจร่วมกันอีกในอนาคต”เ้าของแผงรีบะโใส่ด้านหลังของหลินเยว่
ทำธุรกิจกับคุณ?
สมองของผมคงมีปัญหาถึงได้คิดจะทำธุรกิจกับคุณ!
หลินเยว่ไม่ได้สนใจอีกฝ่ายเลยเขาเดินมุ่งหน้าต่อไป
อยากไปก็ไปเถอะ ผมรู้ที่อยู่ของผู้เชี่ยวชาญคนนั้นแล้วต่อไปเดี๋ยวจะก็มีเงินลอยเข้ามาไม่หยุดแล้วล่ะผลประโยชน์ที่ได้จากคุณมันน้อยนิดจนยังไม่พอเอามาอุดซอกฟันเลย!
เ้าของแผงฮัมเพลงแล้วเก็บเงิน 1 พันหยวนนั้นให้เรียบร้อย หลังจากนั้นจึงทักทายต้อนรับกับลูกค้าคนอื่นๆอย่างภาคภูมิใจ
คนที่เมื่อสักครู่ประคองหลินเยว่ขึ้นมาด้วยความหวังดีก็มองเื้ัของหลินเยว่ด้วยสายตาประหลาดใจเมื่อสักครู่ที่หลินเยว่กับเ้าของแผงคุยกัน เป็เพราะทั้งสองฝ่ายกดเสียงต่ำเอาไว้ทำให้เขาไม่ได้ยินว่าพวกเขาคุยอะไรกันบ้างและก็ไม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นกันแน่ แต่ในความคิดของเขานั้นเขาคิดว่าพวกเขาสองคนน่าจะตกลงกันเื่ราคา
เครื่องเคลือบที่ลักษณะแย่ขนาดนี้ยังซื้อไปอีก?เป็พวกใช้เงินล้างผลาญพ่อแม่จริงๆ!
แล้วยังซื้อด้วยราคา 1 พันหยวน อย่างมากมันก็มีราคาแค่ 600 หยวนเท่านั้นแหละ!
ผู้ชายคนนี้อดไม่ได้ที่จะส่ายศีรษะเขาถอนหายใจออกมา แล้วก็มองของบนแผงต่อไป หลินเยว่เดินไปตามท้องถนน ตอนนี้เขาได้ซื้อเครื่องเคลือบมาหนึ่งชิ้นแล้วและเป้าหมายการทดสอบว่าพลังพิเศษของเขาสามารถใช้พิสูจน์เครื่องเคลือบได้หรือไม่ก็ทำเสร็จไปแล้วครึ่งหนึ่งเหลือแค่ลองััความหนืดตรงก้นแจกันเคลือบอีกครั้งก็จะสามารถยืนยันได้ทั้งหมด
หากความหนืดตรงก้นเครื่องเคลือบเป็ความหนืดของ่ไม่นานมานี้ถ้าเช่นนั้นพลังพิเศษตาทิพย์ก็อาจจะใช้พิสูจน์เครื่องเคลือบผ่านการััความหนืดได้อีกทั้งเครื่องเคลือบที่อยู่ในมือของเขาใบนี้อาจจะเป็เครื่องเคลือบจากเตาเผาหลงเฉวียนในสมัยซ่งใต้จริงๆ
แต่หากไม่ได้เป็ความหนืดของ่ไม่นานมานี้แต่กลับให้ความหนืดระดับต่ำถ้าเช่นนั้นก็บอกได้เพียงว่าการใช้พลังพิเศษตาทิพย์เพื่อการพิสูจน์เครื่องเคลือบมีความเป็ไปได้น้อยมากและเครื่องเคลือบในมือของเขาจะเป็ของแท้หรือของปลอมก็ยังจำเป็ต้องพิสูจน์ให้ละเอียดมากยิ่งขึ้น
แต่ตอนนี้เขาควรจะพักเพื่อฟื้นฟูพลังของตัวเองก่อน
หลินเยว่ลอบถอนหายใจตอนนี้เขาไม่มีกะจิตกะใจที่จะเดินชมของต่อแล้วเขาจึงหาต้นไม้ใหญ่สักต้นและขอยืมเก้าอี้พับจากคนข้างๆ มานั่งพัก แล้วก็เอาหลังพิงต้นไม้แล้วหลับตาเพื่อพักสายตา
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใดก็มีเสียงของใครบางคนดังขัดจังหวะการพักสายตาของเขา
“สหายหนุ่ม เครื่องเคลือบในมือของคุณคุณจะขายหรือเปล่า?”
เมื่อได้ยินเสียงนี้ หลินเยว่ที่กำลังสะลึมสะลือก็รู้สึกหงุดหงิดที่ถูกคนอื่นขัดจังหวะการพักผ่อนของเขา
เขาจึงลืมตาทั้งสองข้างขึ้นมาทันทีแล้วเตรียมจะโวยวายขึ้นแต่แล้วเขาก็เห็นใบหน้าของชายชราที่ดูใจดีมีเมตตาคนหนึ่งความโกรธที่อยู่ในใจจึงหายไปอย่างไร้ร่องรอย เขาจึงพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ“ขอโทษครับ ท่านผู้าุโ ไม่ขายครับ”
“อ้อ” ผู้าุโตอบรับด้วยใบหน้าที่มีความผิดหวังหลังจากนั้นจึงพูดขึ้น “ถ้าอย่างนั้นผมขอดูหน่อยได้ไหม?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเยว่ก็เริ่มตื่นตัวตั้งสติขึ้นในใจของเขาแอบคิดว่า... หรือว่าผู้าุโท่านนี้จะเห็นอะไรบางอย่างหรือเปล่า?
เขาจึงสังเกตผู้าุโเบื้องหน้าของตนเอง ชายชราผู้นี้ดูเป็คนใจดีมีเมตตาอยู่ในชุดคอจีนแบบดั้งเดิม ดูมีบารมีไม่เหมือนคนธรรมดาทั่วไปเลยแค่มองก็รู้ว่าเป็ผู้หลักผู้ใหญ่ที่อยู่ในตำแหน่งสูงมานาน
ผู้าุโท่านนี้จะต้องเป็ผู้เชี่ยวชาญด้านการพิสูจน์เครื่องเคลือบอย่างแน่นอน
หลินเยว่แอบคาดการณ์ในใจ และก็ถือว่าเป็จังหวะดีที่ได้ให้ผู้าุโเบื้องหน้านี้ทำการพิสูจน์ก่อนแล้วพอเขากลับโรงแรมก็ค่อยไปหาอาจารย์ของเขาอีกครั้ง
“ได้ครับ”
หลินเยว่จึงวางเครื่องเคลือบลงบนพื้นยิ่งเป็ผู้าุโก็ยิ่งให้ความสำคัญกับธรรมเนียมปฏิบัติของวงการวัตถุโบราณดังนั้น เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้าุโท่านนี้ เขาจึงจำเป็ต้องรักษาธรรมเนียม“การส่งเครื่องเคลือบต้องไม่ส่งมือต่อมือ” ไว้ด้วย
และเป็ไปตามคาด ผู้าุโไม่ได้กล่าวโทษกับการกระทำของหลินเยว่แต่กลับมีความชื่นชมมากขึ้น
ผู้าุโหยิบเครื่องเคลือบจากพื้นขึ้นมาสังเกต
และเวลานี้เอง มีหญิงสาวหน้าตาหมดจดสวยงามรูปร่างสูงระหงได้สัดส่วน อายุประมาณ 24 - 25 ปีเดินเข้ามาเธออยู่ในชุดสบายๆ แต่กลับเป็การอวดโฉมส่วนเว้าส่วนโค้งอย่างสวยงามและมีเสน่ห์
เธอเป็หญิงสาวที่งามมากคนหนึ่งจริงๆแต่ทว่าสีหน้าของเธอแฝงไปด้วยความหยิ่งยโสอยู่ เธอจะมองคนอื่นด้วยสายตาเหยียดๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่เธอมองผู้ชาย
หญิงสาวเดินเข้ามาหยุดที่เบื้องหน้าผู้าุโแล้วถามอีกฝ่ายขึ้นโดยไม่ได้ชายตามองหลินเยว่เลยสักนิด “คุณปู่กำลังดูอะไรคะ?”
น้ำเสียงราวกับนกขมิ้นเหลืองอ่อนในหุบเขามีความไพเราะจับใจ
่เวลาพักผ่อนก็มีสาวงามให้มองเพลินๆ ก็ถือว่าเป็เื่ที่ไม่เลวเลยล่ะ
หลินเยว่แอบคิดอย่างมีความสุขไม่รู้เป็เพราะเหตุใดเขาถึงได้คิดถึงฉินเหยาเหยาและก็ไม่รู้ว่าสองสามวันมานี้เธอเป็อย่างไรบ้าง
“อ้อ เสี่ยวเตี๋ย หลานมาดูเครื่องเคลือบชิ้นนี้สิปู่เห็นเครื่องเคลือบที่น่าสนใจชิ้นหนึ่ง”
ผู้าุโจึงวางเครื่องเคลือบไว้เบื้องหน้าพวกเขาทั้งสองคน
เมื่อเห็นลักษณะและสีเคลือบของเครื่องเคลือบใบนี้หญิงสาวที่ถูกเรียกว่าเสี่ยวเตี๋ยก็ขมวดคิ้วอย่างไม่รู้ตัว
“ฮ่าๆ หลานเห็นปัญหาแล้วใช่ไหมล่ะสีเคลือบไม่เลวเลย แต่ต้องไม่เคยเจอรูปทรงเครื่องเคลือบแบบนี้แน่ๆสัดส่วนก็ดูไม่สมดุล คอแจกันยาวและกว้างมาก แต่ท้องแจกันกลับทั้งสั้นและแคบ”
คำพูดของผู้าุโเพียงประโยคเดียวก็ได้พูดตรงจุดที่เป็ปัญหาทั้งหมดจึงทำให้หลินเยว่รู้สึกคาดหวังกับการพิสูจน์เครื่องเคลือบจากผู้าุโท่านนี้อย่างอดไม่ได้
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หญิงสาวที่ชื่อเสี่ยวเตี๋ยจึงยกมือขึ้นลูบส่วนที่เคลือบของแจกันเคลือบใบนี้เธอกำลังััความรู้สึกที่ได้รับจากการลูบภายนอกหลังจากนั้นเธอจึงเบี่ยงตัวไปทางตรงกันข้ามกับพระอาทิตย์เพื่อดูว่าเมื่อเครื่องเคลือบสะท้อนกับแสงแดดแล้วเป็อย่างไร
หลินเยว่พบว่าหญิงสาวเบื้องหน้าเวลามีท่าทางจริงจังก็ดูมีเสน่ห์จริงๆความหยิ่งยโสบนใบหน้าไม่หลงเหลืออีกแล้วและเธอในตอนนี้ก็ดูเป็มิตรมากกว่าเมื่อสักครู่อยู่บ้าง
และหลินเยว่ก็ไม่ชอบความหยิ่งยโสของเธอเลย
“เวลาจับให้ความรู้สึกไม่เลว ความมันวาวก็ดีมากเป็เครื่องเคลือบสีเขียวบ๊วย ไม่ผิดแน่ๆ”
เมื่อเสี่ยวเตี๋ยสำรวจเสร็จ เธอจึงพูดขึ้น
และประโยคนี้ของเธอก็ทำให้หลินเยว่มองเธอเปลี่ยนไปดูแล้วหญิงสาวผู้นี้คงไม่ได้เป็พวกแจกันดอกไม้ที่มีแต่ความสวยเพียงอย่างเดียวเธอยังมีความสามารถอยู่ด้วย
ชายชราได้ยินเช่นนี้จึงพยักหน้ารับพร้อมพูดขึ้น“ไม่เลวเลย หากพิสูจน์เช่นนี้ก็ควรจะเป็เครื่องเคลือบสีเขียวบ๊วยแต่ว่ารูปทรงของมันก็สามารถทำให้คนข้องใจ”
ขณะที่พูด เขาก็อดไม่ได้ที่จะส่ายศีรษะแล้วจึงพลิกแจกันเคลือบให้ส่วนก้นของแจกันปรากฏอยู่ทาง้า
เมื่อเขาเห็นตรงก้นเครื่องเคลือบสายตาของเขาก็สะท้อนความผิดหวังออกมาชั่วครู่แต่แล้วก็มีประกายสดใสขึ้นมาแทนที่อย่างรวดเร็ว
“เสี่ยวเตี๋ย ดูตรงส่วนก้นตรงนี้สิ”
ชายชราก้าวเท้าและยื่นเครื่องเคลือบไปตรงเบื้องหน้าของเสี่ยวเตี๋ย
“ของเลียนแบบขึ้นมาใหม่”
เสี่ยวเตี๋ยมองเพียงแวบเดียวก็พูดขึ้นมาอย่างมั่นใจหลังจากนั้นเธอจึงตกตะลึงไปทันที และคิ้วสวยของเธอก็ขมวดเป็ร่องลึก
ในเมื่อเป็ของเลียนแบบขึ้นมาใหม่แล้วทำไมสีเคลือบของสีเขียวบ๊วยถึงได้ดูบริสุทธิ์เหมือนจริงขนาดนี้ล่ะ?
“เห็นปัญหาแล้วใช่ไหมล่ะ เมื่อมีปัญหาก็ดีน่ะสิ เพราะพอมีปัญหาก็จะเป็เวลาที่ได้ศึกษาเรียนรู้”
ชายชราหัวเราะฮ่าๆ ดูเหมือนว่าจะไม่ได้รู้สึกสงสัยจนเกิดความรู้สึกแย่ๆขึ้นมา
หลินเยว่เห็นว่ากำลังจะพูดเข้าเื่สำคัญเขาจึงรีบตั้งสติขึ้นและเตรียมพร้อมตั้งใจฟังบทสนทนาระหว่างปู่หลานคู่นี้อย่างละเอียด
เสี่ยวเตี๋ยก้มศีรษะคิดอยู่ชั่วครู่หลังจากนั้นจึงหยิบแว่นขยายออกมาจากกระเป๋าแล้วเล็งไปยังตรงก้นแจกันและท้องแจกันในส่วนที่เชื่อมต่อกันแล้วเริ่มสังเกตขึ้น
การกระทำของหลานสาวของตนทำให้ชายชรารู้สึกพึงพอใจมุมปากของเขาปรากฏรอยยิ้มเล็กน้อย
เสี่ยวเตี๋ยที่กำลังเอาจริงเอาจังก็ดูนิ่งราวกับรูปปั้นเกิดเป็ความงามที่ไร้การเคลื่อนไหว ใบหน้างดงามประกอบกับรูปร่างที่มีทรวดทรงองค์เอวสวยงามอีกทั้งท่าทางของเธอที่กำลังตั้งอกตั้งใจ จึงทำให้ชายหนุ่มทุกคนต่างหลงในภาพนี้
หลินเยว่ก็รู้สึกชื่นชมกับภาพความงามเบื้องหน้านี้เช่นกันเพียงแต่ว่าเขารู้สึกชื่นชมเพียงอย่างเดียวเท่านั้นเพราะตอนนี้เขามีฉินเหยาเหยาอยู่แล้ว และการที่มีเธอก็ทำให้หลินเยว่รู้สึกพอใจยิ่งนักส่วนคนอื่นๆ นั้น เขาไม่เคยคิดเกินเลยเลย
มันเป็เพียงความชื่นชมเท่านั้นเอง
สายตาของหลินเยว่ก็ตกอยู่ในสายตาของผู้าุโหลังจากนั้นสายตาของผู้าุโจึงสะท้อนประกายความประหลาดใจและความชื่นชม
5 นาทีผ่านไป เสี่ยวเตี๋ยจึงค่อยๆ ลุกขึ้นยืนเธอเก็บแว่นขยายลงในกระเป๋าอย่างเป็ธรรมชาติ
ท่าทางขณะลุกขึ้นยืนของเสี่ยวเตี๋ยทำให้รูปร่างของเธอเกิดเป็ภาพลายเส้นที่สวยงามอย่างที่สุดเมื่อผู้คนที่อยู่แถวๆ นั้นหลายคนมองเห็นกิริยาท่าทางที่สวยงามเช่นนี้จึงทำให้พวกเขาหัวใจเต้นแรง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้