ข้าดีใจสุดขีดและหัวเราะออกมาเสียงดังดูเหมือนว่าคนเราจะดีจะร้ายคงคาดเดาไม่ได้ทั้งนั้นสินะขณะที่ฟางชิงยวนส่งข้าลงมายังนรกแห่งนี้ก็คงจะคาดไม่ถึงเหมือนกันว่าข้าจะโชคดีขนาดนี้และเขาก็คงจะไม่รู้ว่าข้ามีเคล็ดวิชาลับอย่างคันศรอัคนีที่ทำให้ข้าไม่พลาดโอกาสดีๆแบบนี้ไปได้
ข้ากัดนิ้วแล้วใช้เืทาบลงไปที่เกราะหิมะแกร่งอันนั้นเพียงชั่วพริบตาพลังของข้าและเกราะนั้นก็เกิดปรากฏการณ์ที่น่ามหัศจรรย์ขึ้นคือพลังทั้งสองผสานเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็วเหมือนเกิดมาเพื่อกันและกันและเมื่อเวลาผ่านไปเพียงครึ่งนาที รูปร่างของเกราะหิมะแกร่งก็เปลี่ยนไปเพื่อปรับขนาดให้พอดีกับตัวข้า
หลังจากถอดเสื้อคลุมออกก็นำเกราะสวมทับลงบนเสื้อเชิ้ตของสำนักไม่นานแสงก็ทึบลงไปถ้าไม่สังเกตดีๆ จะไม่มีทางเห็นเลยว่าข้าสวมเกราะหิมะแกร่งอยู่เมื่อเห็นแบบนั้นแล้วข้าจึงสวมเสื้อคลุมกลับไปและรู้สึกได้ถึงพลังการป้องกันของตัวเองที่สูงกว่าสิ่งใดในที่แห่งนี้เ้าเกราะหิมะแกร่งสามารถเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตของข้าเป็อย่างมากแต่ขณะที่รักษาชีวิตข้าก็อยากจะหล่อให้มากที่สุดเพราะถ้าเกิดตายแล้วเสียโฉมก็จะเสียชื่อข้าหมด
ข้ามองดูซากศพของมันพักหนึ่งก็พบว่าทั้งเนื้อหนังของมันต่างก็เป็ของดีทั้งนั้นแต่ก็เสียดายที่ข้าไม่มีเวลาและต้องหาที่พักสักที่เพื่อพักผ่อนเอาแรงให้มากที่สุดเพราะถึงอย่างไรข้าก็เป็คนคนหนึ่งแม้จะใช้พลังภายในเพื่อหายใจได้ก็ใช่ว่าจะใช้ได้ตลอดไปดังนั้นข้าจึง้าการพักผ่อนเหมือนคนธรรมดาทั่วไปเช่นกัน
...
โฮก!โฮก!
เมื่อพวกสัตว์ร้ายใต้สมุทรรู้ว่าเพื่อนของตัวเองถูกสังหารก็ส่งเสียงร้องด้วยความโกรธแค้นซึ่งเสียงร้องที่ดังระงมนั้นก็ทำให้ข้ารู้สึกขนลุกไม่น้อยทีเดียวข้าจะกลับขึ้นไปตอนนี้ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นก็เท่ากับรนหาที่ตายเอาเป็ว่าขุดต่อไปแล้วกัน!
ข้าขุดลึกลงไปอีกสิบกว่านาทีก็รู้สึกว่าพลังการััทิพย์เริ่มสั่นไหวแม้แต่จุดประภพิญญาที่อยู่ในส่วนลึกของร่างกายก็มีเสียงหวึ่งๆออกมาราวกับถูกพลังบางอย่างดึงดูดก็ไม่ปาน
“เกิดอะไรขึ้น?”
ข้าถึงกับชะงักก่อนจะขุดไปตามต้นทางของพลังที่กำลังดึงดูดพลังิญญาในตัวข้าและเมื่อใช้กระบี่คมจันทร์ฟาดลงไปบนผนังหินที่หนานั้น ข้าก็พบว่าด้านในเหมือนกับอีกมิติหนึ่งซึ่งน้ำไม่สามารถไหลเข้าไปได้เมื่อเห็นแบบนั้นจึงมุดเข้าไปและใช้ดินปิดทางเข้าเพื่อไม่ให้สัตว์ร้ายใต้สมุทรตามเข้ามา
เมื่อปิดปากถ้ำเรียบร้อยแล้วข้าก็หันไปสำรวจก่อนจะพบว่าผนังดินภายในมีเกล็ดหิมะดินอยู่ ซึ่งทำให้อุณหภูมิด้านในเย็นลงถนัดตา
เดี๋ยวก่อนนะ!
ดูเหมือนว่านอกจากเกล็ดหิมะแล้วยังมีสิ่งอื่นติดอยู่ที่ผนังนั้นด้วยซึ่งลักษณะคล้ายกับลูกอะไรสักอย่างใสๆ ขนาดเท่ากำปั้นติดอยู่บนผนังด้านในของมันยังมีพลังไสยศาสตร์ไหลเวียนอยู่และที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือก้อนขนาดเท่าหัวแม่มือซึ่งกำลังแหวกว่ายอยู่ภายใน
ทำไมเ้านี่ถึงได้คุ้นตาจังนะ!
ข้ามองอย่างละเอียดอีกครั้งก่อนจะรู้สึกขนลุกไปทั่วร่างเ้าตัวเล็กๆ นี่มัน...นี่มันตัวอ่อนของสัตว์ร้ายใต้สมุทรนี่นา!
พระเ้า!นี่อย่าบอกนะว่าข้ากำลังเข้ามาอยู่ในรังของมัน? คิดๆไปแล้วก็น่าจะจริงไม่อย่างนั้นพวกมันคงจะไม่สู้ยิบตาเพื่อสกัดไม่ให้ข้าเข้ามาขนาดนี้หรอก
พอคิดได้แบบนั้นข้าก็รู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัวเพราะการเข้ามาในรังรักของสัตว์ิญญามันไม่ใช่เื่ที่ดีสักเท่าไรการที่ข้าบุกเข้ามาในรังของสัตว์ร้ายใต้สมุทรที่มีตัวอ่อนของมันยั้วเยี้ยขนาดนี้แล้ว...แล้วแม่ของมันล่ะ? ข้าไม่เชื่อหรอกนะว่าแม่ของมันจะเป็สาวงามรูปร่างได้สัดส่วนข้ากลับเชื่อว่าแม่พันธุ์ของมันจะต้องเป็สัตว์ร้ายใต้สมุทรที่ตัวหนักหลายตันเหมือนูเาลูกเล็กๆต่างหาก!
ข้าจะต้องออกไปข้างนอกเท่านั้น!
ข้าจับกระบี่คมจันทราไว้แน่นพลางสูดลมหายใจเข้าลึกและพยายามเดินออกจากถ้ำแต่ขณะที่เดินออกมาก็พบว่ามีเมือกบางอย่างติดกันเป็แผ่นเพื่อกันไม่ให้น้ำด้านนอกเข้ามาเมื่อมองทะลุชั้นเมือกนี้ออกไปก็เห็นว่าด้านนอกคือลูกๆของสัตว์ร้ายใต้สมุทรตัวเล็กบ้างใหญ่บ้างซึ่งมันมีความดุร้ายและสามารถกัดกินช้างเป็ตัวให้หมดภายในเวลาไม่กี่วินาที
ข้าจะออกไปข้างนอกตอนนี้ไม่ได้นึกไว้แล้วเชียวว่าด้านนอกจะต้องมีสัตว์ร้ายใต้สมุทรโตเต็มวัยคอยดูแลรังของมันอยู่ดังนั้นถ้าข้าออกไปก็เท่ากับว่ารนหาที่ตายเท่านั้น
ข้าว่า...ลองไปเยี่ยมแม่พันธุ์ของสัตว์ร้ายใต้สมุทรสักหน่อยดีกว่า!
ข้าหันหลังเดินตามทางกลับไปยังส่วนลึกของถ้ำกว่าร้อยเมตรซึ่งมีไข่ของสัตว์ร้ายใต้สมุทรเรียงรายกันอยู่เป็ล้านๆ ตัวและยิ่งเดินลึกเข้าไปด้านในก็ยิ่งหนาวราวกับว่าอากาศถูกแช่แข็งหมดแล้วขณะที่ข้าเดินเข้าไปอีกสามสี่เมตรก็เจอก้อนอัญมณีที่ฝังตัวอยู่ในผนังหินที่ค่อนข้างคุ้นตา
อัญมณีรังไหมหิมะ!
มันคือของดีสำหรับผู้ฝึกฝนิญญาธาตุน้ำแข็งอย่างข้าซึ่งสามารถนำมาหลอมเพื่อเพิ่มพลังให้อาวุธิญญาได้เป็อย่างดีและข้าก็เคยใช้มันหลอมพลังให้กระบี่คมจันทรามาแล้วแถมผลลัพธ์ยังดีมากๆ ด้วย!การได้มาเจออัญมณีรังไหมหิมะอีกครั้งถือได้ว่าเป็โชคดีของข้าจริงๆและเมื่อมองลึกเข้าไปก็พบว่าด้านในนั้นเต็มไปด้วยอัญมณีรังไหมหิมะที่ติดอยู่บนผนังหินกว่าสองร้อยเม็ดรวยแน่งานนี้!
ถึงข้าจะดีใจจนสุดขีดแต่ก็รู้ว่าผลของการดีใจจนลืมตัวนั้นเป็อย่างไรจึงเลือกจะปล่อยอัญมณีรังไหมหิมะทิ้งไว้ที่เดิมก่อนจากนั้นจึงเคลื่อนพลังของวิชาลมหายใจัขั้นที่สิบออกมา และจับกระบี่คมจันทราให้มั่นเพื่อเดินหน้าต่อไปยังส่วนลึกของถ้ำด้านหน้าคือหิมะที่ลอยวนเป็ชั้นๆ ราวกับเป็มิติน้ำแข็งก็ไม่ปานซึ่งส่วนลึกของรังถ้ำมีลักษณะเป็ดินรูปทรงกลมมีผนังกว้างขนาดสามเมตรด้านข้างเต็มไปด้วยอัญมณีรังไหมหิมะและใจกลางของมันคืออัญมณีที่มีขนาดพอๆ กับกำปั้นซึ่งเป็ศูนย์รวมของไอเย็นทั้งหมดที่แผ่ออกมานั่นเอง
สัตว์ร้ายใต้สมุทรเป็สัตว์ิญญาที่ชอบความเย็นยิ่งเย็นเท่าไรมันก็ยิ่งชอบเท่านั้นมิน่าล่ะมันถึงได้เลือกที่แห่งนี้เป็รังและมีอัญมณีล้ำค่าอยู่ที่นี่นี่เอง!
ข้าเคยอ่านตำราเกี่ยวกับอัญมณีิญญาและเคยเจออัญมณีก้อนนี้ซึ่งมีการบันทึกว่ามันคือ ‘อัญมณีิญญาน้ำแข็ง’อัญมณีชั้นสูงสำหรับผู้ฝึกฝนิญญาธาตุน้ำแข็งถ้าจะบอกว่าอัญมณีรังไหมหิมะเป็เหมือนของล้ำค่าของผู้ฝึกฝนิญญาธาตุน้ำแข็งก็ต้องบอกว่าอัญมณีิญญาน้ำแข็งนี้คือของที่ดีกว่านั้นหลายเท่า เพราะมันเกิดจากการพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งของอัญมณีรังไหมหิมะซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้เพียงหนึ่งในร้อยล้านเท่านั้นแบบนี้ก็คงจะรู้แล้วว่าอัญมณีิญญาน้ำแข็งนั้นหายากขนาดไหน
ที่สำคัญกว่านั้นก็คือเมื่อดูลักษณะที่แวววาวไร้ที่ติของมันแล้วถือได้ว่าคือที่สุดของที่สุดในอัญมณีิญญาน้ำแข็งทั้งหมดด้วยซ้ำแบบนี้ถึงจะเรียกว่ารวยเละของจริง!
หลังจากที่ข้าชื่นชมหลงใหลและดีใจจนเรียบร้อยก็มองดูรอบๆเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีแม่พันธุ์หรือราชินีสัตว์ร้ายใต้สมุทรอยู่จริงๆแต่ทำไมถึงไม่มีราชินีสัตว์ร้ายใต้สมุทรกันล่ะ? ...ข้าครุ่นคิดอยู่นานก่อนจะรู้ว่ามีเพียงเหตุผลเดียวก็คือสัตว์ร้ายใต้สมุทรพวกนั้นเป็พวกสืบพันธุ์โดยไม่อาศัยเพศและนั่นก็แสดงว่าสัตว์ร้ายใต้สมุทรที่อยู่ด้านนอกก็เหมือนกับพวกไส้เดือนที่ผสมกันมั่วซั่วสินะ...
“พระเ้าช่วย! ...”
เมื่อคิดได้แบบนั้นข้าก็รู้สึกเหมือนตัวเองได้เปิดโลกกว้างก่อนจะดึงอัญมณีิญญาน้ำแข็งก้อนนั้นออกมาแล้วนั่งลงอยู่ในรังของสัตว์ร้ายใต้สมุทรพวกนั้นทันทีดูเหมือนตอนนี้พวกมันน่าจะหาข้าไม่เจอสักพัก ไว้ก่อนแล้วกัน!เพราะตอนนี้ร่างกายของข้าได้รับาเ็และยังสูญเสียพลังิญญาและพละกำลังในร่างกายไปมากด้วย คนโบราณเคยกล่าวไว้ว่าที่ที่อันตรายที่สุดก็คือที่ที่ปลอดภัยที่สุดดังนั้นพวกสัตว์ร้ายใต้สมุทรโง่เง่าเต่าตุ่นพวกนั้นคงจะคิดไม่ถึงว่าข้าจะมารักษาตัวอยู่ในรังของพวกมันมั้ง...?
ข้าหยิบเนื้อปลาหลีฮื้อหลงหลิงสุกออกมากินแล้วดื่มน้ำตามลงไปและสุดท้ายก็เป็โสมโลหิตอายุหนึ่งพันสองร้อยปีที่เมื่อกินเข้าไปแล้วพลังในร่างกายของข้าก็ฟื้นคืนสภาพกลับมาอย่างรวดเร็ว
ข้านำจุดประภพิญญาออกมาด้านนอกทำให้ภายในรังของสัตว์ร้ายใต้สมุทรพวกนี้สว่างขึ้นมาทันตาไม่นานสิ่งของล้ำค่าอย่างอัญมณีิญญาน้ำแข็งก็ถูกใส่เข้าไปด้านในเพียงชั่วพริบตาเดียวมันก็เข้าไปลอยวนอยู่รอบกระบี่คมจันทราพร้อมกับแผ่พลังไอเย็นออกมาจนข้าสั่นไปทั้งตัวแต่กระบี่คมจันทราด้านในกลับส่งเสียงหวึ่งๆ ที่บ่งบอกถึงความชอบใจออกมา
“ถ้าหลอมอัญมณีิญญาน้ำแข็งก้อนนี้เสร็จกระบี่คมจันทราของข้าก็น่าจะพัฒนาขึ้นไปถึงระดับสามแล้วล่ะ” ข้านึกคิดอยู่ในใจ
พลังิญญาสีแดงในร่างกายลอยขึ้นมาแล้วไหลเวียนไปรอบๆอัญมณีิญญาน้ำแข็งที่แผ่ซ่านไอความเย็นออกไปทั่วจุดประภพิญญาไม่นานพลังิญญาในตัวก็เริ่มสำรวจตรวจสอบพลังของอัญมณีิญญาน้ำแข็งซึ่งเป็ขั้นตอนที่ต้องทำอยู่แล้ว
ข้าทำจิตใจให้หนักแน่นเพื่อรองรับพลังที่รุนแรงของมันไม่รู้ว่าเวลามันผ่านไปนานเท่าไรซึ่งข้าก็มารู้สึกตัวอีกทีตอนที่ค้นพบว่าอัญมณีิญญาน้ำแข็งไม่ได้เป็เพียงอัญมณีธรรมดาแต่กลับแบ่งพลังออกได้ถึงสามชั้น!โดยพลังชั้นแรกเป็พลังที่ได้มาจากอัญมณีรังไหมหิมะชั้นที่สองเป็พลังน้ำแข็งที่เย็นจนปวดกระดูกส่วนชั้นที่สามหรือชั้นในสุดคือพลังความเย็นที่ข้าเองก็คาดไม่ถึงว่ามันจะทรงพลังมากมายอะไรขนาดนี้
ถึงแม้ข้าจะรู้สึกประหลาดใจและดีใจแต่ทุกๆ อย่างก็ต้องค่อยเป็ค่อยไป
หลังจากผ่านไปสองชั่วโมงผิวชั้นนอกของมันก็แตกออกและใช้เวลากว่าสี่ชั่วโมงถึงจะหลอมพลังในชั้นนั้นสำเร็จ
การหลอมพลังในชั้นกลางใช้ระยะเวลายาวนานกว่าห้าชั่วโมงและสุดท้ายก็มาถึงชั้นในที่มีพลังไอเย็นอันแข็งแกร่งและหนาแน่นและข้าก็ใช้เวลาในการหลอมพลังของมันไปนานเกือบสิบชั่วโมงเมื่อพลังของอัญมณีิญญาน้ำแข็งแทรกซึมเข้าไปอยู่ในกระบี่คมจันทรา จากนั้นตัวกระบี่ก็เปล่งแสงอันเจิดจรัสออกมาจนทั่วทั้งจุดประภพิญญาสว่างวาบไปหมดซึ่งพลังแบบนั้นทำให้ข้ารู้สึกผ่อนคลายและสบายเป็ที่สุดก่อนจะสังเกตเห็นว่าพื้นที่โดยรอบของจุดประภพิญญานั้นเต็มไปด้วยเกล็ดหิมะที่ลอยล่องก่อนจะกลายเป็เส้นพลังและแทรกซึมเข้าไปในกระบี่และทำให้มันแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก!
เพียงชั่วพริบตาเดียวกระบี่คมจันทราก็หนาและหนักขึ้นรวมทั้งคมกระบี่ยังร้ายกาจและน่าเกรงขามขึ้นกว่าเดิมส่วนกระบี่ก็เต็มไปด้วยรอยสักที่ผุดขึ้นอย่างหนาแน่นจนรับรู้ถึงพลังที่ไหลเวียนอยู่ภายในแบบนี้สิถึงจะสมกับที่เป็อาวุธิญญาชั้นสูงอย่างแท้จริงและที่สำคัญยังเข้าสู่ระดับสามของอาวุธิญญาแล้วอีกด้วย!
ข้าล้วงเอากระบี่คมจันทราออกมาจากจุดประภพิญญาก่อนจะกวัดแกว่งมันเบาๆ จนมีเสียงหวึ่งๆออกมาเสียงดังเหมือนกำลังดีใจและรอที่จะออกรบอย่างไรอย่างนั้น!
ข้าสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะยิ้มออกมาดูเหมือนว่าพลังของกระบี่จะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่าสองเท่าดังนั้นพลานุภาพของมันก็จะมากขึ้นเช่นกัน!
และในเวลาเดียวกันนี้ข้าก็รู้สึกว่ามีพลังบางอย่างในร่างกายที่กำลังตื่นตัวและรอวันปะทุ!
ข้าจะบรรลุแล้วงั้นเหรอ?
ข้ารู้สึกดีใจและถือโอกาสขณะที่พลังในตัวกำลังเข้มข้นตวาดเสียงลั่นจนพลังอันแข็งแกร่งพุ่งขึ้นมาจากร่างแล้วกลายเป็สนามพลังน้ำแข็งขึ้นมารอบตัวซึ่งในเวลาเดียวกันจุดผู้พิทักษ์ที่ถูกพี่เสวียนยินสกัดเอาไว้ก็ถูกทะลวงออกจนเกิดเสียงดังปั้ง! ภายในร่างกาย ราวกับโลกกำลังจะถล่มเสียให้ได้
ในที่สุดข้าก็บรรลุแล้ว!ในที่สุดข้าก็ก้าวผ่านห้าขั้นต้นของการบำเพ็ญและเข้าสู่หนึ่งในขั้นผู้พิทักษ์อย่างขั้นผู้พิทักษ์ระดับมนุษย์สักที!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้