“หึ!”
หญิงสาวอีกคนได้ยินคำพูดของเย่เฟิงก็แค่นเสียงเ็า “เ้าไม่รู้หรือว่าการแอบดูผู้อื่นมันไม่มีมารยาท? โดยเฉพาะผู้หญิง เ้าจะแอบดูตามใจชอบได้เยี่ยงไร? บอกมาว่าเ้าเป็ใครกันแน่?”
ระหว่างที่กล่าวเช่นนั้น เรือนร่างของหญิงทั้งสองที่ปกคลุมด้วยผ้าบาง ๆ ก็ได้เผยให้เห็นความคลุมเครือในนั้น ซึ่งมีเสน่ห์เย้ายวนที่ทำให้ใครที่เห็นต่างก็ใจเต้นแรง
“ในสระน้ำอัดแน่นไปด้วยพลังฟ้าดิน มันจึงดึงดูดข้ามาตลอดทาง เชื่อว่าทั้งสองคงตระหนักรู้พลังฟ้าดิน ถึงได้หยุดอยู่ที่นี่เช่นกัน” เย่เฟิงกล่าวขึ้น
“ศิษย์พี่อย่าไปเชื่อเขา ข้ารู้สึกว่าคนคนนี้มาเพื่อแอบดูเราสองคน มิสู้ท่านกับข้าสั่งสอนบทเรียนให้คนคนนี้เสียหน่อย!” หญิงสาวอีกคนกล่าวเสริม โดยที่นางไม่เชื่อคำพูดของเย่เฟิง
“แอบดูเราสองคน เ้าเป็คนสารเลวชัด ๆ อย่าพูดเกินความจริง จงควักลูกตาเ้าซะเพื่อเป็การลงโทษ!” หญิงผู้นั้นกล่าวเสียงเย็น
“ไม่คิดว่าเราสองคนยังไม่ทันฆ่าเย่เฟิงนั่นก็มาเจอกับสารเลวนี่เสียก่อน เช่นนั้นก็โทษเ้าที่ดวงซวย!” หญิงสาวอีกคนกล่าว ซึ่งการที่นางเอ่ยถึงเย่เฟิง มันทำให้เย่เฟิงอึ้งไปชั่วขณะ
“ดูท่าหญิงสองคนนี้จะเป็หนึ่งในใครสักคนที่ส่งมาฆ่าข้า ไม่นึกเลยจริง ๆ ว่าจะมาเจอกันที่นี่” เย่เฟิงคิดในใจ ซึ่งเขาอดไม่ได้ที่จะถอนใจให้กับความบังเอิญนี้
“ข้ามาที่นี่เพื่อตระหนักรู้ เ้าสองคนกลับ้าควักลูกตาข้า ช่างโหดร้ายยิ่งนัก เห็นทีเมื่อครู่ข้าคงไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นเข้าเสียแล้ว!” เย่เฟิงกล่าวพลางแสยะยิ้ม เขาไม่คิดจะเกรงใจกับหญิงสองคนนี้ที่มีจิตใจอำมหิต
เมื่อคำพูดของเย่เฟิงดังเข้าไปในหูของหญิงสาวสองคนนั้น มันกลับทำให้พวกนางหน้าแดงระเรื่อจนอกกระเพื่อมขึ้นลง
“คนไร้ยางอาย อยู่แค่ขั้นยุทธ์แท้ที่ 4 แต่กล้าดียังไงทำตัวอวดดีต่อหน้าพวกข้า? เห็นทีไม่เพียงแต่ต้องควักลูกตาเ้า แต่ต้องตัดลิ้นเ้าด้วย ถึงจะขจัดความเกลียดชังของพวกข้าได้!”
หญิงสาวตวาดเสียงดัง จากนั้นเห็นพลังปราณปะทุออกจากร่างหญิงสาว แต่เป็สองพลังที่แตกต่าง หนึ่งร้อนแรง ส่วนอีกหนึ่งหนาวเหน็บ
“ครืน!”
พลังทั้งสองผสานกันที่กลางอากาศ ก่อนจะก่อตัวเป็สองเขตแดนที่แตกต่าง ไม่รุกรานกันและกัน แต่กลับส่งเสริมกันและกัน นาทีต่อมาหญิงสาวทั้งสองทะยานร่างขึ้นฟ้า พร้อมพลังที่ตนควบคุมห่อหุ้มร่าง เรือนร่างของพวกนางยังทำให้เืในกายสูบฉีดอีกด้วย
เพียงแต่ตอนนี้เย่เฟิงไม่มีเวลามาชื่นชมความงดงามนี้ จากพลังปราณที่แผ่ออกจากร่างหญิงสาวทั้งสอง เขาััได้ว่าตบะของพวกนางอยู่ขั้นยุทธ์แท้สูงสุด
เมื่อพลังสองประเภทของหญิงสาวทั้งสองส่งเสริมกันและกัน พลังต่อสู้ของพวกนางจึงเพิ่มพูนขึ้นถึงระดับขีดสุด แต่ดูจากรูปลักษณ์ของหญิงสาวทั้งสองแล้ว พวกนางอายุประมาณ 16-17 ปี แต่เย่เฟิงกลับรู้ว่าอายุของพวกนางจริง ๆ น่าจะ 20 ปีขึ้นไป แต่เพราะการบำเพ็ญตบะจึงช่วยทำให้พวกนางยังเยาว์วัย
“จงชดใช้ให้กับการกระทำอันชั่วช้าของเ้าซะ!”
ศิษย์พี่ผู้มีพลังธาตุน้ำแข็งแผดเสียงะโ ร่างนางยังคงลอยตระหง่านกลางอากาศ แต่ขณะนั้นวาดฝ่ามือที่อัดแน่นไปด้วยพลังธาตุน้ำแข็งเข้าโจมตี ทุกที่ที่ผ่านห้วงอากาศจักต้องแข็งตัว อุณหภูมิลดลงฉับพลัน
เย่เฟิงชะงักไปชั่วขณะ แต่จู่ ๆ พลังหยวนในกายโคจรอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาทะยานร่างขึ้นฟ้า พร้อมกับใช้เคล็ดวิชาฝ่ามือภูผาพิฆาตที่อัดแน่นไปด้วยพลังทำลายล้าง และรายล้อมไปด้วยพลังหอกเข้าโจมตีอีกฝ่ายทันที นาทีต่อมาฝ่ามือทั้งสองเข้าปะทะกันที่กลางอากาศ จนเสียงดังสนั่นไปทั่วฟ้าดินกลายเป็คลื่นเสียงที่น่าหวาดกลัว ทำให้หมอกสีขาวภายในรัศมีกระจายตัวออกไป
ทัศนวิสัยกลับมาชัดเจนอีกครั้ง ทำให้ทั้งสามคนมองเห็นใบหน้าของอีกฝ่าย แต่ก่อนหน้านี้เย่เฟิงใช้หน้ากากสีเงินปกปิดใบหน้าของตน จึงทำให้หญิงสาวทั้งสองไม่เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของเขา
“การโจมตีของศิษย์พี่ข้าทำอะไรเขาไม่ได้งั้นหรือ? เ้าช่างดวงแข็งนัก งั้นลองกินพลังหงส์เพลิงนี่ซะ”
เมื่อหญิงสาวธาตุไฟผู้นั้นเห็นเย่เฟิงปะทะกับการโจมตีของศิษย์พี่โดยไม่เป็ไรก็รู้สึกเกินคาดเล็กน้อย จากนั้นร่างนางลุกโชนด้วยเพลิงสีแดง นางราวกับเป็หงส์เพลิงที่กลับมาเกิดใหม่อย่างไรอย่างนั้น
อีกอย่างพลังธาตุก็คล้ายคลึงกับหนานกงหลิงซวง เพียงแต่หนานกงหลิงซวงทรงพลังกว่ามาก
“วูบ!” เสียงหนึ่งพลันดังขึ้น หญิงผู้นั้นสะบัดฝ่ามือ ก่อนจะปรากฏหงส์เพลิงตัวใหญ่ที่กลางอากาศ กระพือปีกเข้าหาเย่เฟิงอย่างบ้าคลั่ง
ดวงตาของเย่เฟิงส่องประกายเย็นเยือก หอกัเงินประกายปรากฏในมือเขาอย่างฉับพลัน ก่อนจะมีรังสีหอกพุ่งออกไปกลายเป็ลำแสงทำลายล้าง และเข้าปะทะกับหงส์เพลิง
“ตูม!!!”
เสียงะเิดังสนั่นหวั่นไหว หงส์เพลิงกู่ร้อง ก่อนร่างของมันจะแตกะเิ ส่วนรังสีหอกของเย่เฟิงยังพุ่งเข้าหาหญิงธาตุไฟต่อ
“หือ?” ดวงตาของหญิงธาตุไฟสั่นไหวชั่ววูบ ฝ่ามือหงส์เพลิงของนางทรงอานุภาพ แต่จากการปะทะเมื่อครู่ คาดไม่ถึงว่าจะถูกทำลาย เห็นชัดว่าพลังของรังสีหอกที่เย่เฟิงปลดปล่อยเมื่อครู่ทรงพลังมากเพียงใด สิ่งสำคัญไปกว่านั้นคือตบะของเย่เฟิงอยู่แค่ขั้นยุทธ์แท้ที่ 4 แต่กลับทำลายการโจมตีของนางได้ มันช่างน่าเหลือเชื่อยิ่งนัก
ตอนที่หญิงผู้นั้นใ รังสีหอกของเย่เฟิงก็ไปถึงตัวนางแล้ว ซึ่งนางไหวตัวช้าไป รังสีหอกนั้นจึงกรีดผ่านหน้าอก เสื้อผ้าบริเวณนั้นจึงฉีกขาดจนเผยให้เห็นเนินอกวับๆ แวมๆ
“กรี้ด!” หญิงสาวเห็นรังสีหอกกรีดผ่านหน้าอกตน และเผยให้เห็นผิวอันขาวนวล นางจึงอดกรีดร้องเสียงดังไม่ได้ ใบหน้าซับแดงระเรื่อ จากนั้นหันไปมองเย่เฟิงด้วยท่าทีขุ่นเคืองก่อนกล่าวต่อว่า “เ้ามันไร้ยางอาย!”
“เ้าไร้ความสามารถเอง แล้วเกี่ยวอะไรกับข้า?” เย่เฟิงกล่าวเสียงเย็น โดยไม่สนใจสายตาขุ่นเคืองของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย
หญิงธาตุน้ำแข็งเห็นฉากนี้ก็เผยสีหน้าเย็นเยียบ ก่อนจะเขยิบเข้าไปใกล้หญิงธาตุไฟ
พลังปราณของพวกนางเปลี่ยนไปบ้าคลั่ง ไฟและน้ำแข็งผสมผสานจนก่อให้เกิดพลังใหม่ แต่ด้วยการสนับสนุนจากตบะอันแก่กล้าของพวกนาง พลังนั้นเปลี่ยนไปน่าหวาดกลัวขึ้นหลายเท่าก่อนจะพุ่งเข้าหาเย่เฟิง
แต่เย่เฟิงยิ้มหยัน พลันแสงดาวหุ้มร่างหนึ่งชั้น ก่อนจะเดินออกมา เขาเดินสวนทางกับการโจมตีไฟน้ำแข็งนั่น จากนั้นเย่เฟิงแทงหอกัเงินประกายออกไป รังสีหอกนั้นพาดผ่านท้องฟ้า เมื่อหญิงทั้งสองเห็นรังสีหอกที่น่ากลัวพุ่งเข้ามาหาก็เผยสีหน้าดูไม่ได้ พวกนางจึงหลบหนีอย่างรวดเร็ว แต่ก็เกือบถูกรังสีหอกคร่าชีวิต
“หอกดุจั!” เย่เฟิงแผดเสียงะโ เขาสำแดงเคล็ดวิชาหอกเงินประกาย พลันรังสีหอกกลายเป็ั และพุ่งเข้าหาหญิงสาวสองคนอย่างบ้าคลั่ง
“ไฟธาราเริงระบำ!”
เมื่อหญิงสาวทั้งสองเห็นัพุ่งเข้ามาก็ตาแข็งทื่อ แต่จากนั้นพลังไฟและน้ำแข็งผสานกัน ก่อนจะวาดฝ่ามือโจมตี ทันใดนั้นแปรเปลี่ยนเป็แถบผ้าน้ำแข็ง คล้ายเชื่อมโยงกับพลังวิถีฟ้าดินเข้าปะทะกับัในพริบตา ตามมาด้วยเสียงะเิดังสนั่น จากการปะทะครั้งนี้ แถบผ้าที่ผสานด้วยพลังไฟและน้ำแข็งแตกสลายกลายเป็พลังทำลายล้างที่แผ่กระจายออกไป
“อั่ก ๆ!” หญิงสาวทั้งสองคนกระอักเืพร้อมกัน สีหน้าขาวซีดเล็กน้อย แต่กลับมองเย่เฟิงด้วยความใและอดใจเต้นแรงไม่ได้
“เป็ไปได้ยังไง เ้าก็แค่ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นยุทธ์แท้ที่ 4 แต่จะมีพลังแกร่งกล้ามากเพียงนี้ได้เยี่ยงไร?” หญิงธาตุน้ำแข็งซักถามเย่เฟิง
“บอกมาว่าเ้าเป็ใครกันแน่?”
หญิงธาตุไฟเกิดความสนใจใคร่รู้ เท่าที่นางทราบ ไม่มีผู้ฝึกยุทธ์ขั้นยุทธ์แท้ที่ 4 ในแดนชิงอวิ๋นคนใดที่มีฝีมือเก่งกาจมากเพียงนี้ แม้แต่หานิผู้เป็อัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งพันธมิตรชาเซวี่ย ตอนอยู่ขั้นยุทธ์แท้ที่ 4 ก็ยังไม่เก่งกาจเท่าคนผู้นี้
“ตอนนี้ข้าเป็ฝ่ายได้เปรียบ โปรดดูสถานะของเ้าด้วย!” เย่เฟิงได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มหยัน เขากล่าวยังไม่ทันจบก็เริ่มเคลื่อนไหวทันที โดยเขากระหน่ำแทงหอกัเงินประกายไม่ยั้ง และทุกหอกก็อัดแน่นไปด้วยพลังทำลายล้าง
เมื่อหญิงสาวสองคนเห็นรังสีหอกของเย่เฟิงก็เผยสีหน้าย่ำแย่ ดวงตาสั่นไหวอย่างหวาดผวา ก่อนจะถอยหลังไปไม่หยุด แต่รังสีหอกของเย่เฟิงเร็วเกินไป พวกนางไม่มีทางหลบทันแน่นอน
“พวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนคนนี้ หนี!” หญิงธาตุน้ำแข็งกล่าวเช่นนั้นกับหญิงธาตุไฟทันที
ภายใต้การโจมตีที่ทรงพลังของเย่เฟิง หญิงธาตุน้ำแข็งรู้สึกได้ถึงแรงกดดัน จากนั้นเห็นพวกนางปลดปล่อยพลังโจมตีพร้อมกัน ก่อนจะหนีไปอย่างรวดเร็ว
ขณะที่เย่เฟิงมองแผ่นหลังของหญิงทั้งสองคนก็เหยียดยิ้มมุมปาก แต่เขาไม่ได้ไล่ตามไป เพราะเป้าหมายของเขาคือการตระหนักรู้พลังฟ้าดินในสระน้ำ
เมื่อพวกนางจากไปแล้ว เย่เฟิงก็ไม่รีรอที่จะลงสระน้ำเพื่อตระหนักรู้พลังฟ้าดินต่อ
ส่วนหญิงสาวสองคนที่หนีออกไปได้หลายลี้ก็หยุดฝีเท้าลง
