ทั้งห้าคนนี้มาตามล่าตนเองโดยเฉพาะ แถมยังนำรูปวาดมาด้วยขนาดนี้แน่นอนว่าคนที่สั่งการจะต้องเป็ศัตรูคู่แค้นอย่างแน่นอน แม้จะไม่รู้ว่าศัตรูคู่แค้นคนนี้ตนเองไปล่วงเกินั้แ่เมื่อไหร่ แต่เชื่อได้เลยว่าหากตนเองตกไปอยู่ในมือของคนพวกนี้คงไม่มีทางรอดไปได้แน่ มุ่งไปด้านหน้าคือตาย อย่างนั้นก็หันหลังกลับก็แล้วกัน ที่นั่นกำลังมีการต่อสู้กันอย่างนัวเนีย ไม่แน่ว่าอาจจะพอมีทางรอดให้บ้าง
หนี!
เย่ชิงหานใช้พลังทั้งหมดที่มีพุ่งทะยานออกไป ในตอนนี้เขารู้สึกโชคดีเป็อย่างมากที่ตอนหลบหนีเ้าสไปโนซอรัสตนเองอยู่บนหลังเสี่ยวเฮยมาตลอดทำให้ไม่ได้เสียพลังกายและพลังปราณรบเลยแม้แต่น้อย ไม่อย่างนั้นละก็เวลาคับขันเช่นนี้หมดแรงที่จะวิ่งก็คงตายลูกเดียว
จากตรงนี้ห่างจากตำแหน่งที่าาหมาป่าเพลิงต่อสู้กับสไปโนซอรัสราวเจ็ดถึงแปดกิโลเมตร หากเป็เวลาปกติโคจรพลังปราณรบวิ่งอย่างเต็มที่ ระยะทางเท่านี้ใช้เวลาเพียงแค่ราวหนึ่งนาทีก็เพียงพอ นาทีเดียวถือว่าเป็เวลาที่สั้นมาก เทียบได้กับกินข้าวเพียงคำเดียว แต่ว่าเวลานี้เย่ชิงหานได้ยินถึงเสียงฝีเท้าที่ไล่ตามมาด้านหลัง ทำให้รู้สึกว่าเวลามันช่างผ่านไปอย่างเชื่องช้าเสียเหลือเกิน
คิ้วรูปกระบี่ของเสว่อีขมวดขึ้นในทันที ตามข้อมูลที่ได้รับไม่ใช่บอกว่าเป้าหมายเป็นายน้อยขยะไร้พร์มิใช่รึ? แต่ดูจากระดับความเร็วในการวิ่งทะยานมันใช่ผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตขั้นสูงที่ไหนกัน? ชัดเจนว่าบรรลุถึงระดับขอบเขตยอดยุทธ์แล้ว บรรลุถึงมาตรฐานในการเป็ศิษย์สายในของตระกูลเย่ นายน้อยบอกว่าให้ดีที่สุดคือจับเป็ ความหมายก็คือจับเป็ไม่ได้ก็นำศพกลับไป แต่สถานการณ์ในตอนนี้จับเป็น่าจะยุ่งยากพอสมควร แต่ถ้าฆ่า? ฆ่าศิษย์สายในของตระกูลเย่ หากวันหน้าตระกูลเย่รู้เข้าไม่รู้ว่าจะมีเื่ยุ่งยากตามมาอีกสักเท่าไร?
เสว่อีครุ่นคิดอยู่ภายในหัวถึงผลได้ผลเสียที่จะตามมา แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจได้ว่าภารกิจสำคัญที่สุด ถ้าหากเกิดเื่อะไรขึ้นก็ยังมีตระกูลเสว่ออกหน้าแบกรับไว้อยู่ สายตามองเห็นเป้าหมายกำลังจะมุ่งไปถึงตำแหน่งที่ฝูงหมาป่าเพลิงกำลังต่อสู้อยู่ แม้ไม่รู้ว่าฝูงหมาป่าเพลิงกำลังต่อสู้กับมารอสูรชนิดใดอยู่ แต่เขารู้ดีว่าหากปล่อยให้เป้าหมายมุ่งไปถึงยังตำแหน่งนั้นได้ เป้าหมายคงอาศัยสถานการณ์ที่ชุลมุนนั้นฉวยโอกาสหนีรอดไปได้อีก
คิดได้ดังนั้น เสว่อีจึงรีบโคจรพลังปราณรบเร่งความเร็วเพิ่มขึ้นในทันที ระยะห่างจากเดิมที่ก็ห่างกันไม่มากอยู่แล้ว พริบตาเดียวยิ่งใกล้ขึ้นกว่าเก่า
ใกล้แล้ว! ใกล้แล้ว! ใกล้จะถึงแล้ว!
อีกเพียงนิดเดียวเท่านั้น มองเห็นลูกไฟลอยอยู่เต็มท้องฟ้าที่อยู่เบื้องหน้า ในใจเย่ชิงหานปรากฏความรู้สึกยินดีขึ้น ตามแผนการที่ตนคิดไว้คือมุ่งหน้าไปยังตำแหน่งที่มีการต่อสู้นั้น ตนเองมีเพียงแค่คนเดียววิ่งผ่านไปอย่างรวดเร็วไม่น่าจะเป็จุดสนใจของฝูงหมาป่าเพลิงมากเท่าใด ส่วนห้าคนที่อยู่ด้านหลังเป็กลุ่มใหญ่เป็เป้าสายตาที่ชัดเจนเป็อย่างมาก หากถูกพบคงไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ ทำตามแผนนี้ตนเองก็จะสามารถสลัดหลุดทั้งห้าคนได้เหมือนกับที่เคยใช้กับสไปโซอรัส
สิ่งที่คิดย่อมดีงามเสมอ แต่ทว่าความเป็จริงนั้นกลับโหดร้าย
เย่ชิงหานวิ่งไปพลางชายหางตามองห้าคนที่อยู่ด้านหลังไปพลาง ในขณะที่เท้าของเขากำลังจะก้าวเข้าสู่ตำแหน่งที่ฝูงหมาป่าเพลิงกำลังทำการต่อสู้อยู่นั้น คนชุดดำที่อยู่ตรงกลางพลันเร่งระดับความเร็วขึ้นมามากกว่าหนึ่งเท่าตัว จากเดิมที่ก็ไม่ห่างอยู่แล้วในตอนนี้ยิ่งใกล้เข้ามามากกว่าเดิม จากนั้นเขาเห็นบางอย่างที่น่ากลัวกำลังจะเกิดขึ้น
ร่างของชายชุดดำปกคลุมไปด้วยแสงสว่างแวววับของพลังปราณรบที่ไหลออกมาจากกาย จากนั้นมันรวมตัวกันเป็ฝ่ามือขนาดใหญ่สีเหลืองฟาดตรงมายังกลางแผ่นหลังของเย่ชิงหาน
ปลดปล่อยพลังปราณรบออกมาภายนอก! ระดับขอบเขตเยี่ยมยุทธ์!
เย่ชิงหานยิ้มที่มุมปากอย่างขมขื่น ศัตรูคู่แค้นของตนคนนี้ช่างให้เกียรติตนเองจริงๆ ถึงกับส่งผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตเยี่ยมยุทธ์มาตามไล่ฆ่า ในหัวเพิ่งจะเริ่มครุ่นคิดแต่แผ่นหลังกลับรู้สึกว่าถูกพลังหนักหน่วงรุนแรงสายหนึ่งโจมตีเข้าอย่างจัง กระดูกทั้งร่างราวกับจะหลุดออกจากกัน ปากกระอักเืออกมาอย่างบ้าคลั่ง ความเ็ปอย่างรุนแรงแล่นเข้าสู่สมอง ในชั่วพริบตาเดียวก็สลบหมดสติไปกลางอากาศ ส่วนร่างของเขาราวกับว่าวที่เชือกขาดลอยออกไปตกลงบนพื้นเบื้องหน้า
“พี่ใหญ่ ท่านไม่ลงมือแรงไปหน่อยหรือ? หากตายขึ้นมาคงไม่ดีอย่างแน่นอน!” มองเห็นเย่ชิงหานนอนสลบอยู่บนพื้นทั้งห้าจึงพากันหยุดฝีเท้าลง คนที่อยู่ด้านซ้ายเอ่ยถามขึ้น
“น่าจะไม่ถึงกับตาย น้องรองเ้าไปนำตัวมันกลับมา พวกเรารีบออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดจะดีกว่า” เสว่อีเก็บพลังปราณรบกลับคืนเข้าไปภายในร่าง มองเห็นสถานที่ไม่ไกลออกไปเสียงดังราวกับสนามรบ จึงรีบพูดขึ้นด้วยเสียงทุ้มต่ำ
“อืม!”
เสว่เอ้อตอบรับมาคำหนึ่งแล้วพุ่งทะยานออกไป มองเห็นเย่ชิงหานที่นอนสลบหมดสติอยู่ที่พื้นในใจพลันเกิดความรู้สึกโกรธแค้นขึ้นมา เพราะเ้าเด็กคนนี้คนเดียวที่ทำให้พวกเขาทั้งห้าต้องมาทุกข์ทรมานเป็เดือนๆ ทำให้ตนเองไม่ได้ลิ้มรสหญิงสาวเป็เดือนๆ คิดไปคิดมานึกอยากจะให้บทเรียนแก่เ้าเด็กน้อยคนนี้เสียหน่อย
ในขณะที่เขากำลังจะเข้าไปใกล้เย่ชิงหาน เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เบื้องหน้าปรากฏเงาสีแดงพุ่งตรงเข้ามาหาตนเองอย่างรวดเร็ว
มันคืออะไร?
เสว่เอ้อไม่กล้าประมาท เขาต่อยหมัดออกไปใส่เงาสีแดงที่พุ่งตรงเข้ามาอย่างหนักหน่วง
ปัง
เงาสีแดงคือหมาป่าเพลิงขนาดลำตัวใหญ่ราวๆ สามเมตร หมาป่าเพลิงในตอนนี้นอนขาสั่นกระตุกอยู่บนพื้น มันถูกหางของสไปโนซอรัสฟาดกระเด็นลอยมาบวกกับหมัดของเสว่เอ้อที่ต่อยออกไปอย่างหนักหน่วงอีกหนึ่งครั้ง ทำให้มันที่อาการาเ็สาหัสเจียนตายอยู่แล้วยิ่งร่อแร่เข้าไปอีก
“าาหมาป่าเพลิง?”
เสว่เอ้อมองดูาาหมาป่าเพลิงที่นอนสั่นกระตุกครวญครางออกมาอยู่บนพื้นอย่างงุนงง หมัดของตนเองทำไมถึงได้มีพลังมากมายมหาศาลขนาดนี้? หมัดเดียวสังหารมารอสูรระดับห้าได้อย่างง่ายดาย สงสัยว่าครั้งก่อนที่ออกศึกกับน้องนางทั้งหลายคงเป็ยาบำรุงให้ตนได้อย่างดี...
“น้องรอง รีบถอยออกมา!”
เสว่เอ้อยืนทำหน้าภาคภูมิใจในตัวเองอยู่อย่างเคลิบเคลิ้ม แต่เสว่อีกลับมีสีหน้าเคร่งขรึมดวงตาเปล่งประกายแสงวาบผ่านพร้อมกับร้องะโออกมา ขาขวาของเขาออกแรงถีบมือกำหมัดแน่นพุ่งทะยานออกไปยังเบื้องหน้า
ส่วนเสว่ซานเสว่ซื่อและเสว่อู่มองไปยังด้านหลังของเส่วเอ้ออย่างตกตะลึง จากนั้นจึงล้วงมือไปหยิบอาวุธอยู่ทางด้านหลังแล้วพุ่งตามออกไปอย่างพร้อมเพรียง
ด้านหลังเสว่เอ้อ ปรากฏหัวของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่โผล่ออกมาจากต้นไม้และพุ่มหญ้าที่หนาทึบ เกล็ดสีดำปกคลุมไปทั่วร่าง ลูกตาสีแดงขนาดใหญ่ราวกับโคมไฟที่เต็มไปด้วยความเย็นะเืและดุร้าย ปากที่อ้ากว้างออกเผยให้เห็นเขี้ยวฟันที่แหลมคมสะท้อนแสงเย็นเฉียบออกมา
มารอสูรระดับหก สไปโนซอรัส!
เมื่อได้ยินเสียงร้องเตือนจากเสว่อี เสว่เอ้อหันหลังกลับไปเจอเข้ากับสไปโนซอรัส ไม่รู้ว่าใกลัวจนเกินไปหรือว่ายังเคลิบเคลิ้มในอารมณ์ภาคภูมิใจในตัวเองอยู่ เขากลับยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะคิดได้ว่าต้องวิ่งหนี แต่น่าเสียดายที่เ้าสไปโนซอรัสได้จับจ้องมาที่เ้ามนุษย์ตัวเล็กเช่นเขาก่อนแล้ว ท่อนหางที่ถูกลูกไฟเผาจนดำดูราวกับแส้เหล็กนิลขนาดใหญ่นั้นฟาดกวาดมาจากทางด้านหลัง กวาดผ่านพุ่มไม้ใบหญ้าต้นไม้ดึกดำบรรพ์ต่างๆ ล้วนถูกแรงปะทะลอยปลิ่วว่อนก่อนที่สุดท้ายหางอันใหญ่โตนั้นจะพุ่งมาปะทะเข้ากับร่างของเสว่เอ้อ
ปัง!
เสว่เอ้อถูกฟาดลอยปลิวออกไปชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งแล้วกระเด็นกลับมากลิ้งตกไปบนพื้นอยู่หลายตลบก่อนที่จะแน่นิ่งไป
“น้องรอง” “พี่รอง” “บรู๊ว! บรู๊ว!”
เสว่อีและคนอื่นๆ ร้องออกมาพร้อมๆ กันอย่างเศร้าโศกเสียใจ ในเวลาเดียวกันหมาป่าเพลิงจำนวนมากมายที่โผล่ออกมาจากพุ่มไม้มองเห็นาาของตนเองนอนกองอยู่ที่พื้นต่างก็เห่าหอนขึ้นมาพร้อมกัน พริบตาเดียวทุกหนทุกแห่งล้วนเต็มไปด้วยเสียงร้องเห่าหอนของความเศร้าเสียใจ
“น้องห้า เ้าไปอารักขาน้องรองกลับมา น้องสามน้องสี่พวกเ้าช่วยข้าจัดการกับเ้าัพันธุ์ผสมตัวนี้ ระวังลูกไฟจากหมาป่าเพลิงด้วย” เสว่อีตาลุกเป็ไฟด้วยความโกรธจ้องมองไปยังสไปโนซอรัสที่กำลังเดินออกมาจากพุ่มไม้อย่างช้าๆ พวกเขาทั้งห้าล้วนเป็เด็กกำพร้าที่ถูกตระกูลเสว่เก็บมาเลี้ยง พวกเขาเติบโตมาด้วยกัน ฝึกฝนวรยุทธ์มาด้วยกัน ออกทำภารกิจด้วยกัน เรียกได้ว่ารักใคร่ห่วงใยกันมากกว่าพี่น้องสายเืเดียวกันเสียด้วยซ้ำ
วันนี้เ้าัพันธุ์ผสมตัวนี้กล้าทำร้ายน้องรองจนได้รับาเ็เป็หรือตายยังไม่รู้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อฆ่ามันให้ได้ แม้ว่าเป้าหมายของภารกิจตอนนี้ใกล้จะสำเร็จแล้ว แต่ถ้าไม่ฆ่าเ้าัพันธุ์ผสมตัวนี้ก่อนพวกเขาสี่คนที่มีคนเจ็บอีกสองคนคงหนีไม่พ้นเ้ามารอสูรระดับหกตัวนี้แน่ ดังนั้นจึงจำเป็ต้องสู้
“บรู๊ว!”
สนามรบในตอนนี้ถูกแบ่งออกเป็สามฝ่าย แต่ละฝ่ายต่างมีความแค้นที่ฝังลึกด้วยกันทั้งหมด แต่ฝ่ายที่ลงมือก่อนกลับเป็ฝูงหมาป่าเพลิง จากการสูญเสียาาไปทำให้พวกมันตอนนี้กลายเป็หมาป่าที่โดดเดี่ยว นิสัยเดิมจากที่ดุร้ายอยู่แล้วในตอนนี้จึงกลายเป็บ้าคลั่งขึ้น ลูกไฟลูกแล้วลูกเล่าลอยปกคลุมไปทั่วทั้งท้องฟ้า
“ฆ่า!”
เสว่อีก็ลงมือบ้าง แน่นอนว่าลูกไฟไม่มีผลต่อโล่พลังปราณรบที่ผิวกายของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่วิตกกังวลแต่อย่างใด สนใจแค่พุ่งตรงเข้าไปหาสไปโนซอรัสเพียงเท่านั้น
เสว่ซานและเสว่ซื่อก็เริ่มลงมือเช่นเดียวกัน ทั้งสองหลบหลีกลูกไฟและมุ่งหน้าตรงไปยังตำแหน่งที่สไปโนซอรัสอยู่พร้อมกับกำจัดหมาป่าเพลิงไปพร้อมๆ กัน
สนามรบในตอนนี้กลายเป็การต่อสู้แบบนัวเนียกันขึ้น
ทุกชีวิตที่สู้กันอย่างนัวเนียอยู่ท่ามกลางสนามรบในขณะนี้ ไม่มีใครสังเกตเลยว่าเย่ชิงหานที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นราวกับซากศพนั้น ในตอนนี้ได้ขยับเปิดเปลือกตาออกเป็ช่องเล็กๆ มองสังเกตการณ์การต่อสู้ที่เกิดขึ้นอย่างเงียบๆ