หลินกู๋หยู่เงยหน้าขึ้นมองฉือหางพลางเอ่ยเสียงเบา "พี่ฉือหาง พี่สะใภ้รองเซ็นสัญญาซื้อขายเพื่อขายโต้ซา ส่วนข้าก็ถูกพี่สะใภ้รองตีศีรษะจนหมดสติ ถูกพี่สะใภ้รองขายโดยไม่รู้สึกตัว"
ตามที่หลินกู๋หยู่กล่าว เบี่ยงศีรษะหันไปมองแม่ค้าคนกลางข้างๆ และพูดเสียงเบา "พวกเราได้เจรจากันแล้ว เงินสิบสองตำลึง แลกกับการไถ่ตัวเราสองคน"
ไม่รอให้ฉือหางเปิดปากพูด หลินกู๋หยู่ก็กล่าวต่อว่า "หรือว่าเราเอาเงินที่ให้พวกเขาไปห้าสิบตำลึงจ่ายให้นางดีหรือไม่?"
"เงินอยู่กับข้า" ฉือหางพูดแล้วหยิบถุงเงินออกจากแขนเสื้อ "เพื่อรอเ้ากลับมา"
ฉือหางหยิบเงินออกมามอบให้กับแม่ค้าคนกลาง
“ไม่ได้” ฉือเทาอดไม่ได้ที่จะแผดเสียงะโ “เงินเหล่านี้มีไว้ใช้คืน”
ฉือหางกลอกตามองฉือเทาแวบหนึ่ง นำเงินใส่ในมือของแม่ค้าคนกลาง
แม่ค้าคนกลางยิ้มแป้น นางรับเงินจากมือของฉือหาง จากนั้นมอบสัญญาการซื้อขายสองฉบับให้หลินกู๋หยู่ ก่อนที่จะนำคนจากไป
เมื่อบุคคลภายนอกออกไปแล้ว ฉือเทาก็รีบเดินไปหาฉือหางด้วยใบหน้าเ็า "เ้ารู้หรือไม่ว่าเงินนั้นคือเงินอะไร นั่นมันคือเงินที่ช่วยชีวิตข้า แต่กลับถูกเ้า... อ๊ะ!"
ฉือหางค่อยๆ ถอนกำปั้นออกมา เขามองไปที่ฉือเทาที่กุมหน้าท้องแน่นด้วยสีหน้าเ็ากว่าเดิม
ไม่มีร่องรอยของอารมณ์ความผูกพันในดวงตา สายตาของเขาเย็นเยียบ ราวกับ้าที่จะสับฉือเทาให้แหลกเป็พันหมื่นชิ้น "ใครให้สิทธิ์พวกเ้าในการขายภรรยาและลูกของข้า"
โต้ซากอดคอของหลินกู๋หยู่แน่น สะอื้นไห้อย่างแ่เบา
“เอ่อ เื่นี้ข้าไม่รู้” ฉือเทาขมวดคิ้ว เบี่ยงศีรษะมองไปทางฟางซื่อ มือข้างหนึ่งกุมหน้าท้องของตนเอง มืออีกข้างชี้ไปที่ฟางซื่อ พูดด้วยน้ำเสียงขอร้องขอวอน “ทั้งหมดเป็เพราะนาง มันไม่เกี่ยวอะไรกับข้า อย่ามาโทษข้า”
เมื่อฟางซื่อได้ยินสิ่งที่ผู้เป็สามีพูด ร่างของนางก็อดไม่ได้ที่จะสั่นเทิ้ม "ไม่ใช่ความผิดของข้า ไม่ใช่ข้า ข้าคิดว่าพวกเ้าทุกคนไม่้าโต้ซาแล้ว"
ในตอนแรกฟางซื่อแค่้าขายโต้ซา เพราะท้ายที่สุดแล้วโต้ซายังเป็เด็กเล็ก และหลินกู๋หยู่ก็เป็แม่เลี้ยง
เมื่อหลินกู๋หยู่ติดตามนางไปที่บ้านของสกุลฟางของนาง ฟางซื่อมีความสุขอยู่หลายส่วน
ถ้าฉือหางมาที่นี่ หากเขาหาเด็กไม่เจอ เขาต้องไม่ปล่อยเื่นี้เป็แน่
แต่หลินกู๋หยู่นั้นต่างออกไป หลินกู๋หยู่เป็แม่เลี้ยงของโต้ซา นางต้องหวังอยากให้โต้ซาหายไปไม่กลับมาแน่นอน เช่นนั้นนางจะได้ไม่ต้องช่วยคนอื่นเลี้ยงลูกอีกต่อไป
แต่นางไม่คาดคิดมาก่อนว่าหลินกู๋หยู่จะทุ่มเทอย่างหนักเพื่อตามหาโต้ซากลับคืนมา
มือของฟางซื่อปิดหน้าท้องของตนเองไว้แน่น อดไม่ได้ที่จะถอยหลังหนึ่งก้าว
“ข้ายังตั้งท้องอยู่ เ้าจะใช้กำลังกับข้าไม่ได้” ฟางซื่อมองไปที่หลินกู๋หยู่ด้วยความตื่นตระหนก
หลินกู๋หยู่ยื่นมือไปจับแขนของฉือหางและพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "ในเมื่อนางกำลังตั้งท้องอยู่ เช่นนั้นก็อย่าใช้กำลัง"
ฟางซื่อพยักหน้าอย่างเต็มแรง มองไปที่หลินกู๋หยู่ด้วยท่าทางร้อนรนกระวนกระวายใจ
"หลังจากที่นางคลอดลูก พวกเราจะขายนาง" หลินกู๋หยู่พูดอย่างสบายอารมณ์ "แต่ข้าก็ยังอยากจะขอบคุณพี่สะใภ้รองที่ไม่ขายข้าให้กับสถานที่สกปรกเช่นนั้น"
เมื่อโจวซื่อฟังคำพูดของหลินกู๋หยู่ นางฟังอย่างไรก็รู้สึกว่าไม่น่าฟัง
"อย่างไรก็ตาม ข้ากลับคิดว่าพี่สะใภ้รองเหมาะกับสถานที่สกปรกเช่นนั้นมากกว่า ถึงเวลานั้น ตำแหน่งโสเภณีชั้นสูงจะต้องตกเป็ของพี่อย่างแน่นอน" หลินกู๋หยู่มองฟางซื่อด้วยรอยยิ้ม น้ำเสียงของนางเรียบเฉย "พี่ฉือหาง พี่เห็นด้วยไหม?”
เมื่อได้ฟังดังนั้น ฉือหางก็พยักหน้าด้วยใบหน้าบูดบึ้ง แม้ว่าในใจเขาจะทนไม่ได้ที่ต้องทำเช่นนั้น แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่ฟางซื่อได้กระทำไว้ ความเห็นอกเห็นใจเล็กน้อยในใจของฉือหางก็เหือดหายไปทันที
“เ้าพูดพล่ามอะไร?” โจวซื่อตะคอกเสียงดัง “พวกเ้าเป็คนในครอบครัวเดียวกัน พวกเ้าทำเื่เช่นนี้ได้อย่างไร!”
“ท่านแม่” หลินกู๋หยู่ยิ้มขณะมองโจวซื่ออย่างดูแคลน พูดด้วยน้ำเสียงสงบ “ในเมื่อพี่สะใภ้รองให้ของขวัญที่ดีแก่พวกเรา ถ้าพวกเราไม่คืนให้บ้าง เช่นนั้นก็ไม่เหมือนคนในครอบครัวเดียวกันแล้วใช่หรือไม่?”
หลังจากที่หลินกู๋หยู่พูดจบ นางรู้สึกว่านางมองเห็นไม่ชัดเจนหลายส่วน ร่างกายโคลงเคลงอย่างไม่อาจควบคุมได้
หลินกู๋หยู่จับแขนของฉือหางและยัดโต้ซาเข้าไปในแขนของเขา
“ท่านแม่!” โต้ซารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับหลินกู๋หยู่ เด็กน้อยะโเสียงดัง
หลินกู๋หยู่ฝืนยิ้มให้โต้ซา ถ้าไม่ใช่เพราะฉือหางประคองนางไว้ นางอาจจะล้มลงฟาดกับพื้น
“เรากลับกันเถอะ” เสียงของหลินกู๋หยู่แ่เบามาก มองไปที่ฉือหางอย่างอ่อนแรง
หลินกู๋หยู่คว้าแขนของฉือหางและเดินไปข้างหน้า
เมื่อกลับถึงบ้าน ฉือหางก็จุดตะเกียงน้ำมันก๊าด จากนั้นเขาก็สังเกตเห็นว่าใบหน้าของหลินกู๋หยู่ไม่น่าดูนัก
"ข้าสบายดี" หลินกู๋หยู่ไม่อยากนอนบนเตียง "เสื้อผ้าของข้าสกปรกเกินไป ข้าจะเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเข้านอน"
เมื่อได้ยินสิ่งที่หลินกู๋หยู่พูด ฉือหางพยักหน้ารับและรีบหาเสื้อผ้าของหลินกู๋หยู่ ดึงม่านและนำโต้ซาออกมา
ฉือหางรู้สึกยุ่งเหยิงร้อนรน จึงก่อไฟในเตา ในขณะเดียวกันก็พูดกับคนข้างในว่า "เ้าเป็อย่างไรบ้าง?"
หลินกู๋หยู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ยังเปลี่ยนไม่เสร็จเลย” หลินกู๋หยู่พยายามถอดเสื้อผ้าออกอย่างสุดแรง นางกำลังจะเปลี่ยนเป็ชุดนอน
ฉือหางจัดให้โต้ซานั่งอยู่ข้างนอก เปิดม่านเพื่อเข้าไปข้างในด้วยตัวเอง
"ข้าจะช่วยเ้าเอง" ในขณะที่ฉือหางพูด เขาก็หยิบชุดนอนข้างๆ ขึ้นมา ตอนที่เขากำลังจะช่วยหลินกู๋หยู่สวมใส่ เขาก็เห็นผิวซีดและมีเืฝาด ใบหน้าของนางซีดเซียวจนน่ากลัว
"ใส่ชุดนอนเถอะ" ฉือหางพยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่มองไปรอบๆ และช่วยหลินกู๋หยู่ใส่ชุดนอน "ข้าจะไปต้มน้ำให้เ้าล้างตัว?"
"ไปทำอาหารก่อนเถอะ" หลินกู๋หยู่เอนกายลงบนเตียง ในขณะพูดอย่างอ่อนแรง "เวลานานมากแล้ว บางทีเขาอาจจะยังไม่ได้กินข้าว"
เขาไม่สามารถเอาชนะหลินกู๋หยู่ได้ ฉือหางทำได้เพียงไปปรุงน้ำแกงเท่านั้น
เมื่อฉือหางทำอาหารเสร็จแล้ว เขาปล่อยให้โต้ซาทานอาหารคนเดียว ส่วนตนเองเดินไปที่เตียงพร้อมชามและตะเกียบ จากนั้นเขาก็สังเกตเห็นว่าหลินกู๋หยู่ผล็อยหลับไปแล้ว
เติมน้ำเย็นและน้ำร้อนลงในอ่าง ฉือหางแช่ผ้าขนหนู ก่อนที่จะช่วยหลินกู๋หยู่เช็ดใบหน้าให้สะอาด จากนั้นค่อยๆ ช่วยล้างเท้า หลังจากนั้นก็อุ้มนางวางนางลงบนเตียงแล้วห่มผ้านวมให้นาง
เมื่อโต้ซาทานเสร็จแล้ว ฉือหางอาบน้ำให้โต้ซาก่อนที่ตนเองจะอาบน้ำแล้วจึงเข้านอน
ฟางซื่อเดินตามฉือเทากลับไปที่เรือนของพวกเขาอย่างสั่นเทา มองหน้าฉือเทาแล้วรีบก้มหน้าลง นางไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยปาก
“บอกมาสิ ใครให้เ้าขายโต้ซา?” ฉือเทาเหลือบมองฟางซื่อด้วยความขัดเคือง เบี่ยงสายตามองด้วยความขยาดแขยง พูดต่อด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง “เ้ารู้หรือไม่ว่าเ้าทำอะไรลงไป ไม่ว่าอย่างไรโต้ซาก็เป็หลานชายของข้า!”
เมื่อได้ฟังถ้อยคำของฉือเทา ใบหน้าของฟางซื่อก็น่าเกลียดนัก "เ้าพูดเช่นนี้ก็เหมือนกับโต้ซาไม่ใช่หลานชายของข้าอย่างไรอย่างนั้น ข้าเองก็ไม่อยากที่จะขายเขานักหรอก!"
ฉือเทาพรวดหันศีรษะกลับมาทันที มองไปที่ฟางซื่อด้วยความรังเกียจ
ฟางซื่อก้มศีรษะลงอย่างเสียใจ นางพูดด้วยเสียงแ่เบา "เดิมทีข้าแค่ส่งโต้ซาไปอยู่ในบ้านของท่านแม่ของข้า พวกเขาต่างก็รู้ด้วยว่าโต้ซามีแม่เลี้ยง ข้าก็แค่พูดลอยๆ ไปว่า ถ้าไม่มีโต้ซา บางทีพวกเขาอาจจะไม่สนใจก็เป็ได้!"
เมื่อได้ฟังดังนั้น สีหน้าของฉือเทาก็น่าเกลียดกว่าเดิม
"แต่ใครจะคาดคิดว่าพี่ชายของข้าจะขายโต้ซาจริงๆ พูดไปก็รู้สึกว่าเป็เื่บังเอิญ บังเอิญที่แม่ค้ามนุษย์คนกลางไปที่หมู่บ้านของท่านแม่ของข้าอย่างประจวบเหมาะ" ฟางซื่อมองไปที่ฉือเทาด้วยใบหน้าขมขื่น เอ่ยพูดด้วยเสียงต่ำในเวลาเดียวกัน "ข้าก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ข้าเห็นว่าหลินกู๋หยู่วิ่งไล่ตามรถม้าของแม่ค้ามนุษย์คนกลางทันเสียแล้ว”
“ดังนั้นเ้าก็เลย?” ฉือเทาจ้องมองไปที่ใบหน้าของฟางซื่อเขม็ง
ฟางซื่อก้มศีรษะลงเมื่อถูกมองจนรู้สึกละอาย "ถ้าหลินกู๋หยู่กลับมา ข้าไม่รู้ว่านางจะพูดอะไรกับฉือหาง ข้าตรองดูแล้ว ในเมื่อจะทำแล้วก็ต้องทำให้ถึงที่สุด ข้าจึงขายนาง เช่นนั้นนางก็จะกลับมาไม่ได้อีกแล้ว"
“แต่เ้าไม่คาดคิดมาก่อนว่านางนำแม่ค้ามนุษย์คนกลางกลับมา? ซ้ำยังกล่าวหาเ้าได้อีกด้วย?” ฉือเทาชี้นิ้วมือไปที่ปลายจมูกของฟางซื่อ และพูดอย่างโกรธขึ้ง “เ้ามีสมองหรือไม่?”
"ข้าทำไมหรือ?" เมื่อฟังคำพูดของฉือเทา ฟางซื่อก็หน้านิ่วคิ้วขมวด นางหอยใจแรงจนหน้าอกยกขยาย พูดด้วยความขัดเคือง "ข้าก็แค่คิดคำนึงถึงพวกเราสองคน แต่ตอนนี้เ้าก็เอาแต่ตำหนิข้า! ข้าไม่ลำบากหรือไง!”
หลังจากได้ยินคำพูดของฟางซื่อ ใบหน้าของฉือเทาก็น่าเกลียดยิ่งขึ้น และพูดด้วยความขุ่นเคือง "เ้าบอกข้าสิ ตอนนี้เราควรจะทำอย่างไร?"
เมื่อได้ยินสิ่งที่ฉือเทาพูด ฟางซื่อก็นั่งลงร้องไห้ข้างเตียง
วันต่อมา เมื่อหลินกู๋หยู่ตื่นขึ้นด้วยความสะลึมสะลือ นางก็เห็นใบหน้าขยายใหญ่ปรากฏอยู่ตรงหน้านาง
"ท่านแม่!" โต้ซาอุทานอย่างตื่นเต้น
"โต้ซา เบาเสียง อย่าเสียงดังรบกวนแม่ของเ้าสิ" ฉือหางลดเสียงและวางชามบนโต๊ะข้างๆ
"ท่านแม่ตื่นแล้ว!" โต้ซาหันกลับไปอย่างตื่นเต้น ขณะพูดกับฉือหาง
หลินกู๋หยู่พยายามลุกขึ้นนั่ง
"เ้านอนลงเร็ว" ฉือหางพูดอย่างเร่งรีบ "อีกสักพักค่อยกินข้าว รอให้ห้องอุ่นขึ้นเ้าค่อยลุกขึ้น"
“ข้าไม่ได้เป็อะไร” เสียงของหลินกู๋หยู่แห้งผากราวกับเสียงใบไม้ร่วงหล่นเสียดสีกับพื้น ลำคอของนางเ็ปอย่างมาก แม้แต่การกลืนน้ำลายก็ยังรู้สึกทรมานสุดจะทน
ทิ้งตัวนอนบนเตียงอีกครั้ง หลินกู๋หยู่มองไปที่ฉือหางด้วยรอยยิ้มในดวงตา
โต้ซานอนอยู่ด้านข้างหลินกู๋หยู่ จากนั้นฉือหางมาอุ้มเด็กน้อยไปทานข้าว "เ้าไปทานข้าวเร็ว"
ฉือหางอุ้มโต้ซาวางบนเก้าอี้ ปล่อยให้เขาทานข้าวด้วยตัวเอง จากนั้นฉือหางก็เดินไปที่เตียงพร้อมน้ำแกง "ข้าจะป้อนเ้าเอง"
หลินกู๋หยู่ยิ้มเจื่อนๆ ลุกขึ้นนั่งอย่างไม่เต็มใจ "ข้าทานเองก็ได้"
หลินกู๋หยู่รับชามจากมือของฉือหาง และในขณะที่กำลังจะทานข้าวต้ม จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงเคาะประตู
“ไม่ต้องสนใจ” ฉือหางขมวดคิ้วมุ่น “ต้องเป็พวกเขาแน่นอน”
เมื่อนึกถึงสิ่งที่ฉือเทาและฟางซื่อได้กระทำ ใบหน้าของหลินกู๋หยู่ก็น่าเกลียดมากเช่นกัน เบี่ยงศีรษะมองดูโต้ซา ซึ่งกำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่ที่โต๊ะ อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอก "ถ้าข้าไปช้ากว่าก้าวเดียว ข้าไม่รู้ว่าจะได้เจอโต้ซาอีกหรือไม่”
"แต่ตอนนี้ไม่เป็ไรแล้ว หลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วถึงได้ทราบว่าตื่นตูมไปก็ไม่จำเป็ วันข้างหน้าพวกเราใส่ใจหน่อยก็ไม่เป็ไรแล้ว" หลินกู๋หยู่มองที่ดวงตาของฉือหางโดยมีบางอย่างผิดไปจากปกติ ยื่นมือออกไปจับมือของฉือหางและพูดเบาๆ ว่า "ไม่เป็ไรแล้ว"
"ข้าจะออกไปดู" ฉือหางกล่าวพลางค่อยๆ ดึงมือออกแล้วเดินออกไปข้างนอก
เมื่อเขาออกไปข้างนอก ทันทีที่ฉือหางเปิดประตูใหญ่ เขาก็เห็นฉือเทาและฟางซื่อมองมาที่เขาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม