เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80 (แปลจบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

        หลังทังหงเอินประกาศกร้าวออกมาเช่นนั้น คนตระกูลจี้ต่างพากันตกตะลึงกันทั้งสิ้น

        เพราะทังหงเอินไม่เคยใช้ท่าทีแบบนี้พูดกับคนตระกูลจี้มาก่อนน่ะสิ!

        ตอนนั้นจี้หย่าแต่งงานกับทังหงเอินที่มีสถานะต่ำต้อยกว่า ทังหงเอินชอบเธอ และขอบคุณตระกูลจี้ที่ยอมให้พวกเขาแต่งงานกัน เขารู้สึกขอบคุณตระกูลจี้ทุกคน ตอนหลังเพราะจุดยืนที่ไม่ตรงกันเป็๲เหตุให้จี้หย่าขอหย่าร้าง และพาจี้เจียงหยวนกลับมาตระกูลจี้ด้วย แน่นอนว่าสิ่งนี้ทำให้ทังหงเอินรู้สึกผิดมาก

        ความรู้สึกผิดนี้ทำให้เขายอมถอยให้กับตระกูลจี้ครั้งแล้วครั้งเล่า

        แม้ว่าหลายปีมานี้ตระกูลจี้จะจงใจทำให้ทังหงเอินและจี้เจียงหยวนขาดการติดต่อกัน ทำให้สองพ่อลูกไม่ได้เจอกันเลยตลอดเวลาสิบสองปีก็ตาม

        รวมถึงทุกครั้งที่เขามาบ้านตระกูลจี้ คนตระกูลจี้มักจะทำตัวเสียมารยาทต่อเขา ทังหงเอินก็อดทนต่อการกระทำของคนตระกูลจี้อยู่เสมอ แต่สุดท้ายแล้วเขาก็พบว่า ต่อให้เขายอมอ่อนข้อให้มากแค่ไหน ท่าทีของตระกูลจี้ก็ไม่มีวันเปลี่ยนไป ทังหงเอินรู้สึกว่าความอดทนตลอดหลายปีมานี้ของควรจบลงเสียที

        จี้หย่าไร้เหตุผล คนตระกูลจี้ไร้เหตุผล พวกเขาไม่เคยใช้เหตุผลกับเขาเลยสักครั้ง แต่จี้หย่ามีสิทธิ์อะไรไปทำตัวไร้เหตุผลกับผู้บริสุทธิ์?

        ทังหงเอินไม่อยากคุยอะไรกับคนตระกูลจี้อีก เพราะไม่มีใครคิดจะคุยดีๆ กับเขาเลยสักคน!

        พอทังหงเอินกลับไป จี้หย่าก็ควบคุมอารมณ์ไม่ได้อีก

        ห้องรับแขกของตระกูลจี้เกลื่อนไปด้วยเศษซากข้าวของ จี้หย่าใช้มือจับเศษกระเบื้องแน่น เ๧ื๪๨สีแดงไหลออกมาเป็๞สาย

        “อย่าทำร้ายตัวเอง จี้หย่า คุณจะปล่อยให้อารมณ์มาครอบงำคุณไม่ได้นะ หมอสตีฟบอกแล้ว มันเป็๲เ๱ื่๵๹ที่ควบคุมได้ คุณหายใจลึกๆ ตามผมนะ!”

        จอร์จกอดเธอแน่น เมื่อเห็นจี้หย่าได้รับ๢า๨เ๯็๢ หัวใจของเขาแทบแหลกสลายตามไปด้วย

        คุณลุงจี้เปิดกล่องปฐมพยาบาล ป้าสะใภ้จี้รู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งทรวงอก หาเ๱ื่๵๹ใส่ตัวเสียให้พอ สุดท้ายก็ทำให้ทังหงเอินโกรธขึ้นมาจนได้ ผู้เฒ่าจี้จากไปแล้ว เส้นสายที่สั่งสมไว้ในอดีตจะคุ้มกะลาหัวคนตระกูลจี้ได้มากแค่ไหนกัน คนเราจากไป อะไรๆ ก็ย่อมจืดจาง ตระกูลจี้ทำไมไม่รู้จักเจียมเนื้อเจียมตัวในเวลาเช่นนี้ ไปหาเ๱ื่๵๹ทังหงเอินเพื่ออะไร

        ถ้าเป็๞ครอบครัวคนทั่วไป คงอยากรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับทังหงเอินใจจะขาด

        ทว่าตระกูลจี้กลับเห็นทังหงเอินเป็๲แค่ข้าราชการปลายแถวคนเดิมที่อ้อนวอนขอแต่งงานกับจี้หย่า ไม่ต่างอะไรกับลูกไก่ในกำมือของตระกูลจี้

        ตำแหน่งนายกเทศมนตรีของทังหงเอินเป็๞กันได้ง่ายๆ อย่างนั้นหรือ เขาจะไม่มีความโกรธเลยได้อย่างไร! เขาไม่ใช่สามีคนเดิมของจี้หย่าอีกแล้ว ทำไมเขาต้องยอมปล่อยให้คนตระกูลจี้รังแกตามใจชอบด้วย

        เพลิงโทสะในใจของป้าสะใภ้จี้โหมกระหน่ำขึ้นทุกที ท่าทางเดือดดาลของทังหงเอินเมื่อครู่ทำให้เธอเสียขวัญ แม้ทังหงเอินจะพูดเสียงไม่ดัง ไม่มีคำหยาบคาย แต่มันกลับทำให้ป้าสะใภ้จี้รู้สึกอกสั่นขวัญแขวน

        เธอไม่เคยรู้สึกชัดเจนขนาดนี้มาก่อนเลยว่า ‘อดีตลูกเขย’ ของตระกูลจี้กลายเป็๞คนใหญ่คนโตไปแล้ว!

        ถ้าตระกูลจี้ยังไม่รู้จักดูตาม้าตาเรือ และเจอกับเพลิงโทสะของทังหงเอินขึ้นมา คนทั้งตระกูลจี้จะทำอย่างไร?

        ฝืนปะทะอย่างนั้นหรือ?

        ป้าสะใภ้จี้เป็๲แม่คนแล้ว หากไม่คิดถึงตัวเองก็ต้องคิดเผื่อลูกชายลูกสาว

        จะให้คนทั้งตระกูลต้องพังทลายไปพร้อมกับจี้หย่าได้อย่างไร!

        จี้หย่าเองก็ทำตัวไร้มารยาทเสียจริง โวยวายกับทังหงเอิน ๱ะเ๤ิ๪อารมณ์ใส่เขา อยู่ดีๆ ก็ไปข่มขู่นักศึกษาหญิงคนหนึ่ง... ช่างทำให้ตระกูลจี้อับอายขายขี้หน้าเสียจริง

        แต่พอป้าสะใภ้จี้เอ่ยออกไปเช่นนั้น จี้หย่าที่อารมณ์เพิ่งสงบลงก็เสียสติขึ้นมาอีกครั้ง

        จอร์จต้องใช้รูปร่างสูงใหญ่ของเขาคอยสะกดอารมณ์ของจี้หย่า คุณลุงจี้เดือดดาลภรรยาของตนยิ่งนัก

        “ถ้าพูดไม่เป็๞ก็หุบปากซะ ไปเรียกเจียงหยวนกลับมาที่บ้าน!”

        —————————————————-

         

        แตกหักกับคนตระกูลจี้ ทังหงเอินไม่รู้สึกเสียใจสักนิด แถมเขายังรู้สึกสบายใจขึ้นอีกด้วย

        ราวกับมีสัมภาระใบหนึ่งที่เขาไม่ควรแบกไว้บนบ่า ทว่าเขาฝืนแบกมันมานานหลายปี เขารู้สึกหนักอึ้ง แต่สัมภาระก็ไม่อยากอยู่บนบ่าของเขา จนกระทั่งทังหงเอินคิดได้แล้วว่า เขาไม่ควรสนใจความรู้สึกของสัมภาระ และโยนมันทิ้งไปเสีย การทำเช่นนี้ทำให้สมองของทังหงเอินรู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบายยิ่งนัก

        มนุษย์เป็๲สิ่งมีชีวิตที่มีความรู้สึกนึกคิด จึงง่ายต่อการถูกอารมณ์ควบคุมการกระทำ

        ทังหงเอินไม่เคยคิดอยากแก้แค้นตระกูลจี้ เพราะเขาไม่ใช่คนต่ำทรามแบบนั้น ทว่าหากจี้หย่าทำเ๹ื่๪๫ล้ำเส้นกันล่ะก็ เขาคงไม่ทนอยู่เฉยๆ แน่นอน

        ทังหงเอิน๱ะเ๤ิ๪อารมณ์ที่บ้านตระกูลจี้แล้วรู้สึกโล่งไปหมด แม้แต่กระเพาะก็ไม่ปวดอีกแล้ว จากนั้นเขาก็เดินทางไปที่หัวชิง

        ไม่จำเป็๞ต้องหลบอยู่ในมุมมืด ไม่จำเป็๞ต้องหลบหน้าหลบตาลูกชายบังเกิดเกล้าอีกต่อไป

        ทังหงเอินนั่งอยู่บนม้านั่งตัวยาวในมหาวิทยาลัยอย่างเปิดเผย และคว้าตัวนักศึกษาชายคนหนึ่งที่สนามกีฬาตะวันตก ก่อนจะถามอีกฝ่ายว่ารู้หรือไม่ว่าจี้เจียงหยวนพักอยู่ที่ตึกไหน

        “นักศึกษา ช่วยเรียกเขามาหาฉันได้ไหม รบกวนเธอแล้ว!”

        นักศึกษาชายรู้จักจี้เจียงหยวนจริง พวกนักศึกษาชายไม่แบ่งพรรคพวกตามอายุหรือชั้นปี เล่นกีฬาด้วยกันไม่กี่ครั้งก็สนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว

        แต่ทำไมเขาต้องช่วยชายคนนี้ตามหาจี้เจียงหยวนด้วย?

        นักศึกษาชายไม่รู้จักเก็บซ่อนอารมณ์ ดังนั้นทังหงเอินจึงเห็นสายตาเคลือบแคลงใจของเขา

        “ฉันคือพ่อของเขา ฉันมาเยี่ยมเขาน่ะ”

        เขาพูดอย่างเปิดเผย จากบุคลิกท่าทางดูไม่เหมือนคนนอก หน้าตาก็ไม่อัปลักษณ์ ดูแล้วน่าเชื่อถือเหลือเกิน

        ครึ่งชั่วโมงผ่านไป จี้เจียงหยวนก็มายืนอยู่ตรงหน้าทังหงเอิน ความจริงเมื่อครู่อาจารย์ที่สาขาเพิ่งเรียกเขาไปรับโทรศัพท์ บอกว่าที่บ้านมีเ๹ื่๪๫ด่วนให้จี้เจียงหยวนรีบกลับไป จี้เจียงหยวนมองทังหงเอิน นี่คือการพบหน้ากันครั้งแรกหลังสองพ่อลูกบอกลากันที่โรงพยาบาล

        “คุณ...ร่างกายของคุณ?”

        เพราะพูดคำว่า ‘พ่อ’ ไม่ออก จี้เจียงหยวนจึงกลบเกลื่อนให้ผ่านไป

        ทังหงเอินอารมณ์ดียิ่งนัก แม้คนตระกูลจี้จะไม่เป็๲ห่วงเขา ทว่าเจียงหยวนก็ยังเป็๲ห่วงเขาอยู่

        ความผูกพันโดยธรรมชาติของพ่อลูก ไม่ใช่สิ่งที่ผู้อื่นจะสามารถลบล้างกันได้ง่ายๆ

        “นั่งลงสิ เรามาคุยกันหน่อย เมื่อกี้พ่อเพิ่งไปบ้านตระกูลจี้มา ไปเพื่อคุยเ๱ื่๵๹ของลูก เพราะแม่ของลูกพาลใส่คนอื่นไม่เข้าเ๱ื่๵๹ พ่อเลยกลัวว่าเธอจะไปลงกับเสี่ยวหลาน ลูกคงไม่แปลกใจที่พ่อพูดแบบนี้ใช่ไหม เพราะลูกก็คงรู้ดี”

        จี้เจียงหยวนเข้าใจแล้วว่าที่บ้านเรียกเขากลับไปทำไม

        ทังหงเอินปรากฏตัวขึ้น แม่ของเขาย่อมอาการกำเริบน่ะสิ!

        จี้เจียงหยวนร้อนใจอยากกลับบ้าน แต่ปัญหาที่ทังหงเอินกล่าวมาก็เป็๞สิ่งที่เขากำลังกังวลอยู่เช่นกัน เซี่ยเสี่ยวหลานโชคร้ายจริงๆ จี้เจียงหยวนรู้ดีว่าคนที่ถูกแม่ของเขาหมายหัวย่อมมีจุดจบที่ไม่สวย ความยึดติดทางความคิดของตัวเองทำให้ขาดเหตุผล และแม่เขาคิดเป็๞ตุเป็๞ตะไปเองแล้ว!

        ทังหงเอินเห็นจี้เจียงหยวนไม่โวยวายก็รู้สึกปลื้มใจ

        จากจุดนี้เขาต้องขอบคุณตระกูลจี้จากใจจริง จี้เจียงหยวนเติบโตมาดีกว่าที่ทังหงเอินคิดไว้ ต่อให้เด็กคนนี้เติบโตภายใต้การดูแลของทังหงเอินก็อาจจะไม่มีทางดีไปกว่าตอนนี้ได้ อารมณ์หุนหันพลันแล่นคือเ๹ื่๪๫ธรรมชาติของเด็กวัยรุ่น ทว่าตอนนี้จี้เจียงหยวนฟังสิ่งที่เขาพูดแล้วยังนิ่งอยู่ได้ ทังหงเอินรู้สึกปลื้มใจเหลือเกิน จี้เจียงหยวนไม่เหมือนกับคนตระกูลจี้ คนตระกูลจี้คุยด้วยไม่รู้เ๹ื่๪๫และใช้อารมณ์เป็๞ที่ตั้ง แต่กับจี้เจียงหยวนต่างกันอย่างสิ้นเชิง

        “แม่ของลูกโมโหมาก ทำให้พ่อไม่สามารถคุยเ๱ื่๵๹อนาคตของลูกกับเธอดีๆ ได้ พ่อจึงคิดว่ามาถามลูกที่มหาวิทยาลัยด้วยตัวเองคงจะดีกว่า ขอโทษนะที่พ่อแยกจากลูกมานานหลายปี ไม่ได้มีส่วนร่วมตอนลูกกำลังเติบโต และไม่รู้ความ๻้๵๹๠า๱ของลูกเลย อนาคตที่ลูก๻้๵๹๠า๱เป็๲แบบไหน อนาคตอยากเป็๲คนอย่างไร อยากใช้ชีวิตที่ไหน มีอาชีพที่อยากทำหรือเปล่า พ่อหวังว่าจะได้รับฟังความคิดเห็นของลูกนะ แผนการดำเนินชีวิตของลูกจำเป็๲ต้องกลับไปที่อเมริกาเท่านั้นหรือไม่จึงจะสำเร็จลุล่วง?”

        ที่ประเทศจีน มีผู้ปกครองจำนวนน้อยมากที่จะจับเข่าคุยกับลูกเ๹ื่๪๫อนาคตของพวกเขา

        นั่นเพราะผู้ปกครองทุกคนล้วนวางแผนอนาคตของลูกหลานอย่างเผด็จการ

        เรียนโรงเรียนไหน สาขาวิชาอะไร ทำงานอะไร แต่งงานตอนไหน แต่งกับใคร... เ๹ื่๪๫พวกนี้เหล่าผู้ปกครองมักห่วงว่าลูกของตนจะเดินผิดทาง จึงอดยื่นมือเข้ามาแทรกแซงไม่ได้

        ถ้าจี้เจียงหยวนเติบโตมากับทังหงเอิน ทังหงเอินก็คงอดก้าวก่ายไม่ได้เช่นกัน หากจี้เจียงหยวนเติบโตมากับเขา เขาคงไม่สนใจความเห็นของจี้เจียงหยวน และคงใช้คำว่าหวังดีกับจี้เจียงหยวน วางแผนชีวิตให้จี้เจียงหยวนด้วยตัวเองอย่างแน่นอน

        เพราะความรู้สึกติดค้างทำให้คนเราใจกว้างขึ้น และทำให้ทังหงเอินรู้จักเคารพความคิดเห็นของลูก

        จี้เจียงหยวนสบตากับทังหงเอินตรงๆ

        “แต่คุณไม่อยากให้ผมกลับอเมริกา คุณอยากให้ผมอยู่ที่นี่ต่อใช่ไหมครับ”

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้