ในสายตาของซูเฟยหยิ่ง ทีมของหนิ่วเหมิ่งช่างน่ารำคาญเหมือนแมลงหวี่ เธอมีสิ่งที่สำคัญเกินกว่าต้องจัดการตัวประกอบเหล่านี้
นั่นก็คือนำน้ำแข็งพันปีกลับคืนมา
เธอวางมือข้างหนึ่งบนไหล่ของเย่เฟิง แล้วยกมืออีกข้างขึ้นมาเฉยๆ ทันใดนั้น เย่เฟิงก็รู้สึกได้ถึงพลังแห่งดวงดาวที่ค่อยๆ มารวมกัน
ความรู้สึกนี้ช่างเหมือนกับ...
วิชาเซียน ดวงดวงดาวเคลื่อนย้าย!
หนึ่งในวิชาเซียนที่สืบทอดต่อกันมาของสำนักสุสานดวงดาว เป็วิชาเซียนที่ต้องมีระดับพลังหนึ่งร้อยปีขึ้นไปเท่านั้นถึงจะเริ่มฝึกฝนได้ มันเป็วิชาประเภทช่องว่างทางมิติที่หาได้ยากในโลกเทวะ ผู้มีระดับพลังสูงเพียงพอจึงจะเคลื่อนย้ายร่างตนเองได้ไกลหลายพันลี้ เมื่อเทียบกับเคล็ดกระบี่ไร้ตัวตนแล้ว ดวงดาวเคลื่อนย้ายมีพลังแข็งแกร่งกว่ามากอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่เพียงเคลื่อนย้ายระยะไกลได้ในพริบตาเท่านั้น แต่ยังสามารถเคลื่อนย้ายผู้อื่นไปพร้อมกันได้ด้วย
ทันใดนั้น จิตหยั่งรู้ของเย่เฟิงก็ััได้ว่าน้ำทะเลโดยรอบเกิดการบิดเบี้ยวขึ้น จากนั้นแสงสีฟ้าพลันสว่างวาบ ซูเฟยหยิ่งพาทั้งเขาและหลงหว่านเอ๋อร์ที่อยู่ใต้ทะเลเคลื่อนย้ายตำแหน่งไปอย่างรวดเร็ว
เพียงชั่วพริบตาหนิวเหมิ่งและคนในทีมก็ไม่เห็นพวกเขาแม้แต่เงา
เมื่อเย่เฟิงรู้สึกว่าพื้นที่โดยรอบกลับสู่ภาวะปกติอีกครั้ง ทั้งสามคนก็ย้ายตำแหน่งมายังทะเลทางใต้แล้ว
ที่นี่อยู่ห่างจากเรือพิฆาตของกองทัพและห่างไกลจากการปิดล้อมของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติด้วย สปีดโบตสีขาวลำหนึ่งกำลังแล่นอย่างรวดเร็วบนคลื่นทะเลอันเงียบสงบ ขณะที่ด้านหลังสปีดโบตเป็เรือกองทัพสองลำ นั่นก็คือหลงโม่หราน หลงจื่อ และหลงชิง ซึ่งกำลังถูกไล่ล่าจากคนของกองทัพ
ขณะฝั่งเย่เฟิงลอยครึ่งตัวอยู่บนผิวน้ำทะเล หลงโม่หรานก็ยกกระบี่ในมือกวัดแกว่งเพลงกระบี่บุปผาเหมันต์ฝ่าสายลมล้อมจันทราใส่ผิวน้ำทะเลด้านหลังจนมันกลายเป็แผ่นน้ำแข็งชิ้นเล็ก
เรือกองทัพทั้งสองลำกระแทกแผ่นน้ำแข็งนั้นอย่างจัง จนเรือลำเล็กเสียหายพร้อมทั้งมีควันสีขาวพุ่งออกมา เศษน้ำแข็งแตกกระจาย...
“ไป กลับกันได้แล้ว”
หลงโม่หรานยิ้มเยาะขณะถือน้ำแข็งพันปีไว้ในมือ หลังกลับถึงบ้านแล้วจะดูดซับน้ำแข็งพันปีเพื่อยกระดับวรยุทธ์ คิดได้ดังนั้น เขาก็อารมณ์ดีจนกลบความหดหู่ที่สูญเสียแขนไปข้างหนึ่ง
ทว่าก็ไม่โล่งใจเท่าใดนัก
หลังจากเห็นร่างของซูเฟยหยิ่งแล้ว ใจของเขาก็ถูกรบกวนด้วยร่างอันงดงามนั้น และรู้สึกว่าไม่มีหญิงสาวคนใดบนโลกจะสวยงามไปมากกว่าเธออีกแล้ว แม้ร่างของเธอจะถูกแช่แข็ง แต่หลงโม่หรานก็มั่นใจว่าเธอต้องยังมีชีวิตอยู่แน่นอน การพลาดสาวงามเช่นนี้ทำให้เขาขุ่นเคืองอยู่ในใจ จึงตั้งใจว่าจะดูดซับพลังฟ้าดินจากน้ำแข็งพันปีก่อน ต่อให้ต้องเรียกบิดาตนเองออกมา เพื่อใช้กำลังบีบให้เย่เฟิงหรือสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติยอมมอบสาวงามคนนั้นมา เขาก็จะทำ
หญิงสาวที่งดงามขนาดนี้ หากเขาพลาดไปคงต้องเสียใจไปตลอดชีวิตแน่นอน...
“ท่านประมุข เหมือนจะมีคนอยู่ข้างหน้า”
ขณะหลงชิงขับสปีดโบต หลงจื่อก็รับผิดชอบสำรวจทางระยะไกล จนพบเงาของคนสามคนอยู่บนผิวน้ำทะเลด้านหน้า
เมื่อหลงโม่หรานได้ยินดังนั้น ก็มองตามและพบว่ามีคนสามคนอยู่ตรงนั้นจริงๆ เพียงแต่พวกเขาอยู่ไกลเกินกว่าจะมองเห็นได้ชัดเจนว่าอีกฝ่ายเป็ใคร เขาจึงโบกมืออย่างไม่สนใจ “ไม่ต้องสนใจหรอก”
เขาปล่อยผู้โชคร้ายทั้งสามคน ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ ทำไมเขาจะต้องสนใจคนเ่าั้ด้วยล่ะ?
สปีดโบตสีขาวแล่นต่อไปข้างหน้า พยายามผ่านร่างทั้งสามนั้น แต่ในไม่ช้าพวกเขาก็พบว่าร่างทั้งสามนั้นเคลื่อนไหวบนผิวน้ำทะเลได้อย่างรวดเร็ว จนระยะห่างเหลือเพียงสองร้อยเมตร
“แบบนี้มัน...”
หลงจื่อขมวดคิ้วมุ่น ขณะคิดในใจว่าทำไมรู้สึกคุ้นหน้าทั้งสามคนนี้
ไม่นานนัก ฝ่ายตรงข้ามก็เข้าใกล้มากขึ้น เมื่อพวกเขาเห็นใบหน้าของทั้งสามคนนั้น หลงโม่หรานก็ใจนน้ำแข็งพันปีในมือแทบหลุดจากมือ
ทำไมถึงเป็พวกมันได้!
เย่เฟิง สาวงาม และหลงหว่านเอ๋อร์ที่หมดสติในอ้อมแขนของเย่เฟิง ทั้งสามคนนี้มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?
ไม่ว่าคนพวกนั้นจะเร็วขนาดไหนก็ไม่มีทางแซงสปีดโบตลำนี้ได้ ยิ่งกว่านั้น อีกฝ่ายอยู่ใกลู้เาน้ำแข็งที่กำลังจมลง ทั้งยังถูกสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติปิดล้อม ทำไมถึงมาอยู่ตรงนี้ได้?
“เจอแล้ว”
ซูเฟยหยิ่งถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นน้ำแข็งพันปีในมือของหลงโม่หราน ริมฝีปากบางของเธอจึงโค้งขึ้นแ่เบาขณะลอยตัวอยู่เหนือน้ำทะเล
หญิงสาวยกแขนขาวเนียนและตีน้ำทะเล ชั่วพริบตากำแพงน้ำแข็งก็โผล่ขึ้นจากน้ำทะเลและขยายไปทางสปีดโบตสีขาวอย่างรวดเร็ว กำแพงน้ำแข็งที่โผล่ขึ้นมานี้สูงถึงสองเมตรและหนาเกือบครึ่งเมตร
หลงชิงที่อยู่บนสปีดโบตไม่อาจตอบสนองได้ทัน เรือทั้งลำจึงกระแทกกำแพงน้ำแข็งอย่างจังจนเกิดหลุมขนาดใหญ่ น่าเสียดายที่สปีดโบตสีขาวแข็งแรงไม่พอ จึงไม่อาจทะลุกำแพงน้ำแข็งแล้วแล่นต่อไปได้ ต้องหยุดอยู่หน้าซูเฟยหยิ่งในที่สุด
ภาพเหตุการณ์นี้ทำให้หลงโม่หรานที่ตั้งตัวไม่ทันต้องใ แค่ตีกระทบน้ำทะเลก็สร้างกำแพงน้ำแข็งเช่นนี้ได้ ผู้หญิงคนนี้แข็งแกร่งถึงขั้นไหนกัน? ทำไมถึงมีความสัมพันธ์อันดีเช่นนี้กับเย่เฟิง?
สีหน้าของหลงโม่หรานเปลี่ยนไปทันที คิดไม่ถึงเลยว่าหญิงสาวที่ถูกแช่แข็งจะได้รับการช่วยเหลือและปรากฏตัวพร้อมเย่เฟิง ไม่ต้องถามก็รู้ว่าจุดประสงค์ของอีกฝ่ายคือน้ำแข็งพันปีที่อยู่ในมือของเขานั่นเอง
เดิมที การที่เย่เฟิงและอีกสองคนปรากฏขึ้นต่อหน้าเขาเป็เื่ที่ดี เพราะเขาจะได้เก็บทั้งสมบัติและสาวงามคนนี้ไปพร้อมกัน แต่ทันทีที่เห็นซูเฟยหยิ่งสร้างกำแพงน้ำแข็งขึ้นมา เขาพลันรู้สึกวูบโหวงขึ้นมาทันที!
จากท่าทางของเย่เฟิงและซูเฟยหยิ่ง หลงโม่หรานดูออกทันทีว่าหญิงสาวผู้นี้แข็งแกร่งยิ่งกว่าเย่เฟิง ถึงเย่เฟิงจะสามารถใช้วิชากระบี่ได้น่าใ แต่ดูท่าแล้วความแข็งแกร่งของหญิงสาวคนนี้จะมากกว่าเป็อย่างยิ่ง
คาดเดาไม่ได้!
เขานึกออกเพียงสี่คำนี้ที่จะอธิบายถึงซูเฟยหยิ่งได้
ตอนนี้เขาควรทำอย่างไร?
มีทางเดียวที่หลงโม่หรานนึกออก อันดับแรกคือการพูดคุยกับซูเฟยหยิ่งเพื่อให้อีกฝ่ายวางใจและลดความระมัดระวัง จากนั้นทำให้เธอสลบและพากลับตระกูลหลง...
“ฉันคือหลงโม่หราน ขอทราบนามแม่นางได้หรือไม่?”
หลงโม่หรานยืนอยู่บนสปีดโบต ชุดคลุมสีขาวที่เขาสวมใส่ปลิวไสวตามสายลม ช่างดูสง่างามและภูมิฐาน น่าเสียดายที่นั่นเป็การกระทำที่ผิดมหันต์ของเขา
ซูเฟยหยิ่งไม่สนใจหลงโม่หรานแม้แต่น้อย เธอผายมือขาวเนียนออกมา ทันใดนั้นมวลอากาศก็ขยับคล้ายมีิญญาฉกชิงน้ำแข็งพันปีจากมือหลงโม่หราน
นั่นก็คือหยางเสินที่ถือกำเนิดขึ้นหลังจากเธอมีระดับพลังบ่มเพาะหนึ่งร้อยปี
เมื่อเทียบกับหยินเสินแล้ว หยางเสินนั้นมีความสามารถกว่ามาก บนโลกเทวะนั้น หากไม่ได้ฝึกหยางเสินก็ไม่มีทางควบคุมสิ่งต่างๆ ได้ แต่บนโลกใบนี้ก็มีวรยุทธ์และลักษณะพิเศษที่คล้ายกับวิชาเซียนนี้นั่นก็คือ วิชากรงเล็บั
ผลึกน้ำแข็งพันปีถูกซูเฟยหยิ่ง่ชิง เธอถือมันสักพักก่อนส่งต่อให้เย่เฟิง
“ถือไว้”
น้ำเสียงคราวนี้ฟังดูอ่อนโยนและเอาใจใส่ นี่เป็อีกด้านที่ซูเฟยหยิ่งจะแสดงออกมาเมื่ออยู่ต่อหน้าเย่เฟิงเท่านั้น
“ครับ”
เย่เฟิงไม่ลังเลที่จะถือน้ำแข็งพันปีไว้ในมือ เขาััได้ถึงจิติญญาของสมบัติชิ้นนี้ แต่เวลานี้มันดูไร้ชีวิตชีวาและเหลือพลังอยู่เพียงน้อยนิด เขาจึงเงยหน้ามองคนทั้งสามที่อยู่บนสปีดโบต
ทั้งหลงโม่หราน หลงจื่อ และหลงชิงต่างกำลังตกตะลึงเพราะซูเฟยหยิ่ง สถานการณ์ที่คล้ายกับิญญาเมื่อสักครู่คืออะไรกัน หลงโม่หรานยังไม่ทันตอบสนอง น้ำแข็งพันปีที่อยู่ในมือก็ถูกซูเฟยหยิ่ง่ชิงไปแล้ว!