อย่างไรน้องห้าก็เป็เพียงเด็กอายุสิบสาม ใน่นี้ได้ออกไปขายของในเขตกับเฉินเนี้ยนหราน จึงเลียนแบบคำพูดพวกนี้มาด้วย
ป้าฝูที่เพิ่งจะย้ายมาใหม่ได้ยินเข้าก็หัวเราะออกมาด้วยความชอบใจ ก่อนจะยัดลูกอมใส่เข้าไปในมือของนาง “เอาไปเถิด ที่ป้ายังมีอยู่ ที่เรือนของข้าก็มีลูกที่โตกว่าเ้าอยู่หน่อย วันนี้ยังเก็บของอยู่ที่นู่น ต่อไปคงมาวิ่งเล่นกับพวกเ้าแล้ว”
ป้าฝูคนนั้นจูงมือสองพี่น้องมาสอบถามอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อรู้ว่าที่เรือนยังมีพี่สาวอีกคน ก็บอกว่าเดี๋ยวจะมาทักทายเพื่อนบ้านอย่างเป็ทางการ ครั้งนี้แค่มาดูที่และทำความรู้จักคนอื่นๆ เท่านั้น
เด็กๆ เมื่อได้ลูกอม ก็วิ่งไปแบ่งกันด้านข้าง เด็กชายซานมองทั้งสองคนอย่างตื่นเต้น “คนที่ย้ายมาใหม่ไม่เลวเลยนะ หลายปีมานี้มีคนย้ายมาที่หมู่บ้านพวกเราเรื่อยๆ แต่ข้าเห็นว่าพวกเ้ากับคนที่มาใหม่คนนั้นดี ได้ยินมาว่าครอบครัวนี้มีกันหลายคน ข้าคิดแล้วว่ามีกี่คนนะ? ครอบครัวป้าฝูกับสามี พี่น้องของนาง และลูกของนางสามคน หยา พอนับดูแล้วมีกันตั้งหกคนเชียว ซื้อที่ดินไปหลายสิบไร่ จุ๊ๆ ช่างร่ำรวยเสียจริง”
เด็กชายซานกำลังถอนหายใจ แต่น้องห้ากลับชะงักแล้วพูดออกมาประโยคหนึ่ง “แต่ข้าว่า พวกเขาไม่แน่อาจจะเป็แค่เ้าของเรือน เรือนหลังนี้ ไม่แน่ว่าจะสร้างมาให้พวกเขาอยู่”
“หา?” เด็กชายซานกับน้องหกชะงักไป ต่างพากันมองไปทางนางอย่างไม่เข้าใจ “ทำไมเล่า?” ทั้งสองถามออกมาเป็เสียงเดียวกัน
“ไม่ทำไมหรอก เพียงแค่ความรู้สึกน่ะ ช่างเถอะ จะเป็เช่นนั้นหรือไม่ ต่อไปก็รู้เอง”
พอกลับเรือนก็พูดถึงเื่เพื่อนบ้านที่ย้ายมาใหม่ น้องหกก็ปากไวพูดคำพูดของน้องห้าออกมา
“ท่านพี่ ท่านพี่ พี่ห้าพูดว่า คนที่มาไม่แน่ว่าจะเป็เ้าของที่แท้จริง นางบอกว่าที่คนคนนั้นพูดอาจจะแค่มาช่วยคนดูแลเรือนเท่านั้น ท่านพี่คิดว่าจริงหรือไม่?”
มือที่กำลังสอยเข็มของเฉินเนี้ยนหรานหยุดลง และมองไปทางน้องห้าด้วยความประหลาดใจ น้องห้าที่ถูกมองก็หน้าแดง
นางถลึงตามองไปยังน้องหก ก่อนจะอธิบายออกมาอย่างกระอักกระอ่วน “ท่านพี่ ข้าเองก็ไม่แน่ใจ แค่...คาดเดาน่ะเ้าค่ะ เป็เพียงความรู้สึกเท่านั้น คำพูดที่ป้าฝูคนนั้นพูดกับข้า ทำให้ข้านึกถึงคนที่มาซื้ออาหารให้เ้านายที่ร้านค้าของเราเมื่อก่อน...เป็ความรู้สึกเช่นนั้น”
เฉินเนี้ยนหรานหัวเราะออกมา น้องห้าคนนี้ช่างสังเกตได้ละเอียดนัก นางยกมือไปลูบเส้นผมนุ่มของอีกฝ่าย
“ไอ๊หยา น้องห้าของข้าโตแล้ว แม้แต่ท่าทาง รอยยิ้มและการกระทำของคนอื่นก็สามารถสังเกตออกมาได้ ไม่เลวเลย ไม่เลว ต้องฝึกเป็คนละเอียดสักหน่อย จะได้รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของผู้คน ต่อไปความฉลาดนี้จะต้องพัฒนาขึ้นอีก เจอเื่ใดก็ให้มันผ่านเข้ามาในสมองสักครู่ ไตร่ตรองว่าคืออะไร คือสิ่งใด?”
โอกาสเดียวกัน บางคนสามารถคว้ามันไว้ได้ บางคนก็คว้าเอาไว้ไม่ได้ ความจริงแล้ว์ได้ให้โอกาสกับทุกคน เพียงแต่โอกาสนี้ มีเพียงบางคนเท่านั้นที่คว้าเอาไว้ได้สำเร็จ แต่ก็มีบางคนที่พลาดไป
และการคว้าโอกาสกับความสามารถในการสังเกตการณ์โดยละเอียดล้วนแยกจากกันไม่ได้ น้องห้าพัฒนาเช่นนี้ไปเรื่อยๆ เมื่อแต่งงานไป การใช้ชีวิตในแต่ละวัน นางคงไม่ลำบากมากนัก
เมื่อคิดเช่นนี้ ริมฝีปากของเฉินเนี้ยนหรานก็เผยรอยยิ้มงดงาม
เจอรอยยิ้มให้กำลังใจเช่นนี้ น้องห้าจึงพูดการคาดเดาของตนเองออกมา “ความจริงแล้ว...ข้าเห็นมือเท้าของนางใหญ่ รอยยิ้มนั้น แค่ดูก็รู้แล้วว่าเป็รอยยิ้มของคนช่างประจบ สรุปแล้วก็คือความรู้สึกของข้า ที่รู้สึกว่านางไม่เหมือนกับสตรีที่เป็เ้าของเรือน”
เฉินเนี้ยนหรานหัวเราะเหอะๆ ยกมือขึ้นไปลูบหัวนาง ถึงได้พบว่าใน่ที่ไม่รู้ตัวนี้ น้องห้าได้สูงขึ้นมาอีก
นางไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่ในใจกลับคิดว่า สักวันจะต้องไปทักทายเพื่อนบ้านใหม่เสียหน่อย ความจริงแล้วนางก็ประหลาดใจ ว่าเหตุใดน้องห้าจึงมีความรู้สึกเช่นนี้
“ก่อนหน้านี้ยุ่งเกินไป ครั้งนี้เข้าเมืองไปปิดบัญชี ข้าจะต้องซื้อเสื้อผ้าให้พวกเ้าสักสองสามชุดเสียแล้ว อีกไม่กี่ปีน้องห้าจะโตเป็สตรีเต็มวัย น้องห้า บอกข้าสิว่าต่อไปเ้าจะหาสามีเช่นไร เอาเช่นนี้ดีหรือไม่ ข้าจะช่วยเ้าดูแล้วหมั้นเอาไว้ก่อน ส่วนเื่แต่งงานก็รออีกสักหน่อย”
เื่นี้ไม่ได้ล้อน้องห้าเล่น ครั้งก่อนหลังจากที่น้องห้าเคยเปรยไว้ว่าจะหาสามี นางก็เข้าใจถึงความคิดของน้องห้าที่ยังเป็ความนึกคิดของคนในยุคโบราณ ในความคิดของพวกนาง การหาสามีที่ดี แต่งงานกับบุรุษที่ดี เป็เื่ที่ใหญ่ที่สุดในชีวิต
น้องห้าคาดไม่ถึงว่านางจะย้ายหัวข้อสนทนามาที่ตัวเองไวเช่นนี้ จึงชะงักไป มองเฉินเนี้ยนหรานด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านพี่รังแกน้องห้า ไม่ได้ ข้าไม่แต่ง ข้าจะอยู่กับท่านพี่และน้องหก ข้าชอบอยู่กับพวกท่าน ไม่ต้องให้ข้าแต่งงาน ข้าไม่อยากแต่งออกไป”
คำพูดเื่แต่งงานของน้องห้าในตอนนี้ รวมทั้งท่าทางที่ติดจะร้อนรนนั้น ถึงกับทำให้เฉินเนี้ยนหรานตกตะลึง ดูเหมือนว่าหลังจากน้องห้าได้มาอยู่กับนาง ความรู้สึกนึกคิดจะเปลี่ยนไป
วันต่อมา เพื่อนบ้านใหม่ถือตะกร้าขนาดใหญ่พร้อมทั้งพาลูกชายของตนมาทักทายเฉินเนี้ยนหรานซึ่งเป็เพื่อนบ้านใหม่
สำหรับคนที่เพิ่งจะย้ายมาใหม่ จะต้องถือของขวัญมาทักทาย แต่หลังจากรับตะกร้าที่ป้าฝูถือมา เฉินเนี้ยนหรานก็รู้สึกว่า เพื่อนบ้านใหม่คนนี้ใจกว้างกับพวกนางมากไปเสียหน่อย
“ไหนๆ ก็มาแล้ว เหตุใดจะต้องเกรงใจกันเช่นนี้เล่าเ้าคะ ท่านป้ารีบเข้ามานั่งในเรือนก่อนเถิดเ้าค่ะ”
ในขณะที่ต้อนรับ เฉินเนี้ยนหรานก็พิจารณาเพื่อนบ้านใหม่ไปด้วย ใบหน้ากลมใหญ่ ผมที่รวบมัดตึงไปด้านหลัง ้าทัดด้วยปิ่นปักผม สวมเสื้อผ้าสะอาดสะอ้านแบบคนดูแลเรือน
ธรรมดา แต่ยังคงความสะอาดเอาไว้ มือเท้าใหญ่ ผิวคล้ำ อย่างที่น้องห้าได้บอกเอาไว้ สตรีคนนี้แค่มองก็รู้ว่าเป็คนที่ทำงานเป็ปกติ
เช่นเดียวกันในตอนที่นางมองมาที่เฉินเนี้ยนหราน รอยยิ้มแฝงไปด้วยความระมัดระวัง ทั้งยังมีความอยากรู้อยากเห็น ราวกับว่านางเคยได้ยินเื่ของตนมาก่อนแล้ว วันนี้แค่มาพิจารณาดูอย่างสนใจใคร่รู้เท่านั้น
ความรู้สึกนี้ช่างประหลาดเสียจริง แต่ความประหลาดนี้ก็ถูกเฉินเนี้ยนหรานโยนไปด้านหลัง บางทีอาจเป็เพื่อนบ้านที่มาไต่ถามเพราะความสนใจเพียงเท่านั้น
ขณะที่นางพิจารณาป้าฝู ป้าฝูเองก็พิจารณานาง
สตรีตรงหน้าถึงแม้จะสวมชุดกระโปรงแบบสตรีชาวสวน ผมมัดขึ้นไปอย่างเรียบง่าย
แต่ใบหน้ารูปไข่ขาวนุ่มนั้นมีสีแดงระเรื่อ ดวงตากลมโตสดใสสีดำที่สามารถดึงดูดใจคน แค่ยิ้มออกมาลักยิ้มทั้งสองข้างก็ปรากฏออกมาตรึงใจคน ราวกับความกังวลทั่วทั้งโลกได้หนีห่างตัวนางไป สตรีคนที่ทำให้คนมองรู้สึกสบายใจ ถึงว่า...
“นั่งเถิด ท่านป้า”
เมื่อเห็นว่าสตรีตรงหน้าเพียงแค่มองตนอย่างพิจารณา เฉินเนี้ยนหรานก็รีบยิ้มทักทาย ทั้งยังยกผลไม้แห้งที่ซื้อจากในอำเภอมาให้
“มาเถิด ลองทานผลไม้แห้งหน่อยเถิดเ้าค่ะ”
ป้าฝูที่ถูกทำดีด้วยถึงกับใ จนลุกขึ้นยืมเตรียมตัวจะเอ่ยลา อาจเพราะคิดได้ว่าเป็เช่นนี้ไม่ถูกต้อง จึงหยิบผลไม้แห้งขึ้นมาบางส่วนด้วยความลำบากใจ “ได้สิ แม่นางช่างเกรงใจเสียจริงนะ”
“ไม่ต้องเรียกข้าว่าแม่นางหรอก ข้าเองก็เป็คนที่เคยแต่งงานมาแล้ว” เฉินเนี้ยนหรานเลิกคิ้ว ก่อนจะเมินท่าทีแปลกใจของป้าคนนี้
ทั้งสองคนนั่งลง ป้าฝูเห็นว่านางกำลังทำชุดเด็กอยู่ จึงรู้สึกประหลาดใจ “โอ้ นี่คือ?”
“อ๋อ ไม่ใช่เ้าค่ะ เป็พี่ใหญ่ของข้ากำลังตั้งครรภ์อยู่ ตอนนี้น่าจะอยู่ในสวน พวกเราก็เลยช่วยทำชุดเด็กให้น่ะ” เฉินเนี้ยนหรานถึงได้พบว่าตัวเองประมาทไปจริงๆ ทำชุดเด็กต่อหน้าคนพวกนี้ได้อย่างไร ดูเหมือนว่าต่อไปจะต้องระวังตัวมากกว่านี้ ยังดีที่นางเรียกสองสามีภรรยาหนิวซื่อกับสามีว่าพี่ใหญ่กับพี่สะใภ้
คนภายนอกยังไม่รู้ว่าสองคนนั้นเป็คนงานที่นางซื้อมา แน่นอน นางเองก็ไม่เคยเห็นว่าพวกเขาเป็คนรับใช้ ในความคิดของนาง พวกเขาเป็เพียงคนที่มาทำงานเพื่อแลกเงินกินข้าวเท่านั้น
“ไอ๊หยา ฝีมือไม่เลวจริงๆ นะ” เฉินเนี้ยนหรานไร้คำจะเอ่ยตอบคำชมของป้าฝู ฝีมือของนางแย่มากจริงๆ ต่างหาก! ฐานที่ถักเริ่มต้นนั้นยุ่งเหยิงไปหมด
แต่นางทำเพียงแค่ยิ้ม
“ข้าว่าจะมาหานานแล้ว แต่ไม่มีเวลาว่างเลย ตอนนี้ถือว่าพอจะมีเวลาแล้ว” ป้าฝูพูดไป รอยยิ้มที่ส่งมายังแฝงไปด้วยความเคารพด้วย
รอยยิ้มเช่นนี้...ไม่ควรจะเอามาใช้กับเพื่อนบ้านใหม่ไม่ใช่หรือ?
ในตอนนั้นเอง ที่เฉินเนี้ยนหรานเข้าใจแล้วว่าเหตุใดน้องห้าถึงได้บอกว่านางไม่เหมือนเ้าของเรือน จากรอยยิ้มของนางก็ให้ความรู้สึกแปลกพิกลแล้ว แต่นางเองก็ไม่อาจนำลางสังหรณ์ไปตัดสินคนอื่น อย่างไรบนโลกใบนี้ก็มีคนที่ชอบทำตัวเป็ผู้น้อยอยู่
เพราะว่าเรือนใหม่มีคนดูแล ดังนั้นในวันนั้นป้าฝูจึงว่างมานั่งพูดคุยกับนาง กล่าวกันตามตรงแล้ว สถานการณ์เช่นนี้ไม่ค่อยจะเหมาะสมเท่าไรนัก
จะต้องรู้ว่าปกติแล้วยามที่สร้างเรือนงานจะยุ่งมาก ทุกคนต่างต้องรับหน้าที่สองอย่างพร้อมกันในเวลาเดียว
“ดูเหมือนว่าครอบครัวของป้าฝูจะไม่เลวเลยนะเ้าคะ ถือว่าเป็เศรษฐีในหมู่บ้านของพวกเราเลย” ระหว่างที่พูด เฉินเนี้ยนหรานก็หัวเราะเบาๆ
ป้าฝูมองไปรอบๆ ด้วยความลำบากใจ อธิบายออกมาเสียงเบา
“ความจริงแล้วพวกข้าแค่มาช่วยดูเท่านั้น เื่นี้...เ้าของเรือนของเราไม่ชอบความหรูหราในเมือง อาจจะมาพักผ่อนในที่เล็กๆ เช่นนี้ มีเื่ที่ฮวงจุ้ยดี ก็สามารถดูแลได้ง่าย”
เฉินเนี้ยนหรานยิ้มตาหยี แต่มันเป็เพียงแค่รอยยิ้มเรียบๆ
“ที่แท้เป็เช่นนี้เอง พวกเราก็คิดว่าป้าฝูช่างโชคดีเสียจริง แต่ดูจากที่เ้าของเรือนดูแลพวกท่านเช่นนี้ เชื่อว่าการมาที่นี่ของพวกเขา จะต้องให้ความสำคัญกับพวกท่านมากแน่นอน อยู่กับเ้านายเช่นนี้ อนาคตต้องไม่ลำบากเป็แน่”
“แน่นอน พวกเราพูดกับนายของเราเช่นนี้เหมือนกัน พี่น้องของเขาก็พูดเช่นนี้ตลอด นี่พวกเราไม่ได้พูดโม้โอ้อวดนะ เ้านายของเราดีมากเลย ทำงานเก่ง เื่ดูแลคนไม่ต้องพูดถึง เื่ดูแลจัดการก็ยิ่งถนัด ธุรกิจเล็กๆ ของพวกเราจะต้องไม่หยุดเพียงเท่านี้แน่ ได้ยินว่าต่อไปจะค่อยๆ พัฒนาอีก” ป้าฝูพูดถึงเ้านายของตัวเองด้วยความสดใส