ในขณะนั้นเอง จู่ๆ ฝูงยุงพิษที่มาจากสี่ทิศทางก็หยุดทันที หานอวิ๋นซีรู้ว่านี่เป็สัญญาณการโจมตีของพวกมัน
นางมองไปรอบๆ และตัดสินใจอย่างรวดเร็ว “ไปกันเถอะ!”
แน่นอนว่าหลังจากหยุดชั่วครู่ ฝูงยุงพิษก็รุมเข้ามาจากสี่ทิศทาง!
ทันใดนั้น หลงเฟยเยี่ยก็กอดหานอวิ๋นซีไว้ในอ้อมแขนด้วยมือหนา เขายกเสื้อคลุมขึ้นเพื่อโอบตัวนางไว้แน่น จากนั้นร่างของเขาก็สว่างวาบเป็รูปเหมือนสายฟ้าผ่านช่องว่างระหว่างกลุ่มเงาสีดำสองกลุ่ม
จะว่าหนึ่งเหมี่ยว[1]ก็เร็วเกินไป แต่จะว่าหนึ่งเหมี่ยวก็ช้าเกินไปเช่นกัน หลังจากที่หลงเฟยเยี่ยผ่านช่องแคบๆ ยุงพิษสี่ฝูงก็รวมกันเป็ฝูงใหญ่แล้วไล่ล่าพวกเขาอย่างบ้าคลั่ง
หลงเฟยเยี่ยยังคงเหาะขึ้นไปบนหน้าผาอย่างรวดเร็วโดยไม่หยุด ฝูงยุงพิษกำลังไล่ตามเขา ในขณะที่ไล่ล่า ฝูงยุงพิษฝูงใหญ่นั้นก็เปลี่ยนรูปร่างเป็ลูกศรที่แหลมคม พวกมันเร่งความเร็วและโจมตี
หานอวิ๋นซีถูกคลุมด้วยเสื้อคลุมอย่างแ่า ิัของนางไม่ได้โผล่ออกไปข้างนอกแม้แต่น้อย ทว่านางก็ยังได้ยินเสียง และเสียงหึ่งๆ นั้นมันน่าหนวกหูเสียเหลือเกิน สามารถพูดได้ว่าฝูงยุงพิษอยู่ใกล้พวกเขามาก และพวกมันก็กำลังโกรธ นั่นเป็เหตุผลที่ว่าทำไมถึงส่งเสียงดังขนาดนี้
หานอวิ๋นซีอยากจะโผล่หัวออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นจริงๆ พวกเขาใกล้จะถึงหน้าผาแล้วใช่หรือไม่?
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่กำลังคิด ทันใดนั้น เท้าทั้งสองก็แตะพื้น
ขึ้นมาถึงแล้วหรือ?
หานอวิ๋นซีมีความสุขอย่างมาก นางผละออกจากแขนของหลงเฟยเยี่ย เมื่อถอดเสื้อคลุมออก ก็เห็นว่าที่ก้นเหวมียุงพิษฝูงใหญ่อาศัยอยู่ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่กล้าขึ้นมา หลังจากนั้นไม่นานก็ค่อยๆ จมลงไปเหวลึก
หานอวิ๋นซีหันศีรษะไปมองหลงเฟยเยี่ย ยิ้มหวานท่ามกลางแสงแดด ”หลงเฟยเยี่ย ท่านเก่งกาจจริงๆ!”
หานอวิ๋นซีที่หันหลังให้ดวงอาทิตย์ ร่างของนางถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีทองจางๆ รอยยิ้มอันอ่อนหวานของนางราวกับดอกไม้ที่เบ่งบานท่ามกลางแสงแดด
เมื่อหลงเฟยเยี่ยมองไปที่นาง เวลาก็ดูเหมือนจะหยุดนิ่งไปทันใด
อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้า เขาก็พูดอย่างเ็าว่า ”คนขี้ขลาด”
หานอวิ๋นซีหยุดยิ้มทันที กระตุกมุมปากและกลอกตา นางี้เีเกินกว่าจะโต้เถียงกับเขา
ข้อมูลที่เพิ่งสแกนยังคงถูกเก็บไว้ในระบบการล้างพิษ นางกลัวจนไม่มีเวลาจะดึงมันออกมา นางหันหลังกลับ หลับตาและสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
ระบบล้างพิษเชื่อมโยงกับจิตสำนึกของนาง หากจิตใจนางยุ่งเหยิงเกินไป ระบบล้างพิษก็จะยุ่งเหยิงไปด้วย
“เ้ารู้หรือไม่ว่ามันเป็พิษชนิดใด?” หลงเฟยเยี่ยพูดอย่างเร่งเร้า
เขาคิดว่าหานอวิ๋นแค่มองดูและดมกลิ่นมัน
หานอวิ๋นซีรีบรวบรวมสติสัมปชัญญะ หันกลับมาและพูดอย่างจริงจังว่า “ท่านอ๋อง ยินดีด้วย ยุงพิษทั้งสี่ฝูงเป็ยุงพิษชนิดเดียวกัน เรียกว่ายุงแมงมุม กล่าวคือ พวกมันมีพิษชนิดเดียวกัน มีพิษชนิดเดียวกับพิษของแมงมุมแม่ม่ายดำที่เรียกกันทั่วไปว่าพิษแม่หม้าย”
ไม่รู้ว่าเป็หานอวิ๋นซีที่โชคดี หรือหลงเฟยเยี่ยที่โชคดีกันแน่ หานอวิ๋นซีได้ศึกษายุงแมงมุมที่แปลกประหลาดในยุคปัจจุบัน นี่เป็ปรากฏการณ์ที่แปลกมาก ยุงและแมงมุมมีพิษเหมือนกัน
และไม่ต้องสงสัยเลย ในระบบการล้างพิษของหานอวิ๋นซีก็มียาอยู่แน่นอน ไม่เพียงแต่ยาแก้พิษ แต่ยังมียาฆ่ายุงชนิดพิเศษด้วย
เมื่อได้ยินสิ่งที่หานอวิ๋นซีพูด หลงเฟยเยี่ยก็พยักหน้าและถามว่า ”เ้าต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการเตรียมยาแก้พิษ?”
“ท่านเดาสิ” หานอวิ๋นซียิ้ม และคิดที่จะเตรียมยาอย่างอารมณ์ดี
ทว่าหลงเฟยเยี่ยกลับค่อยๆ หรี่ตาที่แสนอันตรายนั้น
เอาเถอะ ไม่ว่าจะมีความสุขแค่ไหน ก็อย่าได้ล้อเล่นกับูเาน้ำแข็งนี้ ไม่งั้นได้ถูกแช่แข็งตายแน่ๆ
“ตอนนี้ก็มียาอยู่แล้ว!” หานอวิ๋นซีพูดอย่างเ็า
เมื่อเห็นหลงเฟยเยี่ยเลิกคิ้วขึ้นด้วยท่าทางไม่เชื่อ นางก็กระแอมเบาๆ แล้วหยิบยาแบบพ่นออกมาสองขวดและกล่องยาแก้พิษจากกระเป๋ายา
เมื่อหลงเฟยเยี่ยมองไปยังสิ่งแปลกประหลาดเหล่านี้ คิ้วที่หล่อเหลาก็ขมวดแน่นยิ่งขึ้น พร้อมกับใบหน้าที่ดูงุนงง
หานอวิ๋นซีแอบยิ้ม ยากนักที่จะได้เห็นูเาน้ำแข็งลูกนี้แสดงสีหน้าแบบนี้ เฮ้อ ต้องยอมรับว่าแม้กระทั่งท่าทางเวลาที่เขาขมวดคิ้ว มันก็ยังมีเสน่ห์เหลือเกิน
“นี่คือยาแก้พิษ นี่คือยาฆ่ายุง หลังจากกินยาแก้พิษแล้ว มันจะออกฤทธิ์ภายในหนึ่งชั่วยาม แม้ว่าจะถูกกัดก็ไม่เป็ไรและหลงเหลือแค่รอยแผลเท่านั้น ส่วนยาน้ำนี้สามารถฆ่ายุงเ่าั้ได้ แน่นอนว่าถ้าท่านไม่รังเกียจความสกปรกละก็ สามารถตบพวกมันให้ตายได้”
ขณะที่หานอวิ๋นซีกำลังแนะนำ นางก็สาธิตไปพลาง เมื่อกดยาพ่นเบาๆ ยาก็พ่นออกมาพร้อมกับส่งกลิ่นหอมจางๆ
หลงเฟยเยี่ยฟังและมองอย่างตั้งใจ ถึงแม้ว่ายาประเภทพ่นจะไม่คุ้นเคยสำหรับเขา แต่เขาก็เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว
หานอวิ๋นซีค้นพบเป็ครั้งแรกว่าชายผู้นี้มีเสน่ห์ที่สุดเวลาที่เขาจริงจัง!
อย่างไรก็ตาม ไม่นานหลงเฟยเยี่ยก็กลับมามีใบหน้าที่นิ่งเฉยตามปกติ “ไปเอาสิ่งเหล่านี้มาจากที่ใดกัน?”
“พิษแม่ม่ายเป็พิษทั่วไป แน่นอนว่าข้าต้องมียาสำรองอยู่แล้ว” หานอวิ๋นซีตอบอย่างใจเย็น โดยไม่สนว่าเขาจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม
“มันบังเอิญขนาดเตรียมไว้แล้วเลยหรือ?” หลงเฟยเยี่ยถามอีกครั้ง
หานอวิ๋นซียื่นยาแก้พิษให้ “สรุปแล้วท่านจะเอาหรือไม่?”
เช่นนี้หลงเฟยเยี่ยจึงยอมแพ้และรับยาแก้พิษมา จากนั้นก็ส่งเสื้อคลุมให้หานอวิ๋นซี
“ไม่ต้องหรอก ข้าไม่หนาวแล้ว” หานองวิ๋นซีคืนกลับไป
ทว่าหลงเฟยเยี่ยกลับผลักไสอีกครั้ง “เกิดเสียโฉมขึ้นมา ข้าไม่รับผิดชอบนะ”
ปรากฏว่า…
ตอนที่หนีมาเมื่อครู่ ใน่เวลาสำคัญขนาดนั้น การที่เขาห่วงและห่อนางไว้แน่นเพราะกลัวว่านางจะถูกกัด?
เอาเถอะ นางเสียโฉม เขาขายหน้า ครั้งหนึ่งเคยเป็เด็กสาวอัปลักษณ์มาก่อน และทำให้เขาอับอายขายหน้ามาหลายปีแล้ว
หานอวิ๋นซีเพิกเฉยต่อความรู้สึกอบอุ่นในใจ กินยาแก้พิษ ห่อเสื้อคลุมแน่นและสวมหมวกเพื่อปกปิดใบหน้าส่วนใหญ่
หลังจากจัดระเบียบเรียบร้อยแล้ว แขนแกร่งของหลงเฟยเยี่ยก็โอบเอวเล็กของนางเหมือนครั้งก่อนๆ แม้ว่าจะถูกกั้นด้วยเสื้อผ้าหนาๆ แต่หานอวิ๋นซีก็สามารถรู้สึกถึงความอบอุ่นจากฝ่ามือของเขาได้อย่างชัดเจน มันร้อนมากๆ
นึกไม่ถึงเลยว่าชายหนุ่มเ็าเช่นนี้ กลับมีมือที่แสนอบอุ่น...
ยุงพิษเ่าั้ฉลาดกว่ายุงธรรมดา หลงเฟยเยี่ยที่เพิ่งจะพาหานอวิ๋นซีลงเหว ก็ยังโดนยุงพิษสี่ฝูงล้อมจากสี่ทิศทาง ครั้งนี้ความเร็วเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม ราวกับมันกำลังรอให้พวกเขาลงมา
โดยไม่คาดคิด แทนที่จะหลบซ่อน หลงเฟยเยี่ยกลับบินตรงไปยังฝูงยุงพิษสีดำที่อยู่ตรงหน้า!
“อ๊าย!”
หานอวิ๋นซีไม่คาดคิดเลยว่าชายผู้นี้จะเล่นแบบนี้
แม้ว่าจะมีภูมิคุ้มกันและมียาฆ่ายุงเพื่อป้องกันตัว แต่หัวใจของหานอวิ๋นซีก็เต้นเร็วขึ้นเมื่อจมอยู่ในความมืดมิดของยุงนับหมื่นตัว มันน่ากลัวและน่าขยะแขยงเกินไป!
แม้ว่านางจะสวมเสื้อคลุมเพื่อปกปิดศีรษะแล้ว แต่นางก็ยังรู้สึกได้ชัดเจนว่ามียุงจำนวนมากบินเข้าหาและไต่ไปทั่วร่างกาย เสียงหึ่งๆ ทำให้นางกลัวจนแทบจะหายใจไม่ออก
นางไม่คิดจะใช้แม้แต่ยาฆ่ายุง เพียงแต่ในไม่ช้า อาการหวาดกลัวทั้งหมดก็หายไป หลงเฟยเยี่ยกอดนางไว้ในอ้อมแขนแล้วฝ่าฝูงยุงพิษออกไปอย่างรวดเร็วและอยู่ให้ห่างที่สุด
หานอวิ๋นซีโผล่ศีรษะออกมา สูดอากาศบริสุทธิ์ลึกๆ และเห็นอีกครั้งว่ายุงพิษทั้งสี่ฝูงได้รวมเป็หนึ่งอีกครั้งตรงหน้าพวกเขา
ดูเหมือนว่าพวกมันจะมีภูมิคุ้มกัน ยุงพิษก็ไม่ดุร้ายเหมือนก่อนหน้านั้น พวกมันเผชิญหน้ากับพวกเขาเพียงครู่เดียว แล้วก็ถอยออกไป
“ยุงก็รู้จักตัวเองเหมือนกันสินะ” หานอวิ๋นซีพูดติดตลก
อย่างไรก็ตาม หลงเฟยเยี่ยที่ไม่พูดไม่จาก็กอดนางไว้แน่น และเหาะผ่านฝูงยุงพิษไปอย่างรวดเร็ว
ครั้งนี้ เขาไม่ได้แค่ผ่านไปอย่างง่ายๆ ทว่ากลับหยุดตรงหน้ากลุ่มมวลสีดำและหยิบยาฆ่ายุงขึ้นมาฉีดใส่มัน!
ด้วยการพ่นนี้ กลุ่มมวลสีดำก็กระจายออกไป ยุงพิษที่อยู่ข้างหลังก็ใกลัวและเริ่มถอยออกไป
เมื่อเห็นสิ่งนี้ หานอวิ๋นซีก็รู้สึกมีความสุขเป็อย่างยิ่ง หยิบยาฆ่ายุงออกมาและฉีดลงบนมวลกลุ่มสีดำ เรียกได้ว่าฉีดไปเพียงครั้งเดียว มวลสีดำก็แตกแถวกัน ไม่รู้ว่ายุงพิษนั้นกลัวจนโง่ไปแล้วหรือไม่ พื้นที่ใหญ่ขนาดนั้นแต่กลับหยุดกลางอากาศ แล้วก็ไม่หนีอีก
หานอวิ๋นซียิ่งฉีดก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นก็ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าหมอ ซึ่งความจริงแล้วคือระบบล้างพิษ หยิบขวดยาพ่นออกมา ขวดหนึ่งในมือซ้าย อีกขวดหนึ่งในมือขวา ฉีดพ่นด้วยมือทั้งสองข้าง อย่างเท่สุดๆ! ไม่นานกลุ่มมวลสีดำก็หายไปเป็บริเวณกว้าง พร้อมกับยุงพิษที่ตกลงมาทั่วพื้น
ในที่สุด ยุงพิษที่อยู่ยงคงกระพันเสมอมาก็มีปฏิกิริยา หนีไปตามทางของมันเอง และกลุ่มมวลสีดำก็สลายไปในพริบตา
หานอวิ๋นซีดีใจและหัวเราะออกมา “ข้าเป็ฝ่ายชนะ!”
หลงเฟยเยี่ยเอียงศีรษะและมองลงมา จ้องมองที่นางราวกับกำลังตรวจสอบเหยื่อ
หานอวิ๋นซีรู้สึกขนหัวลุกขึ้นมาทันที นางเงยศีรษะขึ้นมองโดยไม่รู้ตัวและพบกับการจ้องมองที่ลึกล้ำของเขา นางผงะเล็กน้อยและหุบยิ้มทันที การยิ้มให้กับคนที่ไม่ยิ้มตอบนั้น เรียกได้ว่าเป็การสิ้นเปลืองพลังงาน
หลงเฟยเยี่ยมองไปทางอื่นและไม่พูดอะไร
เหวนี้ถูกปิดเป็รูปตัว “V” คว่ำล้อมรอบด้วยหน้าผาแห้งแล้งซึ่งสามารถมองเห็นได้ทั้งหมดและไม่มีทางที่จะซ่อนผู้คนได้ ดังนั้นสายลับของอาณาจักรทางเหนือจะสามารถซ่อนตัวได้ที่ก้นเหวเท่านั้น
หลงเฟยเยี่ยพาหานอวิ๋นซีลงไป ระหว่างทางก็ไม่มีสิ่งใดกีดขวาง ด้านล่างของเหวเป็กองหินที่แห้งแล้งและไม่มีใบหญ้างอกขึ้นมา
พวกเขาหยุดลงบนก้อนหินที่สูงที่สุด หลงเฟยเยี่ยยังคงอุ้มหานอวิ๋นซีไว้ในอ้อมแขน ดวงตาสีดำอันเ็าของเขากวาดมองไปรอบๆ
ทันใดนั้น ก็มีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นจากอากาศและหยุดลงบนก้อนหินตรงข้ามพวกเขา นั่นคือสายลับของอาณาจักรเหนือที่หลงเฟยเยี่ยกำลังตามล่า อย่างไรก็ตาม หานอวิ๋นซีกลับเต็มไปด้วยความแปลกใจ คิดไม่ถึงว่าสายลับจะเป็สตรีและเป็แค่สตรีบอบบางนางหนึ่ง
นางไม่สูง แต่รูปร่างของนางก็พอใช้ได้ สัดส่วนโค้งเว้าก็สง่างามและสวยที่สุดในบรรดาผู้คน ความงามและความอ่อนโยนของนางนั้นมากกว่ามู่หรงหว่านหรูถึงสามเท่า แม้จะไม่ได้เอ่ยปากพูดสิ่งใด แต่ก็ทำให้ผู้คนรู้สึกสงสารและััได้ถึงความเปราะบาง
หากเจอสตรีเช่นนี้ นับประสาอะไรกับบุรุษ แม้แต่สตรีด้วยกันเองยังอยากจะปกป้องโดยไม่มีเหตุผล
ทันทีที่ปรากฏตัว นางก็น้ำตาไหลพรากและขอร้องอย่างน่าสมเพช “ฉินอ๋อง หม่อมฉันผิดไปแล้วเพคะ หม่อมฉันไม่กล้าอีกแล้ว ได้โปรดยกโทษให้หม่อมฉันด้วย!”
“ฉินอ๋อง หากท่านไว้ชีวิตหม่อมฉัน ท่าน้าให้หม่อมฉันทำอะไร หม่อมฉันก็จะยอมทำทั้งหมด!”
น่าเสียดายที่หลงเฟยเยี่ยไม่ได้เป็บุรุษที่ทะนุถนอมอ่อนโยนต่อสตรี เขาไม่ได้พูดอะไรไร้สาระ จากนั้นก็ปล่อยหานอวิ๋นซีและชักดาบยาวออกมา
เมื่อเห็นว่าการร้องขอความเมตตาไม่ได้ผล สายลับหญิงก็หันหน้ามาทันที ดวงตาที่ชั่วร้ายของนางมองไปที่หานอวิ๋นซี และรีบชักดาบออกมาเตรียมที่จะตอบโต้
ขณะที่นางกำลังชักดาบ หานอวิ๋นซีก็กระซิบว่า “ระวังด้วย ดาบของนางมีพิษ”
หลงเฟยเยี่ยคิดไว้ในใจแล้วว่าเขาจะไม่พลาดเป็ครั้งที่สอง หากรู้แต่แรกว่าสตรีผู้นี้สามารถใช้พิษได้ เขาคงไม่ประมาทและได้รับาเ็อย่างครั้งก่อน
“หลงเฟยเยี่ย หม่อมฉันประหลาดใจจริงๆ ที่ท่านลงมา แต่หม่อมฉันรับประกันได้เลยว่าท่านจะไม่มีทางกลับขึ้นไปได้อีก!”
สายลับหญิงพูดขึ้น ทว่าก็ไม่ได้โจมตี แต่หันหลังกลับและหนีไป หลงเฟยเยี่ยไล่ตามเขาด้วยดาบในมือ ความเร็วราวกับสายฟ้า เพียงครู่เดียวเขาก็ไปอยู่ตรงหน้าสายลับหญิงแล้ว
เขายังคงหวงแหนคำพูดของเขาราวกับทองคำ ไม่พูดเื่ไร้สาระและฆ่าด้วยดาบทันที
ทว่าขณะเดียวกัน สายลับหญิงก็หลบอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ส่งเสียงผิวปากที่แหลมอย่างมากออกมา ซึ่งดังก้องไปทั่วหุบเขา
----------------------------------
[1] เหมี่ยว คือ วินาที