เมื่อถึงวันแต่งงานที่จัดขึ้นอย่างใหญ่โตภายในบ้านของพรดาราที่ตึกใหญ่ ภายในงานที่ห้องรับแขกมีแต่ผู้ใหญ่ของทั้ง 2 ฝ่าย พรดาราก็สวมแหวนให้ของขวัญเป็แหวนเพชรที่สั่งทำขึ้นมาเพียงวงเดียวให้กับน้อง เพชรไม่ได้ใหญ่มาก แต่น้ำงามมากที่เดียว ส่วนของขวัญก็เอาแหวนของแม่สวมให้เขา ถึงจะไม่หรูหราเท่าที่เขาให้ แต่ก็เป็ของเก่าแก่ที่คุณยายของเธอให้คุณแม่ไว้ และส่งต่อมันมาถึงเธอ แม้ภายในใจของขวัญจะไม่ได้รักพรดาราแต่ก็รู้สึกดีด้วยไม่น้อย ทำให้หน้าตาของเ้าสาวคนสวยไม่ได้เศร้าหมอง แต่ก็ไม่ได้ยิ้มแย้มอะไรมากมาย แค่ทำตามหน้าที่และหน้าตาทางสังคมของทั้งสองฝ่าย จนงานจบลงเธอก็พาน้องกลับไปที่บ้านของเธอที่เตรียมไว้ให้เ้าสาวเพียงคนเดียวของเธอก็คือของขวัญ เธอบอกน้องว่า
“นับจากนี้ไป บ้านหลังนี้คือบ้านของเรานะคะ เราจะอยู่ด้วยกันที่นี่ เธออยากทำอะไรก็ได้ตามสบาย เธอเป็นายหญิงของที่นี่ ถ้ายังอยากจะไปทำงานเธอก็ไป แต่ถ้าไม่อยากทำก็อยู่ที่บ้านคอยดูแลคุณพ่อคุณแม่ หรือจะทำอะไรที่เธอชอบก็ได้นะ ฉันตามใจเธอ” ของขวัญลอง ขอพรดาราเื่เรียนต่อดู
“ถ้าฉันอยากเรียนต่อป.โท และป.เอกละคะ คุณดาราจะให้เรียนมั้ย”
“อืมได้สิ ว่าแต่จะเรียนด้านไหนล่ะ”
“จริงๆ ที่ฉันอยากทำและชอบมาก ไม่ใช่การโรมแรมหรอกคะ ฉันอยากเรียนสถาปัตยกรรม ฉันอยากออกแบบโครงสร้างอาคารและบ้านสวยๆ แต่ที่ฉันเรียนการโรมแรม เพราะคุณพ่ออยากให้ฉันมาทำงานที่เดียวกับท่านก็เลยไม่อยากขัดใจ แต่ตอนนี้คุณดาราเป็เ้าของชีวิตของฉันแล้ว ฉันจึงอยากลองขอตรงๆ”
“ดีแล้วคะที่บอกฉันตรงๆ เธออยากจะเรียนอะไร เรียนสูงแค่ไหนฉันก็ไม่ขัดข้องหรอกนะ ฉันสนับสนุน ดีซะด้วยซ้ำ เธอจะได้ทำงานอยู่ที่บ้าน หรือถ้าวันไหนอยากจะไปเปลี่ยนบรรยากาศพักที่เพนท์เฮ้าส์ก็บอกฉัน ฉันจะพาไป แต่ก่อนเธอจะเรียน ฉันจะพาเธอไปเมืองนอกก่อนนะ เราต้องจดทะเบียนกันก่อน ตกลงมั้ยคะ”
“คุณดาราจะไม่รอให้แน่ใจก่อนหรือคะ ถ้าฉันรักคุณดาราไม่ได้ คุณจะได้ไม่ต้องมาหย่ากับฉันให้เสียเวลา”
“ไม่เป็ไร ฉันรอได้ ไม่ว่านานแค่ไหน ฉันรอให้เธอเปิดใจนะ เด็กดื้อของฉัน จดทะเบียนกับฉันนะคะ ให้ฉันได้ปกป้องดูแลเธอโดยสมบูรณ์เถอะนะของขวัญ อย่างน้อยทะเบียนสมรสก็ช่วยคุ้มครองทั้งเธอและฉันได้มากเลยนะ ถ้าเกิดอะไรที่ไม่คาดฝันขึ้น ทั้งเธอและฉันจะได้เซ็นอนุญาตได้ทันทีไงคะ ไม่ดีหรือไง”
“คะ เข้าใจแล้ว งั้นแล้วแต่คุณดารา ฉันก็จะทำตามหน้าที่ของฉันให้ดีที่สุด ใน่ที่ฉันเป็ภรรยาของคุณ ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่นอกใจคุณ”
“ฉันรู้ว่าเธอไม่ทำแบบนั้นหรอก เธอไม่มีทางนอกใจฉันแน่นอน”
พรดารากอดเ้าสาวของตัวเองไว้ และพาไปยังเตียงนำพาเธอเข้าสู่ห้วงสวาท ซึ่งเธอก็รู้หน้าที่ของตัวเองดีว่าต้องตอบสนองสามียังไง เธอทำให้พรดาราหลงเธอขึ้นทุกวัน จนผ่านพ้นค่ำคืนอันแสนหวานและเร่าร้อนมาด้วยกัน พรดาราได้พาเธอเดินทางไปจดทะเบียนสมรส และพาเธอเที่ยวที่ต่างประเทศอยู่เป็เดือน มีวันหนึ่งพราดาราถามกับเธอว่า
“ฉันอยากมีลูกกับเธอนะของขวัญ ขอลูกให้ฉันสัก3คนได้มั้ย”
ของขวัญมองหน้าสามีของตัวเองและบอกว่า
“ฉันขอเวลาหน่อยได้มั้ยคะ ขอเวลาจนกว่าจะจบป.เอก ฉันอยากจะมั่นใจว่าฉันรักคุณได้จริงๆ และอยากสร้างครอบครัวกับคุณจริงๆ เมื่อถึงวันนั้น เราค่อยมาคุยกันเื่ลูกได้มั้ย”
“อืม ฉันจะรอ ขอแค่เธอไม่ปิดกั้นใจตัวเองก็พอ ซื่อสัตย์กับใจตัวเองด้วยนะของขวัญ”
“คะ ฉันยอมรับว่าฉันยังรู้จักคุณดาราไม่มากพอ ฉันยังไม่อาจรักคุณได้อย่างหมดใจ ถึงจะแค่รู้สึกดีกับคุณอยู่บ้าง แต่มันยังไม่ถึงกับรัก ฉันขอเวลาหน่อยนะคะ ฉันอยากมั่นใจในตัวคุณดารามากกว่านี้ ฉันไม่อยากเสียใจทีหลังถ้ามีลูกไปแล้วและฉันรักคุณไม่ได้จริงๆ คนที่จะเจ็บก็คือลูก”
“ฉันเข้าใจเธอนะ คงมีสักวันที่เธอจะรู้จักคนอย่างฉันมากพอ และจะเปิดใจรักฉันได้สักวันนะของขวัญ”
พรดารากอดของขวัญไว้และพากันเดินเล่นต่อไป จนพากันเดินทางกลับเมืองไทย ของขวัญก็ได้เข้าเรียนต่อป.โท สาขาสถาปัตยกรรม โดยมีพรดาราคอยสนับสนุน เพราะเธอคิดว่าก็ดี โครงการใหม่ๆ ที่เธอจะทำขึ้นมาจะได้ให้น้องเป็คนออกแบบ จนเวลาผ่านไปของขวัญก็เรียนจบป.โท จึงหยุดเรียนป.เอกชั่วคราว เพราะใช้เวลานานถึง 5 ปี ของขวัญอยากจะช่วยงานพรดารา มากกว่า เธอจึงบอกพรดาราว่า
“คุณดาราคะ ถ้าเราต้องไปทำงานที่โรงแรมทุกวัน และกลับบ้านดึกๆ แบบนี้ เราย้ายกลับไปอยู่เพนท์เฮ้าส์กันดีมั้ยคะ จะได้ไม่รบกวนคุณพ่อ คุณแม่ด้วย ไว้เรามีครอบครัวที่ใหญ่ขึ้น ค่อยย้ายกลับมาก็ยังไม่สาย”
“จะเอาแบบนั้นหรือคะ เราไปถามคุณพ่อ คุณแม่ก่อนดีกว่ามั้ย”
“คะ ลองไปปรึกษาพวกท่านดูก็ได้ เพราะฉันเรียนจบแล้ว จะได้ช่วยคุณทำงานได้”
พรดาราพาของขวัญเดินไปตึกใหญ่ เพื่อถามพ่อกับแม่ เื่พวกเธอขอย้ายกับไปอาศัยที่เพนท์เฮ้าส์เหมือนเดิม พวกท่านก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร แต่ใจจริงก็อยากให้อยู่ด้วยกัน แต่ในเมื่อพวกเธออยากกลับไปก็ไม่ว่ากัน เมื่อได้รับอนุญาตพรดาราก็พาของขวัญกลับไปเพนท์เฮ้าส์ จริงๆ แล้วที่นี่ก็สบายไม่แพ้กับที่บ้านเลย เพราะกว้างขวางมากถึงห้องนอนจะอยู่ชั้นสอง ก็ตามแต่ออกแบบมาให้มองเห็นชั้นล่างด้วย และเอาเข้าจริงๆ ของขวัญกลับชอบที่นี่มากกว่า ถึงมันจะเคยมีความทรงจำแย่ๆ เกิดขึ้นกับเธอที่นี่ก็ตามแต่เธอก็ไม่ได้เก็บมันมาใส่ใจแล้ว เพราะตอนนี้ก็แต่งงานกันแล้ว เพราะงั้นที่นี่ก็คือบ้านของเธอด้วยเช่นกัน ของขวัญเดินดูภายในบ้านอีกรอบ ก็เอ่ยปากขอมุมหนึ่งที่ติดหน้าต่างและมองเห็นวิวที่สวยมาก
“คุณดาราคะ ฉันขอที่ตรงนี้เป็มุมออกแบบโครงสร้างได้มั้ยคะ”
“ได้สิคะ เดียวพรุ่งนี้จะให้คนมาจัดการให้นะ เธอออกแบบมุมนี้ไว้หรือป่าวว่าจะให้ตั้งอะไรบ้าง”
“คะ เดียวร่างให้คืนนี้นะ ไม่นานหรอกคะ ไม่ได้้าอะไรมากมาย”
“คะ เสร็จแล้วเอามาให้ฉันนะ ฉันได้ให้คนเข้ามาจัดการ เธอ้าเป็ห้อง หรือโล่งๆ แบบนี้เลยล่ะ”
“เอาแบบนี้เลยคะ แค่เอาของเข้ามาเท่านั้นเอง ฉันจะได้นั่งทำงานที่นี่ได้ ส่วนคุณก็จะได้ทำงานของคุณไปด้วย ในห้องนี้แหละ”
จริงๆ มันคือห้องแต่เธอชอบมุมของห้องนั้นมาก เลยจะเอาเป็ที่ทำงานของตัวเอง และจะให้เขาย้ายโต๊ะทำงานจากในห้องนอน มาไว้ที่ห้องเดียวกันกับเธอด้วย เพื่อจะได้ช่วยเขาดูเอกสาร เวลาที่ว่างจากงานออกแบบ ของขวัญนั่งออกแบบห้องทำงานอยู่พักใหญ่ พรดาราก็เริ่มหงุดหงิดเพราะมันดึกแล้ว น้องยังไม่ยอมนอนสักที เธอจึงเดินเข้าไป แล้วอุ้มน้องขึ้นมา
“พอแล้วคะ พรุ่งนี้ค่อยทำต่อ ไปนอนกันฉันง่วงแล้ว ไม่อยากนอนคนเดียว ฉันจะนอนกับเธอ”
เธอก้มลงมาจูบปากน้อง ก็ทำให้รู้กันว่า เธอกำลังมีอารมณ์และ้าน้อง ของขวัญเองก็ไม่เคยขัดใจเธอสักครั้งในเื่นี้ เพราะชินแล้วที่จะต้องหลับนอนกับเธอเกิบทุกคืน แต่เธอก็ยังคงถนอมน้องทุกครั้งเหมือนเดิม ไม่เคยทำรุนแรงมากจนเกินไป เพื่อไม่ให้น้องบอบช้ำ และนี่คือวิธีบอกรักในแบบของเธอ ใช้ภาษากายมากกว่าคำพูดบอกรัก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้