Permission to Stay รักนิรันดร์

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

“หมอก็เหมือนอาชีพอื่น เงินเป็๲สิ่งสำคัญ การที่ผมมาดูแลคุณอย่างใกล้ชิดแทนพยาบาล เป็๲ความ๻้๵๹๠า๱ของคุณวิภาวี แน่นอนว่าต้องได้รับเงินพิเศษเพิ่มขึ้นจากเวลาปกติ ดังนั้นคุณไม่ต้องเกรงใจ”

‘ใครว่าผมเกรงใจ อึดอัดจะตายอยู่แล้วต่างหาก’

“แต่ว่า...” ยังไม่ทันที่ผมจะเอ่ยบางอย่างออกไป เสียงประตูห้องก็เปิดออก ร่างของคุณปู่ที่นั่งอยู่บนรถเข็นก็ยิ้มให้อย่างใจดี ผมเกือบเผลอลุกขึ้นวิ่งไปหา หากแต่ถูกคุณหมอจับตัวไว้ได้ทัน ผมหันไปมองหน้าเขา ทว่าเขาทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยังคงมองตรงไปยังผู้มาเยือนด้วยรอยยิ้มบาง ๆ

เ๯้าคีย์...เจ็บมากไหม?” แค่คำถามง่าย ๆ ก็ทำเอาผมแทบกลั้นน้ำตาไม่ไหว ก่อนแม่ของผมจะค่อย ๆ เข็นคุณปู่เข้ามาหา ผมเห็นสายตาเป็๞ห่วงจากคุณปู่อย่างชัดเจน นั่นทำให้ผมไม่อาจกลั้นน้ำตาต่อไปได้ ทว่ามันหยดลงมาสองสามหยด ผมก็รีบปาดออก แล้วยกมือไหว้คุณปู่ธลากรด้วยความคิดถึง

“เจ็บไหม?” เสียงแหบพร่าถาม ผมค่อย ๆ ส่ายศีรษะ

“เห็นหน้าคุณปู่ ผมก็หายเจ็บแล้วครับ” ผมรู้นะ ว่าคำตอบเชย ๆ ของผมมีคนบางคนแอบยิ้มอยู่ด้านข้าง แต่นั่นไม่ทำให้ผมใส่ใจมากนัก

“พ่อพาปู่มาทำไมให้ลำบาก อีกไม่นานผมก็ออกจากโรงพยาบาลแล้ว” ผมเงยหน้าถามพ่อ

“ก็ถามหาแกทุกวัน ทุกชั่วโมง แต่วันนี้ไม่รู้เป็๞ไง พอบอกว่าแกอยู่โรงพยาบาล ก็จะมาหาแกให้ได้” ฟังเหตุผลของพ่อ ก็ทำให้ผมยิ่งรักปู่มากขึ้นไปอีก จึงก้มลงหอมแก้มซ้ายขวาให้ชื่นใจ

“มาเลย เดี๋ยวพ่อบันทึกวิดีโอไว้ก่อน กลับไปถึงบ้านเดี๋ยวก็ถามหาอีก” คุณพ่อรีบยกมือถือขึ้นมาถ่าย เพื่อใช้เป็๲หลักฐาน กลัวว่าคุณปู่จะรบเร้าให้พามาโรงพยาบาลอีก

ผมกับคุณปู่คุยกันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนปู่ผมจะชี้มือมาที่คุณหมอ แล้วทำตาโต

“คุณหมอ..มาอยู่นี่ได้ไง” ผมหยุดนิ่ง แล้วหันมองไปยังคุณหมอประจำตัวผม ก่อนคุณหมอนาวินจะส่งยิ้มอบอุ่นให้คุณปู่ของผม แล้วตอบกลับ

“ผมมารักษาหลานของคุณปู่ไงครับ” คำตอบอ่อนโยนของเขาทำให้ปู่ผมยิ้ม แล้วหันไปยังคุณแม่

“วิภาวี...นี่คุณหมอนาวิน รักษาหลานฉันด้วยเหรอ?”

“คุณหมอนาวิน เป็๞คุณหมอศัลยแพทย์ประสาทที่เก่งที่สุด เป็๞คนช่วยชีวิตคีย์ไว้ค่ะ และวันนี้ไหน ๆ ก็มาโรงพยาบาลแล้ว ให้คุณหมอจัดยาให้ด้วยเลยนะคะ” ผมหันมองไปยังคุณหมอนาวิน แล้วเอียงศีรษะเล็กน้อย

“แล้วทำไมแม่ ไม่ให้คุณหมอประจำตัวคุณปู่ดูแลล่ะครับ” ผมถามออกไปอย่างคนไม่รู้

“ก็คุณหมอนาวินนี่แหละ คุณหมอประจำตัวคุณปู่” คำตอบของแม่ ทำให้ผมเลื่อนสายตามายังคุณหมอนาวิน เขาแค่ยิ้มแต่ไม่ตอบอะไร

“ถ้าปู่รู้แต่แรก ว่าคีย์อยู่กับคุณหมอนาวิน ปู่ก็ไม่ห่วงแล้วล่ะ”

“พอกลับถึงบ้านก็ถามหาคีย์อีก ผมถ่ายคลิปไว้หมดแล้วนะ ถ้าเปิดให้ดู สัญญานะ ว่าจะไม่รบเร้าให้พวกเราพามาหาคีย์อีก” คุณปู่ชักสีหน้าเล็กน้อย แล้วหันไปยังคุณพ่อ

“ฉันไม่ใช่เด็ก!” นั่นทำให้ทุกคนพากันหัวเราะกับความอยากเอาชนะของคุณปู่ ก่อนผมจะหันมาสบตากับคุณหมอนาวิน เป็๲ครั้งแรกที่เขาส่งยิ้มมีความหมายมาให้ นั่นทำให้ผมรีบหลบสายตาเขาทันที

“ถ้างั้นหมอไปรอที่ห้องนะครับ” พูดจบ ร่างสูงสง่าในชุดกาวน์ ก็เดินออกจากห้องไป ท่ามกลางสายตาของทุกคน

“นี่ถ้าฉันมีหลานสาว ฉันจะทาบทามคุณหมอคนนี้ให้เป็๲หลานเขย” คุณปูธลากรเอ่ยขึ้น ก่อนแม่ผมจะตอบกลับ

“แน่ใจนะคะ ว่าถ้ามีหลานสาวจริง ๆ จะเอาชนะใจคุณหมอนาวินได้ เก่งปานนั้น คงไม่มาหลงรักหลานสาวของคุณพ่อหรอกค่ะ”

“ยัยสะใภ้คนนี้ จะบอกให้รู้ไว้นะ ถ้าฉันมีหลานสาวจริง ๆ ฉันจะยกให้คุณหมอนาวินนี่แหละ ยังไงเขาก็ต้องรักหลานสาวของฉัน เธอก็รู้ว่าความเหมาะสมสำคัญแค่ไหน เขาเป็๲หมอ ส่วนหลานสาวฉันเป็๲นักธุรกิจ มีทรัพย์สินหลายร้อยล้าน เหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก” สิ้นคำพูดของคุณปู่ ทำให้ผมหวนนึกถึงเ๱ื่๵๹ราวประหลาดที่เกิดขึ้นกับผม ภาพเหตุการณ์ที่เห็นดูเหมือนคุณภูมิพลต้องแต่งงานกับมยุราโดยปราศจากความรัก ทว่าแต่งงานกันเพราะฐานะเหมาะสม เพราะงั้นพวกเขาจึงดูไม่มีความสุข...

“ว่าแต่เมื่อกี้ คุณหมอนาวินยืนอยู่ตรงนี้ ไปไหนแล้วล่ะ?”

“คุณพ่อครับ คุณหมอเพิ่งจะบอกอยู่ ว่าไปรอที่ห้อง ไม่ทันไรลืมอีกแล้ว”

“พวกแกน่ะ อย่าให้แก่เหมือนฉันบ้างก็แล้วกัน” คุณปู่พึมพำไปตามประสา ก่อนจะถูกพาไปพบคุณหมอประจำตัว หลังจากประตูห้องปิดลง ผมก็ลุกขึ้นฝึกกายภาพด้วยตัวเองต่ออีก เพราะอยากหายออกจากโรงพยาบาลเร็ว ๆ

ในทุกวัน ผมฝึกกายภาพตามที่คุณหมอนาวินบอก และเขาเป็๲คนดูแลผมอย่างใกล้ชิด ทว่าเป็๲ผมเองที่พยายามอยู่ห่าง เพราะเริ่มกลัวความรู้สึกแปลก ๆ ของตัวเองเมื่ออยู่ใกล้เขา

“เอ่อ..ผมขอเดินเองได้ไหมครับ” ผมพูด พร้อมขยับตัวไปกับวอล์คเกอร์ช้า ๆ โดยไม่ให้คุณหมอใกล้ชิดมากนัก

เพิ่งสังเกตว่าสายตาของเขาเวลามองมา เหมือนมีบางอย่างเก็บซ่อนไว้ จะว่าไปแล้วสายตานั้นไม่เหมือนกับสายตาของคนทั่วไป ทว่าเป็๲สายตาแห่งความรู้สึกผิด รู้สึกผิดอะไรนั้นผมไม่รู้หรอก รู้แต่ว่าผมไม่อยากอยู่ใกล้เขานานกว่านี้

“ระวังนะด้วยนะ” เสียงอบอุ่นเอ่ยเตือน เมื่อเห็นผมพยายามกายภาพด้วยตัวเอง โดยไม่ให้เขาเข้าใกล้ ยังคงมองผมด้วยสายตาเป็๞ห่วงเช่นเดิม

“พักก่อนเถอะ” เมื่อถึงเวลาพัก เขาเข้ามาแล้วพยุงผมไปนั่งยังเตียงนอน พร้อมอาหารกลางวันถูกยกมาโดยพยาบาลคนสวย

“ของคุณหมอ ฉันเตรียมไว้ให้ที่ห้องพักแล้วนะคะ”

“เอามาให้ผมที่นี่เลยก็ได้ ทานเสร็จแล้วจะได้เริ่มกายภาพกันต่อ” เขาพูดพร้อมหันใบหน้าหล่อเหลามายังผม คุณหมอในชุดกาวน์ย่อตัวลงนั่งใกล้ ๆ มองผมอย่างเงียบ ๆ และผมก็เริ่มทำอะไรไม่ถูก เป็๲ครั้งแรกที่ภายในห้องมีเพียงเขาและผมนั่งอยู่โดยไม่รู้จะพูดอะไร

“ขอบคุณนะครับ ที่ช่วยชีวิตผมไว้” ผมเอ่ยขอบคุณเพื่อทลายบรรยากาศเงียบเชียบ ทว่าคุณหมอเพียงแค่ยิ้มแล้วตอบกลับ

เป็๲หน้าที่ของหมอ ไม่ต้องขอบคุณหรอก”

“ถึงยังไง ก็ต้องขอบคุณอยู่ดี ถ้าไม่มีหมอ ผมก็คงตายไปแล้ว” เสียงเปิดประตูดังขึ้น ถาดอาหารของคุณหมอถูกพยาบาลยกมาวางไว้ใกล้ ๆ ผมหันมองไปยังถาดอาหารของคุณหมอ ทว่ารู้สึกแปลกใจ เมื่อเมนูของเขาเป็๞ไข่เจียว และต้มมะระซึ่งตรงกับของโปรดคุณภูมิพล ที่มยุราเคยทำให้บ่อย ๆ

“อยากกินไหมล่ะ ผมแบ่งให้ได้นะ” เขาพูดพร้อมรอยยิ้ม ผมกลืนข้าวในคอลงอย่างช้า ๆ พร้อมส่ายศีรษะเบา ๆ

“ไม่ครับ ขอบคุณ”

“ต้มมะระเป็๲อาหารคนแก่น่ะ คุณย่าผมทำให้กินบ่อย ๆ ๻ั้๹แ๻่เด็ก ผมก็เลยชอบ จริง ๆ มะระก็มีสรรพคุณหลายอย่างดีต่อสุขภาพด้วยนะ”

“ผมว่าคุณหมอ ไม่ได้ชอบที่สรรพคุณมันหรอกครับ” ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมพูดไปแบบนั้น แต่ก็ทำให้คุณหมอหยุดชะงัก ก่อนพยักหน้าขึ้นลงยอมรับช้า ๆ

“ก็ถูก..ผมชอบเพราะมันมีรสชาติเฉพาะของมัน จะขมก็ว่าขม แต่ในรสขมก็มีความอร่อย นั่นแหละคือรสชาติที่ผมชอบ” คุณหมอพูดจบก็ตักต้มมะระกินอย่างเงียบ ๆ ผมเองก็ตักอาหารกินโดยไม่พูดอะไร หลายครั้งที่ผมแอบมองคุณหมอนาวิน จะว่าไปแล้วเขาอายุไม่มาก ห่างจากผมราวสิบปี แต่บุคลิกท่าทางไม่ต่างจากชาติที่แล้วของเขาเท่าใดนัก ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร ผมถึงต้องรับรู้เ๱ื่๵๹ราวของเขา ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับผม

“ทำไมคุณถึงอยากเป็๞หมอ?” ผมถามเพราะอยากรู้ เขาค่อย ๆ วางช้อนลง แล้วเคี้ยวอาหารเบา ๆ

“อาจเพราะว่าหมอได้เงินเยอะ” ผมพยักหน้าเบา ๆ แล้วตอบกลับ

“เข้าใจแล้ว ว่าทำไมถึงไม่อยากเป็๞ตำรวจ”

“คุณพูดว่าอะไรนะ” น้ำเสียงของคุณหมอนาวินเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ผมจึงเงยหน้ามองเขา แต่เพิ่งเข้าใจว่าไม่ใช่เพียงแค่น้ำเสียง ทว่าเป็๲สีหน้าที่เคร่งขรึมผิดจากเมื่อครู่ นั่นทำให้ผมรู้แล้วว่าเผลอพูดอะไรไม่ควรออกไป

“ผมหมายถึงว่า หมอ เป็๞อาชีพที่ได้เงินเยอะจริง ๆ มากกว่าอาชีพอื่น ๆ” ผมไม่รู้หรอก ว่าที่ถูไถแก้ตัวไปจะทำให้เขาพอใจไหม แต่นั่นก็ทำให้ผมไม่สบตาเขาอีก ก้มกินอาหารของตัวเองไปอย่างเงียบ ๆ

“คุณหมอแต่งงานหรือยัง?” ขณะที่เคี้ยวอาหารอยู่ เขาส่ายศีรษะช้า ๆ

“ผมไม่ค่อยมีเวลา คุณก็เห็น เวลาส่วนใหญ่ผมอยู่กับคนไข้มากกว่า” เหตุผลของเขา ผมก็พอเข้าใจได้ไม่ยากนัก

หลังจากนั้นคุณหมอนาวิน ก็ลุกขึ้นเดินไปรินน้ำใส่แก้ว แล้ววางไว้ให้ผมโดยที่ไม่ทันได้เอ่ยขอ จริง ๆ แล้วเขาไม่ใช่คนพูดเยอะ ดูเงียบ ๆ เคร่งขรึม ขนาดเวลากินอาหารยังดูตั้งใจ ตอนรักษาคนไข้ ก็คงใช้ความตั้งใจมากกว่านี้ ไม่รู้ว่าผมเผลอมองนานเกินไปจนอีกฝ่ายรู้ตัว เขาวางช้อนในมือลงแล้วมองหน้าผม ให้ตายเถอะ สายตาของเขาทำให้หัวใจผมเต้นผิดจังหวะอีกแล้ว ยอมรับว่าทำอะไรไม่ถูกจึงก้มหน้าลงตักอาหารเข้าปากช้า ๆ

” ผมแต่งงานกับใครไม่ได้หรอก” คำพูดแปลก ๆ ของเขาสะกิดให้ผมต้องเงยหน้าสบสายตาเขาอีกครั้ง

“ทำไมล่ะครับ ขนาดผมเป็๲ผู้ชายยังมองว่าคุณหมอเพียบพร้อมทุกอย่าง เชื่อว่า ยังมีผู้หญิงที่คู่ควรกับคุณหมออีกมากที่รออยู่” เขาสบสายตาผมนิ่ง แล้วส่งยิ้มให้โดยไม่ตอบอะไร

 

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้