เมื่อได้ผลตอบรับการตรวจสอบด้านสุขอนามัยจากสุขาภิบาลว่าไม่พบปัญหาในร้านที่ซูอินทำงานอยู่ อู๋อู๋ก็อดผิดหวังไม่ได้
ในขณะที่เธอกำลังเตรียมจะเคลื่อนไหวอีกครั้ง ก็ถูกเื่อื่นดึงความสนใจไปเสียก่อน
ที่บ้านของหยางอวี้หลานเกิดเื่ เธอได้ยินข่าวลือว่าอาจส่งผลให้ไม่สามารถไปเข้าร่วมอบรม
อู๋อู๋เชื่อแล้วว่าข่าวลือนี้เป็เื่จริง หยางอวี้หลานไม่ได้ไป รายชื่อของผู้ที่จะเข้าไปอบรมว่างลง
ในแผนกผู้ป่วยหนัก เพราะเกิดเื่จนทำให้อู๋อู๋ขายหน้าและรู้สึกหดหู่ใจ ในตอนนี้อู๋อู๋ขจัดความรู้สึกเ่าั้ออกไปหมดสิ้น และฟื้นจิติญญากลับมาอีกครั้ง
ในเวลาเดียวกัน ผ่านการสอบขึ้นชั้นมัธยมปลายได้ราวๆ สิบวัน เหล่านักเรียนที่พักจาก่อ่านหนังสือทบทวนอย่างเข้มข้นก็เข้าพิธีจบการศึกษา
เมื่อชาติก่อนในพิธีจบการศึกษาเกิดเื่มากมาย
เช่น สาเหตุที่เธอ “ป่วย” จนไม่สามารถเข้าร่วมพิธี ในเวลานั้นหลี่อวี้จือซึ่งเป็ครูที่ปรึกษาได้เลือกหลิงเมิ่งเป็ตัวแทนนักเรียนดีเด่น และขึ้นไปกล่าวบนเวที
ในตอนนั้นเธอไม่รู้สึกอะไร แต่วันนี้เมื่อหันกลับไปมอง เธอจึงได้เข้าใจความหมาย
อู๋อู๋รั้งไม่ให้เธอไป เพราะ้าทำให้การมีตัวตนของเธออ่อนแอลง และการได้ขึ้นไปกล่าวสุนทรพจน์บนเวทีก็เป็เครื่องยืนยันว่าหลิงเมิ่งคือนักเรียนดีเด่น เมื่อได้รับความประทับใจเช่นนี้ ต่อมาหลิงเมิ่งก็ได้ขึ้นเป็ที่หนึ่งแทนเธอโดยที่ไม่มีคนสงสัย
พวกเขาเตรียมการไว้ั้แ่เนิ่นๆ แล้ว
ทว่าเื่เ่าั้ผ่านพ้นไปแล้ว ชีวิตในชาตินี้หลี่อวี้จือถูกไล่ออก ไม่สามารถจัดเตรียมเื่แบบนั้นได้อีก ส่วนหลิงเมิ่งก็ยังถูกคุมขัง ได้แต่นั่งหันหน้าเข้าหากำแพง ทำอะไรไม่ได้
เมื่อชาติก่อนในพิธีจบการศึกษา สิ่งที่ซูอินหลงเหลือไว้มีเพียงความเสียใจ
กลับมาเกิดใหม่ เธอต้องพยายามทำให้ดีที่สุด ไม่หลงเหลือความเสียใจ
ในวันพิธีจบการศึกษา เธอตื่นแต่เช้าด้วยความเคยชิน
หลังจากออกกำลังกายยามเช้าเพื่อเรียกสติ เธอขึ้นไปชั้นบนเพื่ออาบน้ำชำระร่างกาย เป่าผมให้แห้ง เธอไม่ได้มัดผมหางม้าเหมือนปกติ แต่มายืนอยู่หน้ากระจก และถักเปียแทน
ชาติก่อนหลิงเมิ่งชอบถักเปียมาก แต่ถักเองไม่เป็ ต้องให้ซูอินทำหน้าที่ “รับใช้”
หลังจากกลับชาติมาเกิด ในที่สุดก็ถึงคราวที่เธอได้แบ่งปันความสุขให้ตนเอง
ผมเรียบเนียนจากครีมนวดผมที่เคลือบไว้ เธอเริ่มถักเปียจากขมับซ้ายและขมับขวา ไล่ผ่านหูลงมารวมกันที่หลังศีรษะ การถักเปียนั้นมีรูปแบบละเอียดอ่อน แม้จะไม่ได้เสริมด้วยเครื่องประดับ แต่ก็มากพอแล้วที่จะดึงดูดผู้คน
นิ้วที่พลิ้วไหวทำให้เธอถักเปียเสร็จอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงมัดด้วยหนังยางและยึดติดให้แน่นด้วยกิ๊บสีดำ ผมที่เหลือถูกมัดเป็หางม้าหนาที่หลังศีรษะ ปล่อยให้เรียงตัวลงมาเหมือนน้ำตกจนถึงระดับเอวพอดี
ซูอินหมุนตัวหันมองกระจก ก่อนจะพยักหน้าด้วยความพอใจ
ในส่วนของการแต่งหน้า ข้อแรกเธอไม่มีเครื่องสำอาง ข้อที่สองใบหน้าของเด็กสาววัยสิบหกปีเป็่เวลาที่สดใสและเต็มไปด้วยคอลลาเจน ผิวขาวอมชมพูคือความสมบูรณ์แบบด้านความงาม ต่อให้ใช้เครื่องสำอางราคาแพงก็ไม่สามารถทำให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้
เธอพอใจมากกับการแต่งองค์ทรงเครื่องของตนเอง ยิ้มโชว์ฟันแปดซี่ในกระจกพร้อมชูสองนิ้ว จากนั้นเปลี่ยนเป็ชุดนักเรียน เดินลงไปยังชั้นล่างด้วยจิตใจที่อิ่มเอม
สายตาของพนักงานสาวที่เคาน์เตอร์ของโรงแรม รวมไปถึงอาการชะงักไปชั่วขณะของหลินเฉวียนก็บ่งบอกทุกอย่างได้แล้ว
ซูอินรู้สึกสบายใจมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากรับประทานอาหารเช้าร้อนๆ เธอจึงไปโรงเรียน
เธอเกรงว่าจะเกิดเหตุขัดข้อง จึงเดินทางมาก่อนเวลาสิบห้านาที
พิธีจบการศึกษาไม่เหมือนกับวันสอบหรือมาเรียนตามปกติ นักเรียนทั้งหลายต่างรอคอยวันนี้ ถึงแม้คุณครูจะแจ้งล่วงหน้าว่าให้มาถึงก่อนเก้าโมงเช้า แต่ยังไม่ทันจะแปดโมง นักเรียนส่วนมากก็มาถึงแล้ว
ซูอินที่มาตรงเวลากลับกลายเป็นักเรียนกลุ่มสุดท้ายที่มาถึง
ตอนที่เธอมาถึง ในหอประชุมของโรงเรียนที่จัดพิธีมีคนเกือบเต็มแล้ว แม้อยู่ไกลๆ ก็ได้ยินเสียงพูดคุยดังเซ็งแซ่
ไม่ว่าจะเป็เหล่านักเรียนที่ต้องยากลำบากกับการทำการบ้านและทำข้อสอบ หรือบรรดาคุณครูที่ต้องทำงานหนักเพื่อให้ได้เกรดเฉลี่ยและผลการประเมินที่ดี หลังจากเสร็จสิ้นการสอบขึ้นชั้นมัธยมปลาย ก็ได้พักผ่อนใน่ปิดเทอมฤดูร้อน ในตอนนี้พวกเขาต่างก็อยู่ในสภาวะที่ผ่อนคลายมากขึ้น
คุณครูและนักเรียนที่เปรียบเสมือนแมวกับหนูในเวลาปกติ ยามนี้พวกเขาลดกำแพงป้องกันระหว่างกันมากขึ้น ทุกคนที่มารวมกันในหอประชุมยิ้มแย้ม พูดคุยอย่างมีความสุข
พวกเขามีท่าทีผ่อนคลาย และพูดคุยอย่างเป็กันเองมากขึ้น
เมื่อซูอินเปิดประตูเข้าไป นักเรียนชายที่อยู่ด้านข้างเห็นเข้าพอดี หลังจากที่ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง เขาก็รีบะโ “สาวสวยมาจากไหนเนี่ย!”
เสียงที่ะโออกมานั้นไม่เบา เรียกความสนใจจากผู้คนที่อยู่ในหอประชุม
พิธีจบการศึกษาทางโรงเรียนจำเป็ให้มีการสวมชุดนักเรียนอย่างเคร่งครัด
คนที่เคยสวมชุดนักเรียนต่างเข้าใจดีว่า หากไม่นับชุดสูทและเนกไทแบบตะวันตกของโรงเรียนเอกชน ชุดเครื่องแบบของโรงเรียนรัฐล้วนเป็ชุดนักเรียนตัวโคร่งที่มีพลังทำลายล้างอย่างไม่จบสิ้น
ชุดนักเรียนของโรงเรียนมัธยมทดลองเป็แบบนิยมทั่วไป ในฐานะโรงเรียนที่ดีที่สุดของเมือง และมีการสอนที่เข้มงวด เด็กนักเรียนกว่าครึ่งที่ใส่ใจแต่เื่เรียน ทำให้พวกเธอไม่ค่อยแต่งหน้าแต่งตัว จึงยิ่งดูหมองเมื่อใส่ชุดนักเรียน
แต่ซูอินกลับไม่เป็เช่นนั้น อันดับแรก เป็เพราะเธอสูงเพรียวและมีขายาว เมื่อก่อนเธอชอบเดินหลังค่อม จึงมองเห็นไม่ค่อยชัด แต่ในวันนี้เธอเดินหลังตรง ทำให้รูปร่างของเธอในตอนนี้ใส่อะไรก็ดูดี
และเธอยังตั้งใจแต่งตัวเป็พิเศษ
กลุ่มนักเรียนมัธยมต้นที่ดูหม่นหมอง เมื่อเห็นสาวน้อยหน้าตาดีปรากฏตัว ทุกสายตาก็ถูกดึงดูด
“ซูอินหรือ”
น้ำเสียงประหลาดใจดังขึ้น ซูอินหันไปยังต้นเสียงก็พบว่าเป็อวี๋ฉิง
ตอนนี้อีกฝ่ายนั่งอยู่กับสวีเหวินเหวิน รอบข้างล้วนแต่เป็เพื่อนนักเรียนจากห้องหนึ่ง ตรงกลางระหว่างทั้งสองคนมีที่ว่างหนึ่งที่ ซึ่งคงเหลือไว้ให้เธอ
ซูอินพยักหน้าเบาๆ ให้เด็กนักเรียนชายที่มองเธอด้วยแววตาว่างเปล่า ก่อนจะยกยิ้มมุมปาก นักเรียนคนนี้ตาถึงจริงๆ! การได้รับคำชมอย่างตรงไปตรงมาทำให้ซูอินมีความสุข
เมื่อเผชิญหน้ากับสายตาของผู้คนที่มองมา ซูอินเดินตรงไปยังที่นั่งของตนเองด้วยท่าทีมั่นใจ
ด้านหลังของเธอมีชายหนุ่มร่างสูงคนหนึ่งยืนอยู่ ซึ่งก็คือสื่อเสียงที่กำลังรู้สึกฉงน
“ซูอินหรือ ระดับชั้นของพวกเรามีนักเรียนคนนี้ด้วยหรือ”
นักเรียนชายที่เป็ผู้ติดตามด้านข้างรีบอธิบาย “พี่เสียง นั่นคือหลิงอินที่อยู่ห้องเดียวกับพวกเรา”
“หลิงอินหรือ”
แววตาของสื่อเสียงเหมือนไม่อยากเชื่อ เขาเป็เพื่อนนักเรียนร่วมกับหลิงอินมาเก้าปี แม้ว่าจะชอบโดดเรียน แต่ก็รู้จักหน้าตาของหลิงอิน
“เธอไปเกาหลีมาหรือ”
หลายปีมานี้กระแสเกาหลีใต้ได้รับความนิยมมาก ลูกสมุนของเขาเข้าใจความหมายจึงรีบอธิบาย “พี่เสียง ระยะนี้พี่ไม่ได้เข้าเรียน ก็เลยตกข่าวหลายเื่…”
ในเวลาเดียวกันซูอินเดินผ่านนักเรียนหลายคนที่นั่งอยู่ จนในที่สุดก็มาถึงข้างๆ อวี๋ฉิงและสวีเหวินเหวิน
“อีกสิบห้านาทีงานถึงจะเริ่มไม่ใช่หรือ ทำไมทุกคนมากันเร็วจัง”
เธอมองไปรอบๆ เหมือนกับว่าตัวเองเป็นักเรียนคนสุดท้ายที่จบการศึกษาที่เดินทางมาถึง
อวี๋ฉิงดึงให้เธอนั่งลง “พิธีจบการศึกษา ไม่ใช่เข้าเรียนตามปกติเสียหน่อย แน่นอนว่าทุกคนมาเช้าก็เพื่อเที่ยวเล่น วันนี้เธอแต่งตัวสวยมาก ผมแบบนี้ทำยังไง”
“ฉันถักเอง”
“จริงหรือ ถักให้ฉันบ้างสิ”
ซูอินเหลือบมองผมสั้นของเพื่อนที่ยาวไม่พ้นหู อีกฝ่ายมีบุคลิกห้าวหาญ ผมสั้นที่ถูกตัดอย่างประณีตเข้ากับท่าทางของอวี๋ฉิงแล้ว
“เธอแน่ใจหรือ”
“จริงด้วย ฉันผมสั้น ผมของเหวินเหวินก็น่าจะถักเปียได้นะ เหวินเหวิน เธอเป็อะไร เช้ามาก็สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ดูตาแพนด้าคู่นั้นสิ พูดมาตามความจริง เกิดอะไรขึ้นกันแน่หลังจากสอบเสร็จ”
เมื่อได้ฟังคำพูดของอวี๋ฉิง ซูอินก็มองไปทางสวีเหวินเหวินที่อยู่ทางขวามือ จึงได้เห็นใบหน้าอกสั่นขวัญหายของเธอเข้าพอดี
