ฉันรีบหันหลังจะวิ่งหนีทันที
"ตึง!" ฉันชนเข้ากับผนังที่มองไม่เห็น ไม่ต้องถามเลยว่ามันคืออะไรอ่านนิยายแนวแฟนตาซีมาเยอะขนาดนั้นฉันก็พอจะรู้แล้วว่ามันคือกำแพงเขตแดนก็เหมือนกับประตูเมืองนั่นแหละ
"ฮ่าฮ่าฮ่า แกคิดว่าจะหนีพ้นงั้นเหรอ" เสียงของผู้หญิงคนนี้เหมือนกับมีเสียงของผู้หญิงหลายคนรวมกันอีกทั้งยังแหลมบาดแก้วหูอีกต่างหาก
หนีไม่พ้น ฉันซ่อนตัวเอาก็ได้นี่
ฉันหันกลับไปมองร่างที่ไหม้เกรียมของผู้หญิงคนนั้น"ฉันไม่กลัวเธอหรอก"
"แกต้องตาย แกต้องตาย" ผู้หญิงคนนั้นวิ่งเข้ามาหาฉันฉันหยิบกระดาษยันต์ขึ้นมาแล้วแปะที่หน้าผากตัวเองและผู้หญิงคนนั้นก็ชะงักฝีเท้าลงในทันที สายตาเริ่มมองหาฉันไปรอบๆ ด้วยความสงสัย
ยันต์นี่ใช้ได้ผลจริงด้วยแฮะ
"ฉันอยู่นี่" ฉันยืนะโอยู่ที่พื้น ผู้หญิงคนนั้นพุ่งเข้ามาหาฉันอย่างโกรธแค้นฉันขยับตัวไปทางขวาช้าๆ "ตึง!" ผู้หญิงคนนั้นชนเข้ากับกำแพงเขตแดนเหมือนกับฉันและในตอนนั้นกำแพงเขตแดนนั้นก็มีกระแสไฟฟ้าสะท้อนออกมาและช็อตผู้หญิงคนนั้นจนกระเด็นกลับมาที่เดิม
"กรี๊ดดดดดดด" ผู้หญิงคนนั้นล้มลงกับพื้น ฉันเข้าใจแล้วผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เดินออกมาจากบ้านแต่สวนตรงนี้เป็ส่วนหนึ่งของเขตบ้านพักหลังนี้
เธอโดนช็อตจนทำให้พลังอ่อนลงและล้มลงไปชักอยู่กับพื้น
ฉันค่อยๆ หยิบค้อนออกมาจากด้านหลัง เคาะลงที่ฝ่ามือตัวเองเบาๆในตอนนั้นฉันรู้สึกว่าตัวเองดูเปลี่ยนไปเหมือนฉากในหนังฆาตกรรมเลยเป็พวกฆาตกรที่โเี้
"เธอมีความจำเป็อะไรที่จะต้องมาทนทุกข์ทรมานอยู่แบบนี้ทั้งโดนเผาทั้งโดนช็อต เธอไม่เ็ปบ้างเลยรึไง" ฉันเดินวนไปมารอบๆตัวเธอ
เธอยังคงนอนชักกระตุกอยู่ที่พื้นแต่สายตาที่ดุร้ายนั้นกำลังมองหาฉัน "ฮึ้ม! ฮึ้ม!"
"มีอะไรที่เธอยังปล่อยวางไม่ได้งั้นเหรอเล่าให้ฉันฟังหน่อยสิ ฉันว่าเรามาสามัคคีกันไว้จะดีกว่านะตอนนี้ในสังคมให้ความสำคัญกับคำนี้มากเลยนะ แต่ก่อนเธอก็เป็คนคนหนึ่งนี่ให้ฉันเดานะเธอต้องเป็คนที่สวยมากแน่ๆ"
ทันใดนั้นแววตาของเธอก็นิ่งงันฉันแอบมองตาของเธอและรู้สึกว่าเธอน่าสงสารฉันหยุดยืน มองเธออย่างเห็นใจ "ตอนที่เธอตาย ถ้าเธอไปเกิดเธอก็จะต้องเป็ผู้หญิงที่สวยมากแน่ๆ แต่เธอดูสภาพเธอตอนนี้สิ..."
เธอยกมือสีดำคู่นั่นขึ้นมาด้วยอาการสั่นเทาฉันมองเธอด้วยความรู้สึกอยากจะขอโทษ
"ฉันขอโทษนะทำไมเธอถึงยังอยู่ที่นี่ล่ะ แก้แค้นเหรอ ถ้าจะแก้แค้นเธอก็ไปหาคนที่ทำร้ายเธอสิ"
"เขาไปแล้ว..."
"นี่เธอถูกฆ่าจริงๆเหรอ ใครฆ่าเธอ แฟนเธอเหรอ เธอเป็เมียน้อยเหรอ" ฉันเดาไปเรื่อย
"ฉันเป็เมียหลวงต่างหาก" ผู้หญิงคนนั้นลุกขึ้นยืนอย่างเคียดแค้น ะโขึ้นไปบนอากาศ
"ไอ้คนสารเลวกับยัยชั่วนั่นขนาดฉันฆ่าตัวตายแล้วเขายังไม่กลับมาเลย"
มิน่าล่ะแรงอาฆาตถึงได้รุนแรงขนาดนี้ที่แท้ก็ฆ่าตัวตายนี่เอง
ฉันถอนหายใจ "เธอเรียนที่มหาลัยไหน"
เธอชะงักไปนิด มองมายังทิศทางที่ได้ยินเสียงฉันฉันขยับออกทันที เธอยังคงมองมาตรงที่ฉันยืนอยู่ก่อนหน้านี้ "มหาลัยชิงฮวา เธอหมายถึงอะไรกันแน่"
"ได้เรียนในมหาลัยที่ดีขนาดนั้นเธอยังจะฆ่าตัวตายอีกจริงๆ เลยนะ" ฉันเสียใจสุดๆ
"เธอรู้ไหมว่าแม้แต่สอบเข้ามหาลัยฉันยังสอบไม่ผ่านเลย ถ้าเกิดว่าฉันปล่อยวางไม่ได้เหมือนเธอตอนนี้ฉันจะไม่ฆ่าตัวตายไปเลยเหรอ"
ผู้หญิงคนนั้นใช้ดวงตาที่เหลือเพียงข้างเดียวมองมาด้วยความแปลกใจ
ฉันยังคงพูดต่อ "แต่ว่า สอบไม่ผ่านก็ไม่เห็นจะเป็อะไรเลยสิ่งนี้มันไม่สามารถที่จะเอามาตัดสินได้ว่าชีวิตฉันจะจบอยู่แค่นี้ ถ้าฉันไม่ได้มาที่นี่ฉันก็ยังเรียนซ้ำได้ ถ้าไม่อยากเรียนซ้ำ ฉันก็ไปเรียนวิทยาลัยการอาชีพเอาก็ได้เธอรู้ไหมว่าตอนนี้วิทยาลัยการอาชีพได้รับความนิยมมากเลยนะ แถมเงินเดือนยังสูงกว่าข้าราชการอีกด้วยแล้วยังได้วีซ่าออสเตรเลียด้วยนะ ถ้าหากว่ายังไม่ได้อีกฉันก็ยังหางานทำแล้วก็เรียนภาคค่ำไปด้วยได้ชีวิตคนมันมีจุดจบซะที่ไหนทางเลือกมันขึ้นอยู่กับตัวเธอเองส่วนแฟนเธอกับยัยเมียน้อยคนนั้นเธอก็สั่งระงับบัตรพวกเขาซะเลยสิแบบนี้เขาจะเอาเงินจากไหนมาใช้ได้ หรือไม่เธอก็หาคนแอบตามไปถ่ายรูปพวกเขาเข้าไปทำลายงานของเมียน้อยคนนั้นทำให้เขาอยู่ที่นี่ไม่ได้เลย"
"จริงด้วย... ทำไมฉันถึงคิดไม่ได้นะ..." ผู้หญิงคนนั้นกำมือแน่น
ฉันกำมือและกระแอมออกมาเบาๆ "เอ่อฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะสอนให้เธอใช้วิธีตาต่อตาฟันต่อฟันหรอกนะแต่ดูไปแล้วเธอก็ไม่ได้ใจดีอะไรขนาดนั้น เธอมีอีกตั้งหลายวิธีที่จะแก้แค้นพวกเขาจะมาฆ่าตัวตายทำไม เธอดูสิ ตอนนี้เธอตายแล้วแต่เขาสองคนก็ยังมีความสุขอยู่ไม่ใช่เหรอวิธีที่จะแก้แค้นคนได้ดีที่สุดก็คือการมีชีวิตอยู่ต่อใช้ชีวิตให้มีความสุขให้พวกเขาโมโหตายไปเลย"
ผู้หญิงคนนั้นคุกเข่าลงด้วยสายตาที่ว่างเปล่า
"ฉันฉันควรทำยังไงดี ฉันไม่ยอม ฉันไม่ยอม"
"ดูเธอสิก็เพราะว่าเธอไม่ยอมปล่อยวางเธอถึงยังต้องติดอยู่ที่นี่ ฉันจะสอนอะไรให้นะ" ฉันดึงผ้ายันต์ออก จากนั้นก็เดินเข้ามาหาเธอที่คุกเข่าอยู่เธอมองฉันด้วยสายตาเกลียดชัง ฉันมองหน้าเธออย่างจริงจัง "เธอดูสิ โชคชะตามีไว้ให้เธอเลือกเอง แต่บางครั้งความโกรธเกลียดในใจเธอมันบังตาจนทำให้เธอมองไม่เห็นทางเลือกแต่ฉันจะช่วยเธอเอง ฉันเห็นว่าเธอมีทางเลือกอยู่สองทาง..."
"ทางเลือกอะไร" ผู้หญิงคนนั้นจ้องมองฉัน เธอหงายฝ่ามือขึ้นแล้วกดมือลงกับรูที่กลวงโบ๋นั่น "ฟึบ!" เธอเอาดวงตาอีกข้างใส่กลับเข้าไปเหมือนเดิมที่แท้ดวงตาคู่นั้นก็อยู่ในมือของเธอนั่นเอง
ฉันคุกเข่าลงข้างหน้าเธอแล้วทุบค้อนลงที่พื้นก่อนจะพูด"หนึ่งอยู่ที่นี่ด้วยความทุกข์ใจต่อไป เป็ผีที่คอยอาฆาตแค้น อัปลักษณ์มากขึ้นน่าเกลียดมากขึ้น สุดท้ายก็ลืมว่าตัวเองเป็ใคร จากนั้นก็ถูกทำร้าย ถูกเผาเป็เถ้าถ่านต่อไป"
ผู้หญิงคนนั้นจ้องมองฉันด้วยความเกลียดชังมากขึ้นเรื่อยๆเริ่มส่งเสียงฮึมฮัมในลำคอเหมือนสัตว์ร้าย "ฮื่อ!...ฮื่อ!"
"ทางเลือกที่สอง" ฉันยกยิ้ม "ปล่อยวางซะ แล้วรีบไปเกิดใหม่เกิดเป็ลูกสาวของผู้ชายคนนั้น ไปใช้เงินเขา อยู่บ้านเขา นอนบนเตียงของเขา เวลาเขาจะจู๋จี๋กับภรรยาเขาเธอก็ไปก่อกวนพวกเขาไปก่อกวนเขาตลอดชีวิต ทำให้เขาเหนื่อย ให้เขาขาดใจตายไปเลย แบบนี้เป็ไง" ฉันยกคิ้วขึ้น
เธอมองหน้าฉันฉันยกยิ้มร้ายพร้อมกับมองหน้าเธอ
"แน่นอนว่าเธอจะไปเกิดเป็ลูกชายของเขาก็ได้ให้เขาหาเงินค่าสินสอดค่าบ้านให้เธอไปตลอดชีวิตเลย แฮะแฮะแฮะทำให้เขากลับบ้านมาก็เหนื่อยจนไม่มีแรงไปทำเื่อย่างว่าจากนั้นมันจะต้องส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์ของเขากับยัยเมียน้อยคนนั้นแน่ๆไม่แน่นะว่ายัยเมียน้อยคนนั้นอาจจะสวมเขาให้เขาก็ได้" ฉันยกคิ้วขึ้นเหมือนกับกำลังดูการนินทาคนอื่นด้วยความสนุกสนาน
เธอมองหน้าฉันอยู่นาน นานมากทันใดนั้นดวงตาของเธอก็เป็ประกายขึ้นมาอย่างตื่นเต้นดีใจ เธอลุกขึ้นทันที "เธอพูดถูก ฉันต้องไปเกิดใหม่ฉันจะไปเกิดเป็ลูกสาวของเขาฉันจะทำให้เขากับผู้หญิงเลวนั้นเป็คนคอยรับใช้ฉันไปตลอดชีวิตฉันไม่เกลียดใครแล้วฉันจะไปเกิดใหม่"
และในตอนนั้นก็มีแสงสีทองส่องสะท้อนลงมาจากท้องฟ้าและคลุมร่างของเธอเอาไว้ฉันลุกขึ้นยืนด้วยความตกตะลึง ไม่จริงน่า จะไปแล้วนะเหรอ
เธอหัวเราะเสียงดังอยู่ท่ามกลางแสงสีทองนั้น
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าพวกคนเลวฉันมาแล้ว!" เธอค่อยๆ ฟื้นฟูร่างกายและสภาพผิวของเธอท่ามกลางแสงสีทองนั้นและหน้าตานั้นก็กลับมาสวยงามเหมือนเดิม ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยพลังในการต่อสู้ไม่มีแววตาแห่งความโศกเศร้าอีกต่อไป
เธอสอบติดมหาลัยที่พวกเราใฝ่ฝันอยากจะเข้าไปเรียนแต่กลับมาฆ่าตัวตายเพราะเมียน้อย ไม่คุ้มค่าเลยจริงๆ
ในตอนที่แสงสีทองค่อยๆ หายไป ร่างของผู้หญิงคนนั้นก็ค่อยๆเลือนหายไปต่อหน้าต่อตาฉันเหลือไว้เพียงบ้านที่ถูกเผาและเสียงไฟที่ยังปะทุออกมาให้ได้ยินเป็ครั้งคราว
"ปัง!"
"ปึง!"
ราวกับมีเสียงจุดปะทัดเพื่อเป็การฉลองให้กับฉันฉันขมวดคิ้ว ยังไม่จบอีกเหรอ จะทำยังไงดีล่ะ จริงๆ แล้วเื่ที่เผาบ้านนี่ก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆนะ วันนี้คือมันสุดยอดมาก นี่ฉันยังไม่อยากไปจากที่นี่เลยนะเนี่ย จริงสิ บ้านข้างๆนี่ต้องเผาทิ้งด้วยไหม
ฉันมองไปที่บ้านหลังข้างๆ ทันใดนั้นแสงสีขาวที่เห็นก่อนหน้านี้ก็ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง แสงนั้นปกคลุมไปทั่วร่างของฉันครั้งนี้แสงนี้พาฉันขึ้นไป้าเหมือนกับรู้ว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่เลยรีบพาฉันออกมา
ครั้งนี้ฉันใจเย็นขึ้นมากในตอนที่เท้าทั้งสองข้างยืนอยู่บนพื้นอย่างมั่นคงนั้น หอประชุมหลิงเซียวที่พวกเรามารายงานตัวกันก่อนหน้านี้ก็ปรากฏสู่สายตาฉันอีกครั้ง
ให้ ตาย เถอะ ไหนบอกผีจะออกมาจากบ้านไม่ได้ไง