“เด็กสาว ร่างไร้ิญญา...”
เสิ่นเสวียนและเริ่นเสี้ยวเทียนโดนโจมตีด้วยสองคำนี้ ทำให้พวกเขามิอาจสงบลงได้
าามารตะวันตกที่ดูเ้าชู้ ยังมีเื่แบบนี้อีกด้วย
แสดงว่าตอนที่กล่าวถึงเื่สุสานออกมาก่อนหน้านี้ าามารตะวันตกวางแผนเื่นี้ไว้แล้ว าามารตะวันตกที่ยิ่งใหญ่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
แต่ก็ถูกต้องแล้ว คนที่อยู่ในหุบเขาสุขาวดีและก้าวมาถึงขั้นนี้ได้ ใช่คนธรรมดาที่ไหนกัน
“ขอโทษด้วยที่ข้าปิดบังพวกเ้าไว้ ข้ารู้จักกับนางมาั้แ่เด็ก ต่อมาข้าโดนไล่ล่าจึงเข้ามาซ่อนตัวในหุบเขาสุขาวดี ตอนนั้นนางมีอายุเพียงสิบสามปีเท่านั้น เป็สตรีจากตระกูลใหญ่ แต่กลับตามข้ามายังหุบเขาสุขาวดีโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ตอนมาถึงที่นี่ครั้งแรกนางโดนโจมตีและต่อว่าอยู่ทุกวัน ข้าสาบานไว้ว่าจะพยายามเติบโตให้ดีเพื่อมอบชีวิตที่ดีที่สุดให้กับนาง”
าามารตะวันตกกล่าวถึงตรงนี้ แววตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยน เหมือนมีลำแสงเปล่งประกาย คล้ายว่าเขาย้อนกลับไปยัง่วัยหนุ่มอีกครั้ง
เด็กสองคนไร้เดียงสาเปรียบดั่งคู่รักในวัยเด็ก
เพราะครอบครัวโดนสังหารทำให้เขาต้องซ่อนตัว นางเป็สตรีจากตระกูลใหญ่ เปี่ยมไปด้วยทรัพย์และสมบัติ กลับตามเขามาโดยไม่สนใจสิ่งเ่าั้เลย
ในหุบเขาสุขาวดีทั้งสองผ่านวันและคืนที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตมาด้วยกัน สร้างชื่อเสียงขึ้นมาอย่างช้าๆ จนโด่งดังในระดับหนึ่ง
ตอนนั้นาามารตะวันตกมีอายุสิบเก้าปี ส่วนนางมีอายุสิบแปดปี
าามารตะวันตกในตอนนั้นนับเป็อัจฉริยะที่หาตัวจับได้ยากในหุบเขาสุขาวดี เขามาเจอ่เปิดสุสานโดยบังเอิญ ทั้งสองคนจึงหารือกันแล้วตัดสินใจเข้าไปตามหาของล้ำค่าในนั้น
เดิมทีคิดว่าจะเจอของล้ำค่าที่ทำให้ก้าวหน้าไปในเส้นทางของการฝึกฝน แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะต้องแยกจากกันตลอดกาล หลังออกจากสุสานมาแล้ว เขาได้โชคอย่างยิ่งใหญ่ ทำให้ก้าวหน้าไปอย่างก้าวะโ
น่าเสียดายที่นางต้องอยู่ในนั้นไปชั่วนิรันดร์
เสิ่นเสวียนและเริ่นเสี้ยวเทียนฟังเื่เล่าของาามารตะวันตกโดยไม่มีใครกล่าวอะไรเลย
เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าควรกล่าวอะไรดี เขาคนหนึ่งเป็ตัวประหลาดที่ใช้ชีวิตมากว่าพันปีแล้ว ด้านเดียวที่ว่างเปล่าก็คือความรัก
เริ่นเสี้ยวเทียนในตอนนี้กลับดำดิ่งลงไปในความคิด แล้วเขาก็กล่าวกับาามารตะวันตก “วางใจเถอะ ขอเพียงข้าออกมาได้ ข้าจะพานางออกมาด้วยอย่างแน่นอน”
เสิ่นเสวียนไม่เคยเห็นเริ่นเสี้ยวเทียนจริงจังขนาดนี้มาก่อน เหมือนเื่เล่านี้เสียดแทงเข้าไปโดนส่วนที่เ็ปของเขาด้วย
"ขอบใจมาก นางอยู่ในอาณาเขตที่สาม ข้างๆ ศิลาดอกท้อก้อนหนึ่ง”
าามารตะวันตกยิ้มบางๆ สามสิบปีที่ผ่านมานี้ สิ่งที่เขาเสียใจที่สุดคือมิอาจพานางออกมาได้ เขาต้องจมอยู่กับความเ็ปในทุกวัน จากนั้นเขาก็เริ่มพึ่งพาสุรา ฤทธิ์ของสุราทำให้จิตใจของเขาด้านชาไปสักพัก ทำให้เขามีความสุขขึ้นมาบ้าง
“วางใจเถอะ พวกข้าต้องพานางออกมาได้อย่างแน่นอน”
เสิ่นเสวียนกล่าวปลอบประโลมอีกฝ่ายเช่นกัน
“ข้าเชื่อว่าพวกเ้าทำได้ เดี๋ยวข้าจะบอกเล่าสภาพแวดล้อมภายในสุสานให้พวกเ้ารู้คร่าวๆ”
าามารตะวันตกควบคุมอารมณ์ได้แล้ว จึงอธิบายให้พวกเสิ่นเสวียนฟัง
เพราะเขาเคยเข้าไปแล้ว จึงพอจะรู้เกี่ยวกับภายในนั้นบ้าง
ตลอดทั้งคืน เขาเล่าเื่ราวมากมายอย่างละเอียด สุดท้ายแล้วยังมอบแผนที่ให้พวกเสิ่นเสวียนอีกด้วย แผนที่นี้คือสิ่งที่เขาวาดขึ้นด้วยตนเองตลอดสามสิบปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงสถานที่และถนนทุกสายที่เขาฝันถึงในทุกวัน
แค่นี้ก็ดูออกแล้วว่าเป็ความรักที่ล้ำลึกมากเพียงใด
เสิ่นเสวียนเข้าใจแล้ว การเข้าไปในสุสานครั้งนี้ไม่เพียงเพื่อตามหาของล้ำค่าเท่านั้น ยังต้องทำภารกิจที่สำคัญของาามารตะวันตกให้สำเร็จอีกด้วย
รุ่งสางวันต่อมา หากมองไปยังทะเลสาบจะเห็นฐานที่มั่นของอำนาจต่างๆ เข้ายึดครองพื้นที่ไว้แล้ว และกระจายตัวกันออกไปเรื่อยๆ คิดคำนวณคร่าวๆ อย่างน้อยน่าจะมีคนมากกว่าหมื่นคน
แน่นอนว่าคนเหล่านี้ไม่ได้เข้าไปในสุสานทั้งหมด ส่วนใหญ่แล้วเป็ผู้ติดตาม คนที่เข้าไปในสุสานได้จริงๆ มีไม่ถึงพันคนด้วยซ้ำ
ที่คนเหล่านี้มาเฝ้าอยู่ด้านนอกเพื่อป้องกันไม่ให้ของล้ำค่าที่ได้มาจากในนั้นโดนผู้อื่นแย่งชิงไป
กฎของหุบเขาสุขาวดีคือเช่นนี้ ทุกคนจะเห็นอีกฝ่ายเป็อาหาร หากไม่ระวังเพียงเล็กน้อยอาจถึงตายได้
ผ่านไปอีกประมาณหนึ่งชั่วยาม ที่นี่เริ่มวุ่นวายขึ้นแล้ว บ้างก็กำลังเตรียมอาหาร บ้างก็กำลังฝึกฝน ดูคึกคักเป็อย่างมาก
เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นแล้ว ทุกคนต่างกินอาหารในอาณาเขตของตนเอง ส่วนาามารทิศเหนือกำลังนั่งสมาธิ ผู้ติดตามของเขาวิ่งไปจับปลาในทะเลสาบ กว่าจะได้ปลามาสองตัวต้องเสียพลังไปแล้วครึ่งวัน และยังไม่พอกินอีกด้วย
“เ้าเหนือ หากว่าหิวก็มากินที่นี่ได้ ที่นี่มีอาหารอยู่มากมาย”
าามารตะวันตกมีจานอาหารวางอยู่มากกว่ายี่สิบจาน เพียบพร้อมไปด้วยอาหารหลากหลายชนิด เสิ่นเสวียน เสิ่นเสี่ยวเม่ย เริ่นเสี้ยวเทียน และาามารตะวันตกล้อมวงนั่งกันอยู่ที่พื้น กำลังจะเริ่มกินอาหารแล้ว นี่คือข้อดีของการเตรียมตัวไว้ล่วงหน้า จะได้ไม่หิวใน่คับขัน
าามารทิศเหนือนั่งหลับตาทำสมาธิอยู่ แต่ท้องของเขากลับไม่เชื่อฟังเขาเลย
ในโลกนี้ แม้ฝึกฝนถึงขั้นศักดิ์สิทธิ์แล้วก็ยังไม่คุ้นชินกับการอดอาหารอยู่ดี พลังฟ้าดินมีอยู่อย่างเหลือเฟือ แต่กลับพัฒนาเพียงพลังต่อสู้ ไม่พัฒนาในด้านอื่นเลย หากไม่หิวคงเป็เื่แปลก
“ท่านาามาร าามารตะวันตกเชื้อเชิญเช่นนี้แล้ว พวกเราไปกินอาหารกับพวกเขาเถอะ!”
ขณะนั้นเอง เหลยป้าเทียนที่นั่งอยู่ข้างๆ กล่าวกับาามารทิศเหนือเบาๆ
เมื่อได้ยินคำของเหลยป้าเทียน าามารทิศเหนือจึงลืมตาขึ้น เขาลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปข้างๆ พรมวิเศษของาามารตะวันตกด้วยสีหน้าเย่อหยิ่ง
“เป็อย่างไร ตอนนี้กล้ามาแล้วหรือ ไม่กลัวข้าขังเ้าไว้แล้วหรือ”
าามารตะวันตกมองาามารทิศเหนือที่นั่งลงข้างๆ พลางกล่าวอย่างโกรธๆ
าามารตะวันตกในตอนนี้มีสิทธิ์ที่จะกล่าวเช่นนี้ เพราะพรมวิเศษคืออาณาเขตของเขา แม้าามารทิศเหนือจะเข้ามาในนี้ แต่เขายังคงเป็เ้าของอยู่ดี
“หากว่ากลัวข้าคงไม่เข้ามาหรอก”
าามารทิศเหนือหยิบจอกสุราขึ้นแล้วดื่มจนหมด
ส่วนเหลยป้าเทียนกลับยืนอยู่ข้างๆ ไม่ต้องกล่าวถึงจอกของเขาเลย แม้แต่คำเชื้อเชิญก็ยังไม่มี
“ให้คุณชายนั่งลงด้วย”
าามารทิศเหนือกล่าว
าามารตะวันตกไม่ได้กล่าวอะไร กลับเป็เสิ่นเสวียนที่นั่งอยู่ข้างๆ กล่าวขึ้นแทน
“เ้าลองถามเขาดูว่ามีสิทธิ์นั่งหรือเปล่า”
เสิ่นเสวียนยกจอกสุราขึ้นจิบก่อนกล่าวเสียงเบา แม้ต้องเผชิญหน้ากับาามารทิศเหนือที่มีพลังยุทธ์ขั้นจักรพรรดิ แต่เขายังคงมีท่าทางสบายๆ
“สหายเสิ่น ก่อนหน้านี้ข้าผิดไปแล้ว ข้าต้องขอโทษพวกเ้าจากใจจริง หวังว่าพวกเ้าจะอภัยให้ข้าด้วย”
เหลยป้าเทียนในตอนนี้ดูเป็คนดีมาก เขายืนอยู่ข้างๆ กล่าวกับเสิ่นเสวียนอย่างถ่อมตัว
ในคำพูดสามารถััได้ว่า เหลยป้าเทียนหวาดกลัวเสิ่นเสวียนเป็อย่างมาก
กลัวมาก กลัวมากๆ แบบนั้นเลย
ส่วนเริ่นเสี้ยวเทียนก็ยิ้มมุมปากอย่างแฝงความนัย พลางเหลือบมองเหลยป้าเทียน
หลายวันมานี้ แม้ความสัมพันธ์ระหว่างเหลยป้าเทียนกับาามารตะวันตกจะดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ไม่เคยได้เจอพวกเสิ่นเสวียนมาก่อนเลย ครั้งนี้นับเป็ครั้งแรกที่ได้เจอกันในหุบเขาสุขาวดี
“เ้าชื่ออะไร”
าามารทิศเหนือสนใจเสิ่นเสวียนมาั้แ่แรก แต่ไม่ได้กล่าวอะไรออกมา กระทั่งเหลยป้าเทียนมีท่าทีอย่างนั้นจึงถามออกมาอย่างอดไม่ได้
“ชื่ออะไรไม่สำคัญ ที่สำคัญคือเขาเคยตอบแทนข้าด้วยความชั่ว ท่านคิดเห็นอย่างไร”
เสิ่นเสวียนกล่าวกับาามารทิศเหนือ
“หืม? คุณชาย มันเกิดอะไรขึ้น” าามารทิศเหนือรู้สึกตกตะลึง เหลยป้าเทียนในความทรงจำของเขาเป็คนเฉลียวฉลาดมาก เป็สุภาพบุรุษมาก เหตุใดถึงเกิดเื่เช่นนี้ขึ้นได้
“คือว่า... มันเป็เื่นานมาแล้ว”
เหลยป้าเทียนลังเลอยู่นานและไม่กล่าวออกมาสักที
“ช่างเถอะ เขาหน้าบางเช่นนี้คงไม่กล้าเล่า เดี๋ยวข้าเล่าแทนเขาเอง”
เริ่นเสี้ยวเทียนกล่าวกับาามารทิศเหนือ “ก่อนหน้านี้ในร่างของเหลยป้าเทียนมีพิษสะสม ได้ยื่นข้อเสนอแลกเปลี่ยนกับสหายเสิ่นของข้า สัญญาว่าจะตอบแทนสหายเสิ่นของข้าหากรักษาหายแล้ว เื่นี้ไม่มีอะไรผิดปกติใช่ไหม”
“ไม่ผิดปกติเลย”
“ใช่แล้ว สหายเสิ่นของข้าต้องเสียพลังไปมาก ในที่สุดก็ถอนพิษออกจากร่างให้เขาได้ ทว่าหลังจากนั้นเขากลับคำและยังทำร้ายพวกข้าอีก ท่านว่าเื่นี้ยังทนได้อีกไหม”
“ไม่ได้”
าามารทิศเหนือพยักหน้าพลางหันมองเหลยป้าเทียน
“คุณชาย มีเื่แบบนี้เกิดขึ้นจริงหรือ”
าามารทิศเหนือกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ แม้เขาเป็คนปกป้องคนใต้บัญชา แต่ยังแยกแยะถูกผิดได้อยู่
“ท่านาามาร ข้าผิดไปแล้ว ตอนนั้นข้าลุ่มหลงไปจนทำผิดพลาด ท่านาามารโปรดอภัย”
แล้วเหลยป้าเทียนก็คุกเข่าลงต่อหน้าคนมากมายในที่นั้น