ยามถังชิงหรูกลับมาเห็นแต่กองซากปรักหักพัง ใบหน้าพลันถอดสี รีบวิ่งเข้ามาดึงก้อนหินออกไปด้านข้างพลางะโเรียกเสียงดัง "ท่านอ๋อง... ท่านอ๋อง... ท่านอยู่ในนั้นหรือเปล่า ได้ยินเสียงข้าหรือไม่ หากท่านยังมีสติอยู่ ก็ขานรับข้าสักคำเถิด"
ผ่านไปครู่ใหญ่ก็ยังไม่มีเสียงตอบกลับมา
หัวใจของถังชิงหรูจมดิ่งลงไปเรื่อยๆ
นางจากไปสองชั่วยาม ถ้าเฉินิถูกบ้านถล่มลงมาทับนานแล้ว ก็อาจไม่รอดชีวิต ถึงจะยังมีลมหายใจ ก็ไม่มีทางฟื้นขึ้นมา
เคราะห์ดีที่บ้านหลังนี้ไม่ใหญ่นัก ดังนั้นหลังจากยกก้อนหินหนักๆ ออกไปบางส่วน ก็พอมองเห็นว่าเฉินิน่าจะถูกทับอยู่ตำแหน่งไหน เพียงแต่ด้วยกำลังของนางเพียงคนเดียว คงเป็ไปไม่ได้หากคิดจะหาคนให้พบในเวลาสั้นๆ แต่ถ้าปล่อยให้ยืดเยื้อนานไป ถึงนางจะช่วยออกมาได้ จากเดิมที่ยังมีชีวิตอยู่ก็อาจสิ้นลมไปเสียก่อน
นางนึกถึงเด็กๆ ที่มีน้ำใจเ่าั้ ก็ไม่สนใจสิ่งอื่นใดอีกแล้ว ยกมือขึ้นป้องปากะโร้องออกไปสุดเสียง "เฉิงจื่อ โก่วจือ เสี่ยวหู่..."
ไม่ช้าก็มีเสียงตอบกลับมาจากรอบด้าน "มาแล้ว..."
ยามที่เด็กๆ วิ่งมาถึง เห็นสถานการณ์ตรงหน้า ก็ไม่รอให้ถังชิงหรูกล่าวสิ่งใด ก็คาดเดาความ้าของนางได้
"พี่สาว พี่ชายหน้าตาดีคนนั้นถูกทับอยู่ใต้นี้หรือ" เฉิงจื่อเป็เด็กมีไหวพริบ แค่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นก็รู้แล้ว "โก่วจือ เ้าไปตามพี่น้องคนอื่นๆ มาอีก ใช่ว่าพวกเราไม่รู้จักกับพี่สาวเสียที่ไหน ยามนี้พวกเขา้าความช่วยเหลืออย่ารอช้า"
"ได้" โก่วจือรีบรับคำ
หลังจากโก่วจือไปได้ไม่นาน ก็พาเด็กคนอื่นๆ อีกสิบกว่าคนมาด้วย มีทั้งเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง แต่ละคนล้วนหน้าเหลืองผอมแห้งแรงน้อย เสื้อผ้าที่สวมใส่ก็ขาดวิ่น พวกเขามองถังชิงหรูด้วยความสนใจ
เฉิงจื่อกับเด็กสองคนกำลังช่วยกันขนย้ายก้อนหินออก พอเห็นเด็กกลุ่มใหม่เข้ามาสมทบ เขาก็ทำตัวราวกับเป็หัวโจก พูดกับทุกคนว่า "มีคนถูกทับอยู่ใต้นี้ พวกเ้ารีบมาช่วยกันขนย้ายสิ่งของออก หากถูกฝังอยู่ในนี้นานเกินไป เขาอาจตายได้"
"หา?" เด็กๆ ได้ยินเช่นนั้นก็รีบเข้ามาช่วยอย่างขมีขมัน
แม้จะเป็เพียงเด็ก แต่พวกเขาทำงานหนักมาจนเคยชิน จึงมีเรี่ยวแรงพอๆ กับผู้ใหญ่ทีเดียว ดังนั้นจากการช่วยเหลือของพวกเขา ไม่ช้าก็ช่วยเฉินิออกมาจากกองซากปรักหักพังสำเร็จ
ถังชิงหรูทดสอบลมหายใจของชายหนุ่ม พอแน่ใจว่าเขายังมีชีวิตก็พรูลมหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนแค่นเสียงไม่พอใจ "ท่านนี่ขยันหาเื่เจ็บตัวเสียจริงเชียว"
แม้ว่าบ้านจะทรุดโทรมแค่ไหน แต่คงไม่ถึงกับพังลงมากระมัง เขาทำอะไรในนั้นกันแน่ หรือว่าเพราะเื่เมื่อคืน ก็เลยใช้บ้านเป็ที่ระบายอารมณ์ ผลสุดท้ายก็เลยถูกทับอยู่ในนี้
เื่แบบนี้ยังทำออกมาได้
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาตำหนิ ทั้งโรคเก่า ทั้งอาการาเ็ใหม่ หากยังถูกโทสะเล่นงานอีกอย่าง ไม่แน่ว่าอาจจะตายไปเลยก็ได้ นางยังไม่อยากแบกรับคำครหาเช่นนี้
"พี่สาว บ้านของท่านกลายเป็แบบนี้ไปแล้ว พวกท่านอยู่ไม่ได้แล้วล่ะ" เฉิงจื่อกล่าว "ข้างบ้านข้ามีบ้านว่างอยู่หลังหนึ่ง ท่านจะไปอยู่ที่นั่นก่อนหรือไม่"
"ใช่แล้ว ข้าบอกกับท่านพ่อท่านแม่ไว้ว่าพี่สาวเป็คนดี ตอนนี้พวกเขาก็เชื่อถือท่าน หากพวกท่านเข้ามาอยู่ในหมู่บ้าน ไม่มีใครสร้างความลำบากใจให้อย่างแน่นอน" เสี่ยวโก่วจือเอ่ยปากรับรอง
ถังชิงหรูครุ่นคิด ถึงอย่างไรตนเองก็ต้องอยู่ร่วมกับชาวบ้านเ่าั้ ฉวยโอกาสนี้เข้าไปััใกล้ชิดกับพวกเขาหน่อยก็ดี อีกอย่างบ้านหลังนี้ก็พังไปแล้ว นางกับเฉินิต้องหาที่อยู่อาศัยใหม่ ในหมู่บ้านยังมีบ้านว่างอีกมากนัก เลือกมาสักหลังที่แข็งแรงกว่านี้หน่อยจะดีกว่า
"เสี่ยวหู่จือ" ถังชิงหรูกล่าวกับเด็กชายตัวน้อยที่อยู่ด้านข้าง "สมุนไพรในกระบุงนี้เป็ของมารดาเ้า หยิบเอาไปต้มให้นางดื่ม ใช้น้ำสามถ้วยต้มจนเหลือถ้วยเดียว ทราบหรือไม่ว่าต้องทำอย่างไร หากไม่เข้าใจก็กลับมาถามข้าได้"
"ขอบคุณพี่สาวมากขอรับ" เสี่ยวหู่จือกล่าวด้วยความดีใจ
"หู่จื่อ เ้าให้พี่สาวไปช่วยรักษามารดาหรือ" เฉิงจื่อมองหู่จือด้วยสายตาเคลือบแคลง
หู่จือพยักหน้า "เมื่อวานแม่ข้าไออย่างหนักจนกระอักเืมากมาย ข้าเป็ห่วง จึงไปเชิญพี่สาวมาดูให้ พี่สาวฝังเข็มแค่ไม่กี่เข็ม แล้วก็กดจุดให้ไม่กี่ที แม่ข้าก็ไม่ไอหนักขนาดนั้นอีกแล้ว วันนี้ยังกินผักป่าที่ข้าขุดมาได้แล้วด้วย"
"จริงหรือ? วิชาแพทย์ของพี่สาวเก่งขนาดนี้เลยหรือ" เฉิงจื่อมองถังชิงหรูด้วยความตื่นเต้น "พี่สาวช่วยไปดูท่านย่าของข้าได้หรือไม่"
ถังชิงหรูชี้ไปที่บุรุษบนพื้น พลางเอ่ยด้วยความจนใจ "ถึงอยากไปดูแค่ไหนก็ต้องเป็วันอื่นแล้วล่ะ ข้าต้องดูแลเขาก่อน"
"พี่สาวเ้าคะ พี่ชายผู้นี้เป็ใครหรือ หน้าตาดีมาก เหมือนเดินออกมาจากภาพเขียนเลย" เด็กหญิงตัวน้อยคนหนึ่งมองเฉินิด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ถังชิงหรูหันไปมองใบหน้าของเฉินิที่เปลี่ยนไปจนไม่เหมือนเดิม ก็อดเลื่อมใสแม่นางน้อยคนนี้ไม่ได้ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ยังมองออกว่าเขาหน้าตาดี ชะรอยแม่หนูคนนี้เติบโตไป สายตาคงไม่ธรรมดา มีเปลือกตาทองเนตรอัคคี[1]เป็แน่แท้"
"เขาเป็คนที่น่าสงสารมาก" ถังชิงหรูส่ายหน้า เอ่ยด้วยความจนใจ "เขาร่างกายอ่อนแอมาั้แ่เด็ก ตลอดเวลาที่ผ่านมิเคยได้อยู่อย่างสุขสบาย"
"น่าสงสารจัง" เด็กๆ ต่างมองเฉินิด้วยความเห็นใจ
ถังชิงหรูมุมปากกระตุก ด้วยอุปนิสัยของเฉินิ ถ้ารู้ว่ามีเด็กๆ เห็นใจเขา เกรงว่าคงเดินสะบัดหน้าหนีอย่างหัวเสียเป็แน่
เฮ่อ... เดินหนีรึ? ด้วยอาการของเขาตอนนี้ ต้องรักษาตัวอีกนานแค่ไหนไม่อาจรู้ได้ นางแทบจะกลายเป็หมอเต็มเวลาของเขาอยู่แล้ว
ทำไมหนอ... ั้แ่รู้จักกับหมอนี่ ก็ไม่เคยมีเื่ให้สบายใจได้สักเื่
ภายในเรือนหลังน้อย ถังชิงหรูแบกเฉินิขึ้นเตียง หลังจากจากนั้นก็เริ่มจัดกระดูกให้เขา
เขาถูกทับอยู่ใต้ซากปรักหักพัง กระดูกแขนและขาล้วนเคลื่อนผิดตำแหน่ง นางจึงต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัวเชื่อมกระดูกให้ หลังจากนั้นค่อยทาสีผึ้งรักษาาแให้เขา
เด็กๆ ต่างกลับบ้านของตนเอง ในบ้านจึงเหลือเพียงพวกเขาสองคน ถังชิงหรูเห็นเขายังไม่ฟื้น จึงเข้าไปทำความสะอาดถ้วยชามหม้อกระทะเ่าั้
ยามเฉินิฟื้นขึ้นมา เห็นภายในห้องเงียบเหงาไร้เงาคน ร่างกายก็เ็ปรวดร้าวไปทั่วทุกส่วน เขารู้ว่าตนเองยังไม่ตาย ครานี้คงได้รับการช่วยเหลืออีกแล้ว ส่วนคนที่ช่วยเหลือก็คงไม่พ้นสตรีผู้นั้น เขาทอยิ้มขมขื่นออกมาโดยไม่รู้ตัว ตนเองติดค้างนางไว้มากนัก ดูท่าชาตินี้คงชดใช้ไม่หมด ไฉนทุกครั้งคนที่าเ็ต้องเป็เขาตลอด หากเป็เช่นนี้ต่อไป จะเหลือสิ่งใดไว้ให้คุยได้บ้าง มิน่าสตรีคนนั้นถึงไม่ชอบตนเอง หากเขาเป็นาง ก็คงไม่ชอบบุรุษที่เดี๋ยวล้มป่วยเดี๋ยวาเ็แบบนี้เหมือนกัน
ถังชิงหรูได้ยินเสียงก็เดินเข้ามา เห็นเฉินิลุกขึ้นมานั่งก็นิ่วหน้า "ท่านไม่เอาชีวิตแล้วใช่หรือไม่"
"ตายยังดีกว่าอยู่ อยู่ไปมีแต่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน" เฉินิหลุบสายตาลงต่ำ
"หากไม่อยากให้ผู้อื่นเดือดร้อน เช่นนั้นก็ดูแลตนเองให้ดี" ถังชิงหรูนั่งลงข้างเตียง "ยอมแพ้ท่านเลย ข้าเพิ่งไปนานแค่ไหนเอง ท่านก็ทำให้ตนเองกลายเป็เช่นนี้ไปเสียแล้ว บ้านหลังนั้นใช่ว่าสร้างจากดินโคลนสักหน่อย ไฉนจึงถล่มลงมาได้ ท่านโมโหมากถึงขนาดไประบายเอากับบ้านเรือนเชียวหรือ"
เฉินิขึงตาใส่นางอย่างไม่พอใจ "ในสายตาเ้า เห็นข้าเป็คนแบบนี้เองหรือ หากไม่ใช่คนชั้นต่ำผู้นั้นลอบจู่โจม ข้าจะาเ็ขนาดนี้ได้อย่างไร"
"คนผู้นั้น? ใครกัน เมิ่งหลิงรึ" ถังชิงหรูเพิ่งทราบเื้ัที่แท้จริง "เขาทำร้ายท่านจนกลายเป็แบบนี้ ไยต้องมาหาเื่ถึงที่อีกเล่า"
"คงอยากมาวางอำนาจข่มขู่กระมัง" เฉินิไม่บอกถังชิงหรูเื่พระเชษฐาของตนเอง เื่นั้นเขากังวลได้ แต่มิอาจให้นางพลอยวิตกไปด้วย
เขาเห็นนิ้วมือทั้งสิบบนมือเล็กๆ ของนางมีาแเพิ่มขึ้นมามากมาย ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าได้มาอย่างไร เขารู้สึกละอายใจยิ่งนัก เอ่ยว่า "ขออภัยด้วย ข้าทำให้เ้าต้องาเ็อีกแล้ว ข้าว่า... เ้าไปเสียเถอะ เื่นี้ไม่เกี่ยวข้องกับเ้า แค่ไปจากที่นี่ คิดว่าคนผู้นั้นคงไม่สร้างความลำบากให้เ้า ถึงอย่างไรเ้าก็เป็หมอเทวดาที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองชิ่ง เขายังต้องคำนึงถึงทัศนะของประชาชนอยู่"
"แต่ไรมาข้าไม่เคยเป็ทหารหนีทัพ" ถังชิงหรูกล่าวเสียงเรียบ "เมื่อข้าตัดสินใจมาหาท่าน ย่อมเตรียมทุกอย่างไว้พรั่งพร้อม อีกอย่างท่านก็มีน้ำใจต่อข้าไม่น้อย โรงหมอของข้า รวมถึงชื่อเสียงที่กระฉ่อนไปทั่วเมืองล้วนเป็ท่านที่มอบให้ หากท่านไม่ปูทางให้แก่ข้า ข้าจะมีความสำเร็จในวันนี้ได้อย่างไร แม้ว่าข้าจะเชื่อมั่นว่าตนเองสามารถได้ทุกสิ่งเหล่านี้ แต่ก็คงไม่เร็วขนาดนี้ ดังนั้นข้าจะต้องปกป้องท่านให้ปลอดภัยจนกว่าจะส่งมอบท่านให้คนที่ไว้วางใจได้เพื่อเป็การตอบแทน"
"หากคนผู้นั้นคิดสังหารข้า เ้าจะเสี่ยงมากหากติดตามข้า" เฉินิมองถังชิงหรูด้วยแววตาล้ำลึก
ถังชิงหรูครุ่นคิด ก่อนหันไปยิ้มกล่าว "ไม่หรอก อย่าคิดว่าข้าแสนประเสริฐขนาดนั้น"
"เช่นนั้นก็ดี" เฉินิพรูลมหายใจเบาๆ
"ท่านไม่โกรธหรือ" ดวงตาของถังชิงหรูฉายแววฉงน
"ไฉนข้าต้องโกรธด้วยเล่า" เฉินิมองนางด้วยแววตาอ่อนโยน "เ้ารู้จักปกป้องตนเองเป็เื่ดี ข้ามีแต่จะดีใจ ไม่โกรธเ้าหรอก"
ถังชิงหรูเอื้อมมือมาลูบพวงแก้มของเขา เฉินิตัวแข็งทื่อ แววตาจมดิ่งลงสู่ความมืด
"น่าเสียดายใบหน้านี้เปลี่ยนเป็หัวหมูไปเสียแล้ว" ถังชิงหรูทอดถอนใจ "จริงสิ ท่านรอดมาได้ ต้องขอบคุณเด็กเ่าั้ด้วยเล่า"
"ตัวตั้งตัวตีคือเ้าต่างหากล่ะ" นี่เป็ครั้งแรกที่เฉินิไม่โมโหเพราะถูกนางยั่วโทสะ แม้จะถูกเยาะหยันว่าเป็หัวหมูก็ยังไม่โกรธ
"ั้แ่พรุ่งนี้เป็ต้นไป ข้าจะเริ่มออกรักษาให้พวกชาวบ้าน ระหว่างที่ข้าตรวจคนไข้ จะให้เด็กเ่าั้มาช่วยดูแลท่าน" ถังชิงหรูบอกแผนการของตนเอง "วันนี้ข้าขึ้นเขาพบหญ้าพิษชนิดหนึ่ง ข้าสงสัยว่าพวกชาวบ้านอาจกินหญ้าพิษชนิดนั้นเข้าไป ทั้งยังกินสัตว์เล็กๆ ที่มีพิษแฝงอยู่บนูเา ดังนั้นถึงได้ติดโรคประหลาดชนิดนี้ ข้าจะไปถอนพิษให้พวกเขาก่อน ท่านอยู่นี่พักผ่อนรักษาาแได้ดีเถอะ"
เพื่อให้ฟื้นฟูเร็วขึ้น นางใช้จิตพิสัยจรรยาแพทย์แลกโอสถลูกกลอนและยาสำหรับทาให้แก่เขา ด้วยาแของเขาแล้ว เดิมทีต้องใช้เวลาสามถึงสี่เดือนถึงจะฟื้นฟู แต่หลังจากได้รับการรักษาจากนาง อย่างมากเพียงหนึ่งเดือนก็สามารถกลับมาเป็เหมือนเดิม แต่เพื่อมิให้ผิดสังเกต ทางที่ดีควรจะเก็บงำไว้สักหน่อย แม้ว่าจะหายแล้วก็ต้องแสร้งทำเป็าเ็อยู่
เฉินิเริ่มร้องออกมาอย่างเ็ปทรมาน
ถังชิงหรูเพิ่งสังเกตเห็นว่าสีหน้าเขาผิดปรกติ พอเอามือแตะหน้าผากของเขา ก็ถลึงตาใส่ "ท่านตัวร้อนนี่ ทำไมไม่บอกข้า"
เฉินิยิ้มอย่างอ่อนเปลี้ย "เ้าลำบากเพื่อข้าขนาดนั้น ข้าจะทำให้เ้าเดือดร้อนอีกได้อย่างไร ไม่เป็ไร ข้าทนไหว"
--------------------------------------------------------------------------------
[1] เปลือกตาทองเนตรอัคคีหมายถึงดวงตาของซุนหงอคง ซึ่งมีตาทิพย์สามารถมองแยกแยะภูตผีปีศาจได้ ตาทองเนตรอัคคี จึงมีความหมายว่ามีสายตาแหลมคม แยกแยะจริงเท็จได้ อุปรากรจีนจะระบายเปลือกตาของนักแสดงที่เล่นเป็ซุนหงอคงด้วยสีทองเพื่อสื่อความหมายถึงตาทิพย์ จึงเป็ที่มาของคำว่าเปลือกตาทองเนตรอัคคี