ถ้อยคำที่ดูเป็ห่วงนั้นไม่ได้ส่งผลดีต่อมารอนโซ่สักนิด เขาหันซ้ายหันขวาเริ่มเห็นคนซุบซิบกันแล้ว
ให้ตายเถอะ ทำไมนางพูดเหมือนชี้นำให้คนคิดว่าเขาก่อเื่อะไรตอนกลางคืนล่ะ!
“มารอนโซ่ก่อเื่จนลำบากผู้บัญชาการ ต้องมาจัดการในตอนกลางคืนรึเปล่า”
“นั่นสิ ดึก ๆ ดื่น ๆ ยังรบกวนคนอื่นอีก”
“ปกติก็แทบไม่มีหน้าที่อะไรเป็หลักเป็แหล่งแท้ ๆ”
ลีออนเห็นทุกคนเริ่มพูดไปกันใหญ่เขาจึงหันไปมองด้วยสายตาคมกริบ เสียงพูดถึงได้เงียบลง
“เปล่า” เขาหันไปมองคนผมทองที่ทำหน้าเลิ่กลั่กก่อนจะหันกลับไปถามผู้ใต้บังคับบัญชา “พวกเ้าคิดว่าวันนี้โพชั่นมีอะไรแปลกไปรึเปล่า”
นักล่าทุกคนมองหน้ากันก่อนจะพยักหน้า “เอ่อ...รู้สึกว่าวันนี้โพชั่นสดชื่นกว่าปกติครับ ทำให้กระปรี้กระเปร่าเหมือนเืมันพลุ่งพล่านพร้อมออกไปล่าสุด ๆ”
ชาร์ลอตต์ยิ้มกว้าง “ดีใจที่ทุกคนชอบนะคะ เมื่อวานข้าไปช่วยปรุงโพชั่—”
“เมื่อคืนมารอนโซ่ใส่ส่วนผสมพิเศษลงไป มันคงทำให้ประสิทธิภาพดีขึ้น ปกติเราปรุงโพชั่นตามวิธีในตำรา ไม่มีทางที่มันจะออกฤทธิ์เปลี่ยน เห็นทีต่อจากนี้เื่โพชั่นคงต้องพึ่งพาเขา” ลีออนกล่าวก่อนที่ชาร์ลอตต์จะพูดจบทำให้คำพูดของนางถูกกลืนหายไป
มารอนโซ่อ้าปากค้าง ไม่คิดว่าลีออนจะพูดแบบนี้
เฮ้ย ไอ้หน้าที่ปรุงยาเป็ตัวเก็บคะแนนความนิยมของนางเอกเลยนะ เพราะโพชั่นที่ต้องผลิตต่อวันมีจำนวนเยอะมาก พอนางเอกมาช่วยทุกคนจึงรู้สึกดีกับนาง
[เขาดีใจเพราะคนไม่พอเลยได้แรงงานมาเพิ่มต่างหาก]
“…” มารอนโซ่
เสียงซุบซิบดังขึ้นอีกครั้งราวกับเปิดสวิตช์
“มารอนโซ่ทำให้โพชั่นประสิทธิภาพดีขึ้นจริงเหรอ”
“ถ้าบอกว่าเป็ชาร์ลอตต์ยังน่าเชื่อกว่าเลย”
ลีออนยักไหล่ “เมื่อคืนข้าไปยืนจ้องเขาทำ แถมยังแอบชิมก่อนแล้วด้วยไม่มีปัญหาแน่นอน”
มารอนโซ่กะพริบตาปริบ ๆ ทำไมลีออนพูดถึงเขาในแง่ดีล่ะเนี่ย
[โฮสต์สุดยอดจริง ๆ เปลี่ยนหมาบ้าให้เป็หมาเชื่องได้แล้ว]
ข้อความที่ขึ้นตรงหน้าดูไร้ชีวิตชีวาสุด ๆ แม้จะไม่มีเสียงออกมาอยู่แล้วก็ตาม ไอ้ระบบนี่มันปากดีจริง ๆ!
[ทำให้ทุกคนมองโฮสต์ดีขึ้นในระดับที่มองแล้วไม่เบะหน้า [10/10]
V
V
[อัพเกรด สถานะตัวร้ายถูกถอดออก]
[พลังศักดิ์สิทธิ์เพิ่มขึ้นจนสามารถรักษาแผลฉกรรจ์ได้]
ชื่อ : มารอนโซ่
สถานะ : ตัวร้ายปากแซ่บที่พร้อมพุ่งชนทุกอย่าง
ฉายา : พี่ชายใจโฉดที่ทำร้ายน้องสาวได้ลงคอ
ความสามารถติดตัว : นักบุญที่มีพลังศักดิ์สิทธิ์เพิ่มขึ้นจนสามารถรักษาแผลฉกรรจ์ได้
>รักษาแผลฉกรรจ์ [3/5]
>อวยพรต่อเทพเ้า
[ความงามเทพธิดา+50]
>สามารถทำน้ำยาเสริมพลังได้ ทุกคนที่ดื่มจะแข็งแกร่งดุจหินผา
[ชำระล้างมลทินที่แปดเปื้อน MAX]
“…” มารอนโซ่
มันต่างจากเดิมยังไงเนี่ย ถึงเอาคำว่าตัวร้ายออกก็ไม่เห็นทำให้เขาดูดีขึ้นเลยสักนิด!!!
“งั้นมารอนโซ่ใส่ส่วนผสมอะไรลงไปในน้ำล่ะ”
“นั่นสิ ไม่มีใครดัดแปลงสูตรน้ำโพชั่นมาห้าสิบปีแล้วนะ”
“ใช่ เพราะไม่มีใครทำได้ดีกว่าเดิม บางทีเปลี่ยนส่วนผสมแค่หยดเดียวก็กลายเป็ยาพิษร้ายแรงแล้ว”
“ท่านพี่คงหวังดีอยากช่วยให้นักล่าทุกคนกลับมาอย่างปลอดภัยน่ะค่ะ อาจจะอายเลยแอบไปตอนกลางคืน” ชาร์ลอตต์กล่าวเหมือนกำลังช่วยพูดให้พี่ชาย ทว่าปฏิกิริยาของทุกคนกลับต่างออกไป
“ถ้าหวังดีแล้วทำไมไปตอนกลางคืนล่ะ”
“ไม่ใช่ว่าวางแผนร้ายกับท่านชาร์ลอตต์หรอกเหรอ”
“จริงด้วยปกติท่านชาร์ลอตต์ไปช่วยงานที่ห้องทดลองบ่อย ๆ เขาจึงพยายามใส่ร้ายด้วยการหยดสารมั่ว ๆ ลงไป แต่บังเอิญว่าผลลัพธ์ออกมาดีเลยจะเคลมว่าตัวเองทำน่ะสิ!”
ชาร์ลอตต์พยายามร้องห้าม “ทุกคนอย่าว่าท่านพี่เลยค่ะ ถึงข้าจะมีส่วนช่วยปรุงโพชั่นมากที่สุด แต่ก็มีหลายคนร่วมกันทำนะคะ ท่านพี่คงไม่ได้หวังร้ายกับข้าหรอกค่ะ”
“พูดอะไรแบบนั้นท่านชาร์ลอตต์ มารอนโซ่ทำร้ายท่านมากมายมีหรือเขาจะพลาดโอกาสนี้ไปได้”
“ใช่ครับ มารอนโซ่คงทำแผนไม่สำเร็จอีกตามเคย โชคดีที่วันนี้ไม่มีใครเป็อะไร”
มารอนโซ่กอดอก เห็นคนพูดถึงเขาปาว ๆ ก็ใช่จะยอมเป็หุ่นนิ่งให้ตีเล่นๆ “ข้าจะลงทุนทำขนาดนั้นทำไม ถ้าหน่วยล่าตายหมดข้าก็โดนเก็บไปด้วยสิ ลีออนก็เห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง ถ้าพวกเ้าใช้สมองใคร่ครวญสักนิดจะไม่พูดจาไร้สมองแบบนี้ออกมาเลย”
ฮือฮา...
“มันก็จริง ถึงมารอนโซ่จะนิสัยไม่ดี แต่ไม่เคยทำเื่ชั่วร้ายจนโดนจับได้แบบโต้ง ๆ เลย”
“จริงด้วย ข้าก็เคยได้ยินแต่สิ่งที่เขาเล่ากันมา”
“…” มารอนโซ่
[อัพเกรดสถานะ ลูกขุนนางสมองกลับมาปกติแล้ว]
สถานะอันนี้ก็ใช้ไม่ได้โว้ยย!! ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีขึ้นสักนิดเลยเหอะ!
“ว่าแต่วันนี้คำพูดของชาร์ลอตต์ดูแปลก ๆ นะว่าไหม”
“ใช่ดูเสนอตัวแปลก ๆ”
มารอนโซ่เลิกคิ้ว พอสถานะเปลี่ยน มุมมองแย่ ๆ ต่อเขาก็เปลี่ยนไปด้วยงั้นเหรอ เพราะงี้ชาร์ลอตต์จึงโดนสงสัยในการกระทำของตัวเองด้วยสินะ
ชาร์ลอตต์ทำหน้าเลิ่กลั่ก วันนี้มีเื่ขัดใจนางหลายเื่จึงเผลออารมณ์เสียมากไปหน่อย “ขะ...ข้าไม่ได้เป็คนบอกว่าท่านพี่ทำแท้ ๆ ฮึก”
พอทุกคนเห็นน้ำตาของนางฟ้าแห่งจักรวรรดิ จากที่สงสัยก็เปลี่ยนกลับมาสงสารทันที
“ท่านชาร์ลอตต์พวกเราไม่ได้ตั้งใจโทษท่านนะ”
“ใช่ ๆ พวกนั้นตีความกันไปเองแล้วมาโยนเนื้อร้ายใส่ท่านชาร์ลอตต์ได้ไง”
“ท่านชาร์ลอตต์ไม่ได้ทำอะไรเลยแท้ ๆ”
มารอนโซ่เห็นว่ามันเริ่มวุ่นวายขึ้นเรื่อย ๆ เขาจึงหันหลังกลับ
“ถ้าพวกเ้าไม่มีอะไรแล้วข้าขอตัวก่อนแล้วกัน”
ลีออนมองแผ่นหลังของคนตัวเล็กหายลับไปกับฝูงชน ก่อนจะก้าวเดินออกไปจากสถานการณ์ความวุ่นวายตรงนี้
กองทัพเคลื่อนตัวช้ากว่ากำหนด แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีบางคนยินดีกับความล่าช้านี้ ทุกคนรู้ว่าทุกครั้งที่ออกล่า จะมีคนตายเสมอ...
เฮ็ดวิกเห็นคนผมทองเดินหน้ามุ่ยหนีออกมา เขาก็แอบเดินตามมาอย่างเงียบ ๆ
“อยากเปลี่ยนอาชีพใหม่เป็สตอกเกอร์รึไง คุณหมอ” ประโยคสุดท้ายมารอนโซ่หันมองหมอหนุ่มด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์
“เพราะทำหน้าเบี้ยวบูดแบบนั้นไงเขาถึงบอกว่าเ้าไม่น่ารัก”
“คำว่าไม่น่ารักกับมารร้ายต่างกันลิบลับเลยนะ ไม่รู้ว่าหูเ้ามีปัญหารึเปล่า รีบเข้าเื่ได้แล้ว”
“ท่านผู้บัญชาการให้เ้ารับหน้าที่ปรุงโพชั่นไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่เข้ามาดูในห้องทดลองหน่อยล่ะครับ” เฮ็ดวิกยกยิ้มเ้าเล่ห์
มารอนโซ่คิ้วกระตุกแล้วกุมขมับ “พระเ้าเห็นชีวิตข้าวุ่นวายไม่พอหรือไงถึงส่งอีเว้นท์น่ารำคาญมาให้เต็มไปหมด”
“เมื่อกี้เ้าว่าไงนะ” เฮ็ดวิกเลิกคิ้วถาม
“อ๋อเปล่า กำลังขอพรให้ทุกคนที่ไปล่าปลอดภัยน่ะครับ”
[…]
แถบชายแดนนั้นไร้ผู้อยู่อาศัย หรือถึงมีใครอยากเข้าไปอาศัย คนผู้นั้นคงโดนเนติวอล์กลืนกินจนแทบไม่เหลือกระดูก
กลุ่มของลีออนเคลื่อนตัวไปอย่างช้า ๆ และระมัดระวัง ทุกย่างก้าวล้วนต้องแลกด้วยชีวิต
ทะเลทรายตรงหน้าช่างดูแห้งแล้งและร้อนละอุ ยังดีที่เสบียงในกระเป๋าไม่เคยหมดเวลาออกล่า เนื่องจากพวกเขาไม่เคยไปได้ไกลขึ้นเลยสักนิด
รองผู้บัญชาการเหลือบมองหัวหน้าตัวเองอยู่หลายครา ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจพูดออกมาเหมือนไม่กลัวตาย
“วันนี้ท่านดูแปลก ๆ นะครับ ปกติท่านเคยเข้าข้างเ้าชั่วมารอนโซ่นั่นซะที่ไหน”
ลีออนขมวดคิ้ว เมื่อก่อนเขาไม่รู้สึกอะไรเวลามีคนด่ามารอนโซ่ แต่วันนี้กลับหงุดหงิดจนต้องแสดงสีหน้า
“เ้าจะพูดมากทำไม คิดแค่เื่กำจัดเนติวอล์ก็พอ”
เซอร์เคย์ยืนงง ทำไมวันนี้หัวหน้าหงุดหงิดง่ายจัง ทำราวกับสตรีมีประจำเดือนไปได้
“ครั้งนี้จะไปได้ไกลไหมนะ” ยาร์ค หนึ่งในนักล่าของหน่วยบ่นออกมาเงียบ ๆ พวกเขาต้องตามหาแหล่งต้นกำเนิดของเนติวอล์ให้ได้ ทว่าจะครั้งไหนการสำรวจก็ต้องหยุดลงเพราะมีคนตาย
และพวกเขาไม่อยากสูญเสียคนมากเกินไป หากขากลับมีคนน้อย แม้จะเจอต้นตอ แต่คนที่เหลือก็ไม่สามารถกลับไปบอกข่าวให้คนในค่ายรับรู้ได้
กี๊กกกกกก!!!
เสียงร้องมาก่อนตัว หน่วยนักล่านั้นคุ้นกับสถานการณ์นี้กันดี พวกเขารีบหันหลังชนกันแล้วกวาดสายตามองหาเนติวอล์ตัวที่ว่าอย่างไว
ไม่นานเกินรอเมือกสีดำที่มีดวงตาจำนวนมากอยู่ด้านในก็โผล่ออกมาจากกองทรายเม็ดร่วน มันกระโจนเข้าหากลุ่มนักล่าพร้อมแผ่ขยายตัวให้ใหญ่พร้อมเขมือบทุกคนเข้าไปทั้งตัว
ทว่าความโลภนั้นเป็พิษ เมื่อมันขยายตัวใหญ่ก็ง่ายต่อการเป็เป้าโจมตีมากขึ้น
ทุกคนต่างหยิบดาบศักดิ์สิทธิ์ออกมาฟันตัวมันจนขาดสองท่อน ชิ้นส่วนเมือกสีดำตกลงไปกองกับพื้น ทว่าไม่สามารถจับตัวกันเป็ก้อนได้เหมือนก่อน เนื่องจากดาบที่ผ่านพิธีในโบสถ์มาแล้วจะไม่ถูกกัดกร่อนด้วยเมือกของเนติวอล์
นักล่าทุกคนต่างเบิกตากว้าง แม้ไม่พูดอะไรออกมา แต่ทุกคนรู้สึกได้ว่าการเคลื่อนไหวของพวกเขาไหลลื่นกว่าปกติ วันนี้จึงใช้เวลากำจัดเนติวอล์ได้รวดเร็วกว่าที่เคย
ปกตินักล่าทุกคนจะหันหลังชนกันเป็วงกลมเพื่อดูว่ามีเนติวอล์โผล่ออกมาจากมุมหลืบไหนไหม เป็อันรู้กันว่าเมืุ่์ััโดนเนติวอล์ พวกเขาจะแปดเปื้อนมลทินตายทันทีแม้จะไม่ถูกมันกินก็ตาม
แต่เหมือนร็อคกี้จะมั่นใจในประสิทธิภาพของตัวเองวันนี้มากเกินไป เขาเดินออกจากกลุ่มแล้ววิ่งเข้าไปฟันเนติวอล์ตัวหนึ่งที่ผุดออกมาจากใต้ดิน ไม่รู้เลยว่าด้านหลังของตัวเองมีเนติวอล์อีกตัวที่กำลังจับตามองเขาอยู่!!
“ร็อคกี้ข้างหลัง!!!”
ร็อคกี้เบิกตากว้าง เนติวอล์ตัวนั้นกระโจนมาหาเขา ใกล้ขนาดนี้หลบไม่ทันแน่
เขาพยายามเหวี่ยงดาบออกไปแต่กลับไม่โดน เหมือนเนติวอล์ตัวนี้รู้ทัน มันไม่ได้ขยายขนาดเหมือนตัวอื่นทำให้เล็งเป้าได้ยาก
“อ้าก!!!!!!!”
ฟึบ
ร็อคกี้หลับตาปี๋ยืนรอความตาย แต่เมื่อไม่รู้สึกอะไรเขาจึงลืมตาขึ้นมา ภาพที่เห็นตรงหน้าคือเซอร์เคย์ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาโดยมีศพของเนติวอล์กองอยู่ข้าง ๆ
นักล่าหนุ่มยิ้มอย่างดีใจที่รองหัวหน้ามาช่วย แต่พอเดินมาดูด้านหน้า เขากลับต้องรีบถอยหลังอย่างไว
“อย่าเข้าใกล้ข้า” เซอร์เคย์พูดด้วยน้ำเสียงที่แหบกว่าปกติ
เศษชิ้นส่วนของเนติวอล์ตัวเมื่อครู่กระเด็นโดนเอวของเขา เพราะฟันมันระยะที่ใกล้เกินไปจึงหลบไม่ทัน แม้จะสวมชุดเกราะอยู่ก็ไม่สามารถป้องกันกรดของสัตว์ร้ายตัวนี้ได้
ดาบศักดิ์สิทธิ์ผ่านพิธีศักดิ์สิทธิ์ในโบสถ์และส่งต่อมาจากรุ่นก่อน ๆ ในสมัยที่ยังมีนักบุญอยู่ ทว่าตอนนั้นไม่มีใครคาดว่าภัยร้ายเล็ก ๆ จะทำให้พวกเขาเดินทางมาถึงวันที่โลกเกือบล่มสลาย
นักบุญคนล่าสุดไม่ได้เคลือบพลังศักดิ์สิทธิ์ไว้ที่เกราะ...
“ระ...รองหัวหน้า!” ทุกคนต่างยืนเรียกเซอร์เคย์ในระยะไกล พวกเขาไม่สามารถแตะตัวรองหัวหน้าสุ่มสี่สุ่มห้าได้
ตอนนี้มลทินเริ่มแปดเปื้อนแล้ว จุดที่เนติวอล์ััโดนิัจะเปลี่ยนเป็สีดำและมีดวงตาจำนวนมากอยู่ในนั้นราวกับเนื้อส่วนนั้นได้กลายเป็เนติวอล์ไปแล้ว ทุกคนจึงแตะต้องเขาไม่ได้
ลีออนเดินเข้ามาใกล้เซอร์เคย์อย่างไม่เกรงกลัว แต่เขาก็ไม่ได้ััอีกฝ่าย “เ้าอยากกลับค่ายรึเปล่า”
ทันทีที่ลีออนกล่าวจบทุกคนก็ทำหน้าอึ้ง คนที่แปดเปื้อนต้องตายเท่านั้น มันรักษาไม่หายเว้นเสียแต่พลังของนักบุญจะตื่นขึ้นมา
แม้แต่ร็อคกี้ก็ไม่อยากให้เซอร์เคย์กลับค่าย ถึงอย่างงั้นเขาก็มีความผิดเป็ชนักติดหลังจึงไม่กล้าเอ่ยปาก
“หัวหน้าทิ้งข้าไว้เถอะครับ”
“…”
“ตอนนี้ข้าไม่มีโอกาสรอดแล้ว”
“เ้าควรจะตายอย่างมีเกียรติ อย่ามาตายอย่างโดดเดี่ยวเหมือนหมาข้างถนนที่นี่”
มีความเชื่อกันว่า คนตายควรได้รับเกียรติให้นอนในโลงและจัดงานศพเพื่อระลึกถึง ถ้าตายแบบไม่มีใครรู้ ไร้คนจัดงานแสดงความเคารพจะถือว่าไม่มีเกียรติ ไม่มีใครแลแม้กระทั่งตาย
เซอร์เคย์เข้าใจถึงเจตนาของหัวหน้าดี แต่ว่า...
“ยังไงก็ตายอยู่ดี เกียรติจะมาสำคัญอะไรล่ะครับ กลับไปก็มีแต่จะเดือดร้อนคนอื่นเปล่า ๆ”
ลีออนยืนยันคำสุดท้าย “ไม่ล่ะ กลับเถอะ” เขานึกถึงใบหน้างดงามของใครบางคน “บางทีเ้าอาจจะไม่ตายก็ได้”
เซอร์เคย์ขมวดคิ้ว แปดเปื้อนมลทินแล้วจะไม่ตายได้ยังไง หรือหัวหน้ากำลังปลอบใจเขาในแบบฉบับของตนเอง?
ฉับพลันชายหนุ่มก็นึกถึงชาร์ลอตต์ นางในดวงใจของเขา ถ้ารู้เข้านางคงเสียใจมาก บางทีอาจจะร้องไห้เลยก็ได้
“ข้าควรกลับไปบอกลาคนสำคัญสักหน่อย…”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้