หลังออกจากบ้านตระกูลหนิง เซี่ยเสี่ยวหลานก็กลับมาเรียนใน่บ่ายที่มหาวิทยาลัย พอเรียนเสร็จเซี่ยเสี่ยวหลานยังไม่สามารถกลับไปยังบ้านที่สือช่าไห่ได้
เธอผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศของการแข่งขันภาษาอังกฤษ ดังนั้นอาจารย์หลินจึง้าติวเข้มเธอเป็พิเศษ
เวลาแบบนี้ไม่มีการแบ่งว่าเป็เด็กของภาควิชาสถาปัตยกรรมหรือภาควิชาอื่น ไม่แบ่งความเป็เด็กใหม่หรือเด็กเก่า สิ่งที่ต้องไขว่คว้ามาให้ได้คือเกียรติยศของหัวชิง ในบรรดาเด็กสี่คนที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย ไม่ว่าใครจะเป็คนคว้าอันดับสูงๆ มาได้ เกียรติยศย่อมเป็ของมหาวิทยาลัย
เช่นนั้นก็ไม่จำเป็ต้องแอบไปติวกันลับหลัง ต้องไปแข่งรอบชิงอย่างไร ทำอย่างไรถึงจะพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษได้ในระยะเวลาอันสั้น เหล่าอาจารย์ผู้เกี่ยวข้องของหัวชิงต้องทำการปรึกษากันอย่างจริงจัง
อาจารย์สอนภาษาต่างประเทศไม่ได้มีอาจารย์หลินเพียงคนเดียว
หัวชิงมีภาควิชาภาษาต่างประเทศโดยเฉพาะ อีกทั้งยังมีชื่อเสียงมากอีกด้วย ภาควิชานี้ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1926 นักวิชาการและศาสตราจารย์ชื่อดังหลายคนของประเทศล้วนจบจากภาควิชานี้ ตอนหลังทางภาควิชาภาษาต่างประเทศได้ปิดรับนักศึกษาใหม่ จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้ว ทางภาควิชาภาษาต่างประเทศกลับมาเปิดการเรียนการสอนจึงได้เริ่มทำการเปิดรับนักศึกษาใหม่อีกครั้ง
คนที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ นอกจากเด็กปีหนึ่งอย่างเซี่ยเสี่ยวหลานกับจี้เจียงหยวนแล้ว อีกสองคนที่เหลือคือเด็กปีสองของภาควิชาภาษาต่างประเทศ
คนที่มาติวเข้มพิเศษให้กับทุกคน นอกจากอาจารย์หลินยังมีอาจารย์จากภาควิชาภาษาต่างประเทศอีกด้วย
ตอนหนึ่งทุ่ม อาจารย์เรียกพวกเซี่ยเสี่ยวหลานให้มารวมตัวกันในห้องเรียนเล็ก โดยเหล่าอาจารย์ได้ทำการอบรมแนวทางความคิดให้กับนักศึกษาทั้งสี่คนก่อน เพื่อเน้นย้ำความสำคัญของการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในครั้งนี้
ใช่แล้ว นักศึกษาสี่คนที่ผ่านเข้ารอบมากันครบ รวมถึงจี้เจียงหยวนด้วยเช่นกัน
ที่เซี่ยเสี่ยวหลานบอกว่าจะตัดขาดความเป็เพื่อนกับเขานั้นไม่ใช่เื่ล้อเล่น เมื่อสายตาของจี้เจียงหยวนมองมา เซี่ยเสี่ยวหลานใช้ความเ็าตอบกลับไป
ต้องขอบคุณจี้หย่า ที่ทำให้ข่าวลือของเซี่ยเสี่ยวหลานกับจี้เจียงหยวนแพร่สะพัดจนใครหลายคนในมหาวิทยาลัยรู้กันจนทั่ว
คนอื่นไม่นินทาก็ไม่ได้หมายความว่าไม่คิดอยู่ในใจ เห็นสีหน้าเย็นะเืของเซี่ยเสี่ยวหลานแล้ว ต่อให้มีความสัมพันธ์กับจี้เจียงหยวนจริง ก็คงถูกแม่ของจี้เจียงหยวนทำลายจนสิ้นอย่างแน่นอน
ผู้หญิงคิดแบบนี้ ทว่าพวกผู้ชายกลับสงสารจี้เจียงหยวน โดยเฉพาะพวกเพื่อนร่วมหอของเขา ตอนนั้นจี้หย่าถามอะไรมาพวกเขาก็ตอบหมด ใครจะไปรู้ว่าจี้หย่าจะเป็คนแบบนั้น ทั้งสร้างความเดือดร้อนให้เซี่ยเสี่ยวหลาน ทั้งยังทำให้จี้เจียงหยวนไม่กล้าสู้หน้ากับคนในมหาวิทยาลัย
เมื่อก่อนเป็คนดังที่ได้รับความนิยม แต่กลับมีเื่ฉาวภายในชั่วพริบตา โชคดีที่จี้เจียงหยวนเป็คนจิตใจเข้มแข็ง ไม่ทันไรก็สามารถกลับมาเรียนได้ตามปกติ
“......การแข่งขันครั้งนี้เป็การแข่งขันภาษาอังกฤษระดับประเทศที่กระทรวงศึกษาธิการจัดขึ้นเป็ครั้งแรก โดยจะพุ่งเป้ามายังกลุ่มนักศึกษาระดับอุดมศึกษาจากทั่วประเทศ ใครได้รับรางวัลจากรอบชิงชนะเลิศ มหาวิทยาลัยนั้นๆ ก็จะได้รับชัยชนะไปด้วย ไม่ใช่แค่เกียรติยศส่วนบุคคล แต่ยังเป็เกียรติยศของมหาวิทยาลัยอีกด้วย ถือเสียว่าพวกเธอเป็ตัวแทนระดับภาษาต่างชาติของมหาวิทยาลัยก็แล้วกัน โดยเฉพาะการเป็ตัวแทนใน่ที่ประเทศของเรากำลังให้การส่งเสริมด้านภาษาอังกฤษยิ่งนับว่าเป็เกียรติสูงสุด!”
โดยเฉพาะภาควิชาภาษาต่างประเทศของหัวชิงที่เพิ่งกลับมาเปิดรับนักศึกษาอีกครั้งเมื่อปีที่แล้ว ทางภาควิชาจึง้าสร้างผลงานให้เร็วที่สุด
การแข่งขันภาษาอังกฤษระดับมหาวิทยาลัยของกระทรวงศึกษาธิการครั้งนี้ ทางภาควิชาภาษาต่างประเทศของหัวชิงย่อมให้ความสำคัญเป็อย่างยิ่ง ปัจจุบันกระทรวงศึกษาธิการได้เพิ่ม ‘วิชาภาษาอังกฤษ’ เป็หนึ่งในวิชาบังคับของการสอบเข้ามหาวิทยาลัย โดยกระทรวงศึกษาธิการ้าใช้การแข่งขันครั้งนี้เป็เครื่องมือเพิ่มระดับความสนใจของประชาชนที่มีต่อ ‘วิชาภาษาอังกฤษ’ และบอกกับเหล่านักเรียนว่า ภาษาอังกฤษของนักศึกษามหาวิทยาลัยนั้นอยู่ขั้นไหน และเป็การตอบคำถามเดียวกันแก่เบื้องบนด้วย
สิ่งเหล่านี้ตรงกับความ้าของภาควิชาภาษาต่างประเทศของหัวชิง พวกเขา้าให้การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศยิ่งมีคนสนใจเท่าไรก็ยิ่งดีมากเท่านั้น
ชื่อเสียงใน ‘การแข่งขันครั้งแรก’ ค่อนข้างสำคัญ โดยสิ่งนี้เปรียบเสมือนเป็การบุกเบิก หัวชิงกับจิงต้านั้นเป็คู่แข่งกันอยู่แล้ว การแข่งขันในแวดวงการศึกษาเช่นนี้ ทั้งสองฝั่งย่อมหวังอยากเห็นการพัฒนาและความสำเร็จของตนเอง อีกทั้งการแข่งขันเชิงบวกถือเป็แรงกระตุ้นให้ทุกฝ่ายพัฒนาตัวเองอีกด้วย
อาจารย์ร่ายยาว เด็กทั้งสี่คนรวมถึงเซี่ยเสี่ยวหลานต่างพากันพยักหน้ารับ อาจารย์จึงเน้นย้ำต่อว่า
“พวกคุณคงได้ข่าวแล้วว่า นักศึกษาที่ได้รับชัยชนะในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศจะมีโอกาสได้ไปเป็ ‘นักศึกษาแลกเปลี่ยน’ ที่มหาวิทยาลัยของต่างประเทศ นี่ไม่ใช่ข่าวโคมลอย กระทรวงศึกษาธิการมีแผนการเช่นนี้จริง! พวกคุณคงทราบดีว่าฤดูร้อนของปีนี้ ประเทศจีนได้เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกที่ลอสแองเจลิสเป็ครั้งแรก นี่นับว่าเป็โอกาสที่วงการกีฬาของประเทศจีนจะได้เผยโฉมหน้าสู่สายตาชาวโลกเป็ครั้งแรก แต่นอกจากกีฬาแล้ว พวกเรายังมีนักศึกษาที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย พวกคุณคือบุคลากรที่เป็ความหวังของประเทศจีน... การเป็นักศึกษาแลกเปลี่ยนนั้นนับว่าเป็เื่ที่ดี พวกคุณจะได้เรียนรู้วัฒนธรรมทางการศึกษาของต่างชาติ สภาพแวดล้อมการเรียนในมหาวิทยาลัยของสหรัฐอเมริกานั้นเข้มข้นมาก การมีประสบการณ์การเป็นักศึกษาแลกเปลี่ยน ถือเป็สมบัติล้ำค่าที่จะส่งผลต่ออาชีพการงานและชีวิตของทุกคนในอนาคต!”
นักศึกษาแลกเปลี่ยนแตกต่างจากการเรียนต่อต่างประเทศ
แต่หากบอกว่าไม่มีใครอยากไปััโลกของต่างประเทศเลยก็คงเป็เื่โกหก
มีคนยอมขายบ้านเพื่อเดินทางออกนอกประเทศด้วยซ้ำ เซี่ยเสี่ยวหลานเห็นมากับตาตัวเอง
นักศึกษาแลกเปลี่ยนประเภทนี้อาจจะไปต่างประเทศเพียงครึ่งปีหรือหนึ่งปี โดยค่าเดินทางรวมถึงค่าอาหารและที่พักทางรัฐจะเป็ผู้ออกให้ทั้งสิ้น ใครบ้างจะไม่อยากไป
แม้แต่เซี่ยเสี่ยวหลานเองก็ยังอยากไป อยู่ประเทศจีนเงินที่หาได้คือเงินหยวน แต่ที่ต่างประเทศคือเงินดอลลาร์ หากเอากลับมาแลกในตลาดมืดอัตราส่วนคือ 1:10 หาเงินในประเทศทุนนิยมแล้วนำกลับมาพัฒนาประเทศจีน เซี่ยเสี่ยวหลานไม่รู้สึกกดดันแม้แต่น้อย
ไปอเมริกาสักครึ่งปีก็คงไม่เลว ดูสิว่าจะมีโอกาสทางธุรกิจหรือเปล่า แถมยังได้ช่วยย่าอวี๋ตามหาตัวลูกชายอีกด้วย
อาจารย์ได้ทำการเรียกขวัญและกำลังใจของทุกคนแล้ว ก่อนหน้านี้เซี่ยเสี่ยวหลานได้ยินคำคาดเดาจากปากหลิวหัวเจิง แต่พอได้ยินเื่นี้ออกจากปากของอาจารย์ นั่นก็เท่ากับเป็ความจริงที่ยังไม่ได้ถูกประกาศต่อสาธารณะสินะ
แม้เซี่ยเสี่ยวหลานอยากได้รางวัลก็หาใช่เื่ง่าย รอบชิงชนะเลิศไม่ได้มีเธอที่ลงแข่งเพียงคนเดียว
อย่าว่าแต่ชิงตำแหน่งกับผู้เข้าแข่งขันคนอื่นเลย นักศึกษาของหัวชิงอีกสามคนที่ผ่านเข้ารอบมาด้วยกันนี้ เซี่ยเสี่ยวหลานยังไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าจะสามารถเอาชนะพวกเขาได้
นักศึกษาจากทั่วประเทศที่ผ่านเข้ารอบชิงรวมกันแล้วมี 100 คน พอคิดถึงการตอบคำถามด้านทักษะการพูด เซี่ยเสี่ยวหลานก็เกิดความสงสัยว่าหรือตนจะอยู่อันดับรั้งท้าย
มหาวิทยาลัยของกรุงปักกิ่งมีเด็กผ่านเข้ารอบทั้งหมด 20 คน ตอนนี้จำนวนผู้ผ่านเข้ารอบของหัวชิงเท่ากับจิงต้าคือ 4 คน บางมหาวิทยาลัยก็ไม่มีผู้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศด้วยซ้ำ ผู้เข้ารอบชิงชนะเลิศ 100 คนนี้มาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำจากทั่วทุกสารทิศ
ถ้าอยากได้รางวัลเซี่ยเสี่ยวหลานคงต้องกระตือรือร้นมากเป็พิเศษ
เื่จี้เจียงหยวนอะไรนั่น เซี่ยเสี่ยวหลานไม่มีเวลามาสนใจ พอมีเป้าหมายระยะสั้น เซี่ยเสี่ยวหลานก็พร้อมทุ่มเทอย่างเต็มที่ มนุษย์มีวิวัฒนาการมาตลอดจนถึงปัจจุบัน จนกระทั่งมีภาษาที่งดงามอย่างภาษาจีนเกิดขึ้น แน่นอนว่าภาษาของประเทศอื่นก็งดงามเช่นกัน หากไม่ได้เรียนเพราะมีเป้าหมายคงพบความงดงามทางภาษาได้ง่ายยิ่งขึ้นกว่านี้
การผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศได้ถือเป็การพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าผู้ผ่านเข้ารอบมีคลังคำศัพท์จำนวนมากพอ ความหมายที่อาจารย์้าสื่อคือ อยากให้ทุกคนเรียนรู้ศัพท์ชั้นสูงและสามารถใช้รูปประโยคขั้นสูงได้
“ได้ทานอาหารอร่อย อ่านหนังสือที่ดีสักเล่ม ฟังเพลงดีๆ สักเพลง หรือจะชื่นชมใครสักคน พูดได้แค่ว่า very good อย่างนั้นหรือ ยังมีคำว่า ‘pretentious’ และ 'jelly’ ... หรือไม่ก็ใช้คำที่มักปรากฏอยู่ในบทกวี อย่างเช่นคำว่า 'thriven and thro’ จะสามารถทำให้คณะกรรมการรู้สึกตื่นตาตื่นใจมากกว่าหรือเปล่า?”
เซี่ยเสี่ยวหลานยอมรับว่าสิ่งที่อาจารย์พูดนั้นถูกต้อง แม้ในชีวิตประจำวันจะไม่ใช้ศัพท์ในบทกวีโบราณอย่างคำว่า 'thriven and thro’ ในการชื่นชมใครคนใดคนหนึ่ง แต่หากใช้มันในรอบชิงชนะเลิศ ย่อมดูเหนือชั้นกว่าคำว่า ‘very good’ อย่างแน่นอน เวลาที่ระดับของทุกคนใกล้เคียงกัน ก็เป็อย่างที่อาจารย์กล่าวไว้ ศัพท์และรูปประโยคชั้นสูงจะทำให้คนคนนั้นดูโดดเด่นกว่าผู้อื่น
การติวเข้มในครั้งนี้ อาจารย์ได้ชี้แนะแนวทางให้กับนักศึกษาทุกคน ระยะเวลาก่อนถึงรอบชิงชนะเลิศ เซี่ยเสี่ยวหลานรู้แล้วว่าเธอควรพุ่งเป้าพัฒนาในด้านใด
เื่นี้เธอไม่คิดจะบอกย่าอวี๋ หากสุดท้ายเธอคว้าโอกาสกสนเป็นักศึกษาแลกเปลี่ยนมาไม่ได้ นั่นเท่ากับทำให้ย่าอวี๋ดีใจเก้อมิใช่หรือ อาจารย์หลินเดินกลับพร้อมเซี่ยเสี่ยวหลานแล้วก็รู้สึกประหลาดใจ
“เหมือนจู่ๆ เธอก็มีความกระตือรือร้นอย่างแรงกล้าขึ้นมา จากที่ปล่อยให้เป็ไปตามธรรมชาติกลายเป็ต้องคว้ามาให้ได้แบบนี้ เกิดเื่อะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ?”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้