หลี่ซานหู่เป็หนึ่งในสี่หัวหน้าหอแห่งค่ายไม้ดำ ฝึกปรือถึงระดับปลายด่านนวกะิญญา ชื่อของคนผู้นี้ฟังดูโอหังอยู่บ้างแต่ท่าทางของมันกลับดูเหมือนบัณฑิตยิ่งกว่า หากมันถือพัดจีบแทนที่จะเป็ดาบใหญ่ร้อยห่วงคงไม่มีใครคาดคิดว่ามันเป็โจรร้าย
กระนั้นแม้ภายนอกดูสุภาพอ่อนแอแต่ในบรรดาหัวหน้าพอทั้งสี่มันกลับโเี้ที่สุด มันมักเข่นฆ่าผู้คนมากมายหรือฆ่าล้างหมู่บ้านเพียงเพราะความไม่พอใจเพียงเล็กน้อย --- ดังเช่นวันนี้
ภารกิจคุ้มกันบรรณาการกลับไปยังสำนักกลับถูกหัวหน้าหอแซ่จงแย่งชิงไป มันจึงหงุดหงิดใจยิ่ง วันนี้มันพาพรรคพวกลงเขาหวังจะหาสตรีมาเล่นสนุก มิคาดหมู่บ้านเล็กๆนั้นกลับต่อต้านจึงถูกมันทำลายด้วยความพิโรธ จากนั้นคร่ากุมสตรีมาเจ็ดแปดคน
เดิมทีมันคิดจะกลับค่ายในคืนนี้ แต่ระหว่างทางมันรู้สึกเหน็ดเหนื่อยอยู่บ้าง จึงหยุดยั้งที่ลานกว้างนี้เพื่อดื่มกินและพักผ่อน ก่อนจะเดินทางต่อ
มันเห็นเหล่าสมุนล้วนกระเหี้ยนกระหือรือจะเล่นสนุกกับสตรีที่ถูกคร่ากุมมา หลี่ซานหู่ดื่มสุราจากถุงหนังอึกหนึ่งก็ตวาดใส่กลุ่มโจรที่อยู่ด้านขวามือ “บัดซบ! สตรีงามหยาดเยิ้มนั้นเป็ของข้า! เ้าอุบาทว์บัดซบกล้าแย่งชิงนางต่อหน้าข้า? ผู้นั้นก็เช่นกัน! ข้าจะนำกลับไปมอบให้ท่านรองหัวหน้า! ห้ามแตะต้องนาง! ได้ยินหรือไม่?”
โจรสองกลุ่มที่ถูกมันตวาดว่ากระจายตัวออกด้วยสีหน้าอับอาย กลุ่มโจรด้านขวาขออภัยมันครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยรอยยิ้มสอพลอจากนั้นขยับไปด้านข้างแหวกช่องเปิดทางให้หัวหน้าหอของพวกมันได้'กัดคำแรก'
หลี่ซานหู่ลุกขึ้นเดินไปได้สองก้าวจู่ๆก็หันหลังกลับราวรู้สึกถึงบางอย่าง มันมองไปยังทิศทางที่เพิ่งผ่านมาก็พบเห็นเพียงเส้นสายสีแดงฉานพุ่งเข้าหาอย่างเร่งร้อน
หลังจากมองเห็นชัดตามันก็พบว่านั่นไม่ใช่เส้นสีแดงแต่กลับเป็ชายหนุ่มถือทวนสีแดงเพลิงวิ่งตะบึงเข้ามาสุดกำลังด้วยท่าทีเปี่ยมรังสีฆ่าฟัน ยามที่มันมองเห็นได้ชัดตาระยะห่างระหว่างพวกมันก็ร่นเหลือเพียงห้าสิบวา
ศัตรู! มิหนำซ้ำความรู้สึกนี้... มันเป็ผู้ฝึกปรือิญญา!
หลี่ซานหู่เป็คนหลักแหลม มันทราบในแทบจะทันทีว่าผู้มาไม่มีเจตนาดีจึงะโก้อง “มีศัตรู! เตรียมพร้อมต่อสู้!”
เสียงะโของมันทำทุกคนแตกตื่น พวกมันหันหน้าไปมองก็เห็นเพียงชายผู้หนึ่งพุ่งเข้ามาพร้อมทวนในมือจึงงงงันวูบ: เพียงคนเดียว ไฉนหัวหน้าหอจึงตื่นตระหนกเช่นนี้?
โจรกลุ่มนอกสุดยกอาวุธขึ้นเตรียมสั่งสอนบทเรียนอันโเี้แก่เ้าคนที่พุ่งมาอย่างหุนหัน ให้มันรับทราบว่าต้องจ่ายค่าตอบแทนที่รบกวนเวลาหาความสุขของพวกมัน --- ด้วยชีวิต
เห็นเ้าผู้นั้นพุ่งเข้ามาใกล้ โจรที่อยู่หน้าสุดก็เงื้ออาวุธในมือขึ้นด้วยท่าทีอำมหิต ตระเตรียมจะฟันลง
กระนั้นมือที่เงื้อขึ้นของมันก็หยุดยั้งอยู่เหนือศีรษะ กระทั่งรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมบนหน้ามันก็นิ่งค้างราวถูกแช่แข็ง มันส่งสายตาอันสับสนมองไปยังทวนสีชาดที่ทะลวงอกมัน ขณะที่จะสิ้นใจมันยังคิดว่า --- ทรวงอกมัน’อบอุ่น’ยิ่ง…
ทว่ามันยังไม่ทราบอีกอย่าง แม้แต่โจรที่ยืนด้านหลังมันก็ถูกทะลวงด้วยทวนเล่มนี้พร้อมกัน
… … … …
ไป๋หยุนเฟยดวงตาเปี่ยมแววอำมหิตพุ่งเข้ากลางกลุ่มโจรเบื้องหน้าโดยไม่รีรอ ทวนในมือแทงออกอย่างแยบยล ความเร็วของมันไม่ใช่สิ่งที่โจรทั่วไปจะโต้ตอบได้ทัน ทวนของมันจึงทะลวงผ่านร่างของโจรทั้งคู่ออกไป
มันชักทวนกลับในพริบตาปล่อยโลหิตให้กระเซ็นใส่ร่างแล้วจึงหันกายไป มันวาดทวนเป็วงโค้งสีแดงฉานตามร่างมันไป ปลายทวนก็กวาดผ่านคอหอยของโจรสามคน หลังจากที่โลหิตพุ่งกระฉูดออกมาโจรทั้งสามก็ค่อยๆหงายหลังล้มลงโดยไม่ทันได้ตอบสนองอันใด
“มันเป็ผู้ฝึกปรือิญญา! รีบรวมกลุ่ม ทุกคน! รีบรวมกลุ่ม! ร่วมกันฆ่ามัน!” หลี่ซานหู่คำรามกึกก้องปลุกพวกโจรฟื้นจากความตระหนก เพียงเห็นหัวหน้าหอเข้าปะทะผู้บุกรุกพวกมันก็มีปฏิกิริยาชูดาบขึ้น แม้จะหวาดกลัวศัตรูที่เป็ผู้ฝึกปรือิญญาเพียงใด แต่กระทั่งหัวหน้าหอยังร่วมต่อสู้ หรือยังจะให้พวกมันหดหัวซ่อนหางได้? เช่นนั้นพวกมันคงไม่้าชีวิตแล้ว
หลี่ซานหู่ทั้งตระหนกทั้งขุ่นเคือง มันพุ่งไปเบื้องหน้าขณะขบคิดสมองแทบแตก “ผู้ใดจะคาดคิดว่าผู้ฝึกปรือิญญาจะพลันปรากฏกายจู่โจมพวกเรา? มัน้าอันใด? มันไม่นำพาสมุนทั้งสี่สิบกว่าคนของข้า?
แม้ดูเหมือนมันจะแข็งแกร่งกว่าข้า แต่ข้ายังมีสมุนอีกหลายสิบคน หากร่วมมือกันต้องกำจัดมันได้แน่นอน!”
ไป๋หยุนเฟยกวาดตามองหลี่ซานหู่ที่พุ่งเข้ามาแต่สองเท้าไม่ได้หยุดยั้งลง หลังจากหลบเลี่ยงดาบที่ฟันมาจากด้านหลังก็เตะโจรเบื้องหน้าปลิวกระเด็นไปปะทะโจรหลายคนที่ตามมาเข้ามาล้มลง จากนั้นเสือกทวนทะลวงกลับหลัง โจรด้านหลังก็ถูกด้ามทวนแทงทะลุคอหอยทันที มันเบิ่งตากว้างแล้วหงายหลังล้มลงไป
ไป๋หยุนเฟยขวางทวนรับดาบสองเล่มที่ฟันลงมาจากด้านข้าง จากนั้นออกแรงผลักส่งทั้งโจรคู่หงายหลังแล้วตวัดคมทวนออกไปตัดคอหอยพวกมัน!
ยามนี้หลี่ซานหู่ก็มาถึง มันคาดไม่ถึงว่าคนผู้นี้จะอำมหิตขนาดฆ่าคนถึงสามคนในคราเดียว มันพลันคำรามก้องทะยานขึ้นฟาดฟันดาบใส่ไป๋หยุนเฟย
ไป๋หยุนเฟยหันกายไปตอบโต้ด้วยทวนไม่ทันการ จึงทำได้เพียงขวางทวนขึ้นต้านรับเหนือศีรษะ ยามต้านรับดาบไว้มันก็ถูกแรงปะทะกระแทกถอยกายไปหลายก้าว เมื่อหลี่ซานหู่ไล่ตามเข้ามากลับถูกไป๋หยุนเฟยกวาดทวนบีบให้ล่าถอย
หลังจากบังคับหลี่ซานหู่ล่าถอยไป๋หยุนเฟยก็พุ่งกายไปด้านหลังยืดระยะออก และหันไปจู่โจมกลุ่มโจรเจ็ดแปดคนทางอื่น
ทุกคราที่หลี่ซานหู่หวังจะเข้ามาต่อสู้ไป๋หยุนเฟยจะบีบให้มันถอยแล้วหันไปจัดการพวกโจรอีกกลุ่ม
ไป๋หยุนเฟยราวกับพยัคฆ์ในฝูงแกะ ทวนของมัน หมัดของมันและเท้าของมันล้วนเป็อาวุธล่าชีวิตสำหรับพวกโจร เหล่าโจรล้มลงไปทีละคน ที่ยังคงยืนอยู่ได้ก็ลดลงทีละคน
ยามไป๋หยุนเฟยใช้ทวนทะลวงอกโจรไปอีกคนหนึ่ง หลี่ซานหู่ก็ได้โอกาสเร่งความเร็วพุ่งมาตรงหน้าและวาดดาบใหญ่ขนานพื้นเข้าใส่หว่างเอวไป๋หยุนเฟย
ไป๋หยุนเฟยปักทวนลงพื้นด้านข้างเพื่อต้านดาบ ดวงตาหลี่ซานหู่ทอประกายยินดีวูบสืบเท้าไปครึ่งก้าวส่งให้มันกับไป๋หยุนเฟยแทบปะทะชนกัน จากนั้นยกแขนซ้ายที่เบ่งพองด้วยกล้ามเนื้อปูดโปนพุ่งกระแทกใส่ทรวงอกไป๋หยุนเฟย
มันทำเช่นนี้พราะเห็นว่าไป๋หยุนเฟยเชี่ยวชาญเพลงทวน สมควรอ่อนด้อยในการต่อสู้ประชิด ยามนี้มันเข้าใกล้ตัวศัตรูในระยะัั ทวนของมันย่อมไม่อาจกวัดแกว่งได้ ตราบที่มันพัวพันจู่โจมประชิดตัวทั้งมีพวกโจรคอยลอบทำร้ายอยู่รอบด้าน คนผู้นี้ต้องตายแน่นอน!
กระนั้นไป๋หยุนเฟยกลับไม่ตระหนก มันถอยเท้าขวาครึ่งก้าวเพื่อสร้างระยะจากนั้นยกหมัดขวาขึ้นชกเช่นเดียวกัน
เสียงบดกระดูกดังสดใสที่ได้ยินสะท้านจิตใจหลี่ซานหู่ ดวงตามันทอแววไม่เชื่อถือยามที่ละลิ่วถอยหลังโดยไม่ทันตั้งตัว พลังมหาศาลผ่านแขนขวาศัตรูเข้ามา ตามติดด้วยพลังระลอกที่สองและระลอกที่สาม พริบตาเดียวพลังหมัดสามระลอกก็ทะลักผ่านหมัดมันเข้ามา กระทั่งยังรู้สึกว่ากระดูกแขนซ้ายั้แ่ปลายนิ้วไล่ไปถึงหัวไหล่ล้วนแหลกละเอียดเป็ชิ้นเล็กชิ้นน้อย
วิชาระลอกคลื่น พลังหมัดสามทบ!
หลังจากส่งคู่ต่อสู้ปลิวออกไป ไป๋หยุนเฟยไม่ได้ไล่ตามไปจู่โจมต่อทันที มือขวามันสั่นระริก แม้ว่าจะใช้เพียงขั้นแรกของวิชาระลอกคลื่นนามพลังหมัดสามทบ แต่แขนขวามันยังแทบไม่อาจทนทานผลข้างเคียงจากการปะทุพลัง
“ข้ายังไม่แตกฉานพอ...”
ไป๋หยุนเฟยสะบัดแขนขวาและชักนำพลังิญญาเข้าไปเพื่อฟื้นฟูอย่างรีบเร่ง จากนั้นเงยหน้าขึ้นมองพวกโจรรอบด้านที่หยุดชะงักด้วยท่าทีหวาดกลัว เนื่องเพราะหัวหน้าหอพวกมันถูกกระแทกปลิวละลิ่วไป
ไม่เพียงแต่พวกโจรยามนี้แม้แต่หลี่ซานหู่ก็ยังจับจ้องไป๋หยุนเฟยอย่างไม่เชื่อถือ แขนซ้ายมันสั่นสะท้าน เมื่อเห็นไป๋หยุนเฟยไม่ไล่ตามมาจู่โจมก็ลอบถอนใจโล่งอกแต่ดวงตามันยังเปี่ยมด้วยความหวาดกลัว
“ร่วมมือกัน!! ร่วมมือ...”
คำพูดของหลี่ซานหู่ติดอยู่ที่ลำคอไม่อาจกล่าวได้ เนื่องเพราะยามนี้มันตื่นตระหนกยิ่ง ที่พบว่าเหลือโจรเพียงไม่กี่คนที่ยังยืนหยัดอยู่ได้
แทบเท้าไป๋หยุนเฟยมีโจรนอนเกลื่อนกลาดอยู่สามสิบกว่าคน พวกมันล้วนไม่อาจคืบคลานลุกขึ้นได้อีก!
เสียงร่ำร้องจากหลี่ซานหู่ปลุกพวกโจรที่รอดชีวิตจากความแตกตื่น แต่แทนที่จะเข้าไปจู่โจมศัตรูตามคำสั่งหัวหน้าหอ พวกมันกลับวิ่งหนีอย่างคลุ้มคลั่ง
พวกมันไม่ใช่คนโง่งม! ศัตรูผู้นี้กำจัดพวกมันไปสามสิบกว่าคนอย่างง่ายดาย กระทั่งผู้ฝึกปรือิญญาเช่นหัวหน้าหอแซ่หลี่ยังไม่ใช่คู่มือ!
แต่ยามที่พวกมันวิ่งหนีไปได้ไม่กี่ก้าว ก็ต้องแตกตื่นเพราะเสียงร้องโหยหวนจากที่ไกลออกไป พวกมันจึงชะงักเท้าไม่กล้าเคลื่อนไหวอีกครา
นี่ต้องเป็สองคนก่อนหน้าที่วิ่งหนีหายเข้าไปในป่าละเมาะอีกด้าน ทว่ามันทั้งคู่กลับถูกมีดสั้นซัดทะลวงหัวใจจากด้านหน้าอย่างกะทันหัน แล้วพวกมันก็ล้มลงอย่างงุนงง
หลี่เฉิงเฟิงเดินออกจากป่ามาช้าๆดึงมีดสั้นออกจากซากศพ จากนั้นเดินเข้ามายังโจรที่เหลือสี่ห้าคนทีละก้าว มันมองไป๋หยุนเฟยที่ยืนห่างออกไปและกล่าวเสียงทุ้ม “ที่เหลือข้าจัดการเอง...”
เดิมทีโจรที่เหลือทั้งสี่ก็หวังจะวิ่งหนีเข้าป่าเอาชีวิตรอดเช่นกัน ทว่ายามนี้เห็นหลี่เฉิงเฟิงเพียงปรากฏกายก็ฆ่าสหายทั้งสองที่หนีไปทันที ทั้งยังเดินเข้าหาด้วยแววตาอำมหิต พวกมันตื่นตระหนกยิ่งจึงร่ำร้องอย่างหวาดกลัวแยกย้ายกันวิ่งหนี
หนึ่งในพวกมันสุ่มเลือกทางหนีไปหาไป๋หยุนเฟย ยามที่รู้สึกตัวก็สายเกินไปถูกไป๋หยุนเฟยเตะกระเด็นออกไป หลี่เฉิงเฟิงก็ไล่ตามไปเฉือนคอหอยมันในมีดเดียว
หลี่เฉิงเฟิงไล่ตามไปสังหารโจรสามคนที่เหลือทีละคนจนหมดสิ้น
จากนั้นหลี่เฉิงเฟิงก็กลับไปข้างกายไป๋หยุนเฟยและเริ่มตรวจสอบพวกโจรที่ถูกไป๋หยุนเฟยจัดการล้มลงก่อนหน้าเพื่อจัดการผู้ที่ยังมีลมหายใจอยู่ด้วยมีดของมัน หลี่ซานหู่เห็นดังนั้นใบหน้าก็บิดเบี้ยวปั้นยาก
มันไม่คาดคิดมาก่อนว่าศัตรูจะมีผู้ร่วมทาง อีกทั้งยังเป็ผู้ฝึกปรือิญญาเช่นเดียวกัน! เมื่อเห็นท่าทีอันอำมหิตของพวกมัน หลี่ซานหู่ก็ล้มเลิกความคิดร้องขอความเมตตา ดวงตามันเป็ประกายแวววับยามครุ่นคิดหาทางหลบหนี
จู่ๆดวงตามันทอประกายวูบด้วยความยินดี มันชำเลืองหางตามองหญิงสาวทั้งสามที่โอบกอดกันด้านซ้ายห่างไปหนึ่งวา พวกนางเม้มปากแน่นดวงตาเปี่ยมด้วยความหวาดกลัวทั้งร่างสั่นสะท้าน
เสียงร้องอย่างน่าเวทนาดังขึ้นเมื่อหลี่เฉิงเฟิงพบว่ามีโจรคนหนึ่งแกล้งตายอยู่บนพื้นจึงใช้มีดฆ่ามันอย่างอำมหิต
กระนั้นยามได้ยินเสียงร่ำร้อง ดวงตาหลี่ซานหู่ทอประกายดุร้าย มันคลายนิ้วปล่อยอาวุธในมือขวาลงแล้วพลันพุ่งไปด้านซ้าย ขณะเดียวกันก็ยื่นมือขวาไปคร่ากุมหญิงสาวนางหนึ่ง!
มันคาดเดาว่าศัตรูทั้งคู่สมควรมาช่วยเหลือสตรีเหล่านี้ ดังนั้นมันต้องคร่ากุมตัวประกันเพื่อหาช่องทางรอดชีวิต
