สุดท้าย ด้วยความเห็นแก่ตัวของนาง จึงคิดว่าเด็กคนนี้ก็ไม่ควรให้โจวอ้าวเสวียนรู้ หลังจากได้ยินว่าข้างกายของเขามีสตรีอื่น พูดกันตามหลักทฤษฎีแล้ว นางยอมรับ เพราะว่าไม่ช้าก็เร็วจะต้องเผชิญหน้ากับความจริงนี้ ทว่าส่วนลึกภายในใจ...นางโกรธ
“เอาล่ะ เด็กคนนี้ จะให้ใครรู้ไม่ได้”
กลับมาถึงเรือน เฉินเนี้ยนหรานก็ไปหาหนิวซื่อ
“ตอนนี้ปกปิดเื่ข้าท้องไว้ดีกว่า เื่การงานภายในและนอกเรือนคงต้องให้พวกเ้ารับไปทำเสียแล้ว”
ในปีนี้นางวางแผนแล้วว่าจะไม่ทำเื่อะไรมากมายอีก สิ่งมีชีวิตเล็กๆ ในท้องคือความหวังในชีวิตหลังจากนี้ของนาง นางจะต้องรักษาไว้
คืนนั้นขณะนอนอยู่บนเตียง แล้วลูบท้องตัวเองไป นางถึงได้รู้สึกอย่างชัดเจนว่า ตัวนางจะเป็มารดาแล้วจริงๆ
เืเนื้อที่เป็ของนาง จะเป็เด็กหญิงตัวอ้วนๆ หรือเด็กชาย...
แค่คิดถึงใบหน้าอ้วนๆ เฉินเนี้ยนหรานก็ยิ้มไม่หุบ
ในคืนนั้น นางฝันเห็นฝาแฝดชายหญิงคู่หนึ่งวิ่งมาถึงข้างกาย พร้อมยื่นมือป้อมๆ มาหา “ท่านแม่ อุ้มๆ... อุ้มๆ...”
ตอนที่เฉินเนี้ยนหรานกำลังจะอุ้ม ใครจะไปรู้ว่าเด็กหญิงที่อยู่ด้านข้างดึงนางไว้ด้วยท่าทางน้อยใจ “ท่านแม่ ท่านแม่ ท่านพี่รังแกข้า ตอนที่อยู่ด้านในเขามักจะทับข้า ข้าไม่อยากให้ท่านกอดท่านพี่...แล้วก็ยังมีอีกเื่ ทั้งๆ ที่ข้าควรจะเกิดก่อนมาเป็พี่สาว แต่เขาไวกว่าหน่อย... ท่านแม่ พวกเราอย่ากอดเขานะ....”
“ฮือ ท่านแม่...” เด็กชายตัวอ้วนจะร้องไห้แล้ว เด็กหญิงที่อยู่ด้านข้างก็ทำหน้าทะเล้นใส่เขาอย่างได้ใจ
ขณะที่เฉินเนี้ยนหรานกำลังปวดหัวอยู่นั้น ร่างเงาสูงใหญ่ก็มาปรากฏตัวอยู่ไกลๆ “ท่านแม่ เขาคือใครหรือ?” เด็กหญิงสายตาดี ถึงได้เห็นว่ามีคนมา เอ่ยปากถาม
พอดีกับที่ในตอนนั้น คนคนนั้นเงยหน้ามองนาง สายตาระยิบระยับมองใบหน้าแดงระเรื่อของเฉินเนี้ยนหราน
“ข้ามาแล้ว” เขายิ้มให้กับสามแม่ลูก
ยกมืออุ้มเด็กชายที่กำลังน้อยใจอยู่ “เป็บุรุษไม่ควรร้องไห้” ประโยคง่ายๆ เพียงประโยคเดียว แต่กลับทำให้เด็กชายหน้าแดง เขารีบอธิบาย “ข้า...ไม่ร้องไห้ ข้าแค่...อ้อนท่านแม่ แล้วท่านคือใคร? ท่านพ่อหรือ?”
โจวอ้าวเสวียนไม่ได้ตอบ ก่อนที่ไกลออกไปจะมีเสียงดังลอยมา “รีบเอาเด็กกลับไปที่เรือน เป็แค่สาวใช้ข้างห้องกล้าแอบคลอดเืเนื้อเชื้อไขของสกุลโจวออกมา แล้วยังกล้าปิดบังไม่บอกใคร แย่งมาให้ข้า...”
พอได้ยินเสียงนี้ เฉินเนี้ยนหรานก็ใไม่สนใจอย่างอื่น อุ้มลูกชายกับลูกสาววิ่งไปอีกทาง
แต่ด้านหลังก็มีคนดุร้ายตามมาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เป็ฮูหยินเฒ่าผู้นำของสกุลโจว ในดวงตาฉายแววดุร้าย สายตาจ้องไปที่พวกเด็กๆ ราวกับเห็นเหยื่อที่ต้องล่า
“ลูก...ลูกของข้า...” ในที่สุดลูกก็ถูกฮูหยินเฒ่าแย่งไป
เฉินเนี้ยนหรานรีบขอร้อง ให้นางเอาลูกของตนคืนมา
แต่ฮูหยินเฒ่าแค่นยิ้มเย็นให้ มองเด็กในอ้อมกอดก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ “เด็กดี ย่ารอคอยพวกเ้ามาหานะ”
“โจวอ้าวเสวียน เ้าเป็พ่อของเด็ก ขอร้องล่ะ ขอร้องเ้าเอาลูกคืนมาให้ข้า...” เมื่อขอร้องฮูหยินเฒ่าไม่ได้ผล เฉินเนี้ยนหรานก็รีบไปขอร้องโจวอ้าวเสวียน ทว่าในตอนนั้นเอง ก็ได้ยินเสียงอ่อนโยนของสตรีนางหนึ่งที่เดินมาข้างกายของโจวอ้าวเสวียน ทั้งยังอุ้มลูกสาวที่ร้องไห้ขึ้นมา “สามี เด็กพวกนี้ข้าจะเลี้ยงเสมือนลูกแท้ๆ เอง”
สตรีนางนั้นส่งยิ้มมาให้...ครอบครัวนั้นอุ้มลูกของนางเดินออกไปไกลเรื่อยๆ....
“ลูก...ลูกของข้า...ลูกชาย...ลูกสาว...”
“นายหญิง นายหญิง...เ้าตื่น...ตื่นสิ...” หนิวซื่อใช้แรงเขย่า ถึงจะปลุกเฉินเนี้ยนหรานให้ตื่นจากฝันได้
“ลูกของข้า...จะให้เกิดเื่กับพวกเขาไม่ได้...พี่สะใภ้หนิวจะต้องเก็บความลับให้ข้านะ...” เฉินเนี้ยนหรานที่เพิ่งจะตื่นขึ้นมาจากฝันร้าย ซบตัวเข้าไปในอ้อมกอดของหนิวซื่ออย่างอ่อนแรง ร้องไห้สะอื้นออกมา
มองสตรีในอ้อมกอด หนิวซื่อถึงได้รู้ว่า นายจ้างของตนในเวลานี้เป็เพียงเด็กหญิงอายุไม่กี่สิบขวบ จะอย่างไรก็ยังเป็เพียงเด็กที่ใกล้โตเต็มวัยเท่านั้น
“ไม่พูด ข้าไม่พูดเื่นี้ออกไปเด็ดขาด เื่ในเรือน ตอนนี้มีข้ากับครอบครัวของข้าดูให้ เ้าวางใจเถิด ยังมีน้องสาวสองคนที่คอยปกป้องเ้า ทั้งหมดนี้ไม่มีทางให้เ้ารู้สึกไม่สบายใจ เ้าน่ะ ที่สำคัญที่สุดก็คือปกป้องเด็กที่อยู่ในท้องของเ้า”
พูดกันสักพัก อารมณ์ของเฉินเนี้ยนหรานถึงได้สงบลง เมื่อรู้ตัวว่าตนเองเสียกริยาไป นางก็รู้สึกอายมาก
“เ้าไม่ต้องคิดมาก ไม่ใช่เื่แปลกอะไร ถึงจะเป็คนที่หนักแน่นเพียงใด คนเราก็ต้องมี่เวลาที่เสียกริยาบ้าง เฮ้อ พูดไปแล้วก็เพราะใส่ใจเกินไปนั่นแหละนะ”
ทั้งสองพูดคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง เฉินเนี้ยนหรานถึงได้หลับลึกไป
ั้แ่วันนี้ไป นางเริ่มค่อยๆ ลดจำนวนการออกจากเรือน
แต่จะไม่ออกเลยก็ไม่ได้ อย่างไรการที่จู่ๆ คนหายตัวไปกะทันหันก็ไม่ใช่เื่ดี
หลังจากที่นางบอกวิธีทำหัวบุกไป คนพวกนั้นก็ไม่ได้มาหาเื่พวกนางพี่น้องอีกเลย
กลับกัน เพราะเื่นี้คนในหมู่บ้านจึงดีกับพวกนางมาก อย่างเช่นวันนี้ขณะทานมื้อกลางวันก็มีคนถือถ้วยเต้าหู้เดินเข้ามา
นั่นคือสะใภ้ของสกุลจ้าว คนคนนั้นเข้ามาในเรือน เฉินเนี้ยนหรานก็รีบเข้าไปรับถ้วยมา “แม่นาง ทำไมท่านเกรงใจเช่นนี้ กินเต้าหู้พวกนี้แล้วคิดถึงพวกเราก็พอ”
หนิวซื่อรับถ้วยในมือของนางมา ก่อนจะไปเทเต้าหู้ออกที่ด้านข้างแล้วเอาถ้วยเปล่าไปล้าง
เฉินเนี้ยนหรานจูงสะใภ้สกุลจ้าวเข้ามาคุยด้วยกัน
สะใภ้ของสกุลจ้าวดูเขินอายเล็กน้อย ยามพูดคุยก็ดูนิ่มนวล
“ไม่ได้มีอะไรอร่อยหรอก ที่เรือนเอาถั่วมาทำเต้าหู้กินกันเอง คิดถึงพวกเ้าพี่น้องก็นึกเอ็นดู คงทำเต้าหู้เช่นนี้ไม่เป็ สามีเขาจึงให้ข้าเอามาให้น่ะ”
“เกรงใจแล้ว” เฉินเนี้ยนหรานยิ้มไปพูดไป ต่อมาก็คิดได้ว่าที่เรือนตนเองได้ดองผักเอาไว้ จึงหันไปสั่งหนิวซื่อ “พี่หนิว เ้าช่วยไปเอาผักดองมาให้พี่สะใภ้ท่านนี้สักถ้วยสิ ครั้งนี้รสชาติของผักดองสดใหม่ ท่านลองเอาไปชิมนะ”
ความจริงแล้วบ้านไหนต่างก็ทำผักดองเป็ แต่ผักดองนี้แบ่งคนทำ มีคนทำรสชาติแบบธรรมชาติสีสวย แต่ก็มีบางคนดองออกมาแล้วรสชาติจืด หรือมีรสชาติเปรี้ยวเล็กน้อย
กล่าวว่าคนในชนบทไม่ว่าใครก็สามารถทำผักดองพวกนี้ได้ อย่างไรการดองผักก็แค่เปลืองเกลือ ดังนั้นเมื่อคนในชนบททำผักดองใส่แค่เกลือเพียงเล็กน้อยก็สามารถดองผักออกมาได้แล้ว แต่ที่เฉินเนี้ยนหรานทำออกมานั้นไม่เหมือนกัน นางไม่เพียงใส่เกลือเท่านั้น ยังใส่วัตถุดิบอื่นเข้าไปอีก ทั้งยังใส่พวกน้ำตาลกรวด
การดองผักเช่นนี้จะช่วยดึงรสชาติ เพราะตอนแรกใช้น้ำที่ดองแคร์รอตไปครึ่งหัว ทำให้สีของผักดองสะอาด แดงสวย ตอนที่ตักขึ้นมาแค่ได้กลิ่นสะใภ้สกุลจ้าวก็กลืนน้ำลาย
นางมองเฉินเนี้ยนหรานด้วยความอิจฉา “ผักดองของเ้ายังทำออกมาได้โดดเด่นเช่นนี้ มิน่าถึงทำหัวบุกออกมาได้ประสบความสำเร็จ ่นี้ครอบครัวเรามีรายได้จากหัวบุกนี้นี่แหละ ในเรือนถึงได้สบายขึ้นมาหน่อย กับข้าวก็มีมากขึ้น พวกลูกๆ ต่างดีใจกันมากเลย”
“เหอะๆ...เช่นนั้นก็ดีแล้ว คนในหมู่บ้านพวกเราต่างมีรายได้จากตรงนี้ไม่มากก็น้อยแล้วใช่หรือไม่” พอพูดถึงเื่นี้ เฉินเนี้ยนหรานก็ถามออกมาอย่างกังวล
ตอนนี้ในเรือนมีหนิวซื่อช่วยทำงานบ้าน ด้านนอกมีสามีของหนิวซื่อทำงาน ตอนที่นางอยู่ในเรือนจึงว่างขึ้นมาก
บางครั้งการฟังคนในหมู่บ้านพูดเื่ราวด้านนอก ถือเป็เื่ที่สนุกดี
“เื่มันเป็เช่นนี้นะน้องสาว หมู่บ้านของพวกเรามีหลายคนไปขุดหัวบุกออกมาขาย ไอ๊หยา เ้าไม่เห็นหรอก พอได้ยินว่าหัวบุกสามารถเอาไปขายได้ หลายคนต่างพากันไปขุด โดยเฉพาะครอบครับของจ้าวชุนฮวา...ขุดไปเยอะมาก เ้าไม่เห็น ปกติแล้วสตรีนางนั้นจะหลบอยู่แต่ในเรือนไม่ออกไปทำงาน แต่หลังจากคนทั้งหมู่บ้านเริ่มไปขุดหัวบุก นางก็กระตือรือร้นมาก”
“คนอื่นเขาวันหนึ่งขุดมาแค่ไม่กี่ครั้งก็พอแล้ว แต่นาง วันหนึ่งขุดจนถึงกลางคืน ั้แ่หัววันนางก็เอาแต่ขุด จนถึงตอนกลางคืนก็จุดไฟขึ้นไปแบกมันลงมา จุ๊จุ๊...คนในหมู่บ้านของเราต่างพากันส่ายหน้าตอนเห็นพฤติกรรมของนาง” สะใภ้สกุลจ้าวส่ายหน้าไม่หยุดยามพูดถึงสะใภ้ของญาติตน ทั้งยังมีสายตาถากถาง
เฉินเนี้ยนหรานพอได้ยินเื่นี้ก็ตกตะลึง “โอ้ เก่งขนาดนั้นเชียวหรือ ไม่กลัวเอวเคล็ดตอนกลางคืนเลยหรืออย่างไร ดูเหมือนว่าสกุลจ้าวคนนี้เก่งไม่ใช่น้อย แต่ว่าคนทั้งหมู่บ้านไปขุดกันเช่นนี้ เช่นนั้นบนูเาจะยังมีหัวบุกหรือ?” ในช่องเขานั้นถึงจะมีหัวบุกเกิดขึ้นมา หากคนทั้งหมู่บ้านไปขุดกันเช่นนี้ จะต้องขุดมาได้ไม่เท่าไรแน่
สะใภ้สกุลจ้าวได้ฟังดังนั้นก็ยู่ปาก “แน่นอนสิ แค่วิธีการขุดของนาง แล้วยังมีครอบครัวที่มีคนในครอบครัวเยอะไปขุดออกมา ตอนนี้บนเขาหาหัวบุกไม่เจอสักหัวแล้ว เฮ้อ โชคดีนะที่ครอบครัวพวกข้าก็ไปขุดมาเล็กน้อย เหลือเอาไว้ปลูกอีกนิด ตรงหัวเอาไว้ปลูกในที่นาปีหน้า ความจริงรอให้ถึงฤดูหนาวตามที่เ้าบอกแล้วค่อยทำน่ะ” ถึงตรงนี้นางก็พูดเอาใจเล็กน้อยแน่นอนว่าเฉินเนี้ยนหรานรู้ เพราะว่าตอนที่ทำหัวบุกในตอนนั้น นางเคยพูดเอาไว้ว่า คนในหมู่บ้านมีตั้งมากมาย หากเอาหัวบุกออกไปขาย ราคาในตลาดจะต้องเละเทะ ถึงตอนนั้นเมื่อมีสินค้าขายเยอะ ราคาจะน้อยจนน่าเกลียด
หากมีเหตุการณ์เช่นนั้นอยู่ สู้รอหน้าหนาวดีกว่า นางได้สอนให้ทุกคนทำธุรกิจหัวบุกอย่างอื่นแทน
ตอนนั้นก็พูดผิวเผินเช่นนี้ คนที่สนใจก็จะจำมันได้ ตอนนั้นสะใภ้สกุลจ้าวก็อยู่ด้วย คาดไม่ถึงว่านางจะตั้งใจแล้วจำได้ถึงเพียงนี้ ดูเหมือนว่าสตรีนางนี้ ภายนอกดูเป็คนที่ฉลาดแล้ว ภายในก็เป็คนที่เก่งกาจไม่เบาเช่นกัน
ความฉลาดนางมี แต่ความรับผิดชอบจะมีหรือไม่ตอนนี้ยังพูดไม่ได้ แต่คนในหมู่บ้านไม่มีคนที่มีความคิดเ้าเล่ห์หรือจิตใจสกปรกสักเท่าไร เฉินเนี้ยนหรานจึงมีความคิดที่จะผูกสัมพันธ์เอาไว้ อย่างไร ต่อไปนางจะทำให้แปลงเกษตรใหญ่โตขึ้น คนงานน่ะจะต้องมีจำนวนไม่น้อย
“น้องสาว ข้ามาได้สักพักแล้ว กลัวว่าที่บ้านจะถามหา เช่นนั้นข้ากลับก่อนนะ หากมีเวลาว่างเ้าก็มาหาพวกเราได้ ลูกๆ ของพวกเราชอบเ้ามาก ต่างพูดว่าเ้าดูดี พวกเขายังพูดกับข้าว่า แค่พูดคุยกับเ้าไม่กี่ประโยคก็สบายใจขึ้นมา เหอะๆ เ้าดูสิ ดวงเื่คนของเ้า ดีจริงๆ เลยนะ”