ตอนที่ 3
วิสกี้ออกจากคลับเควินั้แ่เช้าตรงไปยังโกดังเืที่เขาชอบใช้เล่นสนุกบ่อยๆ เพื่อไปดูของที่สั่งเดลจัดการไว้เมื่อคืนนี้ สถานที่แห่งนี้ในทั้งสามคนเขาใช้มันบ่อยที่สุดแล้ว ฟีนิกซ์มาเยือนครั้งล่าสุดคงเป็เื่ของพายุ ส่วนเควินแทบไม่มาเหยียบมันเลยหากไม่จำเป็ รถสปอร์ตคันหรูของวิสกี้ขับเข้ามาจอดที่ด้านในตัวโกดัง เขาเดินลงจากรถตรงไปยังห้องด้านในสุด ก็พบว่าอีกฝ่ายยังมีสภาพสมบูรณ์ครบถ้วน ไม่ได้มีส่วนไหนสึกหรอแต่อย่างใด ซึ่งนั่นถือว่าเป็เื่ที่ดี
“เป็ไงบ้างครับคุณคิว ที่นี่หลับสบายเหมือนที่โรสรึเปล่าครับ?” วิสกี้เอ่ยเรียกความสนใจจากคนที่ถูกจับขังอยู่ในกล่องกระจก ทุกด้านกรุด้วยกระจกสีใสหนาพิเศษที่เขาเป็คนสั่งทำขึ้น ภายในไม่ได้ร้อนอบอ้าวเพราะมีเครื่องปรับอากาศและมีอากาศเพียงพอให้คนที่อยู่ด้านในได้หายใจ มีพื้นที่มากพอให้นั่งหรือนอนได้แบบสบายๆ ขนาดความกว้างพอๆกับห้องขังในสถานตำรวจ
“ไอ้สัส ! ปล่อยกู มึงจะทำอะไรกู ?” คิวลืมตาขึ้นมองคนตัวเล็กที่กำลังเดินเข้ามาด้วยท่าทีแย้มยิ้ม เขาตะคอกถามเสียงดังลั่นด้วยความโมโห เขาโดนพวกมันจับลากมาขังอยู่ในนี้ั้แ่เมื่อคืน แต่ก็ยังไม่เห็นว่าอีกฝ่ายจะทำอะไร นั่นทำให้เขาคิดหนักและกังวล ราวกับว่าอีกฝ่ายกำลังเล่นสนุกกับความกลัวของเขาอยู่
“คุณคิดมากจนกลัวไปเองรึเปล่าครับ ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยสักนิด” วิสกี้ยกยิ้มมุมปากเดินมานั่งตรงกับตำแหน่งที่คิวนั่งอยู่ด้านใน
“ปล่อย ปล่อยกูเดี๋ยวนี้! กูบอกให้ปล่อยไม่ได้ยินหรือไงว่ะ? ” คิวยังคงแหกปากร้องะโโวยวาย แอบหวั่นใจไม่น้อยเมื่อเห็นท่าทางของวิสกี้ เมื่อสบกับั์ตาคู่สวยที่มีแต่ความว่างเปล่าทำให้ขนลุกชันไปทั่วร่าง สัญชาตญาณบอกให้รู้ว่า เขาพลาดแล้วที่มายุ่งกับคนๆนี้ ไอ้ที่เคยเห็นว่าคนตัวเล็กดูบอบบางสวยใสน่าทะนุถนอม แท้จริงแล้วมันคือมายา
“ใจเย็นน่า คุณคิวสุดหล่อ วันนี้วิสกี้มีเพื่อนมาให้ด้วยนะครับ ไม่มีอะไรต้องกลัว พวกเราแค่เล่นสนุกกันเท่านั้นเอง” วิสกี้เอ่ยด้วยน้ำเสียงสดใสและรอยยิ้มสวยที่เป็เอกลักษณ์ ยกมือเรียกบอดี้การ์ดให้เอาของที่เขาต้องใช้เข้ามา
“ตาเหลือกเลยเหรอครับ นี่มันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นเองน่ะ” วิสกี้ยกยิ้มอย่างอารมณ์ดีอีกครั้งเมื่อเห็นสีหน้าตื่นตระหนกของอีกฝ่ายเมื่อเห็นสิ่งมีชีวิตในขวดโหลที่บอดี้การ์ดหามาให้เขา
“ไอ้วิสกี้ แกมันไอ้โรคจิต !” คิวะโลั่นเหมือนคนเสียสติเมื่อวิสกี้ถือสิ่งนั้นเดินเข้ามาตัวเอง เขารู้ได้ถึงชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เนื้อตัวเริ่มสั่นเทิ้มด้วยความกลัวหวาดกลัวสุดขีด เขารีบขยับตัวหนีไปอยู่อีกมุมหนึ่งของกล่องกระจกทันที
“เชิญดิ้นรนตามสบายครับ ถ้าคุณทนไหว ผมจะปล่อยคุณไป แต่ถ้าเกิดคุณทนไม่ไหว ผมจะส่งร่างไร้ิญญาของคุณไปให้โรสไว้ดูเป็ของต่างหน้า” วิสกี้พูดด้วยรอยยิ้มสวย เปิดช่องสี่เหลี่ยมขนาดพอดีกับปากขวดโหล แล้วปล่อยแมงมุมนับร้อยตัวเข้าไปในกล่องกระจกนั้น พวกมันค่อยๆคลานเข้าไปช้าๆจนครบหมดทุกตัว
วิสกี้เดินกลับมานั่งที่โซฟาตัวโปรดเพื่อชมการแสดงของเช้าวันนี้ แมงมุมนับร้อยเริ่มคลานไปหาสิ่งมีชีวิตเดียวที่แตกต่างจากพวกมันตามวัฏจักร
“ปล่อยนะเว้ย ปล่อย อร๊ากกกกก เจ็บ โอ้ย ! ไม่ๆ เอามันออกไป ช่วยด้วย ! อร๊ากกกก เอามันออกไป” คิวกรีดร้องโวยวาย พยายามกระเสือกกระสนหนี ถึงแม้จะทำอะไรไม่ได้มากแต่เขาก็พยายามเอาตัวรอดจนถึงที่สุด แมงมุมพวกนั้นคลานมาหาเขาด้วยความเร็ว ไต่ขึ้นตามเนื้อตัวและคลานเข้าไปใต้เสื้อผ้า ให้ความรู้สึกน่าขยะแขยงชวนอ๊วกสุดๆ เขาพยายามใช้มือปัดป่ายพวกมันออกจากร่างกาย แต่ไม่ว่าจะปัดทิ้งสักกี่ครั้งพวกมันก็คลานขึ้นมาใหม่ และเขารู้ได้ทันทีว่าแมงมุมที่ถูกปล่อยเข้ามามันมีพิษเมื่อโดนกัดที่บริเวณิั รู้สึกแสบร้อนเจ็บและชา คิวทั้งถอยหนีและพยายามใช้เท้าเหยียบขยี้เพื่อฆ่าแมงมุมพวกนั้น แต่พวกมันก็มีจำนวนที่เยอะเกินไป ทำให้ระหว่างที่เหยียบขยี้ก็โดนกัดไปด้วย
“ว้าวววว เสียงเพราะจังเลยนะครับ ร้องอีกสิครับ วิสกี้อยากได้ยินเสียงคุณคิวอีก” วิสกี้เอ่ยเสียงใสพร้อมรอยยิ้มหวาน ั์ตาคู่สวยจ้องมองภาพต่อหน้าอย่างสนุกสนานและสายตาที่เป็ประกายวาววับด้วยความรู้สึกดี
“อร๊ากกกกก ! ไอ้เชี้ย เอามันออกไป อร๊ากกกกก !” เสียงร้องโหยหวนของคิวยังคงดังต่อเนื่อง เมื่อถูกแมงมุมกัดจนแทบทั่วทั้งตัว
“อย่าเพิ่งรีบตายนะครับ ผมขอสนุกอีกนิด” วิสกี้พูดเสียงใสพร้อมรอยยิ้มกว้างมองดูคิวกรีดร้องนานนับชั่วโมง แม้แต่บอดี้การ์ดส่วนตัวทั้งสี่คนที่อยู่ด้วยกันมานานยังแอบหวาดหวั่นกับรอยยิ้มนั้น
วิสกี้มองเหยื่อค่อยๆดิ้นทุรนทุรายอย่างพอใจ ระบบภายในเริ่มล้มเหลว คิวค่อยๆหมดลมหายใจอย่างช้าๆจากพิษของแมงมุม ก่อนจะหมดสติและแน่นิ่งไปในที่สุด
“ไม่มีความอดทนเอาซะเลย แค่นี้ก็ทนไม่ไหวชิงตายไปซะแล้ว น่าเสียดายจัง” วิสกี้เอ่ยขึ้นด้วยความเสียดายเมื่อเขายังอยากเห็นเหยื่อดีดดิ้นเพื่อมีชีวิตรอดมากกว่านี้ ไอ้คุณคิวนี่ก็ใจเสาะไม่เบา ทั้งที่ตัวก็ออกจะใหญ่โตไม่แพ้บอดี้การ์ดของเขาเลย
“ฝากจัดการให้ด้วยนะครับ” วิสกี้หันไปบอกบอดี้การ์ดทั้งสี่ด้วยน้ำเสียงใสและรอยยิ้มสวย
“ครับ” ทั้งสี่คนก้มหัวน้อมรับคำสั่งนั้นแต่โดยดี
จากนั้นวิสกี้ขับรถกลับห้องเสื้อของตัวเองทันที วันนี้เขาคงไปวิ่งไม่ทันแล้วเพราะดูจากเวลาตอนนี้ค่อนข้างสาย พอมาถึงห้องเสื้อเขาตรงขึ้นห้องส่วนตัว อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนลงมาทานมื้อเช้าวิสกี้ไม่ลืมโทรไปทักทายเพื่อนเก่าอย่างโรสที่อุส่าส่งคิวมาให้เล่นแก้เซ็ง แต่ดูเหมือนทางนั้นจะหัวเสียไม่น้อยเมื่อรู้ว่าแผนการร้ายที่ตัวเองวางไว้กลับพังไม่เป็ท่า วิสกี้ยกยิ้มกริ่มอย่างอารมณ์ดี และคิดว่าอีกไม่นานทางนั้นคงวางแผนโจมตีเขาอีกแน่ แต่ไม่ว่าอีกฝ่ายจะโจมตีเขาด้วยวิธีไหนวิสกี้ก็พร้อมรับมือเสมอ เพราะมันไม่ใช่ครั้งแรกที่โรสเล่นสกปรกกับเขา
ทั้งที่เมื่อก่อนเราเคยเป็เพื่อนสนิทกันมาก่อน แต่อะไรก็เปลี่ยนกันได้ทั้งนั้นเมื่อมีเื่เงินเป็ตัวแปรสำคัญ
จีจี้เลขาส่วนตัวเตรียมมื้อเช้าไว้รอที่โต๊ะทำงานด้านล่าง วิสกี้ทานมื้อเช้าเรียบร้อยก็เริ่มคุยงานกันทันที เขานั่งทำงานอยู่ที่ห้องเสื้อเช้าจนถึงเย็นโดยมีเลขาส่วนตัวอย่างจีจี้คอยประสานงานกับฝ่ายต่างๆของบริษัท
“งานของวันนี้หมดแค่นี้ใช่ไหมครับ?” วิสกี้เอ่ยถามขึ้นในขณะที่กำลังจรดปากกาเซ็นเอกสารเป็แผ่นสุดท้ายของวัน
“หมดแล้วค่ะ พักผ่อนได้” จีจี้บอกด้วยรอยยิ้ม
จากนั้นวิสกี้และจีจี้ก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน คืนนี้วิสกี้เลือกที่จะนั่งเขียนแบบเสื้อผ้าอยู่ที่ห้องพักชั้นบนของห้องเสื้อจนดึกดื่นโดยไม่ออกไปเที่ยว หลังจากร่างแบบเสื้อทุกอย่างตามที่ตัวเองคิดจนหมดจึงลุกขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทานอาหาร ปิดท้ายด้วยการจิบไวน์แดงก่อนนอน
07:07น.
เลขาคนสวยยังไม่ตื่น ทำให้เช้านี้วิสกี้ออกมาวิ่งคนเดียว แต่อยู่ในความดูแลของเหล่าบอดี้การ์ดตลอดเวลา
“อ๊ะ ! ระวังตัวหน่อยสิครับ” วิสกี้วิ่งอยู่ดีๆเกิดสะดุดก้อนหินทำให้เสียการทรงตัว เขาร้องขึ้นด้วยความใ หลับตารอรับความเ็ปที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่กลับถูกใครบางคนรับไว้ได้ทัน พร้อมน้ำเสียงติดดุดันเล็กน้อย
“ขอบคุณครับ” วิสกี้ส่งยิ้มให้พร้อมเอาคำขอบคุณด้วยน้ำเสียงหวานเมื่อคนที่มาช่วยเขาเอาไว้คือเ้าหน้าที่ตำรวจสุดหล่อที่เขาเพิ่งเจอเมื่อสามวันก่อน
“คุณเป็อะไรไหมครับ ?” สารวัตรหนุ่มเอ่ยถามพร้อมมองสำรวจาแของคนตัวเล็กในอ้อมกอด
“งั้นผมขอตัว” เมื่ออีกฝ่ายส่ายหน้าเป็การยืนยันสารวัตรก็รีบขอตัวทันที เพราะเขามีงานด่วน ผู้กองเพิ่งโทรมารายงานความคืบหน้าของคดีที่กำลังทำอยู่
“ถ้าไม่ได้คุณช่วยไว้ผมคงแย่ คุณรีบไปไหนไหมครับ ผมอยากเลี้ยงมื้อเช้าเพื่อขอบคุณ” วิสกี้เอ่ยชวนเสียงหวาน ใช้โอกาสนี้เพื่อใกล้ชิดอีกฝ่ายเสียเลย
“ไม่เป็ไรครับ พอดีผมติดงานด่วน” สารวัตรปฏิเสธเสียงเรียบแต่ยังคงสุภาพ
“อ่อครับ งั้นขอบคุณอีกครั้ง” วิสกี้ได้แต่พยักหน้ารับเมื่อโดนปฏิเสธตรงๆ แต่ดูจากท่าทางแล้วคนตัวโตน่าจะติดธุระด่วนจริงๆ
“ครับ ผมขอตัว” สารวัตรเอ่ยเสียงเรียบแล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองคนตัวเล็กสักนิด
วิสกี้ได้แต่มองตามแผ่นหลังของสารวัตรจนสุดสายตา วันนี้อีกฝ่ายไม่ได้อยู่ในชุดราชการหรือชุดปฏิบัติการเหมือนอย่างครั้งก่อนที่ได้เจอ สารวัตรสวมเพียงเสื้อกล้ามสีดำและกางเกงวอม รองเท้าผ้าใบ ดูก็รู้ว่าอีกฝ่ายคงตั้งใจมาออกกำลังกายและดูเหมือนว่าจะมีงานด่วนทำให้ต้องรีบกลับทั้งที่เหงื่อเพิ่งเริ่มผุดที่ใบหน้าหล่อแค่เล็กน้อย แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือกลิ่นตัวของสารวัตรหอมมาก เป็กลิ่นหอมเย็นๆ พอได้กลิ่นรู้สึกผ่อนคลาย
วิสกี้วิ่งตรงกลับขึ้นห้องส่วนตัวทันที เปิดคอมแล้วพิมพ์สิ่งที่้าลงไปในเว็บไซต์ของฐานข้อมูลราชการ ทราบเพียงแค่ชื่อจริง นามสกุล และตำแหน่ง แน่นอนว่าข้อมูลนั้นธรรมดาเกินไป เขา้าข้อมูลที่ละเอียดกว่านั้น มือเรียวจึงกดเข้าเว็บไซต์ตลาดมืดแทน เขาป้อนข้อมูลทุกอย่างลงไปจากนั้นที่เหลือก็แค่รอเวลา
ในระหว่างรอสิ่งที่้า วิสกี้จัดการทำธุระส่วนตัวจนเสร็จ จากนั้นก็เริ่มทำงาน ่บ่ายของวัน วิสกี้นั่งยิ้มกรุ้มกริ่มอย่างอารมณ์ดีเมื่อได้อีเมลตอบกลับมา มันเป็ข้อมูลทุกอย่างตามที่เขา้า
“สารวัตรภูมิ หรือ พันตำรวจโท ภาคภูมิ วิจิตรภักดี เ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนพิเศษ เกิดเมื่อ XX เดือน XX ปี XX อายุ 41 ปี สูง 198 ซม. น้ำหนัก 95 กก. จบชั้นมัธยมต้นจาก S เข้ารับการศึกษาต่อในโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เข้ารับราชการในปี XXXX ปัจจุบันยังไม่มีครอบครัว สถานะโสด พ่อแม่เสียชีวิต ตำรวจน้ำดีไฟแรงที่มีผลงานสร้างชื่อมากมายให้กับหน่วยงาน เคยได้รับรางวัลแม่นปืนของรุ่น 58…………………………..”
รู้แม้กระทั่งสารวัตรชอบทานอะไร ไม่ชอบทานอะไร แพ้อะไรบ้าง มีเพื่อนกี่คน ชื่ออะไรบ้าง บางข้อมูลที่วิสกี้ไม่คิดว่าจะมี กลับมีครบ สมกับราคาที่เขายอมจ่าย
“แล้วเจอกันนะครับ สารวัตรภาคภูมิ”
………………………………………………….
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้