ภายในกระโจมของไป๋เซี่ยเหอ
“คุณหนู บ่าวได้ยินเซ่อเจิ้งอ๋องกล่าวถึงจิ้งจอกน้อยอะไรสักอย่าง มันคืออะไรหรือเ้าคะ?”
มือของไป๋เซี่ยเหอที่กำลังควานหายาในกล่องยาหยุดชะงักเล็กน้อย
หลังจากผ่านไปนาน
นางก็หยิบขวดกระเบื้องขวดหนึ่งออกมาจากกล่อง จากนั้นยกมือขึ้นดีดหน้าผากของฝูเอ๋อร์อย่างไม่เบาไม่หนัก “เป็เด็กเป็เล็กถามเื่ของผู้ใหญ่ให้น้อยๆ หน่อย”
“แต่ว่าคุณหนู บ่าวโตกว่าท่านนะเ้าคะ”
“...”
จริงหรือ?
ไป๋เซี่ยเหอกะพริบตาเล็กน้อย ใบหน้าดูไร้เดียงสา
นางเผลอนับอายุของตนเองในอดีตชาติโดยไม่ทันระวังเสียแล้ว
“ก็ได้ เช่นนั้นเื่ของเด็กน้อย ผู้ใหญ่ไม่ต้องยุ่งให้มากก็แล้วกัน”
“...”
ฝูเอ๋อร์ไร้คำพูด คุณหนูกำลังเล่นลูกไม้หรือไม่?
“คุณหนู เหตุใดท่านถึงหาขวดยาหรือเ้าคะ? มันแพงนัก อย่าทำหกนะเ้าคะ”
นี่คือยาลดอาการบวมที่หมอหลวงฉินทิ้งไว้ให้ มันเห็นผลรวดเร็วยิ่ง ได้ยินว่าล้ำค่านัก
เป็ฮองเฮาที่มีรับสั่งให้นำมันมาให้ไป๋เซี่ยเหอ
ฮองเฮาเป็คนดีจริงๆ
“ข้าจะใส่ยาให้เ้า”
ไป๋เซี่ยเหอนั่งลงตรงหน้าฝูเอ๋อร์ มือข้างหนึ่งถือขวดยา มืออีกข้างใช้นิ้วชี้เชยคางของฝูเอ๋อร์
ไม่ต้องพูดเลยว่าฝูเอ๋อร์รู้สึกเขินอายเพียงใด
แม้จะรู้ว่าคนตรงหน้าคือคุณหนูไม่ผิดแน่ ทว่าฝูเอ๋อร์ยังอดไม่ได้ที่จะหน้าแดง ใบหน้ารูปไข่ที่เดิมทีบวมแดงราวกับลูกผิงกั่ว ตอนนี้แดงก่ำจนกลายเป็มะเขือเทศเสียแล้ว
“คุณหนู ท่าน...ท่านทำเช่นนี้ บ่าวจะเขินอายเอานะเ้าคะ”
คนเ็าอย่างไป๋เซี่ยเหอยังอดไม่ได้ที่จะหัวเราะคิกคัก
ทันใดนั้นไป๋เซี่ยเหอก็พบว่าตนเองในชาตินี้เปลี่ยนไปมากนัก เริ่มจะมีความรู้สึกว่าไม่จำเป็ต้องใช้ชีวิตเพื่อภารกิจและเข่นฆ่าอีกต่อไป เริ่มมีคนข้างกายที่ให้ความอบอุ่นแก่นาง ขณะเดียวกันก็เริ่มมีคนที่นางอยากปกป้องด้วยเช่นกัน
ดวงตาสีดำขลับกลอกไปมาหลายตลบ เผยเนื้อแท้ของจิ้งจอกออกมา
“สาวน้อย เงยหน้าขึ้นยิ้มให้ปู่สักทีสิ”
ฝูเอ๋อร์กรีดร้องเสียแปลกประหลาด นางยกมือขึ้นปิดหน้า ปรารถนาจะมุดลงดิน “คุณหนูเอ๋ยคุณหนู หากท่านทำเช่นนี้อีก...หากทำเช่นนี้อีก บ่าวจะไม่สนใจท่านแล้วเ้าค่ะ”
เป็การข่มขู่ที่ไม่ได้ผลแม้แต่น้อย
“เอาล่ะๆ ไม่ต้องปิดหน้าปิดตาแล้ว ข้าจะใส่ยาให้เ้า”
ฝูเอ๋อร์กางนิ้วมือออก ก่อนจะมองออกมาจากร่องนิ้ว “คุณหนู เราเปลี่ยนยากันเถิดเ้าค่ะ อันนี้แพงเกินไป อย่าให้บ่าวใช้เลย มันสิ้นเปลืองเ้าค่ะ”
“เหลวไหล!”
ไป๋เซี่ยเหอถลึงตามองนาง “ยาเอาไว้ใช้ หากไม่ใช้จะเอาไปทำอะไร? แม้ว่าจะล้ำค่าเพียงใด หากไม่อาจแสดงสรรพคุณของมันได้ เช่นนั้นก็คือขยะ”
เป็เช่นนี้หรอกหรือ?
ฝูเอ๋อร์เกาศีรษะ
ก็ได้ ขอเพียงคุณหนูเป็คนพูด เช่นนั้นก็ย่อมถูกต้อง
เพียงแต่นางก็ยังปวดใจอยู่ดี
ยานี้แพงนัก
ยาขี้ผึ้งเย็นถูกแต้มบนใบหน้าของฝูเอ๋อร์ ความปวดแสบปวดร้อนหายไปถึงเจ็ดแปดส่วนในชั่วพริบตา
ฝูเอ๋อร์สูดลมหายใจลึกด้วยความรู้สึกเย็นสบาย
“เป็อย่างไร? ดีขึ้นบ้างหรือไม่?”
เพียงเห็นท่าทีของฝูเอ๋อร์ ไป๋เซี่ยเหอก็รู้คำตอบแล้ว มุมปากของนางยกขึ้นด้วยความดีใจและซาบซึ้งใจเล็กน้อย
สาวน้อยซื่อบื้อนางนี้
นับั้แ่ไป๋เซี่ยเหอทะลุมิติมายุคนี้ ก็ได้สาวน้อยซื่อบื้อนางนี้อยู่เป็เพื่อนตลอดเวลา ไม่ทราบว่าถูกทุบตีเพื่อนางไปมากน้อยเท่าไร
วันหน้าต้องสอนทักษะป้องกันตัวให้ฝูเอ๋อร์เสียหน่อยแล้ว
“รู้สึกเย็นสบายเ้าค่ะ ไม่แปลกใจเลยที่ยาขี้ผึ้งนี้ถึงแพงนัก ใช่หรือไม่เ้าคะคุณหนู?”
พวกนางนั่งคุยกันด้วยรอยยิ้มอยู่ในกระโจม
นอกกระโจม
พระจันทร์ดูราวกับตะขอเงินในม่านราตรี
เงาร่างสีดำสายหนึ่งยืนอยู่ไม่ไกลจากกระโจมนัก เขายืนเอามือไพล่หลัง สายตาจับจ้องไปที่คนสองคนในกระโจมด้วยใบหน้าลึกล้ำยากจะคาดเดา
หากพิจารณาให้ดี จะพบว่าคิ้วที่ขมวดมุ่นอยู่เป็นิจของเขาได้คลายออกอย่างนุ่มนวลในเวลานี้ แม้แต่มุมปากก็ราวกับประดับไว้ด้วยรอยยิ้มเลือนราง
“ท่านอ๋อง หวังเฟยปฏิบัติต่อสาวใช้ของนางเป็อย่างดี กระหม่อมไม่เคยเห็นคุณหนูที่ปฏิบัติต่อสาวใช้เช่นนี้มาก่อนเลยพ่ะย่ะค่ะ”
“...”
“อืม”
วันต่อมา
เมื่อไป๋เซี่ยเหอตื่นขึ้น ท้องฟ้าก็สว่างแล้ว
เนื่องจากาเ็ที่หลัง จึงไม่อาจลงจากเตียงหรือเคลื่อนไหวเยอะๆ ได้ ดังนั้นไป๋เซี่ยเหอจึงทำได้เพียงกินกับนอนจนตื่นสายเท่านั้น
“คุณหนูตื่นแล้ว”
เมื่อไป๋เซี่ยเหอเห็นฝูเอ๋อร์ยืนตัวตรงอยู่ข้างเตียง นางก็ช้อนสายตาขึ้นมองก่อนจะเอ่ยถาม “มีเื่อันใด?”
หากไม่มีเื่ใด ปกติแล้วฝูเอ๋อร์จะไม่เฝ้าอยู่หน้าเตียงนอน เพราะไป๋เซี่ยเหอไม่ชินเวลามีคนเฝ้า
“ไม่มีเื่ใหญ่อันใดเ้าค่ะ เพียงแต่คุณหนูรองรอท่านอยู่ด้านนอกเ้าค่ะ”
ไป๋หว่านหนิง?
นางเพิ่งถูกโบยไปเมื่อวานไม่ใช่หรือ? วันนี้ลงจากเตียงได้แล้วหรือ?
“นางมารอนานเพียงใดแล้ว?”
“ไม่นาน ประมาณครึ่งถ้วยชาเ้าค่ะ”
ไป๋เซี่ยเหอรู้สึกสงสัยมากขึ้น ด้วยอุปนิสัยของไป๋หว่านหนิง จะอดทนนั่งรออยู่ข้างนอกนานปานนี้เชียว?
หลังคาควรถล่มได้แล้ว
เื่ราวที่กลับตาลปัตรเช่นนี้ย่อมมีจุดผิดแปลก!
หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าและทานของว่างรองท้องอย่างลวกๆ แล้ว ไป๋เซี่ยเหอก็เดินออกไปด้านนอก
เห็นเพียงว่าไป๋หว่านหนิงนั่งตากลมอยู่ใต้ร่มเงาไม้ โต๊ะหินตัวเล็กอันวิจิตรที่อยู่ตรงหน้ามีจานใบเล็กประมาณสามสี่ใบวางไว้ ในจานล้วนเป็ของว่างทั้งสิ้น
ถึงขั้นเตรียมของว่างมาเพื่อรอนางอยู่นอกกระโจมอย่างนั้นหรือ?
หากไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองเป็ดั่งน้ำกับไฟ ยังคิดว่าเป็เพื่อนสนิทที่เคี้ยวเมล็ดแตงโมไปพลางพูดคุยเื่ราวในชีวิตและทัศนคติต่างๆ ด้วยซ้ำ
ไป๋หว่านหนิงคงไม่ได้จับไข้กระมัง!
“เ้าวางแผนอะไรอีก?”
ใบหน้าของไป๋หว่านหนิงยังคงบวมแดงอยู่ ไม่ใช่ว่านางไม่สนใจรูปลักษณ์ภายนอก ทว่าฝ่ามือของไป๋เซี่ยเหอที่นางโดนไปเมื่อวานนั้นใช้แรงถึงแปดส่วน จะหายดีเร็วปานนั้นได้อย่างไร?
หากเปลี่ยนเป็ยามปกติ ไป๋หว่านหนิงที่ได้ฟังประโยคนี้ต้องโมโหจนพองขนแล้ว
ทว่าวันนี้กลับไม่เป็เช่นนั้นเสียนี่
ไม่เพียงแต่ไม่พองขน ยังโบกมือให้ไป๋เซี่ยเหออย่างยิ้มแย้ม ก่อนจะเอ่ยด้วยสีหน้าโมโห “ยืนอยู่ห่างปานนั้นไปไย? มานั่งด้วยกันสิ”
เสแสร้งได้สมจริงเสียจนทำให้ไป๋เซี่ยเหอขนลุกขนชัน
“ไป๋หว่านหนิง เ้ามีอะไรก็พูดมา อย่าทำให้ข้าสะอิดสะเอียน”
แววตาของไป๋เซี่ยเหอเ็า ช่างแตกต่างจากความกระตือรือร้นของไป๋หว่านหนิงยิ่งนัก “ของว่างวันนี้ทำเยอะไปหน่อย มากินด้วยกันเถิด”
ไป๋หว่านหนิงกะพริบตา ใบหน้าเต็มไปด้วยความสดใสและดูอารมณ์ดีอย่างเห็นได้ชัด
ไป๋เซี่ยเหอเลื่อนสายตาไปบนโต๊ะ จากนั้นนางก็ค้นพบจุดที่ผิดปกติ
สมอจีนดอง เอี้ยบ๊วยดอง ลูกไหน บ๊วยแห้ง...
กลิ่นเปรี้ยวฉุนขึ้นจมูก เพียงได้กลิ่นก็เข็ดฟันแล้ว
ลางสังหรณ์ไม่ดีผุดขึ้นในใจ
“เ้ามีเจตนาอะไร?”
ไป๋หว่านหนิงหยิบลูกไหนสีเขียวลูกหนึ่งขึ้นมาก่อนจะเอาเข้าปากโดยไม่กะพริบตา
รสเปรี้ยวตีขึ้นจมูก
“เ้า...”
ไม่รอให้ไป๋เซี่ยเหอพูดจบ ไป๋หว่านหนิงก็เคี้ยวลูกไหนในมือและกลืนลงท้องอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็โยนแกนของมันไปที่แทบเท้าของไป๋เซี่ยเหอ
รอยยิ้มบนใบหน้าของอีกฝ่ายทำให้ไป๋เซี่ยเหอหายขนลุกขนชัน สีหน้าของไป๋หว่านหนิงแปรเปลี่ยนเป็เหมือนในยามปกติที่เต็มไปด้วยความดูแคลนและยั่วยุ “ถูกต้อง ข้าตั้งครรภ์ ดังนั้น การโบยจึงถูกไท่จื่อละเว้นด้วยตนเอง เป็อย่างไร? ตอนนี้เ้าโกรธมากหรือไม่?”
“ไป๋หว่านหนิง เ้าเป็โรคหลงผิดคิดว่าผู้อื่นปองร้ายหรือไม่?”
หากไม่ได้คำนึงถึงครรภ์ของไป๋หว่านหนิง เกรงว่าไป๋เซี่ยเหอคงพุ่งไปตบนางอีกสองทีอย่างอดรนทนไม่ไหวเสียแล้ว
หน้าไม่อาย!
ตลอดเวลาเป็พวกเขาที่คิดร้ายกับนาง แม้กระทั่งส่งมือสังหารมาลอบสังหารนาง
ทว่าสุดท้ายกลับทำเหมือนว่านางรังแกผู้คนอยู่เสมอ
“เฮอะ ไป๋เซี่ยเหอ ข้ารู้ว่าเ้าอิจฉาข้า ยังไม่ทันแต่งเข้าจวน สามีก็ถูกสตรีนางอื่นยั่วยวนจนจากไปแล้ว เ้าสมควรอิจฉาข้าอยู่หรอก”
“น่าสงสารจริงๆ ได้รับาเ็สาหัสปานนั้น แต่สามีตนเองกลับไปโอบกอดสตรีนางอื่น เ้ารู้หรือไม่ว่าคนนอกพูดถึงเ้าอย่างไร?”
“พวกเขาบอกว่าอีกประเดี๋ยวเ้าจะก้าวตามรอยของสตรีเ่าั้ในอดีต วันที่เ้าตบแต่งเข้าจวนเซ่อเจิ้งอ๋องจะเป็วันครบรอบวันตายของเ้า!”
“แต่ในอนาคตข้าจะให้กำเนิดพระโอรสเพียงหนึ่งเดียวของไท่จื่อ จากนั้นจะได้ขึ้นเป็มารดาแห่งแผ่นดินอย่างราบรื่น และจะได้ขึ้นเป็ไทเฮาที่สูงศักดิ์ด้วย”
------------------------
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้