ภายในโถงโรงแรม เย่เฟิงเหยียบอกของชายหนุ่มผู้หยิ่งผยองพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเ็า “พวกฉันจะใส่หรือไม่ใส่หน้ากากแล้วเกี่ยวอะไรกับแก อย่าหาเื่ใส่ตัวนักเลย”
เย่เฟิงไม่ได้ลงน้ำหนักเท้ามากนัก หวังเส้าตงจึงไม่ได้รับาเ็ เขาเพียงเสียหน้าจากการถูกเตะต่อหน้าธารกำนัลเท่านั้น
“นายหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เซียวเยว่รีบวิ่งเข้ามา ใบหน้าสวยของเธอส่อแววกังวล ครู่หนึ่งก็มาถึงหน้าเย่เฟิง กลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวเธอลอยมาแตะจมูก
“บนโลกนี้มีคนอีกมากที่แกไม่ควรแตะต้อง จำเอาไว้” เย่เฟิงพูดกับหวังเส้าตงขณะที่ยังเหยียบอีกฝ่าย ก่อนกวาดตามองไปทางเซียวเยว่ จากนั้นชักเท้ากลับแล้วหมุนตัวจากไป “ระวังตัวให้ดีล่ะ”
“รอเดี๋ยว นายไม่รู้หรือไงว่าคนที่ถูกนายทำร้ายเป็ใคร?” เซียวเยว่ะโเรียก
เธอจ้องแผ่นหลังของเย่เฟิง ยิ่งเห็นก็ยิ่งรู้สึกคลับคล้ายคลับคลา โม่จิ่วเกอหรือชายสวมหน้ากากที่เสียวฉี่พูดถึง ทั้งส่วนสูงและรูปร่างของเขาใกล้เคียงกับชายตรงหน้าไม่ใช่เหรอ?
“ไม่รู้ และไม่อยากรู้ด้วย” เย่เฟิงเดินกลับไปโอบไหล่หลงหว่านเอ๋อร์ก่อนเดินออกจากโรงแรม
“นายคือโม่จิ่วเกอใช่ไหม!” เซียวเยว่ะโสุดเสียง
ทว่าเย่เฟิงและหลงหว่านเอ๋อร์กลับไม่สนใจเธอ พวกเขาเพียงเดินออกจากโรงแรมอย่างรวดเร็วจนไม่เห็นร่องรอย
เซียวเยว่กระทืบเท้าด้วยความขมขื่น ได้ยินว่าเย่เฟิงและโม่จิ่วเกอมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน เมื่อเย่เฟิงเดินทางมาเมืองเซี่ยงซาน คนเมื่อครู่ต้องเป็โม่จิ่วเกออย่างไม่ต้องสงสัย เพียงแต่ตอนนี้เธอไม่สามารถตามไปถามให้ชัดเจนได้ เพราะว่า—
“เซียวเยว่ รีบช่วยผมเร็วเข้า” หลังจากถูกเย่เฟิงเตะ หวังเส้าตงรู้สึกราวกับทั่วร่างแหลกสลาย ไม่สามารถลุกขึ้นเองได้ โชดดีที่มีเซียวเยว่อยู่ข้างๆ เขาจึงสบโอกาสขอให้เธอช่วยเพราะหวังเอาเปรียบเธอ...
“เดี๋ยวรอรถพยาบาลมาแล้วกัน” เซียวเยว่ไม่ได้เข้าไปช่วยอีกฝ่าย เธอพูดอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนเดินไปด้านข้างเพื่อโทร เรียกรถพยาบาล
หวังเส้าตงเป็ทายาทเศรษฐีเมืองเซี่ยงไฮ้ เซียวเยว่ให้เขาช่วยตามหาเบาะแสของรถ BMW ที่ขับเฉี่ยวเธอ ตอนที่เธอตามเย่เฟิงมาที่นี่ หวังเส้าตงก็ตามเธอมาด้วย
ความคิดของหวังเส้าตง เซียวเยว่จะไม่เข้าใจได้อย่างไร? เขาคงคิดเล่นกับเธอเหมือนของเล่นชิ้นหนึ่ง น่าเสียดายที่เธอไม่ใช่สาวน้อยวัยใสที่จะล่อลวงได้โดยง่าย หากชายหนุ่มทำสำเร็จก็คงแปลก
หญิงสาวเงยหน้า ดวงตาคู่สวยจ้องด้านนอกโรงแรมพลางนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่
ระหว่างนำรถไปซ่อมเมื่อคืน เธอก็โทรหาน้องสาวอย่างเซียวฉี่ที่อยู่เมืองเยี่ยนจิง ถามไถ่สถานการณ์ของอีกฝ่ายใน่นี้ ดูเหมือนว่าตอนนี้เธอกำลังชอบโม่จิ่วเกอหรือชายสวมหน้ากากคนนั้นมาก
เซียวเย่วพูดถึงเื่ที่รถของเธอถูกรถ BMW เฉี่ยว ปรากฏว่าเซียวฉี่ให้ความสนใจมาก เมื่อสอบถามสักพักก็ทำให้เธอรู้ว่ารถ BMW สีเงินคันนั้นเป็รถของแก๊งอสรพิษ์ ซึ่งปัจจุบันถูกควบคุมโดยนักเรียนมัธยมปลายคนหนึ่งนั่นก็คือ เย่เฟิง! นอกจากนี้เซียวฉี่ยังพูดอีกว่าเย่เฟิงมีความสัมพันธ์อันดีกับชายสวมหน้ากากโม่จิ่วเกอ...
เมื่อเซียวเย่วครุ่นคิดดูแล้วก็รู้สึกว่ามันไม่สมควร จากสถานการณ์ตอนนี้ ชายสวมหน้ากากมีหญิงอื่นข้างกายอยู่แล้ว เธอจะไม่ยอมปล่อยให้น้องสาวของตัวเองอยู่ใต้เงื้อมมือเขาเด็ดขาด!
ใช่ เธอต้องขัดขวางเขา!
เมื่อหันกลับไปมองหวังเส้าตงอีกครั้ง หญิงสาวก็คิดในใจว่าโม่จิ่วเกอคนนั้นชักกำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว แม้แต่คนที่ตัวเองไม่รู้ภูมิหลังยังกล้าไล่ตี หากครอบครัวของหวังเส้าตงรู้เข้า มีหรือจะปล่อยให้เขามีชีวิตต่อไป
ร่างบางยืนกอดอก ชุดกระโปรงสีแดงบนร่างอรชรดึงดูดสายตาผู้คนโดยรอบได้เป็อย่างดี
เวลานั้นเองหวังเส้าตงหยิบโทรศัพท์ออกมาต่อสายหากลุ่มอันธพาลที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ให้พวกเขาพาเหล่าสมุนมาสมทบที่เมืองเซี่ยงซาน ต่อให้ต้องพลิกแผ่นดินหา เขาก็จะลากตัวไอ้นั่นมาให้ได้ แล้วจะทำให้มันเจอกับความอัปยศ!
…………
เย่เฟิงและหลงหว่านเอ๋อร์ที่อยู่ใต้หน้ากากพากันมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ เพียงไม่นานก็ออกห่างจากย่านใจกลางเมือง จากนั้นตรงไปยังหน้าผาชันริมทะเลซึ่งเป็ที่ซ่อนคัมภีร์เคล็ดอสูรร่ำไห้ หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ทั้งคู่ก็อยู่ไม่ไกลจากจุดหมายมากนัก เย่เฟิงหยิบโทรศัพท์ออกมากดเบอร์ที่อยู่ในความทรงจำเพื่อโทรหาหนานฟาง
ตู๊ด— ครั้งแรกไม่มีเสียงตอบรับ
ตู๊ด— ตู๊ด—
หลังจากได้ยินเสียงสัญญาณหลายครั้ง ในที่สุดอีกฝ่ายก็รับสาย ทันใดนั้นเย่เฟิงก็ได้ยินเสียงดังจากปลายสาย
“หนานฟาง แกหนีไปไหนไม่รอดหรอก ยอมตายซะเถอะ!”
“ไอ้เด็กเวร ยังไม่รีบหยุดอีก!”
นึกไม่ถึงเลยว่าเสียงที่ดังแทรกขึ้นมาจะเป็เสียงของลัวเฟิงจากสำนักหมัดเทวา ทั้งยังมีเสียงศิษย์พี่ศิษย์น้องของเขาอีกสามคนด้วย! ตามมาด้วยเสียงลมแรงและเสียงคลื่นทะเลซัดกระทบฝั่ง สถานการณ์ของหนานฟางตอนนี้ดูท่าไม่ดีนัก
“นายอยู่ที่ไหน?” เย่เฟิงไม่รีรอ รีบถามตรงประเด็นทันที
“หน้าผาริมทะเลทางใต้ มีต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งใกล้ๆ” เสียงหอบหายใจของหนานฟางดังผ่านสายโทรศัพท์ ทำให้เย่เฟิงรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายกำลังวิ่งหนี ทว่าน้ำเสียงของคนปลายสายยังคงใจเย็น!
หนานฟางไม่ได้ถามเย่เฟิงด้วยซ้ำว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน หากเย่เฟิงโทรหาเขาย่อมแสดงว่ามาถึงทะเลตะวันออกแล้วแน่นอน
“ฉันจะรีบไป” หัวใจของเย่เฟิงสั่นสะท้าน บริเวณนั้นมีต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง นั่นไม่ใช่สัญลักษณ์ที่จูไป่เหนี่ยววาดในแผนที่หรอกหรือ? นึกไม่ถึงว่าตอนนี้หนานฟางจะอยู่ใกล้กับที่ซ่อนคัมภีร์เคล็ดอสูรร่ำไห้!
“ไม่ต้อง นายไม่ใช่คู่ต่อสู้ของลัวเฟิง!” หนานฟางรีบปฏิเสธทันที “ฉันจะะโลงทะเล หากโชคดีอาจจะรอด ถ้าไม่... นายช่วยหาเวลามาที่นี่แล้วเอาเหรียญตราของตระกูลหนานกลับเมืองเยี่ยนจิงไปด้วย...”
“อย่าพูดไร้สาระ รอฉันก่อน” เย่เฟิงสบถก่อนจะตัดสาย
เหรียญตราของตระกูลหนานเกี่ยวอะไรกับเขาล่ะ? เขาไม่อยากสนใจมันด้วยซ้ำ ต่อให้อีกฝ่ายมีพลังบ่มเพาะยี่สิบห้าปีแล้วอย่างไร แม้แต่นักล่าิญญาที่มีพลังบ่มเพาะสามสิบปี เขาก็ยังจัดการมาแล้ว!
เย่เฟิงพาหลงหว่านเอ๋อร์มุ่งหน้าไปทางทิศใต้อย่างรวดเร็ว ไม่นานนักก็ััถึงลมทะเลที่พัดปะทะใบหน้า จึงรู้ว่าจุดหมายอยู่ห่างออกไปอีกไม่ไกลแล้ว ทั้งคู่รีบมุ่งหน้าไปยังหน้าผาริมทะเล ก่อนจะเห็นต้นไม้ใหญ่ค่อยๆ ปรากฏชัดเจนในสายตา
“ต้องต่อสู้กับคนของสำนักหมัดเทวางั้นเหรอ?” แม้หลงหว่านเอ๋อร์จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็สามารถเข้าใจได้อย่างรวดเร็วว่าตัวเองต้องทำอะไร
“ใช่!” เย่เฟิงพยักหน้า
บนหน้าผาเบื้องหน้าปรากฏร่างเงาของกลุ่มคนทั้งหมดห้าคนซึ่งแบ่งเป็สองฝ่าย แน่นอนว่าฝ่ายหนึ่งคือหนานฟางที่ถูกเหล่าศิษย์พี่น้องจากสำนักหมัดเทวาต้อนไปจนมุมที่ริมหน้าผา ใต้ผาชันมีคลื่นลมและคลื่นทะเลซัดเข้าฝั่งอย่างรุนแรง กระแสคลื่นบ้าคลั่งราวสัตว์ร้ายจ้องจะกลืนกินผู้คน หากคนธรรมดาะโลงไปย่อมไม่มีทางรอดชีวิตรอดแน่นอน!
“นับว่ายังโชคดี...” เย่เฟิงถอนหายใจโล่งอก นับว่าหนานฟางวิ่งหนีมาถูกทาง ไม่อย่างนั้นต่อให้เขาอยากช่วยอีกฝ่ายมากแค่ไหนก็คงไม่ทันการ
“เธอช่วยจัดการลูกสมุนให้หน่อยนะ เดี๋ยวฉันจัดการลัวเฟิงเอง” เมื่อเย่เฟิงพูดจบ เงาร่างของเขาก็หายไปทันที!
หลงหว่านเอ๋อร์เห็นเขาหายไปต่อหน้าต่อตาก็อดใไม่ได้ ความสามารถนี้คืออะไรกัน ล่องหนงั้นเหรอ? ทว่าไม่รอให้เธอได้คิดมากไปกว่านี้ ตัวตนของเธอก็ถูกลูกศิษย์สำนักหมัดเทวาทั้งสี่คนค้นพบเข้าเสียแล้ว
เธอขบกรามแน่น เลือกที่จะเชื่อใจเย่เฟิง พุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ก่อนตวาดเสียงดังพร้อมแสดงกระบวนเพลงฝ่ามือเมฆาไร้มลทิน จัดเรียงเมฆา คว่ำมหาสมุทร พลิกเวหา พลิกพสุธา นี่คือสี่กระบวนท่าของเพลงฝ่ามือเมฆาไร้มลทินของตระกูลหลง ซึ่งสามารถใช้รับมือคู่ต่อสู้หลายคนในขณะเดียวกันได้
ร่างบางะโขึ้นพร้อมกวัดแกว่งแขน คลื่นพลังจากฝ่ามือของเธอพุ่งใส่ฝ่ายตรงข้ามทั้งสี่คน!
หากเย่เฟิงทิ้งเธอไว้เพียงลำพัง ไม่เพียงเธอจะถูกจับ แต่ต้องถูกฆ่าตายแน่นอน ช่องว่างระหว่างทั้งสองฝ่ายมีมากเกินไป เธอไม่มีทางต่อกรพวกเขาได้แน่!
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันทำให้หนานฟางที่ถอยไปจนมุมริมหน้าผาเกิดอาการมึนงง นี่มันเกิดอะไรขึ้น อยู่ๆ ก็มีหญิงสาวปรากฏตัวขึ้นเพื่อช่วยเขาจากคนของสำนักหมัดเทวางั้นเหรอ?
นี่มันไม่เป็ไปตามหลักวิทยาศาสตร์!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้