บทที่ 80 การโจมตีของกลุ่มหมาป่า
เวลาเที่ยงคืน พระจันทร์สีแดงลอยเด่นอยู่กลางนภา ไอสังหารรุนแรงกระจายไปทั่วป่าสีเื
ในกระโจม ฉู่อวิ๋นอึดอัดเป็ที่สุด เพราะั้แ่เขาช่วยพ่านพ่านมา ทั้งสามคนก็ถูกบีบให้นอนด้วยกันในพื้นที่เล็กแคบ หากเขาไม่ระวังก็จะไปโดนตัวของแม่นางคนใดคนหนึ่ง
ท้ายที่สุดแล้วชายหญิงไม่อาจชิดใกล้ เพื่อหลีกเลี่ยงข้อครหา ฉู่อวิ๋นจึงต้องเบียดเสียดอยู่ในมุมหนึ่งและนอนหลับเงียบๆ โดยกอดขาไว้ในอ้อมแขน แต่ลมหายใจที่รวมกันของทั้งสามคนกลับสร้างความอบอ้าวจนเขานอนไม่หลับ
“เฮ้อ ออกไปข้างนอกดีกว่า”
ฉู่อวิ๋นเช็ดเหงื่อและกำลังจะลุกขึ้น แต่ในยามนี้ เขาก็รู้สึกว่าเท้าข้างหนึ่งของเขาถูกกอดรัดไว้
มองลงไปก็เห็นพ่านพ่านกอดต้นขาของเขาแน่น น้ำลายไหลเต็มพื้น นอนปล่อยตัวระเกะระกะ
“จิ๊ด จิ๊ด...”
“แม่นางพ่านพ่าน... เ้านอนดีๆ หน่อย!” ฉู่อวิ๋นเอ่ยเตือนเบาๆ อย่างทำอะไรไม่ถูก
“อาฮู้ว ช่างเป็ขาวัวที่หอมกรุ่น... ช่างแข็งแกร่ง ช่างสง่างาม...” พ่านพ่านแยกแยะความเป็จริงไม่ อยู่ในสภาพละเมอโดยสิ้นเชิง การนอนของนางแย่ยิ่งกว่ามู่หรงซินเสียอีก
“แม่นางพ่านพ่าน! เ้า... ตื่นได้แล้ว!” ฉู่อวิ๋นทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วจึงขึ้นเสียงเล็กน้อย
“เหอะเหอะ... เหอะเหอะเหอะเหอะ!”
ในเวลานี้ เสียงหัวเราะเยาะเย้ยที่น่ากลัวดังมาจากด้านข้าง ทำให้ทั้งฉู่อวิ๋นและเสี่ยวหวงตัวสั่น ขนลุกพรึบไปทั่วทั้งร่าง
“ฮะฮะ... ข้าขยับตัวมากเกินไปจนปลุกเ้าหรือ? ซินเอ๋อร์” ฉู่อวิ๋นเหงื่อแตกพลั่กและหันหน้าไปทางอื่น เขาเห็นมู่หรงซินเหมือนสิงโตในค่ำคืนที่มืดมิด ดวงตาที่สวยงามของนางวาววาบ มองดูเขาอย่างเ็า
“คนบ้ากาม! ไอ้ก้อนเมฆโรคจิต! นิสัยเ้านี่ไม่เปลี่ยนเลยนะ!” มู่หรงซินะโด้วยความโกรธ “เ้าหลอกใช้ประโยชน์จากแม่นางพ่านพ่านที่กำลังหลับในตอนกลางคืนหรือ? ข้ามองเ้าผิดไปจริงๆ!”
ขณะที่พูด คิ้วของมู่หรงซินก็เลิกขึ้น ใบหน้างามเ็าราวกับกำลังอยากจะฆ่าใครสักคน
“ซินเอ๋อ เข้าใจผิดแล้ว! พ่านพ่านแค่ละเมอจับขาข้า ข้าแค่อยากให้นางปล่อย” ฉู่อวิ๋นกลืนน้ำลายลงคอ รู้สึกเสียวสันหลังวาบๆ รังสีที่มู่หรงซินปล่อยออกมาน่ากลัวจริงๆ
“จิ๊ด จิ๊ด จิ๊ด!” ขนของเสี่ยวหวงตั้งขึ้น มันใจึงะโไปมา ราวกับว่ากำลังอธิบายให้ฉู่อวิ๋นฟัง
“พวกเ้าทั้งคู่ยืนให้นิ่ง รอรับลูกศรจากข้า!” มู่หรงซินเบิกตากว้างและยื่นมือไปหยิบธนูตามจันทร์มาด้วยแรงกดดันอันดุเดือด
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ขนของทั้งฉู่อวิ๋นและเสี่ยวหวงก็ลุกพรึบ พวกเขารู้สึกว่าในกระโจมเต็มไปด้วยความเยือกเย็นและกลิ่นอายสังหาร มู่หรงซินตอนคลั่งไม่มีใครหยุดได้จริงๆ!
“ซินเอ๋อร์ ฟังนะ กลุ่มัเหล็กหลับไปหมดแล้ว อย่ารบกวนพวกเขาเลย หากมีเื่อะไร... อะแฮ่ม... ไว้คุยกันในระหว่างวันดีกว่า” ฉู่อวิ๋นแนะนำ .
“จิ๊ดจิ๊ด...จิ๊ดจิ๊ดจิ๊ด!” เสี่ยวหวงร้อง ดูคล้ายจะผดุงความยุติธรรมอย่างสง่างามทว่ากลับมุดเข้าไปในเสื้อคลุมของฉู่อวิ๋นตัวสั่นๆ แทน
“นี่ เื่นี้เ้าก็มีส่วน มุดเข้าไปขดตัวทำไม?”
“จิ๊ดจิ๊ด!”
“จะสั่นทำไมเล่า? ไม่ต้องกลัว พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิด”
“จิ๊ด? จิ๊ดจิ๊ด…” เสี่ยวหวงที่อยู่ในชุดคลุมกลอกตา หมายความถึงเ้าของที่ชอบเอาเปรียบผู้อื่นคนนี้มีหน้ามาไขสืออีก
เมื่อมองไปที่หนึ่งคนหนึ่งสัตว์ เส้นเืบนหน้าผากของมู่หรงซินก็ปวดตุบๆ นางะโด้วยเสียงต่ำ “หุบปากให้หมดเลยนะ! มาให้ข้าตีสั่งสอนเสียดีๆ ไม่เช่นนั้นคืนนี้พวกเ้าได้กลายเป็เม่นแน่!”
“ซินเอ๋อ เื่นี้ช่างมันไปเถอะ อย่ารบกวนฝันดีของคนอื่นเลย” ฉู่อวิ๋นยังคงโน้มน้าวต่อไป
“หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว คืนนี้ข้าจะตัดสินความยุติธรรมแทน์! ข้าจะสอนบทเรียนให้คนลามกเช่นเ้าเอง!” มู่หรงซินมองเขม็ง ขยับข้อมือหยกเบาๆ แล้วเคลื่อนตัวไปหาฉู่อวิ๋น
แม้ว่ามู่หรงซินจะเชื่อใจฉู่อวิ๋นและรู้ว่าเขาไม่มีทางทำเื่ไร้ยางอายแน่ แต่นางแค่อยากตีเขา หยิกเขา สั่งสอนบทเรียนเขา
ผู้ชายคนนี้เดินเล่นข้างนอกคืนเดียวก็เก็บหญิงสาวชาวป่ากลับมาด้วย น่ารังเกียจจริงๆ
มู่หรงซินอดทนมาทั้งคืน และตอนนี้เมื่อสามารถใช้หัวข้อนี้มาเป็ประโยชน์ได้ นางย่อม้าระบายความโกรธ
“ซินเอ๋อร์... เ้าใจเย็นๆ! ตอนนี้ทั้งมืดทั้งลมแรง จะดึงดูดสัตว์ปีศาจเอานะ!”
“ได้ตีเ้าสักนิดข้าก็ใจเย็นเอง!”
“สักนิดหรือ? ได้ เช่นนั้นก็หยิกข้าเสีย แล้วเป็เด็กดีซะ”
“เด็กดีบ้านเ้าสิ! หึ! ข้าเปลี่ยนใจแล้ว สักนิดมันไม่พอ!”
“ซินเอ๋อร์ เ้าจะกลับคำพูดได้อย่างไร? พวกเาาวยุทธ์…”
“หาเื่ตาย! ข้าโมโหจะตายแล้ว!”
เสียงกระซิบกระซาบในกระโจมดังไม่หยุด ชายคนหนึ่งนั่งลงกับพื้นด้วยสีหน้าสิ้นหวัง ส่วนผู้หญิงอีกคนหนึ่งมองดูด้วยสายตาขุ่นเคืองและบิดหูชายคนนั้นอย่างแรง นาง โกรธจนหายใจแทบไม่ออก
ด้วยความสามารถด้านพลังยุทธ์ นางรู้ว่าตนเองทำอะไรเ้าหนุ่มนี่ไม่ได้ ทว่านางก็ไม่ได้ใช้แรงมากนัก
“พรึบ-แซ่กๆ”
“พรึบ-แซ่กๆ”
ทันใดนั้นเอง ต้นไม้ใกล้กับค่ายของกลุ่มัเหล็กก็มีเสียงน่าขนลุกขึ้นมา จากนั้นเสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นช้าๆ ทั้งสงบและเป็ระเบียบ พร้อมด้วยเงาร่างที่ปรากฏออกมาด้วยกลิ่นอายเย็นเยียบ
“พรึ่บ!”
ไฟถูกจุดส่องสว่างไปทั่ว สาดแสงไปทั้งแม่น้ำสายเล็ก ได้ยินเสียงคนกำลังเหยียบย่ำบนน้ำ ข้ามแม่น้ำมาจากทุกทิศทุกทาง พลังปราณก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
“เกิดอะไรขึ้น?”
ฉู่อวิ๋นและมู่หรงซินเองก็สังเกตเห็นบางสิ่งที่ผิดปกติเช่นกัน จึงรีบเปิดกระโจมออกไปดู มองเห็นสมาชิกทั้งหมดของกลุ่มัเหล็กตื่นขึ้นแล้ว พวกเขาเดินมารวมกลุ่มกันด้วยสีหน้าจริงจัง
ทันใดนั้น พื้นที่เปิดโล่งริมแม่น้ำก็เต็มไปด้วยผู้คน ซ่งอี้เป็คนแรกที่ตอบสนองทันที ยืนหยัดอยู่ต่อหน้ากลุ่ม ถือดาบไว้ในมือและกวาดตามองอย่างระมัดระวัง
ท่ามกลางเพลิงโหมกระหน่ำ มีร่างถือคบไฟเดินมาทีละคน สักพักก็เห็นขบวนเป็ระเบียบเรียบร้อยล้อมรอบค่าย ทุกคนสวมชุดเกราะ เครื่องแต่งกายทุกชนิดล้วนมีลายหมาป่าอันดุร้าย
“กลุ่มหมาป่าหรือ?!”
ดวงตาของฉู่อวิ๋นมืดลง คิ้วของเขาขมวดกันเล็กน้อย คนพวกนี้บุกมาแล้วจริงๆ เกรงว่าพวกเขาจะพบศพของสมาชิกสองคนที่จะทำร้ายพ่านพ่านและมาสร้างปัญหา
ยามนี้ ชายวัยกลางคนร่างสูงใหญ่สวมชุดคลุมสีดำพลิ้วไหวเดินออกมาและพูดกับซ่งอี้ซึ่งยืนอยู่หน้าค่าย “ฮ่าๆ คาดไม่ถึงว่าศัตรูพบกันบนทางแคบ[1] จะได้มาพบกับกลุ่มัเหล็กที่นี่ได้ ซ่งอี้ สบายดีหรือไม่?”
“หึ ดึกๆ ดื่นๆ พวกเ้ามาทำอะไรกันที่นี่? ในป่าสีเืกลุ่มนักรบรับจ้างไม่อนุญาตให้ต่อสู้กัน เ้าอยากทำลายกฎสมาพันธ์หรือ? เริ่นอวี่สิง!”!” ซ่งอี้เหวี่ยงดาบั์ฟาดลงไปอย่างแรงจนเกิดเป็รอยลึกบนพื้น น่าสะพรึงกลัว
“เกรงว่าข้าจะต้องคืนประโยคนี้ให้เ้านะ! หัวหน้าซ่ง คนในกลุ่มเ้ามาฆ่าสมาชิกของเรา เ้ารู้หรือไม่?” เริ่นอวี่สิงหัวเราะเยาะ ทำให้ทุกคนมองหน้ากันด้วยความสับสน
มีเพียงฉู่อวิ๋นที่กำหมัดแน่นด้วยท่าทางเคร่งขรึม ดูท่าแล้ว คืนนี้เื่ของพ่านพ่านคงปิดไม่อยู่แล้ว!
-----------
[1] ศัตรูหรือคนที่ไม่อยากเห็นหน้าแต่มักจะพบกันง่ายๆ ยากที่จะหลีกเลี่ยง