ภายใต้แสงอสนีสว่างเจิดจ้า ผู้คนในหมู่บ้านเห็นเพียงเงาร่างอันเลือนราง ภายในแสงสว่างสีขาวนั้น แม้แต่หลงจื่อและหลงชิงก็เห็นหลงโม่หรานไม่ชัด
คนในหมู่บ้านต่างอุทานด้วยความใ!
“กระบี่อสนีบาต!” เย่เฟิงกู่ร้องในใจ เมื่อใช้จิตหยั่งรู้สำรวจก็รู้สึกถึงกระบี่สยบัหลอมรวมกับแสงอัสนีอันน่าหวาดกลัว ทันใดนั้นพลังลมปราณของเขาก็แห้งเหือด
เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ!
แสงฟ้าแลบสว่างวาบ ตามด้วยประกายจากกระบี่ปรากฏเป็รูปพระจันทร์เสี้ยวก่อนโคจรจนกลายเป็กระบี่อสนีบาต ลมพายุพัดกระหน่ำจนหลังคาบ้านปลิวไปทางหลงโม่หรานราวกับอสรพิษคลั่ง!
สายฝนห่าใหญ่ดั่งม่านน้ำถูกรังสีกระบี่แหวกออกเป็ช่องว่างคล้ายกับเขตสุญญากาศ
ทันใดนั้นทุกคนในหมู่บ้านต่างมองเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน เมื่อทุกคนเห็นรังสีกระบี่ทำให้หลังคาพุ่งใส่หลงโม่หรานอย่างรวดเร็วก็ตื่นตระหนกและหวาดกลัวไปตามๆ กัน ทุกคนสามารถััได้ถึงอานุภาพอันน่าสะพรึงกลัวที่แฝงอยู่ในรังสีกระบี่สายนี้
ไอ้หนุ่มนี่ถึงกับสามารถปลดปล่อยกระบี่พลังปราณที่มีอานุภาพเช่นนี้ออกมาได้!
จากสภาพอากาศที่เป็อยู่ตอนนี้ทำให้เย่เฟิงดึงพลังธรรมชาติมาใช้ร่วมกับกระบี่อสนีบาตได้พอดี มันเป็พลังอำนาจที่สั่นะเืฟ้าดิน อานุภาพโดดเด่นไม่ธรรมดา
ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ม่านตาของหลงโม่หรานหดตัว การเคลื่อนไหวของกระบี่อสนีบาตรวดเร็วเกินไปแล้ว! เขาสามารถหลบเลี่ยงได้ ทว่าหากจะหลบหลีกการโจมตีจากเด็กรุ่นเยาว์เพียงคนเดียว เขาจะยังมีหน้าอยู่ในยุทธจักรได้อย่างไร? แม้ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายดึงสายฟ้ามาใช้ได้อย่างไร แต่เขายังเชื่อมั่นในตัวเองว่าจะสามารถรับมืออีกฝ่ายได้
แน่นอนว่าตนต้องใช้กลโกงเล็กน้อย
ชายวัยกลางคนกระทืบเท้าข้างหนึ่งอย่างแรง ใช้พลังภายในปรากฏเป็ฝ่ามือสองข้างมุ่งไปยังบ้านหลังหนึ่งก่อนจับตัวชูชู เพราะเธออยู่ใกล้เขามากที่สุด จึงตกเป็เป้าหมายในการลงมือครั้งนี้
ชูชูเป็เพียงคนธรรมดาไร้ซึ่งพลังจึงถูกหลงโม่หรานใช้พลังภายในจับตัวไว้อย่างไม่อาจต้านทาน จากนั้นเขาก็ดึงตัวเธอขึ้นเป็โล่ขวางรังสีจากกระบี่อสนีบาตที่กำลังพุ่งเข้ามา
“น้าคะ!” หลงหว่านเอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้างมองเห็นเหตุการณ์ชัดเจนจึงร้องอย่างตื่นตระหนก หลงโม่หรานช่างไร้ยางอายเกินไปแล้ว เขาใช้กระทั่งผู้หญิงอ่อนแอไร้วรยุทธ์คนหนึ่งเป็เกราะกำบังให้ตัวเอง
สีหน้าของเย่เฟิงก็เปลี่ยนไปเช่นกัน เขานึกไม่ถึงว่าหลงโม่หรานจะโเี้และเลวทรามเช่นนี้!
เป็เพราะชูชูช่วยหลงหว่านเอ๋อร์หนีออกจากบ้าน หลงโม่หรานจึงอยากจะฆ่าเธอ กระทั่งส่งตัวให้หลงอู่เหรินย่ำยีเธอ นึกไม่ถึงว่าตอนนี้เขายังคิดจะใช้เธอเป็เกราะกำบังให้ตัวเองอีก ช่างเป็เศษสวะเสียจริง
ชูชูถูกหลงโม่หรานจับตัวลอยอยู่กลางอากาศ ดวงตาคู่สวยที่ดูอ่อนโยนสะท้อนประกายสายฟ้าจากกระบี่ซึ่งเคลื่อนที่เข้ามาอย่างรวดเร็วทำให้เธอตื่นตระหนกมาก ก่อนหน้านี้เธอเผื่อใจที่จะตายเอาไว้แล้ว ทว่าเมื่อต้องตายด้วยวิธีนี้กลับทำให้เธอไม่อาจยอมรับได้ ไม่เพียงขัดขวางพวกหลงหว่านเอ๋อร์ ซ้ำยังช่วยหลงโม่หรานอีก แบบนี้จะให้เธอยินยอมได้อย่างไร?
พลั่ก!
ทันใดนั้นร่างร่างหนึ่งปรากฏตัวจากด้านข้าง แล้วผลักชูชูที่ลอยอยู่กลางอากาศออกไป เขาเป็คนที่ยืนอยู่ใกล้ชูชูมากที่สุด ซึ่งก็คือชายสวมหน้ากากจากตำหนักไท่จี๋! ใน่เวลาวิกฤต เด็กหนุ่มตอบสนองเพื่อช่วยเหลือเย่เฟิง ทว่า...
กระบี่อสนีบาตรวดเร็วเกินไป!
ฉัวะ!
ท่ามกลางสายฝนตกกระหน่ำ ชายสวมหน้ากากถูกแทงต้นขาจนร่วงลงพื้นอย่างแรง กระแสไฟฟ้าแล่นไปทั่วร่างทำให้ร่างของเขากระตุก
เขาเสียสละตัวเองเพื่อช่วยชูชูออกมา!
กระบี่อสนีบาตยังคงพุ่งตรงไปข้างหน้าพร้อมกับเสียง ‘เปรี๊ยะๆ’ จากกระแสไฟฟ้า ฉับพลันกระบี่ก็พุ่งไปถึงหน้าหลงโม่หราน
เพลงกระบี่บุปผาเหมันต์ฝ่าสายลมล้อมจันทรา
หลงโม่หรานหน้าทะมึน เขากวัดแกว่งกระบี่ในมืออย่างต่อเนื่องสามกระบวนท่า— พายุหมุนสลายเมฆา หยาดน้ำค้างแห่งบุปผาร่วงโรย และแสงอาทิตย์อัสดงส่องหิมะ!
ทั้งสามกระบวนท่ามีท่าร่างที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง หลงโม่หรานโคจรพลังไว้ที่ปลายกระบี่เพื่อเตรียมรับการปะทะจากกระบี่อสนีบาตของฝ่ายตรงข้าม
โดยทั่วไปอย่าว่าแต่ผู้เยาว์ที่มีพลังบ่มเพาะเพียงสิบปีเลย ต่อให้เป็ผู้าุโที่มีพลังบ่มเพาะสี่สิบถึงห้าสิบปี หลงโม่หรานล้วนสามารถสังหารพวกเขาได้ในกระบี่เดียว แต่เมื่อเผชิญหน้ากับกระบี่อสนีบาต เขาถึงกับต้องใช้สามกระบวนท่าออกมาในคราเดียว
เมื่อเทียบกับพลังยิ่งใหญ่ของธรรมชาติแล้ว เกรงว่าพลังของหลงโม่หรานคงด้อยค่าเกินกว่าจะเอ่ยถึง แต่พลังจากธรรมชาติที่เย่เฟิงดึงมาใช้เป็เพียงส่วนน้อยเท่านั้น มันจึงยังไม่ถือว่าอยู่ในระดับที่ทำลายกฎ์
ตูม! ตูม! ตูม!
เสียงะเิดังต่อเนื่องสามครั้ง เสียงสะท้อนดังขึ้นบนหลังคาจากการปะทะกันของกระบี่ จากนั้นสายฟ้าจากกระบี่สาดกระจายไปทั่วทุกทิศ เมื่อปะทะกันอีกครั้งก็เกิดการะเิพลัง ปรากฏประกายเด่นชัดราวแสงของดอกไม้ไฟ
ทุกครั้งที่ปะทะกัน แรงะเิก็ยิ่งเข้าใกล้หลงโม่หรานมากขึ้น กระทั่งการปะทะครั้งสุดท้ายที่อยู่ห่างจากเขาไม่ถึงหนึ่งเมตร ใบหน้าของเขาขาวซีด เสื้อคลุมสีขาวถูกกระแสลมพัดจนสะบัดไปมา
แรงพายุรุนแรงทำให้ทั้งสามคนที่ยืนบนหลังคาต่างกระจายตัวกันออกไป
หลงจื่อและหลงชิงไม่ได้พูดอะไร สักพักพวกเขาก็ถูกลมที่โหมกระหน่ำพัดลอยไป ก่อนร่วงลงบนพื้นกลางหมู่บ้านชาวประมงอย่างแรง ด้านหลงโม่หรานใช้วิชาตัวเบาโดยอาศัยพลังภายในจึงก้าวลงพื้นได้อย่างมั่นคงราบรื่น
“แค่ก...” เืสีสดไหลจากมุมปากของหลงโม่หราน เนื่องจากอยู่ใกล้แรงปะทะมากเกินไปทำให้เขากระอักเืออกมา แม้จะเป็การาเ็ภายในเพียงเล็กน้อย ทว่านานมากแล้วที่เขาไม่ได้ประสบกับสถานการณ์เช่นนี้
หากไม่มีชูชูและเด็กหนุ่มสวมหน้ากากคนนั้นคั่นกลางแล้วล่ะก็ พลังจากกระบี่อสนีบาตคงทำให้เขาได้รับาเ็สาหัสแน่!
แรงะเิจากการปะทะกันอย่างต่อเนื่องทำให้บ้านเรือนของชาวประมงถูกทำลายจนข้าวของกระจัดกระจายระเนระนาด ทั้งยังมีฝุ่นควันอบอวลไปทั่ว บดบังสายตาตกตะลึงของผู้คนจำนวนมากที่มองมา
“น้าชูชู!” หลงหว่านเอ๋อร์ไม่รอให้กลุ่มควันสลายไป แต่รีบถอดเสื้อคลุมสีดำของเย่เฟิงบนตัวเธอออกและวิ่งฝ่าสายฝนไปหาชูชู ก่อนคลุมเสื้อลงบนไหล่น้าสาวเพื่อกันสายฝนที่กระหน่ำลงมา
เย่เฟิงเองก็ไม่อยู่เฉยเช่นกัน เขาอาศัยจังหวะที่รอบข้างชุลมุนพุ่งตัวไปหาชายหนุ่มสวมหน้ากากอีกคนที่ได้รับาเ็ จากนั้นใช้เคล็ดแสงศักดิ์สิทธิ์ช่วยรักษาอีกฝ่าย!
มือของเย่เฟิงปรากฏแสงสีทอง เพียงไม่นานก็ช่วยห้ามเืของคนาเ็ไว้ได้
“หว่านเอ๋อร์ หนีเร็วเข้า!” เย่เฟิงประคองชายหนุ่มอีกคนขึ้นมา ก่อนมองไปทางหลงหว่านเอ๋อร์และพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ทำไม คิดจะหนีอย่างนั้นเหรอ?” น้ำเสียงทะมึนของหลงโม่หรานดังฝ่ากลุ่มควันออกมา
ยิ่งเวลาผ่านไป พายุฝนก็ยิ่งทวีความรุนแรง กระแสลมบ้าคลั่งพัดสิ่งของต่างๆ เอนเอียงและปลิวไปตามกระแสน้ำ สายฝนเทกระหน่ำราวกับน้ำตก ทำให้ทุกคนที่อยู่ในหมู่บ้านชาวประมงต่างเปียกโชก
สายฝนทำให้กลุ่มควันจางหายไปอย่างรวดเร็ว
เย่เฟิงเงยหน้ามองไปทางที่หลงโม่หรานยืนอยู่ ก่อนจะเห็นว่าเขาเช็ดเืออกจากมุมปาก โดยที่มือข้างหนึ่งถือกระบี่เอาไว้พลางมองมาทางเขาด้วยรอยยิ้มหยัน
“คิดจะพาลูกสาวของฉันหนีงั้นเหรอ งั้นก็แสดงให้ฉันดูหน่อยสิว่าน้ำหน้าอย่างแกจะหนีไปได้สักกี่น้ำ...” น้ำเสียงเหี้ยมเกรียมของหลงโม่หรานทำให้ผู้คนโดยรอบอดสั่นเทาด้วยความหวาดหวั่นไม่ได้
“อย่ามาเรียกฉันว่าลูกสาวนะ” หลงหว่านเอ๋อร์เงยหน้าก่อนใช้มือข้างหนึ่งถอดหน้ากากออก เผยให้เห็นใบหน้างดงามและร่องรอยความเกลียดชังบนใบหน้าขณะมองหลงโม่หราน “คนอย่างคุณไม่สมควรเป็พ่อฉัน!”
สำหรับหลงหว่านเอ๋อร์ ั้แ่เล็กจนโตคนที่เธอใกล้ชิดสนิทสนมมากที่สุดไม่ใช่หลงโม่หรานแต่กลับเป็น้าชูชู แต่เมื่อครู่หลงโม่หรานกลับใช้ชูชูเป็โล่กำบังตัวเองโดยไม่สนใจเลยว่าเธอจะเป็ตายร้ายดีอย่างไร เื่นี้ทำให้หญิงสาวคับแค้นใจและมองเห็นธาตุแท้ของบิดาบังเกิดเกล้า
ในเมื่อตอนนี้ไม่อาจหนีไปได้ เธอจึงไม่เห็นแก่หน้าหลงโม่หรานอีก และตัดสินใจหักหน้าอีกฝ่ายอย่างเปิดเผย!
แม้ชูชูจะเป็เพียงคนธรรมดา แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลงหว่านเอ๋อร์จะคอยอยู่เคียงข้างและปกป้องเธอ
ใน่เวลาที่เธอยังเด็ก เมื่อใดก็ตามที่เธอถูกเด็กคนอื่นในตระกูลหลงรังแก น้าชูชูมักออกหน้าช่วยเหลืออีกทั้งทนรับสายตาดูถูกเหยียดหยามและความเฉยชาจากพวกเขา ทุกครั้งที่เธอก่อเื่และถูกลงโทษไม่ว่าจะเื่อะไรก็ตาม ก็เป็น้าชูชูที่ออกหน้ายอมรับผิดแทนเธอ เื่ที่เธอถูกลงโทษกักบริเวณก่อนหน้านี้ ก็มีเพียงน้าชูชูคนเดียวที่แอบช่วยเหลือให้เธอออกมาได้ สามารถพูดได้เลยว่าในใจของหลงหว่านเอ๋อร์ น้าชูชูเปรียบเหมือนแม่ของเธอคนหนึ่ง
“งั้นเหรอ” หลงโม่หรานเอ่ยด้วยน้ำเสียงแ่เบา ไม่แสดงท่าทีอะไรเป็พิเศษ “ถ้าไม่อยากเป็ลูกสาวของฉัน เธอก็จงทำลายจุดตันเถียนและวิทยายุทธ์ของตระกูลหลงซะ แล้วฉันจะยอมปล่อยพวกเธอไป”
คำพูดของหลงโม่หรานทำให้ผู้คนที่อยู่โดยรอบถึงกับตื่นตะลึง
ทว่าแค่หลงหว่านเอ๋อร์ได้ยินว่าคนตรงหน้าจะยอมปล่อยพวกเธอไปก็มีความหวังขึ้นมาในใจ ตราบใดที่... เธอยอมทำลายจุดตันเถียนของตัวเอง แค่นี้ก็ได้แล้วใช่ไหม?
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้