แต่เมื่อทั้งสองเดินมาถึงทางเข้าห้องน้ำ วินกลับชะงักเท้าอยู่ตรงหน้าทางเข้าห้องน้ำหญิงและทำท่ารีรอจนนนท์สงสัย
“อะไรของมึงว่ะไอ้วิน จะเข้าห้องน้ำหญิงรึไง”
“มึงปวดก็เข้าไปก่อนเลยนนท์ เดี๋ยวกูตามไป”
นนท์จึงหันหลังกลับเพื่อเดินไปทางห้องน้ำชาย แต่เพราะไม่ทันระวังเลยชนเข้ากับใครบางคนที่เดินออกมาจากทางฝั่งห้องน้ำหญิงพอดี แรงกระแทกนั้นทำให้อีกฝ่ายเพลี่ยงพล้ำเซถอยหลังไป
วินที่เห็นเหตุการณ์รีบเข้าไปประคองแขนคนตัวเล็กที่เซจนเกือบล้มก่อนดึงร่างบางของหญิงสาวมาแนบไว้กับตัวของเขาราวกับ้าปกป้องอันตรายให้แก่เธอ
“เป็อะไรไหมครับคุณ” วินเอ่ยถามด้วยความเป็ห่วง ก่อนจะหันไปดุเพื่อนที่กำลังยืนทำหน้าสำนึกผิดอยู่
“เดินยังไงของมึงว่ะ ไอ้นนท์”
“ขอโทษนะครับ ผมไม่ทันระวัง เจ็บตรงไหนไหมครับ” นนท์กล่าวคำขอโทษอย่างสุภาพ ก่อนจะมองไปทางเพื่อนสนิทของเขาที่ตอนนี้กำลังถือวิสาสะประคองแขนทั้งสองข้างของหญิงสาวจากทางด้านหลังโดยดึงร่างบางให้แผ่นหลังของเธอแนบไว้กับแผงอกกำยำ
นนท์มองภาพตรงหน้าแล้วถึงกับเลิกคิ้วสูงกับสิ่งที่เพื่อนทำ แต่วินกลับไม่ได้สนใจ นนท์ถึงกับต้องเลิกคิ้วใส่เพื่อนอีกรอบ
วินมองหน้านนท์ครู่หนึ่งแต่เหมือนเ้าตัวก็ยังไม่รับรู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด สุดท้ายกลายเป็หญิงสาวที่ต้องเป็ฝ่ายจับมือเพื่อนของเขาให้ออกห่างจากตัวของเธอเสียเอง วินถึงเพิ่งจะได้รู้สึกตัวว่าใกล้ชิดหญิงสาวตรงหน้ามากเกินไป
“ขอโทษครับ” พูดจบเขาก็เดินถอยห่างออกมาเล็กน้อยเพื่อให้หญิงสาวมีพื้นที่ของตัวเอง
แพรมองผู้ชายสองคนตรงหน้าสลับกันไปมา คนหนึ่งตัวสูง ผิวขาว จมูกโด่ง มีลักยิ้ม ท่าทางดูเป็มิตร ขณะที่อีกคนตัวสูงไม่แพ้กัน แต่มีผิวที่คล้ำกว่า จมูกที่ดูคมสันกับคิ้วที่เข้มได้รูปยิ่งขับให้ดวงตาของเขาดูมีพลังบางอย่าง ซึ่งทำให้เธอรู้สึกปั่นป่วนอย่างบอกไม่ถูก และเธอคิดว่าไม่ควรยืนอยู่ที่ตรงนี้นานเกินไป
“ฉันไม่เป็อะไรค่ะ และต้องขอโทษด้วยเช่นกันนะคะคุณนนท์ เพราะฉันก็ไม่ทันระวังเหมือนกันค่ะ” พูดจบก็ค้อมศีรษะให้อีกฝ่ายเป็เชิงขอโทษและเดินเลี่ยงไปทางด้านหลังร้านทันที ปล่อยให้ชายผิวเข้มมองตามเธอจนเหลียวหลัง
วินรู้สึกว่าผู้หญิงตัวเล็กคนนี้มีบางอย่างที่ทำให้เขารู้สึกไม่เป็ตัวของตัวเอง อยากรู้จัก อยากเข้าใกล้ อยากเข้าหา จนนนท์ถึงกับเอ่ยแซว
“มองตามเขาเสียอย่างกับจะเอามาเป็แม่ของลูกเลยนะ จะตามเขาไปไหมล่ะ กูจะได้ไม่ต้องรอ”
ตามไป...ในความหมายของนนท์เป็ที่รู้กันว่า วินน่าจะได้กลับคอนโดในตอนเช้าของวันพรุ่งนี้เลย
“ไม่อ่ะ” พูดพร้อมส่ายหน้า ชายหนุ่มแอบคิดอยู่ในใจ จะให้ตามไปได้ยังไงในเมื่อผู้หญิงแสดงท่าทีชัดเจนขนาดนั้นว่าไม่อยากให้เขาเข้าใกล้ ผิดกับสาวอื่นที่แค่เขามองอย่างไม่วางตา อีกฝ่ายก็รู้ในเจตนาของเขาและทุกครั้งก็จบลงบนเตียงง่ายๆ ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไร จบก็แยกย้ายกันไป แต่งานนี้เห็นทีจะยากเพราะสาวเ้าดูท่าจะไม่เล่นด้วย
“อ่า มึงไม่ตาม งั้นกูตามนะ เขารู้จักชื่อกูด้วย อาจจะแอบสนใจ กูอยู่ก็ได้ แบบนี้สานสัมพันธ์ง่าย” นนท์พูดทีเล่นทีจริง และทำท่าจะเดินตามหลังหญิงสาวไป แต่กลับถูกวินล็อคคอและลากให้เข้าห้องน้ำไปพร้อมกัน
นนท์ได้แต่หัวเราะกับท่าทีที่เพื่อนของเขาแสดงออก ปากบอกว่าไม่...แต่ท่าทีกลับประกาศกร้าวเลยว่าแอบหวงก้าง เขาจะรอดูว่ามันจะทำยังไงต่อไป ในเมื่อมันแสดงออกชัดเจนขนาดนี้ว่าสนใจสาวคนนั้นเพราะเล่นประคองหญิงสาวไว้แนบกายแทบจะไม่ยอมปล่อยมือออกจากเธอเลย แถมสาวเ้าก็ตัวเล็กบอบบางน่าทะนุถนอมตรงสเปคของมันอีก งานนี้ต้องมีลุ้นแน่ๆ
หลังจากแพรปลีกตัวเดินหนีเข้ามาในครัวจนพ้นสายตาของ ชายหนุ่มทั้งสองแล้ว หญิงสาวก็รีบเอามือขึ้นทาบที่หน้าอก เพราะเธอรู้สึกว่าใจเต้นแรงผิดปกติราวกับว่าเธอเพิ่งไปวิ่งรอบสนามมาสักสิบรอบก็ไม่ปาน
หญิงสาวระลึกถึงตอนที่เธอถูกชายผิวเข้มคนนั้นดึงไปประชิดไว้แนบกับตัว มือทั้งสองข้างของเขาประคองแขนของเธอไว้ประหนึ่งเป็โล่ที่จะคอยช่วยปกป้องอันตรายให้กับเธอได้ หญิงสาวรู้สึกปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูก เธอยืนนิ่งซึมซับความรู้สึกที่ซาบซ่านอุ่นหัวใจนั้นอยู่สักพัก ก่อนที่จะเลือกสลัดความรู้สึกนั้นทิ้งลงเสีย
ชีวิตของเธอไม่ควรผูกพันกับใคร เพราะสุดท้ายคนเ่าั้ก็มักจะจากเธอไปทุกที แพรเดินกลับไปยังหน้าเตาเพื่อรอรับออเดอร์ต่อไป เธอง่วนกับการปรุงอาหารเพื่อไม่ให้คิดถึงอ้อมกอดที่อบอุ่น น้ำเสียงที่อ่อนโยนและสายตาที่ห่วงใยของชายคนนั้น
จวบจนกระทั่งใกล้เวลาเลิกงาน ซึ่งปกติแล้วกวีให้เธอเลิกงานั้แ่สี่ทุ่มเพื่อที่หญิงสาวจะได้รีบกลับไปพักผ่อนเพื่อตื่นไปทำงานประจำในตอนเช้า แต่แพรมักจะแอบห่วงเพื่อนๆ ในครัวเธอจึงอยู่คอยช่วยเหลือบางอย่างเท่าที่จะช่วยได้ ทำให้ทุกครั้งมักจะเกินเวลาทุกที
ซึ่งเหมือนกับทุกวัน เพราะวันนี้เธอทำงานล่วงเวลามาเกือบจะห้าทุ่มแล้ว หญิงสาวรีบเก็บของและเอ่ยลาเพื่อนๆ ก่อนจะเดินไปร่ำลากวี ซึ่งก็ถูกอีกฝ่ายตีแขนเหมือนเดิมที่เธอดื้อไม่ยอมรีบกลับไปพักผ่อน
“อีกแล้วนะแพร เดี๋ยวก็พักผ่อนไม่พอหรอก รีบกลับไปเลย”
“รับทราบค่าเ้านาย แพรลานะคะ สวัสดีค่ะ” ยกมือไหว้ลาและเดินออกจากร้านไป
หญิงสาวเดินออกจากร้านมาเพียงลำพัง เธอเดินมุ่งหน้าออกไปทางถนนใหญ่เพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้ากลับที่พัก แต่ในระหว่างทางหญิงสาวรู้สึกเหมือนกับว่าเธอกำลังถูกใครบางคนสะกดรอยตาม แต่พอหันหลังกลับไปมองก็ไม่เห็นใคร นอกจากคนทั่วไปที่ต่างคนต่างก็เร่งฝีเท้ามุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทางของตน
แพรหันกลับไปมองอีกครั้งให้แน่ใจ แต่เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรน่าสงสัย เธอจึงเดินก้าวเข้าไปในขบวนรถไฟฟ้าโดยไม่ได้รู้สึกระแวงอะไรอีก หญิงสาวใช้เวลาโดยสารรถไฟฟ้าเพียงแค่สามสถานีเท่านั้น ก็ถึงสถานีที่หมายซึ่งอยู่ใกล้กับที่พักของเธอ
หญิงสาวเดินลงจากสถานีรถไฟฟ้าและมุ่งหน้าเดินเข้าคอนโดไปโดยไม่ทันสังเกตว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งมองตามหลังเธอไป เขาแอบยิ้มขำกับการกระทำของตัวเอง
หลังจากเพื่อนสนิทกับรุ่นน้องของเขาเลือกที่จะพาสาวไปเที่ยวกันต่อ แต่เขาไม่อยากไปด้วยเพราะในใจมีเป้าหมายใหม่แล้ว ชายหนุ่มจึงถือโอกาสนั่งรออยู่ที่ร้านเพื่อรอเธอคนนั้น จนกระทั่งเธอเลิกงานและเดินออกจากร้านเพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้า เขาก็แอบเดินตามเธอมาเงียบๆ
สรุปนี่เขาคิดจะทำอะไรกันแน่ ชื่อของเธอนั้นเขาก็ยังไม่ทันจะได้ถาม แต่ดันเลือกที่จะสะกดรอยตามเธอมาถึงที่พักเสียแล้ว มึงทำอะไรลงไปเนี่ย...วิน เขาสบถออกมาในใจ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้