ปีศาจโลหิตที่น่าหวาดกลัวและไร้พ่าย ภาพลักษณ์ของพวกมันได้ฝังลึกลงไปในจิตใจของชาวเมือง การปรากฎตัวของเจียงเฉินได้ทำให้ปีศาจโลหิตเกิดความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงจนไม่อาจจินตนาการได้
แต่การที่เจียงเฉินได้กำจัดปีศาจโลหิตจนสิ้นซากสามครั้งสามครา ทำให้บารมีของเขาไร้ผู้เทียบเคียง ภายในใจของชาวเมืองหงหยางทุกคน เจียงเฉินเป็ดั่งเทพเซียนจาก์ที่ทรงอำนาจและไร้เทียมทาน
เจียงเฉินฮึกเหิม เหตุที่บรรดาปีศาจโลหิตที่บุกมายังเขตหวงฉีเกิดความสูญเสียครั้งใหญ่ นั่นเป็เพราะเมืองหงหยาง เจียงเฉินได้ทำให้เมืองเป็เป้าหมายหลักของปีศาจโลหิต ไม่ต้องสงสัยเลย นี่เป็การเดินหมากที่ชาญฉลาด ไม่เพียงแค่สามารถช่วยเมืองอื่นๆจากปัญหามากมาย อีกทั้งมันยังช่วยเขาประหยัดเวลามากอีกด้วย เพราะว่าเขาไม่จำเป็ต้องไปตามหาปีศาจโลหิตในทุกพื้นที่
หลังจากผ่านการต่อสู้ไปสามครั้ง เื่บาดหมางระหว่างปีศาจโลหิตกับเมืองหงหยางได้มาอยู่ในจุดที่ไม่สามารถแก้ไขได้อีกต่อไป แม้ว่าเจียงเฉินจะยังไม่ได้พบกับผู้ที่เรียกตนเองว่าราชันย์จันทราโลหิตก็ตาม เขาสามารถคาดเดาได้ แน่นอนว่ามันจะต้องบุกเข้าโจมตีอย่างรุนแรงยิ่งกว่าเก่า จนกว่าเมืองหงหยางจะกลายเป็ซาก
สองวันต่อมา มันเหนือความคาดหมายของเจียงเฉิน ราชันย์จันทราโลหิตยังไม่ปรากฎตัวออกมา แต่ปีศาจโลหิต ได้บุกโจมตีครั้งใหญ่อีกสองรอบ และผลก็เป็เช่นการต่อสู้ครั้งที่ผ่านมา ไม่ว่าจะส่งหัวหน้าหน่วยที่แข็งแกร่งมา ท้ายที่สุดพวกมันก็ตกตายอย่างน่าอนาถภายในเมืองหงหยาง ไม่มีเหลือรอดแม้แต่ตนเดียว
การต่อสู้ได้ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ เจียงเฉินเป็ผู้ได้ประโยชน์มากที่สุด ขณะที่ใช้ชีพจรพลังงาน ตลอดจนดูดซับแก่นพลังงานโลหิตที่ได้จากการสังหารเหล่าปีศาจโลหิต ความแข็งแกร่งของเขาพุ่งขึ้นราวกับติดจรวด ตราประทับัของเขาในตอนนี้ได้เพิ่มขึ้นเป็หนึ่งร้อยยี่สิบดวง
เช่นเดียวกัน ข่าวของการต่อสู้ในเมืองหงหยางเมื่อหลายวันมานี้ได้แพร่กระจายไปทั้วทุกมุมของเขตหวงฉี ชื่อเสียงของเจียงเฉินได้เป็ที่โด่งดังที่เขตหวงฉี เมื่อใดก็ตามที่ชื่อของเจียงเฉินได้ถูกเอ่ยถึง ทุกคนอดไม่ได้ที่จะนับถือเขา
ทุกคนในเขตหวงฉี รวมไปถึงตระกูลอี้ ต่างรู้ดีในขณะที่เจียงเฉินได้ช่วยเหลือเมืองหงหยาง ในความจริงเขายังได้ช่วยทุกคนในเขตหวงฉี หากไม่มีเจียงเฉิน ปีศาจโลหิตจำนวนมากคงสร้างหายนะไปทั่วทั้งเขตหวงฉีเป็แน่
ดังนั้น เจียงเฉินจึงเปรียบเสมือนผู้มีพระคุณของทุกคนในเขตหวงฉี พวกเขาทุกคนต่างจดจำและซาบซึ้งในการช่วยเหลือของเจียงเฉิน
อี้จื่อฮันมีความสุข หลังจากที่ได้ร่วมสู้กับปีศาจโลหิตเคียงข้างเจียงเฉิน เขาได้ััถึงความรู้สึกของเืที่เดือดพล่านจากการต่อสู้ นี่เป็ครั้งแรกที่เขาได้พบใครสักคนที่ทรงพลังอำนาจถึงเพียงนี้ หลังจากการต่อสู้จบลง อี้จื่อฮันได้ยอมรับเจียงเฉิน
"การต่อสู้กับปีศาจโลหิตยังไม่จบ ราชันย์จันทราโลหิตยังไม่ปรากฎตัว และนี่ดูไม่เหมือนกับพฤติกรรมของมัน บางทีการบุกโจมตีครั้งถัดไป มันอาจปรากฎตัวขึ้น ดังนั้นตอนนี้จึงไม่ใช่เวลาที่จะผ่อนคลายได้"
เจียงเฉินพูดออกมา
"ใช่แล้ว แม้ว่าราชันย์จันทราโลหิตจะไม่ปรากฎตัวออกมา ทุกคนต่างรู้ถึงความโหดร้ายและป่าเถื่อนของคนทรงจันทราโลหิต ทุกคนคงจำกันได้ถึงหายนะครั้งใหญ่ที่เคยเกิดขึ้น ข้าคิดว่าเ้าราชันย์จันทราโลหิตคงจะโหดร้ายป่าเถื่อนเช่นเดียวกัน"
ท่าทีของอี้จื่อฮันเปลี่ยนเป็จริงจัง
"จับตาดูทุกการเคลื่อนไหวที่เป็ไปได้จากราชันย์จันทราโลหิตซะ"
เจียงเฉิน พูด
เื่นี้มิใช่สิ่งที่เจียงเฉินคาดการณ์ไว้ ราชันย์จันทราโลหิตยังไม่ปรากฎตัว หลังจากนั้นสามวัน สถานการณ์เริ่มสงบลง และไม่มีปีศาจโลหิตปรากฎตัวใกล้เมืองหงหยางแม้แต่ตนเดียว สถานการณ์สงบเช่นนี้ได้ทำให้ทุกคนในเมืองเกิดความสับสน
ดูเหมือนกับว่ามีพายุขนาดใหญ่ซ่อนอยู่ภายใต้ความสงบ และนี่มันไม่ใช่วิธีการของปีศาจโลหิตแม้แต่น้อย
เช้าวันที่สี่ อี้จื่อฮันวิ่งหน้าตื่นมายังคฤหาสน์ของเจียงเฉิน
"น้องเจียง ได้โปรดช่วยน้องสาวข้าด้วย!"
เมื่ออี้จื่อฮันเห็นเจียงเฉิน ทันใดนั้นเขาก็กุมมือและพูดออกมา ท่าทางของเขาเคร่งเครียดและใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวล
"จื่อฮัน มันเกิดอะไรขึ้น?ค่อยๆพูดออกมา"
หลังจากที่ได้ใช้เวลาด้วยกันหลายวัน อี้จื่อฮันได้สร้างความประทับใจให้เจียงเฉินเป็อย่างมาก ดังนั้นเจียงเฉินจึงปฏิบัติกับเขาอย่างเป็กันเอง
"น้องเจียง ท่านพ่อข้าพบเบาะแสเกี่ยวกับราชันย์จันทราโลหิต! น้องสาวข้า อี้จื่อเหยียนถูกพวกมันจับตัวไป! น้องเจียง ได้โปรดช่วยเหลือน้องสาวข้าด้วย!"
อี้จื่อฮันกังวัลเป็อย่างมาก น้องสาวของเขาถูกราชันย์จันทราโลหิตจับตัวไป แล้วนางจะพบกับจุดจบที่ดีได้อย่างไร
"เื่มันเป็มาอย่างไร เ้าค่อยๆพูดมิได้หรือ?"
เจียงเฉินพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย จิตใจของเขาได้ฝึกฝนให้เยือกเย็นในทุกสถานการณ์ที่ต้องเผชิญ
"น้องสาวของข้าได้หายตัวไปเมื่อวานซืน ท่านพ่อข้าได้ส่งคนออกตามหานาง และจากนั้นพวกเขาได้รับข่าวร้าย ราชันย์จันทราโลหิตได้ลักลอบจับตัวเด็กสาวเ่าั้เมื่อหลายวันก่อน คืนนี้มันจะทำพิธีสังเวยโลหิตที่หุบเขาิญญาเมฆา!มันกำลังจะทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ หากมันทำได้สำเร็จ ทุกชีวิตในเขตหวงฉีต้องตกอยู่ในอันตราย พวกเราจะถึงจุดจบโดยสมบูรณ์!"
อี้จื่อฮันอธิบาย
"อย่างนี้นี่เอง มิน่าเล่าราชันย์จันทราโลหิตถึงได้ไม่ปรากฎตัว"
ดวงตาเจียงเฉินส่องประกายออกมา ถึงนี่ไม่ใช่ข่าวดี แต่สำหรับเจียงเฉินได้รับรู้ข่าวเกี่ยวกับราชันย์จันทราโลหิตก็ดีกว่าไม่รับรู้อะไรเลย
"น้องเจียง น้องสาวข้าอยู่ในกลุ่มเด็กสาวที่ถูกจับตัวไป บิดาข้าได้พาผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้์จำนวนหนึ่งจากตระกูลอี้ เตรียมพร้อมสำหรับการช่วยเหลือน้องสาวที่หุบเขาิญญาเมฆา ขอให้น้องเจียงช่วยลงมือสนับสนุนด้วย"
อี้จื่อฮันกุมมือต่อเจียงเฉิน พวกเขาต้องช่วยอี้จื่อเหยียนไม่ว่าอย่างไรก็ตาม แต่อี้จื่อฮันเข้าใจถึงความแข็งแกร่งของตระกูลอี้ดี มันเป็ไปไม่ได้ที่จะช่วยอี้จื่อเหยียนจากราชันย์จันทราโลหิต ด้วยผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้์เพียงไม่กี่คนจากตระกูลอี้ พวกเขาย่อมพ่ายแพ้ในทันทีที่พวกเขาไปถึงหุบเขาิญญาเมฆา ดังนั้นเพื่อให้การช่วยเหลือประสบความสำเร็จ พวกเขาจำเป็ที่ต้องได้รับความช่วยเหลือจากเจียงเฉิน
"หุบเขาิญญาเมฆาตั้งอยู่บริเวณใด?"
เจียงเฉินถาม
"มันตั้งอยู่ห่างไกลจากเขตหวงฉี และร่างทรงจันทราโลหิตได้ถูกสี่ผู้นำนิกายสังหารที่หุบเขานั่น ก่อนที่มันจะตาย มันได้ใช้วิชามารเปลี่ยนสถานที่แห่งนั้นให้เป็หุบเขาที่เต็มไปด้วยิญญาชั่วร้าย และไม่มีผู้ใดเข้าไปที่นั่นนับแต่นั้นมา"
อี้จื่อฮันอธิบาย
"แจ้งบิดาของเ้า บอกเขาว่าอย่าเพิ่งไปที่นั่น รอจนกว่าจะพลบค่ำ จากนั้นข้าจะไปพร้อมกับพวกเขา มาดูกันว่าพวกเราจะทำอะไรได้บ้าง คืนนี้จะเป็ศึกชี้ชะตากับราชันย์จันทราโลหิตกัน"
เจียงเฉินออกมาจากนิกายเซวียนอี้หลายวันแล้ว ถึงเวลาที่เขาต้องพบกับราชันย์จันทราโลหิตเสียที
"ดี!บุญคุณของน้องเจียงเฉินครั้งนี้ พวกเราตระกูลอี้จะไม่มีวันลืม"
อี้จื่อฮันกุมมือของเขาต่อเจียงเฉินอีกครั้ง จากนั้นก็หันกลับแล้วจากไป ด้วยความช่วยเหลือจากเจียงเฉิน ตระกูลอี้มีโอกาสสู้กับเหล่าปีศาจโลหิตและช่วยเหลืออี้จื่อเหยียนจากความทุกข์ทรมาน หากไม่มีความช่วยเหลือของเขา ถึงแม้ตระกูลอี้จะส่งคนทั้งหมดไปที่หุบเขา สถานที่แห่งนั้นคงเป็หลุมศพของพวกเขา นับประสาอะไรกับการช่วยเหลืออี้จื่อเหยียน
ขณะเดียวกัน ที่นิกายเซวียนอี้
เฝินคุนเผยรอยยิ้มแสยะและเดินออกจากเขตใน เมื่อมันเดินผ่านหุบเขาของกั๋วฉาน มันก็หยุดลง
"ฮึ่ม!กั๋วฉานหนอกั๋วฉาน ในที่สุดเ้าก็เก็บตัวซะที!ข้ารอวันนี้มานานแล้ว!ในตอนนี้ท่านผู้นำนิกายเก็บตัวบ่มเพาะพลังเช่นกัน ส่วนกั๋วฉานก็ปิดประตูศึกษาการปรุงยา เยี่ยนเฉินหยวี่ ดูสิวันนี้ใครจะสามารถช่วยเ้าได้ เ้าไม่อาจหนีพ้นจากเงื้อมมือของข้า!"
เฝินคุนหัวเราะออกมาเสียงดัง จากนั้นมันก็มุ่งหน้าไปยังเรือนที่พักของเจียงเฉิน
ภายในเรือนที่พัก เยี่ยนเฉินหยวี่อยู่ในระหว่างเก็บตัวบ่มเพาะพลัง แต่ทันใดนั้นนางได้ยินเสียงฝีเท้าข้างนอกห้องของนาง เมื่อตรวจสอบด้วยััเทวะ พบว่าคนผู้นั้นเป็เฝินคุน ท่าทีของนางพลันเปลี่ยนในทันที
ครืด...!
เยี่ยนเฉินหยวี่ออกมาจากห้องของนาง แล้วแผดเสียงใส่ในทันที
"เฝินคุน เ้ามาที่นี่อีกทำไม?ข้าคิดว่าท่านผู้าุโกั๋วฉานบอกเ้าไปแล้วมิใช้หรือว่าห้ามมาที่นี่อีก? "
"ฮี่ฮี่ ศิษย์น้องหญิงเยี่ยนอย่าเพิ่งโกรธไป ข้าสงสัยว่าศิษย์น้องหญิงคิดเช่นไรกับข้อเสนอของข้าเมื่อไม่กี่วันก่อน?"
รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความหื่นกระหายปรากฎบนใบหน้าของเฝินคุน
"ข้อเสนออะไร?"
เยี่ยนเฉินหยวี่ไม่อาจทนได้อีกต่อไปจึงได้แสดงท่าทีเบื่อหน่าย
"ศิษย์น้องเยี่ยน เ้ายังไม่เข้าใจข้าอีกหรือ?ข้า้าให้เ้ามาเป็สตรีของข้า!ข้าจะบอกให้เ้ารู้ไว้ เจียงเฉินจะต้องถูกราชันย์จันทราโลหิตฆ่าตายในเขตหวงฉีแน่นอน หากเ้ามาเป็สตรีของข้า ข้าจะอ่อนโยนกับเ้าเอง ข้ารับประกันว่าเ้าต้องได้เป็หนึ่งในศิษย์ชั้นนำในนิกายเซวียนอี้แน่นอน"
เฝินคุนพูดพร้อมเผยรอยยิ้มหื่นกระหาย
"ไสหัวไปซะ!"
ท่าทางของเยี่ยนเฉินหยวี่เ็าอย่างมาก ไอเย็นได้ถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของนาง
"ฮึ่ม!เยี่ยนเฉินหยวี่ ข้าหมดความอดทนกับเ้าแล้ว ทางที่ดีวันนี้เ้าอย่าได้ปฏิเสธข้า มิเช่นนั้นอย่าว่าข้าหากข้าไม่สุภาพ!"
ท่าทีของเฝินคุนเปลี่ยนไป ดูเหมือนว่าหากเยี่ยนเฉินหยวี่ไม่ตอบรับข้อเสนอของมัน มันจะใช้กำลังกับนางฉุดคร่านาง
"เ้ากล้ารึ?"
เยี่ยนเฉินหยวี่กราดเกรี้ยวอย่างมาก นางปลดปล่อยไอเย็นที่รุนแรงออกมาจากร่างกาย
"เ้ากำลังรอเ้าแก่โง่กั๋วฉานมาช่วยเ้างั้นรึ? เปล่าประโยชน์!วันนี้ผู้นำนิกายได้เก็บตัวบ่มเพาะพลัง กั๋วฉานเองก็เช่นกัน! ตอนนี้ท่านปู่ของข้าทำหน้าที่แทนผู้นำนิกาย ตอนนี้ไม่มีใครหน้าไหนที่กล้าขัดใจข้า"
เฝินคุนมีท่าทีภูมิใจ จริงอยู่ที่ความสามารถของมันเป็ความภาคภูมิใจของนิกายเซวียนอี้ ในความคิดของมันไม่ว่าเจียงเฉินจะเป็อัจฉริยะแค่ไหน เจียงเฉินต้องถูกราชันย์จันทราโลหิตสังหารแน่นอน หลังจากที่มันขืนใจเยี่ยนเฉินหยวี่แล้ว ด้วยความช่วยเหลือของปู่ของมันได้ มันก็จะรอดพ้นจากการลงทัณฑ์มาได้ นอกจากนี้ผู้นำนิกายคงไม่มอบโทษตายแก่มันแน่
"สารเลว!"
เยี่ยนเฉินหยวี่โกรธเกรี้ยวถึงขีดสุด นางสร้างลูกศรน้ำแข็งขึ้นและพุ่งเข้าใส่เฝินคุน เมื่อนางลงมืออุณหภูมิภายในเรือนที่พักก็ลดต่ำลงในทันใด แม้แต่อากาศเกือบทั้งหมดถูกแช่แข็ง
"โฮ่ ช่างเป็ไอเย็นที่รุนแรงนัก!ข้าไม่คิดเลยว่าเ้ามีกายศักดิ์สิทธิ์!แต่น่าเสียดาย เ้าอ่อนแอเกินไป เมื่อเผชิญหน้ากับข้าทางเลือกเดียวของเ้าคือยอมจำนนเท่านั้น!"
เฝินคุนโบกมือและปลดปล่อยลำแสงสีทองออกมา พุ่งเข้าใส่ศรน้ำแข็งของเยี่ยนเฉินหยวี่ ทำให้ศรน้ำแข็งของนางแตกกระจายเป็เสี่ยงๆ หลังจากนั้นมันก็ซัดพลังเข้าใส่ คลื่นพลังที่แข็งแกร่งได้ถาโถมเข้าใส่เยี่ยนเฉินหยวี่
เยี่ยนเฉินหยวี่ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ นางได้สร้างม่านน้ำแข็งขึ้น แต่น่าเสียดายความแตกต่างของระดับการบ่มเพาะนั้นมากมายยิ่งนัก เยี่ยนเฉินหยวี่ไม่ใช่คู่มือของเฝินคุนแม้แต่น้อย ภายใต้คลื่นพลังของเฝินคุน เยี่ยนเฉินหยวี่ได้กระอักเืออกมา ท่าทางของนางได้เปลี่ยนในทันใด
"แฮ่ก แฮ่ก...ศิษย์น้องหญิงเยี่ยน เ้าช่างมีเสน่ห์เหลือเกิน!"
เฝินคุนไม่อาจควบคุมความปรารถนาของมันได้อีกต่อไป มันเดินตรงไปยังเยี่ยนเฉินหยวี่ราวกับสัตว์ที่หื่นกระหาย
ในเวลานั้นเอง ที่เขตนอก ชายที่ออกมาจากการปิดด่านฝึกตน เขาสวมชุดสีฟ้า ใบหน้าหล่อเหลา นั่นคือาาปีศาจน้อยฮันหยาน เขาใช้เวลาในการเก็บตัวบ่มเพาะอยู่่หนึ่ง ในที่สุดเขาก็สามารถควบคุมการตื่นของสายเืปีศาจ์าได้สำเร็จและทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้์ พลังปราณที่เล็ดรอดออกจากร่างของเขาน่าสะพรึงกลัวนัก
