การเกิดขึ้นของผู้มีพร์ระดับล้ำเลิศของทวีปัเพลิงทำให้ทำเนียบผู้มีพลังฝีมือระดับชั้นปฐีเกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยครั้ง การเกิดขึ้นอย่างมากมายของผู้มีพร์ระดับล้ำเลิศในยุคสมัยนี้ได้กลายเป็หัวข้อพูดคุยสนทนาหลักประจำทุกโรงเตี้ยมและทุกร้านเหล้าของเมืองน้อยใหญ่ทั้งหลาย พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมอัตราส่วนของผู้ที่มีพร์ในยุคนี้ถึงได้สูงกว่าเมื่อร้อยปีก่อนมากมายนัก? ไม่เข้าใจว่าทำไมแต่ละตระกูลใหญ่ถึงได้กว้านซื้อทรัพยากรในการฝึกฝนกันอย่างบ้าระห่ำกันถึงเพียงนั้น หรือว่าเื้ัเื่ราวเหล่านี้จะมีความลับอะไรซ่อนเร้นอยู่?
ความจริงแล้วทั้งหัวหน้าตระกูลและเหล่าผู้าุโของตระกูลทั้งหลายเพิ่งจะรู้ว่า พวกนายน้อยและคุณหนูทั้งหลายเหล่านี้เดิมทีแล้วล้วนมีพร์ที่ไม่ธรรมดาด้วยกันทั้งนั้น เพียงแต่เมื่อก่อนไม่ค่อยขยันหมั่นเพียรทำการฝึกฝนเท่านั้นเอง ในตอนนี้เมื่อเริ่มทำการฝึกฝนอย่างบ้าคลั่งขึ้นและโดยเฉพาะอย่างยิ่งมียาวิเศษและผลไม้วิเศษทั้งหลายช่วยเหลือในการฝึก ความสำเร็จที่ปรากฏออกมาให้เห็นจึงไม่เกินขอบเขตที่คาดการณ์เอาไว้มากนัก
พวกเขาล้วนรู้กันดีว่าทำไมพวกเฟิงจื่อ ฮวาเฉ่า เยว่ชิงเฉิง และเย่ชิงอู่ถึงได้ทำการฝึกฝนกันอย่างบ้าคลั่งเช่นนี้ นั่นก็เพื่อเส้นทาง์ของูเาสุสานทวยเทพที่จะถูกเปิดออกในอีกสามปีนับจากนี้ แต่ระยะเวลาอีกเพียงแค่สามปีคงเป็ไปได้ยากที่จะทำการฝึกฝนให้บรรลุถึงระดับขอบเขตาาจักรพรรดิเพื่อให้มีคุณสมบัติพอที่จะเข้าไปภายในูเาสุสานทวยเทพ
แต่ถึงอย่างไรพวกเขาก็ยังคงเพียรพยายามอย่างไม่ย่อท้อโดยหวังว่าจะสามารถบรรลุถึงระดับขอบเขตาาจักรพรรดิได้ก่อนที่เส้นทาง์จะเปิดออก จากนั้นติดตามยอดฝีมือของตระกูลเข้าไปภายในูเาสุสานทวยเทพ
พวกเขาอยากที่จะเข้าไปดูว่าเย่ชิงหานที่หายสาบสูญไปหลายปีนั้นยังมีชีวิตอยู่หรือไม่? เขาจะโผล่ลงมาจากท้องฟ้าพร้อมกับแสงสีม่วงลึกลับในตอนที่เส้นทาง์เปิดออกแล้วพูดขึ้นต่อทุกคนด้วยรอยยิ้มว่า “ข้านายน้อยคนนี้กลับมาแล้ว!” หรือไม่?
.................................
ความจริงผู้คนของเขตปกครองเทพาต่างไม่มีใครรู้ว่าตระกูลเย่ยังซุกซ่อนผู้มีพร์ล้ำเลิศอีกคนเอาไว้ ไม่! คำว่าล้ำเลิศคงจะดูต้อยต่ำไปนิดเมื่อเทียบกับพร์ของนาง หากใช้คำว่าพร์ระดับขั้นแหกกฎ์น่าจะถูกต้องมากกว่า ซึ่งคนๆ นั้นก็คือเย่ชิงอวี่
เย่ชิงอวี่สาวน้อยผมขาวอายุสิบเจ็ดปีพลังฝีมือในตอนนี้บรรลุถึงระดับขั้นสูงสุดขอบเขตจ้าวนักรบแล้ว
พลังฝีมือพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าจะใช้คำว่าพัฒนาก้าวะโเสียด้วยซ้ำ สามารถพูดได้ว่าระดับความเร็วในการฝึกฝนเช่นนี้ไม่เคยปรากฏมาก่อนในอดีตและยังไม่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ถ้าหากทั้งอายุและพลังฝีมือของเย่ชิงอวี่ถูกเปิดเผยออกไปให้โลกรู้ละก็ คำจำกัดความเกี่ยวกับผู้มีพร์ของเขตปกครองเทพาจะต้องถูกลบล้างแก้ไขขึ้นใหม่อย่างแน่นอน พร้อมทั้งคงเกิดความสงสัยต่อรูปแบบของการฝึกฝนที่เคยปฏิบัติตามกันมาว่าถูกต้องจริงแล้วรึ?
เพียงแต่ว่าเย่ชิงอวี่อาศัยอยู่แตู่เาหลังตระกูลเย่โดยตลอด นอกจากฝึกฝนแล้วก็คือฝึกฝน โดยเฉพาะอย่างยิ่งูเาด้านหลังตระกูลเย่ถูกปิดล้อมไว้โดยตลอดแม้กระทั่งเหล่าผู้าุโของตระกูลเย่ยังไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเหยียบย่างเข้าไปแม้สักก้าวเดียว ดังนั้นเื่เกี่ยวกับเย่ชิงอวี่จึงถูกปกปิดเป็ความลับมาโดยตลอด และแน่นอนว่าพวกเย่เทียนหลงก็ไม่คิดที่จะเปิดเผยออกมาให้โลกรับรู้ถึงการมีอยู่ของนาง
.................................
ระยะนี้ทวีปัเพลิงเกิดเื่ใหญ่ขึ้นเื่หนึ่ง เพียงแต่...เื่ใหญ่ที่เกิดขึ้นจำนวนคนที่รู้นั้นมีน้อยมาก
ต้นตอของเื่ราวมาจากกระแสเสียงเสียงหนึ่ง กระแสเสียงที่ถูกส่งออกมาจากป่าดำมืด กระแสเสียงสายนี้ดังก้องขึ้นทั่วทั้งทวีปัเพลิงราวกับสายฟ้าที่ผ่าลงในคืนดึกสงัด เสียงนี้ทำให้ผู้ฝึกยุทธ์ระดับเทพทั่วทั้งทวีปัเพลิงสะดุ้งตื่นขึ้นมาทั้งหมด กระแสเสียงที่ถูกส่งออกมานี้ดุจดั่งคลื่นที่เร็วเหนือเสียงฉันนั้น คนธรรมดาและผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไปที่ไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับเทพล้วนไม่สามารถััได้ว่ามีเสียงเช่นนี้ดังขึ้นมา
“สามปีหลังจากนี้ เมื่อเส้นทาง์ภายในูเาสุสานทวยเทพเปิดออก สมบัติล้ำค่าระดับสูงสุดจะปรากฏออกมา!”
กระแสเสียงที่ส่งมาสั้นๆ ง่ายๆ ไม่กี่ประโยค แต่เนื้อความที่แฝงเร้นอยู่ภายในนั้นทำให้จิตใจคนฮึกเหิมขึ้นเป็อย่างมาก สำหรับสมบัติล้ำค่าระดับสูงสุดของูเาสุสานทวยเทพนั้นผู้ฝึกยุทธ์ระดับเทพทั้งหลายล้วนรู้จักดีและปรารถนาที่จะได้มา ยังไม่ต้องพูดถึงกระบี่เทพที่เป็ดั่งกุญแจคลังขุมทรัพย์สมบัติล้ำค่า เอาเพียงแค่สมบัติล้ำค่าระดับเทพก็สามารถทำให้ผู้ฝึกยุทธ์ระดับเทพทั้งหลายจิตใจหวั่นไหวกันขึ้นมาได้แล้ว ต้องเข้าใจว่าทวีปัเพลิงแม้จะมีผู้ฝึกยุทธ์ระดับเทพอยู่ไม่น้อย แต่สมบัติล้ำค่าระดับเทพนั้นมีอยู่เพียงสองชิ้นเท่านั้นเอง โดยชิ้นหนึ่งอยู่กับจ้าวเทวะผู้ปกครองของนครแห่งเทพและอีกชิ้นหนึ่งอยู่กับท่านซื่อผู้ยิ่งใหญ่าาแห่งป่าดำมืด
ตาแก่ตายยากของเมืองัต่างเดินกันออกมาจากห้องลับ...
ูเาเทพปีศาจยังคงดูเงียบสงบ แต่มีเพียงเสียงพูดคุยซุบซิบแ่เบาลอยออกมา...
หุบเขาเทพคนเถื่อนมีคนั์เดินออกมากันหลายคน จากนั้นเลือนหายไปยังทิศทางเมืองคนเถื่อน์...
จ้าวเทวะของนครแห่งเทพนั่งอยู่ภายในห้องลับมาหนึ่งคืน ดวงตาคู่ดำแดงของเขาทอประกายขึ้น หัวโล้นที่มีรอยสักส่องแสงมันแวววาวจนแสบตา...
เย่รั่วสุ่ยหยุดการฝึกฝนลง ดวงตาทอประกายแสงขึ้นอย่างต่อเนื่องคล้ายกับกำลังครุ่นคิดบางสิ่งอยู่ในใจ การปรากฏออกมาของสมบัติล้ำค่าระดับสูงสุดในครั้งนี้หรือว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเ้าหนูหาน?
ความจริงแล้วกระแสเสียงที่ท่านซื่อผู้ยิ่งใหญ่ส่งมานั้นมีจุดที่น่าสงสัยอยู่หลายแห่งและชวนให้รู้สึกประหลาดใจ ทำไมเขาต้องส่งกระแสเสียงเช่นนี้ออกมา? เขาอาศัยอะไรถึงได้แน่ใจว่าอีกสามปีหลังจากนี้สมบัติล้ำค่าระดับสูงสุดจะปรากฏออกมา? เขาส่งกระแสเสียงดังก้องขึ้นทั่วทั้งทวีปัเพลิงเช่นนี้มีจุดประสงค์อันใด?
ไม่มีใครรู้และไม่มีใครคิดจะไปถาม พวกเขาทำเพียงแค่แอบเตรียมการอยู่เงียบๆ พร้อมทั้งเฝ้ารอการเปิดออกมาของเส้นทาง์ด้วยความสนใจมากยิ่งขึ้น ทวีปัเพลิงที่เงียบสงบมาแสนนานในที่สุดก็จะเริ่มคึกคักขึ้นมาแล้วอย่างนั้นรึ?
นครแห่งเทพเริ่มออกคำสั่งเรียกรวมพลอย่างลับๆ เพื่อรวบรวมผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตาาจักรพรรดิให้ได้มากที่สุด เริ่มเตรียมการให้พร้อมสำหรับการเสาะหาสมบัติภายในูเาสุสานทวยเทพอีกสามปีหลังจากนี้ อีกทั้งยังคาดหวังเอาไว้ว่าจะมีโอกาสทะลวงผ่านทั้งสามด่านเข้าไปภายในหอเทพหยิบเอากระบี่เทพออกมา
แม้ว่าความคาดหวังนี้จะมีอยู่ตลอดมานับพันปีแล้ว และทุกๆ สิบปีนครแห่งเทพจะทำการส่งยอดฝีมือจำนวนมากเข้าไปด้วยความหวังเต็มเปี่ยม เพียงแต่ทุกๆ ครั้งล้วนต้องถอยกลับออกมาด้วยความอับจนปัญญา ครั้งนี้จ้าวเทวะยิ่งให้ความสำคัญมากกว่าที่ผ่านมาทำการเพิ่มมูลค่าของรางวัลตอบแทนมากยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อน ดังนั้นไม่นานนครแห่งเทพพลันเกิดความเคลื่อนไหวขึ้นอย่างลับๆ เหล่ายอดฝีมือที่ทำการหลีกเร้นกายฝึกฝนล้วนปรากฏตัวออกมา ต่างฮึกเหิมคันไม้คันมือขึ้นมาและเร่งเตรียมตัวกันอย่างลับๆ ขึ้น
เหล่าตาแก่ตายยากของเมืองัที่พากันออกมาจากการเก็บตัวฝึกฝนเพราะเื่ของหลงไซ้หนานครั้งหนึ่ง ครั้งนี้จึงออกมาอีกพร้อมกับเรียกรวมพลยอดฝีมือระดับสูงของเขตปกครองเทพาเพื่อเปิดประชุมลับทำการวางแผนขึ้น
ูเาเทพปีศาจที่เงียบสงบมาตลอดกลับคึกคักขึ้นมา หัวหน้าเผ่าปีศาจทั้งสิบสองเผ่าใหญ่รวมตัวกันทีู่เาเทพปีศาจเป็เวลาหนึ่งคืน รุ่งเช้าของวันที่สองจึงค่อยทยอยเดินทางกลับเผ่าของตนเอง
เมืองคนเถื่อน์ได้ต้อนรับการมาเยือนของแขกที่ไม่เคยปรากฏกายออกมาให้เห็นเลยเป็เวลาหลายร้อยปี หมันก้านมองดูบิดาของตนเองและเหล่ายอดฝีมือระดับคนเถื่อนศักดิ์สิทธิ์ที่ต่างคุกเข่าอยู่ตรงหน้าคนเถื่อนรูปร่างสูงใหญ่หลายคนอย่างเคารพนอบน้อม เขารู้สึกจะเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมาได้บ้าง
.................................
เกาะเร้นลับอยู่ทางด้านทะเลทิศตะวันออก อาณาเขตของเกาะกว้างใหญ่มากมีขนาดเนื้อที่คิดเป็หนึ่งในสี่ส่วนของเขตปกครองเทพา หลายพันปีก่อนที่แห่งนี้ไม่ได้ถูกเรียกว่าเกาะเร้นลับ แต่ถูกเรียกว่าเกาะคนบาป เหล่านักโทษผู้กระทำผิดของทั้งสามเขตปกครองจะถูกนำมาปล่อยทิ้งไว้ที่เกาะแห่งนี้ให้มีชีวิตไปตามบุญตามกรรม
นักโทษที่ถูกนำมาปล่อยยิ่งนับวันยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลายพันปีก่อนทั้งสามเขตปกครองเปิดศึกรบราฆ่าฟันกันอยู่เนืองๆ ประชาชนเดือดร้อนไปทั่วทุกหย่อมหญ้าดังนั้นจึงได้มีคนหลบลี้หนีภัยมายังเกาะแห่งนี้เป็จำนวนมากอยู่ไม่ขาด ทำให้จำนวนคนที่เข้ามาตั้งรกรากอาศัยอยู่บนเกาะแห่งนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และก็ไม่คิดที่จะกลับไปยังแผ่นดินใหญ่ของทวีปัเพลิงอีก
แรกเริ่มเกาะแห่งนี้เละเทะไร้ระเบียบกฎเกณฑ์เป็อย่างมาก ผู้ที่มีพลังฝีมือที่แข็งแกร่งหน่อยต่างก็ตั้งตนเป็ใหญ่กำหนดเขตแดนปกครองของตนเองขึ้น จากนั้นต่อสู้แย่งชิงผลประโยชน์กันจนเืไหลนองดั่งสายน้ำ สุดท้ายจ้าวเกาะเร้นลับปรากฏกายออกมาอย่างฉับพลันพร้อมด้วยพลังฝีมือระดับขอบเขตเทพ์ที่ไร้ผู้จะต่อกรได้ จากนั้นเปลี่ยนชื่อเกาะคนบาปเป็เกาะเร้นลับ ผู้คนเริ่มทำมาหากินอยู่อาศัยกันอย่างสงบสุขร่มเย็นขึ้น เมื่อปราศจากการรบราฆ่าฟันเกาะเร้นลับจึงเป็ดุจดั่งดินแดนสรวง์ขึ้นมา ผู้คนจำนวนมากจากทั้งสามเขตปกครองเริ่มโยกย้ายถิ่นฐานมายังเกาะเร้นลับมากยิ่งขึ้น เกาะเร้นลับจึงคล้ายจะกลายเป็เขตปกครองที่สี่ไปกลายๆ
จ้าวเกาะเร้นลับไม่สนใจเื่ราวโลกภายนอกสนใจเพียงการฝึกยุทธ์เพียงอย่างเดียว แต่เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยของเกาะเร้นลับให้เป็ไปอย่างราบรื่นเขาจึงรับศิษย์ห่างๆ ไว้สิบคนแล้วสร้างหอเร้นลับขึ้นมา คำสั่งที่ถ่ายทอดออกมาจากหอเร้นลับถือว่าเป็อาญาสิทธิ์สูงสุดของเกาะเร้นลับ
เกาะเร้นลับที่สงบสุขมาแสนนานเริ่มคึกคักขึ้นมาอีกครั้ง เนื่องจากว่าหอเร้นลับที่ไม่ค่อยจะมีคำสั่งใดๆ ออกมาเลยกลับถ่ายทอดคำสั่งที่แปลกประหลาดออกมาเป็ครั้งแรก
คำสั่งจ้าวเกาะทำการเรียกรวมพล... เรียกรวมพลผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตาาจักรพรรดิบนเกาะเร้นลับให้ไปเข้าร่วมเส้นทาง์ที่จะเปิดออกในูเาสุสานทวยเทพในอีกสามปีต่อจากนี้ ถ้าหากผู้ใดโชคดีทะลวงผ่านทั้งสามด่านได้รับกระบี่เทพออกมาได้ จ้าวเกาะเร้นลับจะรับเขาผู้นั้นเป็ศิษย์เอกผู้สืบทอดเพียงหนึ่งเดียวและจะช่วยให้เขากลายเป็เทพอีกด้วย
คำสั่งที่ถ่ายทอดออกมานี้แปลกประหลาดเป็อย่างมาก เพราะว่าแต่ไหนแต่ไรมาจ้าวเกาะเร้นลับไม่เคยเข้าร่วมศึกการต่อสู้แย่งชิงผลประโยชน์ระหว่างทั้งสามเขตปกครองมาก่อน และก็ไม่เคยไปเข้าร่วมเสาะหาสมบัติในูเาสุสานทวยเทพอะไรนั่นด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจ้าวเกาะเร้นลับไม่เคยคิดที่จะรับศิษย์เอกมาก่อนอีกด้วย
บรรยากาศบนเกาะเร้นลับเริ่มมีชีวิตชีวาขึ้นมา ตระกูลน้อยใหญ่บนเกาะเริ่มเคลื่อนไหวขึ้น เหล่ายอดฝีมือที่เร้นกายฝึกฝนต่างปรากฏตัวออกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่นานบรรยากาศรอบๆ หอเร้นลับคึกคักขึ้นมาทันตา เหล่ายอดฝีมือจำนวนมากมายนับไม่ถ้วนต่างเดินทางมาลงชื่อกันเอาไว้ ทุกคนต่างคาดหวังในอีกสามปีจากนี้จะสามารถทะลวงผ่านทั้งสามด่าน คาดหวังที่จะได้เป็ศิษย์เอกผู้สืบทอดพลังฝีมือเพียงหนึ่งเดียวของจ้าวเกาะเร้นลับ และคาดหวังที่จะได้กลายเป็เทพอย่างที่เฝ้าปรารถนา
ส่วนจ้าวเกาะเร้นลับในตอนนี้กลับทำการตกปลาอยู่ที่ชายหาดเงียบๆ เพียงคนเดียว ในหัวทำการครุ่นคิดถึงคำของท่านซื่อผู้ยิ่งใหญ่าาผู้ปกครองแห่งป่าดำมืดที่ส่งกระแสเสียงมา ทำไมท่านซื่อผู้ยิ่งใหญ่ถึงได้แน่ใจนักว่าอีกสามปีหลังจากนี้ในตอนที่เส้นทาง์เปิดออกสมบัติล้ำค่าระดับสูงสุดของูเาสุสานทวยเทพจะปรากฏออกมา?
เพียงเพราะการส่งกระแสเสียงของท่านซื่อผู้ยิ่งใหญ่เพียงครั้งเดียว ทวีปัเพลิงถึงกับเริ่มปรากฏระลอกคลื่นใต้น้ำขนาดใหญ่จำนวนมากเคลื่อนตัวกระเพื่อมขึ้นมาอย่างรุนแรง!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้