ตงชวนเริ่มศึกษา Brazilian Jiujitsu กับปรมาจารย์ด้านนี้ั้แ่อายุ 12 พอเขาอายุ 18 เขาก็สามารถหักแขนอาจารย์ได้สำเร็จ ด้วยรูปร่างที่เล็ก ทำให้เขาต้องฝึกหนักกว่านักเรียนคนอื่นๆ เพราะหัวสมองไม่ค่อยดี ท่าที่คนอื่นฝึกกันประมาณ 200 ครั้ง เขาจึงต้องฝึก 400 ครั้ง
เขาหวังว่าตัวเองจะแข็งแกร่งขึ้น พยายามที่จะมีตัวตนในโลกใบนี้ ซึ่งความสูงเฉลี่ยของคนทั่วไป เขายืนได้แค่ครึ่งหัวเท่านั้นเอง สุดท้ายแล้วโดยที่ไม่รู้ตัว เขาก็ได้ฝึกร่างกายให้กลายเป็เหล็กกล้าจนได้ ปฏิกิริยาของเขาคล่องตัวดังกระต่ายแสนซน เขาพาตัวเองไปจนถึงแชมป์เ้าสังเวียน พอเขารู้ตัว รอบตัวก็มีแต่พวกอ่อนปวกเปียก เพื่อนก็ดี ศัตรูก็ดี ขอแค่เขานั้นพากเพียรสักหน่อย เขาก็สามารถทำให้พวกมันก้มหัวสูงๆ ของมันลงมาได้ การทำให้พวกมันคุกเข่าลงกับพื้นนั้นง่ายกว่าการหักคอของพวกมันเยอะ
ตงชวนไม่ได้เจอคู่ต่อสู้ซึ่งทำให้เขาหวั่นเกรงมานานมากแล้ว ต่อให้เป็เวทีมวยรอบชิงชนะเลิศก็ตาม ที่เขาสามารถประเมินให้คู่ต่อสู้ได้ก็คงมีแค่เพียง “เทคนิคไม่เลว” “ประสบการณ์ไม่เลว” เท่านั้น
แต่ไอ้บ้าตรงหน้านี่มันเป็สัตว์ประหลาดประเภทไหนกัน? เขาล็อกข้อศอกมันไว้ ร่างของเขาเด้งขึ้นจากพื้นราวกับฟ้าผ่า ขาทั้งสองข้างรัดพาดไปที่คอมัน ข้อเท้าก็ถูกล็อกตายไว้ด้วยกัน กลายเป็ “สามเหลี่ยมสมมาตร” อันงดงาม
สมองของคนทั่วไปจะขาดออกซิเจนและหมดสติภายใน 10 วินาที ต่อให้แกร่งแค่ไหน ก็ฝืนทนอยู่ได้ไม่เกิน 20 วินาที เสิ่นิกลอกตามองหาตัวช่วยรอบๆ ตัว ในขณะที่สองเท้าก็ยังกระเสือกกระสนลากตงชวนไปยังบริเวณเตาหลอมโลหะ
กระบวนการทั้งสิ้นใช้เวลาเกิน 30 วินาที เขาควรจะหมดสติไปตั้งนานแล้ว แต่เส้นเืบนร่างกายของเขาแข็งแกร่งเสียจนสามารถขยายตัวได้ ชายหนุ่มยกตงชวนซึ่งหนัก 80 กิโลกรัมได้ด้วยมือเดียว
“ฟุบซะ! ไอ้บ้าเอ๊ย หมดสติสัักที!” เท้าทั้งสองข้างของตงชวนออกแรงอีกครั้งเหมือนกับแหนบเหล็ก
“ตึง!” เสิ่นิโบกแขนฟาดตงชวนเข้ากับเตาหลอมอย่างแรง พื้นผิวเหล็กกล้ายุบตัวลง ตงชวนกระอักเื ชายร่างเล็กผ่อนแรงลง ก่อนจะหลุดลงไปกองกับพื้น เสิ่นิเองก็ถอยห่างออกไป 3 ก้าว ก่อนจะปะทะเข้ากับกำแพงและทรุดตัวลงกับพื้น
สมองของเขาขาดอากาศเป็เวลา 40 วินาที เสิ่นิทุบสถิติ “หลักสูตรฝ่าความตาย” ถ้าอยู่ในนิรวาน เขาคงได้รับมอบดอกไม้แดงซึ่งเป็รางวัลจากพันเอกคาร์ลแล้ว
แต่ผลข้างเคียงกลับทำให้ร่างของเสิ่นิเกิดอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ ความสามารถในการทรงตัวของเขาหายไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง
“ฉันยังไม่เคยเจอใครที่สามารถผ่านด้านสามเหลี่ยมสมมาตรของฉันได้เกินครึ่งนาที แล้วกลับมาสู้ต่อได้เลย...บางทีแกอาจจะกลับมาจากขุมนรกอย่างที่แกว่าจริงๆ ก็ได้?” ตงชวนพยุงร่างของตนให้กลับมายืนขึ้นอีกครั้ง แผ่นหลังของเขายังคงกระตุกด้วยความเ็ป
“ฝึก Brazilian Jiujitsu มาถึงจุดนี้ได้ ฉันเองก็อยากแนะนำเพื่อนคนหนึ่งให้แกจัดการ...” เสิ่นิดึงผ้าชุบน้ำมันเพื่อพยุงตัวขึ้นจากด้านหลัง สีหน้าของเขาสงบนิ่งกลายเป็แข็งทื่อราวกับก้อนน้ำแข็ง และเมื่อมือของเขาได้ัักับมือน้อยๆ ที่ด้านหลังราวเหล็ก ชายหนุ่มก็ไม่อยากจะเชื่อว่านั่นคือเื่จริง จู่ๆ เสิ่นิก็หมุนตัวกลับไปดึงผ้าชุบน้ำมันผืนนั้นลงมา สิ่งที่ปรากฏขึ้นนั้นก็คือประตูคุกขนาดใหญ่ซึ่งทำจากลูกกรงเหล็ก และภายในเต็มไปด้วย...เด็ก!
ห้องขังขนาดไม่เกิน 10 ตารางเมตรถูกอันแน่นไปด้วยเด็ก 30 ชีวิต พวกเขาเนื้อตัวมอมแมม ทั้งตัวมีคราบสิ่งปฏิกูล ไม่มีเสื้อผ้าติดกายเลยแม้สักชิ้น สิ่งเดียวบนร่างก็คือปลอกคอช็อตไฟฟ้าเท่านั้น ดูก็รู้ว่าบางคนป่วยอยู่ ไม่มีเรี่ยวแรงแม้กระทั่งจะลุกขึ้นยืน อาหารอย่างเดียวซึ่งกระจัดกระจายอยู่ไปทั่วก็คือ “บะหมี่สำเร็จรูปแรคคูนน้อย” ...
“พวกแกใช้แรงงานเด็กพวกนี้แปรรูปยาเสพติดอย่างนั้นเรอะ?” เสิ่นิกำมือแน่นราวกับเหล็กพร้อมเขย่ามัน
“พวกมันเป็เด็กจรจัดเร่ร่อนตามถนน ก่อนจะมาที่นี่ก็นอนขอทานอยู่ข้างถนนอย่างน่าอนาถ ฉันหาที่อยู่ที่กินให้ ไม่ดีหรือไง?” ตงชวนปวดหลังจนสุดจะทน เขาอาศัย่เวลานี้สูด “ผง” เข้าไปอีกสองเฮือกอย่างบ้าคลั่ง
จากใบหน้าน้อยๆ ของเด็กๆ ที่อายุมากที่สุดน่าจะไม่เกิน 8 หรือ 9 ขวบ พวกเขาไม่มีความหวาดกลัว ไม่มีความยินดี ไม่มีอนาคต ในหนังสือมักจะบอกว่าดวงตาของเด็กนั้นเป็ประกาย แต่กับพวกเขาซึ่งอยู่ด้านหลังกรงเหล็กนี้ แววตากลับเหลือแต่เพียงความมืดมิด “อนาคต” เป็คำที่ไม่ได้อยู่ในพจนานุกรมของพวกเขา ราวกับสัตว์เลี้ยงซึ่งมีชีวิตอยู่แค่ในกรง กิน หายใจ ถึงเวลาก็ตายไป...
ซินเหลียนเซิ่งไม่ใช่องค์กรการกุศล เป็ไปไม่ได้ที่จะจัดหาหน้ากากป้องกันสารพิษให้กับพวกเขา เมื่อถึงเวลาเข้างาน สิ่งเดียวที่พวกเขามีไว้ใช้ป้องกันก็คือหน้ากากมูลค่าอันละ 1 หยวน
เมื่อสูดดมสารพิษเข้าไปเกินขนาด สภาพร่างกายของพวกเขาก็เลยทรุดโทรมลง โดยทั่วไปแล้วเด็กจะเสียชีวิตภายใน 2 ถึง 4 เดือน หลังจากอวัยวะภายในของพวกเขาล้มเหลว พวกเขาจะถูกยัดใส่ถุงขยะและลากออกไปพร้อมกับสิ่งปฏิกูล นี่เป็ทางเดียวที่พวกเขาจะออกไปจากที่นี่ได้
“พวกแกทำเื่อย่างนี้ได้ยังไง! เดรัจฉาน!” ฟางหยวนคำรามจากในกรงเหล็ก เดิมที่คิดว่าเธอน่าสมเพชมากพอแล้ว เมื่อเทียบกับเด็กๆ พวกนี้ ชีวิตของเธอนั้นช่างอยู่ดีมีสุข
“ก็ฉันมันเลว คิดว่าฉันหวังให้พวกแกมองฉันเป็วีรบุรุษหรือยังไง?” ตงชวนบิดคอ ความปวดหายเป็ปลิดทิ้ง “ต้องขอบคุณคนดีอย่างพวกแก ที่ทำให้เด็กหน้าขนพวกนี้ได้เห็นหน้าฉัน ไว้รอฉันจัดการกับพวกแกให้เสร็จก่อน ฉันจะได้กำจัดพวกมันทิ้งซะ ก่อนจะเปลี่ยนชุดใหม่เข้ามา ไม่เป็ไรหรอก ยังไงเ้าเด็กพวกนี้ก็อยู่ในห้องนี้ได้แค่ไม่กี่เดือน ยังไงก็ต้องเติมชุดใหม่เข้ามาอยู่แล้ว”
“ฉันเคยเห็นคนที่เชื่อว่ากินเด็กแล้วจะเป็ะ นักบวชผู้ล่วงละเมิดเด็กต่ำกว่า 5 ขวบ นายพลซึ่งใช้ปืน AK-47 ฆ่าพ่อแม่ของตัวเอง...แบบนั้นคือนรก ทั้งหมดเป็เพียงแค่ฝันร้าย” แผ่นหลังของเสิ่นิสั่นเทา ความโกรธซึ่งไม่รู้ว่าหลบหายไปนานแค่ไหนวนกลับเข้ามาในกระแสเื “ฉันเชื่ออย่างแรงกล้าว่าตอนที่ฉันสำเร็จจากโครงการนิรวานแล้วกลับเข้าเมืองมา ฝันร้ายนั้นมันจะหมดไป...ต้องขอบคุณที่แกทำให้ฉันได้เห็นภาพนรกนี้อีกครั้ง
เพื่อเป็การตอบแทน ฉันก็จะทำให้แกได้เห็นเหมือนกันว่านรกที่ฉันเคยอยู่หน้าตามันเป็อย่างไร...”
เสิ่นิกำกรงเหล็กแน่นจนกระทั่งทิ้งร่องรอยเอาไว้บนกรง ตอนนั้นมือน้อยๆ กุมนิ้วของเขาเอาไว้ได้ ดวงตาของเด็กหญิงเปี่ยมไปด้วยความสงสัย แต่กลับรู้สึกได้ว่าพี่ชายแปลกหน้าผู้ซึ่งกำลังน้ำตาคลอเบ้าอยู่นี้เป็คนดี
“มัวพล่ามอะไรอยู่ได้? เข้ามาสิ เข้ามา!” ตงชวนเตะโต๊ะเหล็กตัวยาวซึ่งตั้งอยู่ตรงหน้า ภาชนะแก้วชิ้นโตตกลงสู่พื้น
“ฟางหยวน หลับตา ผมไม่อยากให้คุณได้เห็น...การกระทำของผมในตอนนี้” เสิ่นิหันกลับไปมองฟางหยวน
ฟางหยวนปิดตาลงอย่างเชื่อฟัง ในใจกลับคิดแต่จะเชียร์เสิ่นิ
เขาผ่อนคลายร่างกายซึ่งดูเหมือนกับไร้กระดูก เสิ่นิสูดลมหายใจเข้าอีกครั้งเพื่อปรับระดับการเต้นของหัวใจให้ช้าลง ก่อนจะย่างเท้าไปที่เบื้องหน้าของตงชวน
“ไม่ล็อกแล้วเรอะ? มา ลองล็อกดูสิ” เสิ่นิยั่วพร้อมทั้งยื่นมือขวาออกไปหาตงชวน ราวกับว่ายื่นก้อนเนื้อสดให้ฉลาม
ตงชวนนิ่งอึ้ง เขาไม่เคยเจอเื่อะไรที่ดีเช่นนี้ เขาตื่นตัวอยู่ 10 วินาที และเมื่อเห็นว่าเสิ่นิผ่อนการป้องกันตนโดยสิ้นเชิงแล้ว สายตาของตงชวนก็ฉายแววประกายความดุดันออกมา เขาพุ่งศอกเข้าหาเสิ่นิ
แต่ในวินาทีที่แขนของเขาเคลื่อนไหว จู่ๆ ชายหนุ่มก็หายวับ พร้อมกับอัปเปอร์คัตที่สวนจากล่างขึ้นบน ตีเข้ากับศอกของเขาพอดี
เมื่อเห็นว่าแขนของตงชวนอยู่ในท่าทางผิดมนุษย์ มันงอพับขึ้นจากตรงกลาง กระดูกข้อต่อแตกละเอียดเหมือนกับเม็ดข้าวโพด
“อ๊าก!!!” ตงชวนร้องลั่นพลางล้มตัวลงกับพื้น เืพุ่งออกมา
“แกบอกว่าฉันเอื่อยไม่ใช่เรอะ?” เสิ่นิก้าวเข้าไปหาตงชวน ชายหนุ่มลดหน้าผากลงไปหาร่างที่กลายสภาพ มันไม่ใช่สีหน้าเจตนาจะสังหาร ไม่ใช่ความดุร้ายของอันธพาลผู้ต่อสู้อย่างดุเดือด แต่...เป็สายตาแห่งความเฉยเมย
ตงชวนเองก็ฆ่าคนได้อย่างโเี้ แต่เขาไม่สามารถแสดงอารมณ์สงบนิ่งได้เช่นเดียวกับชายคนนี้ ราวกับว่าการฆ่าคนเป็เื่ปกติของเขา
“บ้าเอ๊ย! มาสิ เข้ามาเลย!” ตงชวนตะแคงตัวลงบนพื้นอีกครั้ง มันจดจ้องไปที่เสิ่นิพร้อมกับะโยั่วยุ แต่เสิ่นิซึ่งเมื่อหนึ่งวินาทีที่แล้วอยู่ห่างไป 5 เมตร ตอนนี้ได้อันตรธานหายตัวไป
“ฉันมาแล้ว” จู่ๆ เสิ่นิก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าตงชวน เขาเสียบนิ้วสองนิ้วเข้าไปในรูจมูกของเขาเช่นเดียวกับคนขายเนื้อปักตะขอเข้ากับจมูกของหมูที่ตายแล้วในโรงฆ่าสัตว์ เขายกตงชวนขึ้นเหนือพื้น ก่อนจะเหวี่ยงมันลงบนโต๊ะเหล็กยาว
เสิ่นิขยับเท้าไม่หยุด เขาก้าวตามตงชวนไป เคลื่อนตัวไปตามโต๊ะซึ่งเรียงรายไปด้วยภาชนะเครื่องแก้ว เศษแก้วที่แตกบาดเข้ากับเนื้อหนังของตงชวน โต๊ะยาว 10 เมตรอาบไปด้วยรอยเื
เสิ่นิวิ่งไปจนสุดโต๊ะแล้วโยนไอ้เตี้ยตงชวนลงไปเหมือนกับลูกโบว์ลิ่ง หมอนั่นเกลือกกลิ้งไปไกล 3 เมตร ก่อนจะกระแทกกับเครื่องผลิตยา
กระบวนการทั้งหมดเสร็จสิ้นภายใน...1.5 วินาที!
หลินฝานซึ่งถูกยึดอยู่กับที่มองดูอย่างมึนงง สองเท้าของเขาสั่นเทาในขณะที่เขาย่อตัวลงนั่ง เขาไม่เคยเห็นใครเอาชนะตงชวนได้อย่างหมดจดเช่นนี้
เสิ่นิใช้พละกำลัง ความเร็ว และการตอบสนอง ที่ได้มาจากการบ่มเพาะของนิรวาน พวกนี้เป็สิ่งที่เขาได้รับมาด้วยการแลกซึ่งภาวะใกล้ตายนับครั้งไม่ถ้วน
กล้ามเนื้อของคนทั่วไปจะแบ่งออกเป็สองประเภท หนึ่ง กล้ามเนื้อลาย ซึ่งจะยึดติดอยู่กับกระดูกทำให้เคลื่อนไหวได้ตามชอบใจ ทำให้ผ่อนคลายได้ด้วยจิตสำนึก และเป็แหล่งที่มาของความแข็งแกร่งพื้นฐานของมนุษย์ สอง กล้ามเนื้อเรียบ เป็ส่วนประกอบของอวัยวะ เช่น หลอดอาหาร กระเพาะ ระบบย่อยอาหาร และอวัยวะภายในอื่นๆ ซึ่งไม่อาจควบคุมได้โดยตามชอบใจ มันอยู่เหนืออำนาจจิตใจของการสั่งการ จะถูกกระตุ้นด้วยเซลล์ประสาท มีระยะหดและคลายตัว มีระยะเฉื่อย จึงทำให้ไม่อ่อนล้าง่าย
ไม่ว่าคุณจะออกกำลังกายหนักแค่ไหน หรือว่าเป็ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเพาะกาย ต่อให้ฝึกหนักแค่ไหน คนธรรมดาก็สร้างได้แค่เพียงกล้ามเนื้อลายหรือกล้ามเนื้อโครงร่างเท่านั้น
แต่เหล่านิรวานกลับเป็กลุ่มสัตว์ประหลาดซึ่งมีพื้นฐานในการควบคุมกล้ามเนื้อเรียบ พวกเขาสำรวจทุกรูปแบบในการควบคุมประสิทธิภาพของร่างกายโดยพร้อมสรรพ ควบคุมแม้กระทั่งความดันโลหิตของกล้ามเนื้อหัวใจ ควบคุมปอดให้ดูดซับออกซิเจนได้มากขึ้น ให้เืไหลไปหล่อเลี้ยงเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อและประสาทส่วนปลายในอัตราความเร็วที่สูงขึ้น ด้วยอัตราความเร่งที่เหนืุ์ ราวกับแรงะเิของสัตว์ประหลาด
ไม่เคยคิดเลยว่าเมื่อเข้าเมืองมาแล้วเขาจะต้องมาใช้วิธีการต่อสู้เช่นนี้ ต้องโทษไอ้ผู้ชายตรงหน้านี่ มันทำให้เขาหวนนึกถึงฝันร้ายในอดีต
“อยากตาย ก็ต้องหาคนไปเป็...” ตงชวนซึ่งกลายเป็มนุษย์เืในปากเต็มไปด้วยเศษแก้ว มือข้างหนึ่งของมันล้วงเข้าไปในกระเป๋าอย่างสั่นเทา มันหยิบรีโมตควบคุมปลอกคอออกมา
แต่ก่อนที่เขาจะกดมัน ชายเตี้ยก็ถูกเสิ่นิซึ่งนั่งอยู่ตรงหน้าสกัดไว้ มีดทำกับข้าวสับลงบนกระดูกข้อมือของเขา
“อ๊าก!!!” ตงชวนร้องครวญราวกับหมูถูกเชือด ไม่ใช่เพราะมือถูกสับ แต่เป็เพราะ...เสิ่นิใช้หลังมีดทุบเข้ากับกระดูกของตงชวน เพื่อให้แน่ใจว่าเนื้อยังคงติดกันอยู่ ด้วยวิธีนี้เท่านั้นถึงจะมั่นใจได้ว่าเขาสามารถสับได้อีกหลายครั้ง ให้มันได้รับรู้ถึงรสของความเ็ปอันแสนสาหัส