ก่อนหน้านี้ไม่นานชงจ้านหยวนและหลานฉายหลิงตั้งใจจะมาเยาะเย้ยหลัวเลี่ย และพวกเขายังภูมิใจในตัวเองอยู่เลย พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องคุกเข่าลง เหตุการณ์ที่กลับตาลปัตรครั้งนี้รุนแรงเกินไป ทำให้หลานฉายหลิงผู้หยิ่งยโสและทะเยอทะยานหน้ามืดคล้ายจะเป็ลม
ทว่าคนที่มั่นใจในตัวเองอย่างชงจ้านหยวนนั้นทนไม่ได้ยิ่งกว่า
“พี่เกา นี่ ท่านดูสิ” ชงจ้านหยวนร้อนใจจริงๆ แม้ว่าเขาและเกา่จะเป็พี่น้องร่วมสาบาน แต่ก็ยังมีสถานะที่แตกต่างกันมาก ถ้าเกา่ไม่แสดงความจงรักภักดี เขาจะต้องอนาถแน่
ใบหน้าของเกา่บิดเบี้ยว
เขาต้องรู้สึกละอายใจมากแน่ หากปล่อยให้เพื่อนและผู้ช่วยชีวิตของเขาต้องคุกเข่าลง หากเป็เช่นนั้นหลังจากนี้เกา่จะมีหน้าไปพบใครได้อีก บรรดาพี่น้อง อาจารย์ที่าุโของเขา และเพื่อนๆ ที่สาขาหลักของหอเซียวเหยาต้องหัวเราะเยาะเขาแน่
“พี่ชง เื่นี้ปล่อยให้เป็หน้าที่ของข้าเถอะ ท่านไม่ต้องกังวล ในเมื่อข้าบอกว่าจะช่วยท่านแล้ว เื่นี้ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับท่านอีก ข้าเกา่ผู้นี้ต่อให้ต้องตายก็จะไม่ให้เื่วุ่นวายไปถึงท่านแน่” เกา่ตบหน้าอกของตนและพูดเสียงดัง
ชงจ้านหยวนรู้สึกโล่งใจขึ้น “แต่ว่าเื่นี้?”
เกา่หัวเราะและพูดว่า “ผู้าุโลำดับที่เจ็ดเป็สหายสนิทของอาจารย์ข้า เื่นี้แค่หาแพะมารับผิดสักคนก็พอแล้ว แต่ว่าแพะรับบาปคนนั้น” เขามองไปที่ผู้าุโรอง “เ้าต้องรู้ไว้ด้วยว่าคนคนนั้นจะต้องตาย”
ผู้าุโรองที่เคยถูกเกา่ซัดพลังใส่ก่อนหน้านี้ เมื่อได้ยินการสนทนาของพวกเขา และเห็นเกา่มองเขาอย่างไร้ความปรานี เขาก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นและขอร้อง “นายน้อย ท่านต้องช่วยข้านะ ข้าไม่อยากเป็แพะรับบาป ข้ายังไม่อยากตาย”
ชงจ้านหยวนขมวดคิ้ว
ในคณะผู้าุโมีคนไม่มากนักที่ปฏิบัติต่อเขาเหมือนสุนัขเช่นที่ผู้าุโรองทำ
เขารู้สึกเป็ทุกข์เล็กน้อยเมื่อสุนัขที่ซื่อสัตย์จะถูกฆ่า
แต่เมื่อชงจ้านหยวนคิดได้ว่า เื่นี้เกี่ยวข้องกับผู้าุโในสาขาหลักของหอเซียวเหยา และมันยังเป็เื่ตราัเงินเซียวเหยาที่ผู้าุโรองเป็คนทำลาย เขาก็ไม่มีทางที่จะสามารถช่วยได้แล้ว เขาจึงพูดว่า “ผู้าุโรอง ข้าจะดูแลคนที่เ้ารักเป็อย่างดี แต่ความผิดของเ้า เ้าก็ต้องรับผิดชอบเอง”
“ไม่ นายน้อย...” ผู้าุโรองกอดขาของชงจ้านหยวนและขอร้อง
ชงจ้านหยวนพยักหน้าให้เกา่ด้วยใบหน้าเ็า
เกา่ก้าวไปข้างหน้าในทันที และเตะเขาออกไป
เกา่ใช้กำลังทั้งหมดของเขา ครั้งนี้มันโเี้มาก ลูกแตะนี้ทำลายกระดูกสันหลังและอวัยวะภายในของผู้าุโรองจนแตกเป็เสี่ยงๆ
ผู้าุโรองล้มลงกับพื้นอย่างแรง เืออกทางทวารทั้งเจ็ดของเขา และร้องออกมาด้วยความเศร้าโศก “ข้าเสียใจจริงๆ”
ดูเหมือนเขาจะได้ยินสิ่งที่หลัวเลี่ยเคยพูดอีกครั้งว่า เขาจะต้องเสียใจ แต่มันก็สายไปแล้ว เขาเบิกตากว้างและตายไปแบบนั้น
แม้ตายไปแล้ว ก็ยังคงไม่หลับตาลง
“พี่เกา เพื่อให้ผู้าุโเจ็ดพึงพอใจ เรามาฆ่าคนเหล่านี้กันเถอะ” ชงจ้านหยวนชี้ไปที่ทหารยามที่ติดตามผู้าุโรอง
เกา่ยิ้มและพูดว่า “พี่ชงอย่าไร้เมตตาถึงเพียงนั้นเลย ฆ่าคนที่สมควรฆ่าก็เพียงพอแล้ว”
ทหารเ่าั้มีพลังในระดับธรรมดา แน่นอนว่าไม่อาจต้านทานพลังของเกา่ได้ ดังนั้นแค่เกา่เดินผ่าน ทหารทั้งหมดก็ถูกสังหารในพริบตาเดียวทันที
เกา่ตบมือแล้วพูดว่า “เอาละ ที่เหลือให้ข้าจัดการเอง”
หลังจากนั้นชงจ้านหยวนและหลานฉายหลิงก็จากไปอย่างรวดเร็ว
เกา่มองกลับไปที่ประตูของคุกกลืนอสูรซึ่งยังปิดอยู่ และจากไป
ประตูเปิดออกอีกครั้ง
หลัวเลี่ยเดินออกมา เขามองไปที่ศพทั่วพื้น และถอนหายใจ เขาไม่เคยคิดเลยว่าชงจ้านหยวนและเกา่จะเลวทรามต่ำช้าถึงขนาดนี้
“เกา่นะเกา่ เ้าคิดว่าเ้าจะสามารถจบเื่ราวไปได้เช่นนี้หรือ หากจบได้ง่ายๆ เช่นนี้ ข้าคงไม่เสียเวลาใช้ตัวตนของ ‘มีัอยู่ในเป้า’ ไปที่หอเซียวเหยาในภพจิตัหรอก เมื่อไรเ้าถึงจะรู้เสียที ว่าเื่นี้ไม่ใช่เื่เล็กที่เ้าจะสามารถจัดการได้อย่างง่ายดายเช่นนี้” หลัวเลี่ยพูดอย่างเ็า “เ้ากล้าคิดทำร้ายข้า ข้าจะทำให้เ้าต้องชดใช้!”
เขากลับไปที่คุกกลืนั ปิดประตูลง นั่งสมาธิและรอคอย
ต่อหน้าผู้าุโเจ็ดหลิวจื่ออั๋ง เกา่ไม่ได้โกหกเลย เขาเล่าขั้นตอนทั้งหมดอย่างละเอียด และสาเหตุที่เขาทำเช่นนี้เพราะเขารู้ว่านกฟีนิกซ์บนไหล่ของหลิวจื่ออั๋งอาจกำลังแอบตรวจสอบเขาอยู่ ดังนั้นการโกหกมีแต่จะทำให้เื่เลวร้ายมากขึ้น
ในฐานะสมาชิกของสาขาหลักในหอเซียวเหยา และยังเป็หัวกะทิของรุ่น เขาย่อมไม่ใช่คนโง่
แม้ว่าเขาจะบรรยายวิธีการจัดการของเขาตามความเป็จริง แต่เกา่กลับกล่าวถึงความ้าที่หลัวเลี่ยเรียกร้องมาดูยิ่งใหญ่เกินจริง
“ผู้าุโ เื่ราวทุกอย่างก็เป็เช่นนี้ เป็ความจริงที่ข้ามีความคิดที่ไม่ดีในตอนแรก แต่ข้าก็นับว่าเป็ตัวแทนของหอเซียวเหยา และเป็ตัวแทนของอาจารย์ของข้าด้วย ข้าไม่อาจคุกเข่าให้เขาได้ ถ้าเป็เช่นนั้นคนอื่นจะมองหอเซียวเหยาของพวกเราอย่างไร ดังนั้นเพื่อชื่อเสียงของหอเซียวเหยา ข้าจึงเลือกที่จะฆ่าผู้าุโรอง และคนอื่นๆ ที่ทำลายตราัเงินเซียวเหยาแทน” ในที่สุดเกา่ก็แสดงความคิดของเขาโดยเน้นย้ำถึงตัวตนของตนเอง
หลิวจื่ออั๋งฟังทุกอย่างจนจบด้วยสีหน้าว่างเปล่า และไม่ได้พูดอะไรออกไป
เกา่รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย ระหว่างทางไปและกลับจากคุกกลืนอสูร เขายังพบร่องรอยของกองกำลังที่ทรงพลังมากมาย โดยเฉพาะคู่แข่งของหอเซียวเหยาอย่างหอการค้าฟ้านเทียน เื่นี้ทำให้เขารู้สึกว่า เหตุการณ์นี้อาจจุดชนวนบางอย่างขึ้น แม้ว่าเขาจะรู้สึกงงงวยมาก ว่าเหตุใดแค่เื่ตราัเงินเซียวเหยาเพียงอย่างเดียวถึงทำให้เกิดเื่เช่นนี้ได้
ทุกคนทราบกันดีว่า ที่ทุกคนมาที่นี่ก็เพราะ ‘มีัอยู่ในเป้า’ อยู่ที่นี่
แต่ทุกคนไม่รู้ว่าตัวตนของ ‘มีัอยู่ในเป้า’ แท้จริงแล้วคือหลัวเลี่ยที่เป็จุดสนใจของเื่นี้
“ถุย!”
หลิวจื่ออั๋งหันกลับมาตบหน้าเกา่อย่างกะทันหัน แค่ออกแรงตบเพียงครั้งเดียว ตัวของเกา่ก็หมุนไปประมาณสิบรอบ “ข้าสั่งให้เ้าไปเชิญเขามา แต่เ้าไม่เพียงแต่ไม่ทำเช่นนั้น ซ้ำยังทำให้เื่มันแย่ลงอีกด้วย เกา่ ตอนนี้ข้าสงสัยแล้วว่าเ้ายังมีคุณสมบัติที่จะรับผิดชอบเื่นี้อีกหรือไม่”
“ผู้าุโ ข้า...” เกา่จับแก้มที่ถูกตบของเขา เขาไม่คาดคิดว่าหลิวจื่ออั๋งจะมีปฏิกิริยาเช่นนี้
“เตรียมรถให้พร้อมเดี๋ยวนี้ ข้าจะไปที่คุกกลืนอสูรด้วยตัวเอง!” หลิวจื่ออั๋งกล่าวเสียงทุ้ม
ดวงตาของเกา่แทบจะถลนออกมา หลิวจื่ออั๋งเป็ผู้าุโลำดับที่เจ็ดในสาขาหลักของหอเซียวเหยา อย่าว่าแต่แคว้นเล็กๆ แปดร้อยแคว้นเลย ต่อให้เป็สองอาณาจักรใหญ่ก็ต้องส่งคนระดับอ๋องมาเชิญผู้าุโเจ็ด เขาถึงจะไปพบ แต่ตอนนี้เขาจะไปหาหลัวเลี่ยด้วยตัวเองจริงๆ หรือ?
แต่เกา่ก็ไม่กล้าถามออกไป เพราะเขากลัวโดนตบอีก เขาจึงรีบไปเตรียมรถม้า
นกฟินิกซ์์ที่เกาะอยู่บนไหล่ของหลิวจื่ออั๋งกล่าวว่า “เ้ากำลังสงสัยว่าหลัวเลี่ยคือ ‘มีัอยู่ในเป้า’ หรือ?”
“ใช่” หลิวจื่ออั๋งกล่าว “อาจจะมองเป็ว่าความบังเอิญของ ‘มีัอยู่ในเป้า’ ที่ไปพบเื่นี้พอดี แต่หากเขาไปที่แคว้นเป่ยสุ่ยเพื่อฝึกฝนและจากไป แล้วทำไมเขายังให้ความสนใจกับเื่นี้อยู่เล่า นี่ไม่ใช่เื่ปกติ ตอนที่เ้าไปที่คุกกลืนอสูรอย่างลับๆ เ้าก็สังเกตเห็นแล้วว่าหลัวเลี่ยสามารถรอดชีวิตจากคุกกลืนอสูรได้โดยไม่ได้รับาเ็ นอกจากนี้เขายังอยู่ภายใต้เวทสะกดพลังอีกด้วย ข้ารู้เื่คุกกลืนอสูรอยู่มาก หากเขาสามารถอดทนได้ก็นับว่าเขาไม่ธรรมดาแล้ว ความสามารถที่โดดเด่นเช่นนี้นับว่าตรงกันกับ ‘มีัอยู่ในเป้า’ นอกจากนี้ อายุก็ยังนับว่าใกล้เคียงกัน ข้อสงสัยทั้งหมดนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้ข้าสงสัยเขาแล้ว แต่สุดท้ายแล้วใช่เขาหรือไม่ ข้าก็ต้องไปดูด้วยตัวเอง”
นกฟินิกซ์์กล่าวว่า “ถ้าเป็เขาจริงๆ เช่นนั้นการทำดีต่อเขาไว้ย่อมเป็การดีที่สุด หากชักจูงเขาให้เข้าร่วมกับหอเซียวเหยาได้ก็ไม่เลวเลย หรือต่อให้เขาไม่ใช่ ‘มีัอยู่ในเป้า’ การกระทำเช่นนี้ก็ไม่มีอะไรเสียหาย แบบนี้จะยิ่งดูยุติธรรมยิ่งขึ้นเสียอีก ผู้คนจะได้รู้ว่าประโยชน์ของตราแห่งหอเซียวเหยานั้นมีมากมาย”
หลิวจื่ออั๋งยิ้มและพูดว่า “เ้าช่างรู้ใจข้าเสียจริง! ถูกต้อง ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การอยู่ฝั่งเดียวกับหลัวเลี่ยคือสิ่งที่ถูกต้องแล้ว”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้