ตอนค่ำ ที่บ้านของพิกุล ตอนนั้นเป็เวลาเกือบห้าทุ่ม ภายหลังเสร็จจากอาบน้ำ อานนท์ล้มกายลงนอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงพักใหญ่ๆ
ทว่าไม่ทันที่จะข่มตาหลับ ในหูก็พลันได้ยินเสียงรถกระบะแล่นมาจอดที่หน้าบ้านของตน
ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นจากเตียง ก้าวมาที่หน้าต่าง ชะโงกใบหน้ามองลงมาที่หน้าบ้าน เห็นนางพิกุลมารดาของหล่อนที่นอนอยู่ชั้นล่าง เดินออกมาเปิดประตูรับผู้มาเยือนในยามวิกาล
แสงไฟดวงโคมที่เสาไฟฟ้าสว่างพอให้มองเห็นว่าคนที่มาหามารดาของตนในยามวิกาลนั้นก็คือทนายเอกพล ที่อานนท์จำหน้าได้ก็เพราะว่าเคยเจอกันเมื่อคราวที่โดนตำรวจจับเพราะออกไปแว๊น
“คุณทนาย”
ท่าทางพิกุลไม่ได้ในัก ที่เห็นร่างสูงใหญ่ของทนายหนุ่มใหญ่ลูกครึ่งแขกก้าวลงมาจากรถ ที่ไม่ใก็เพราะหล่อนรู้ล่วงหน้าว่าเขาจะมาหา หากจะประหลาดใจก็ตรงที่เหตุใดเขาจึงมาดึกป่านนี้
“อยู่คนเดียวหรือจ๊ะพิกุล”
ทนายถามเสียงหวาน
“อยู่กับเ้านนท์ลูกชายจ้ะ… เข้าห้องนอนไปนานแล้ว ป่านนี้คงหลับแล้ว”
“ไหนๆ ผมก็อุตส่าห์มาถึงบ้าน... ขอโทษที่มาดึกไปนิด จะเป็ไรไหมถ้าผมจะขอเข้าไปคุยกับคุณในบ้าน”
ทนายกล่าว พิกุลได้กลิ่นเหล้า หล่อนจ้องหน้าเขาด้วยอาการสองจิตสองใจ หากสุดท้ายพิกุลก็จำต้องเปิดประตูรับ ยอมให้เขาเข้ามาในบ้าน
อานนท์เคยนึกนึกสงสัยว่าทนายคนนี้น่าจะแอบชอบมารดาของตนซึ่งเป็คนสวย
อานนท์ไม่อยากคาดเดาความสัมพันธ์ของมารดากับทนายเอกพลคนนี้ไปในทางร้าย เพราะเมื่อเย็นนางพิกุลก็บอกว่าค่ำๆ ทนายคนนี้จะแวะมาคุยธุระที่บ้าน
อานนท์เดินกลับมาที่เตียงนอนโดยไม่สนใจธุระของทนายกับมารดา
ชายหนุ่มทิ้งร่างลงนอนบนเตียง หลับไปได้เพียงครู่สั้นๆ ด้วยอากาศร้อนของเดือนเมษาทำให้รู้สึกว่าคอแห้งผาก
จู่ๆ อานนท์ก็เกิดอาการกระหายน้ำขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก จึงเดินลงบันไดมาที่ชั้นล่าง แต่พบว่าที่เก้าอี้ในห้องรับแขกนั้นว่างเปล่า... ทนายเอกพลกับแม่ของตนหายไปไหน?
ชายหนุ่มนึกว่าจะเห็นนางพิกุลกับทนายเอกพลนั่งคุยกันอยู่ที่ห้องรับแขก แต่กลับไม่เห็น หรือว่าเขาอาจจะกลับไปแล้วก็ได้
เลิกสนใจเื่ทนายเอกพล อานนท์ก้าวเดินตรงมายังตู้เย็นที่ตั้งอยู่ใกล้ห้องนอนของมารดา
จากนั้นเท้าที่กำลังก้าวย่างลงบนพื้นกระเบื้องเย็นๆ ก็มีอันต้องหยุดชะงักก่อนจะเปิดตู้เย็น เพราะว่ามีเสียงครวญครางแปลกๆ ดังออกมาจากห้องนอนของนางพิกุลผู้เป็มารดา เป็เสียงครางที่ชวนสะดุดหู
‘เสียงอะไร... ?’
เกิดคำถามขึ้นในใจ ความอยากรู้เร่งเร้าให้อานนท์เดินเข้ามาแนบดวงตาเข้ากับรูน้อยๆ ที่มีแสงไฟสีเหลืองสาดลอดออกมาจากฝาผนังห้องนอนของแม่ ครั้นแล้วก็ต้องใจนต้องยกมือขึ้นปิดปาก
‘โอ้ว… คุณพระช่วย’
ดวงตาของอานนท์เบิกโพลงมองภาพที่เกิดขึ้นในห้องนอนของแม่
“อื๊อ... อย่า... ฮึ่ก... คุณทนายอย่าทำบ้าๆ แบบนี้นะลูกชายฉันนอนอยู่ข้างบน... ยะ... อย่า”