อวิ๋นเหลียนเอ๋อร์ใบหน้าซีดเซียว ผมเปียกหมาดๆ ถูกมัดรวบไว้ด้านหลังอย่างเรียบร้อย มวยผมถูกตรึงไว้ครึ่งหนึ่งด้วยปิ่นเงิน ปล่อยเส้นผมที่เหลือสยายลงมาอย่างเป็ธรรมชาติ แผ่กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกกล้วยไม้
ปิ่นปักผมอันนี้ ฟางซื่อเป็คนมอบให้ หากเป็เมื่อก่อนที่ยังไม่ได้แยกบ้าน อวิ๋นเหลียนเอ๋อร์คงไม่รับไว้เป็แน่ แต่ตอนนี้แยกบ้านออกมาแล้ว นางมีรายได้เป็ของตัวเอง นิสัยใจคอก็ใจกว้างกว่าแต่ก่อน จึงไม่ได้ปฏิเสธน้ำใจของฟางซื่อ
ใบหน้าของอวิ๋นเหลียนเอ๋อร์มีความงดงามแบบเรียบง่ายอ่อนหวาน ให้ความรู้สึกเป็สาวงามในชนบท ยามนี้นางสวมเสื้อแขนสั้นและกระโปรงยาวสีชมพูม่วงอ่อนดั่งรากบัวปักลายดอกไม้เลื้อยอันงดงาม รูปร่างบอบบางราวกับกิ่งหลิวที่โอนเอนไปตามสายลม ชวนให้น่าทะนุถนอม
ทว่าท่าทางของนางกลับดูเด็ดเดี่ยว ทำให้ดูอ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ ชายหนุ่มในหมู่บ้านต่างมองตาเป็มัน ส่วนหญิงสาวหลายคนก็รู้สึกอิจฉาตาร้อน ข้างกายนางมีฟางซื่อและอวิ๋นโส่วจงเดินเคียงข้างมา
อวิ๋นหลานเอ๋อร์ช่วยพยุงนาง ดวงตาแดงก่ำ จ้องมองคนบ้านเก่าด้วยแววตาเคียดแค้น สองพี่น้องฉี่เสียงกับฉี่ชิ่งก็มาด้วย พวกเขาขายเม่าไช่อยู่ในตำบล ในบ้านเกิดเื่ใหญ่เช่นนี้ อากุ้ยจึงไปแจ้งข่าวตามให้พวกเขากลับมาทันที
อวิ๋นฉี่เยว่เองก็มาเช่นกัน เวลานี้นอกจากอวิ๋นเหมยเอ๋อร์ที่หลบออกจากบ้านไป คนตระกูลอวิ๋นก็มาพร้อมหน้า แต่ดูจากตำแหน่งที่พวกเขายืนอยู่ก็รู้แล้วว่า ไม่ว่าจะเป็บ้านสองหรือบ้านใหญ่ ต่างก็เข้าข้างอวิ๋นโส่วเย่า
ทำให้อวิ๋นโส่วเย่า เฉาซื่อ อวิ๋นเหลียนเอ๋อร์และอวิ๋นหลานเอ๋อร์ มีความมั่นใจมากขึ้นที่จะต่อกรกับคนบ้านเก่า คนหนึ่ง้าตัดญาติ อีกคนก็ประกาศกร้าวว่าไม่ยอมแต่งงาน เจียงต้าไห่และภรรยาจึงร้อนใจอย่างมาก
อวิ๋นเจวียนเอ๋อร์จึงแอบสะกิดเอวของเถาซื่อ กระซิบเบาๆ ว่า “น้องห้า”
ทันใดนั้นเถาซื่อก็เหมือนถูกปลุกพลัง ะโขึ้นยืนแล้วด่าว่า “เื่แต่งหรือไม่แต่งไม่ใช่เ้าเป็คนตัดสินใจ ข้าต่างหากเป็คนตัดสินใจ! เ้าสาม ถึงแม้เ้าจะแยกบ้านออกไปแล้ว แต่ข้าก็ยังเป็แม่ของเ้า วันนี้ต่อให้ยัยเด็กเหลียนเอ๋อร์ไม่ยอมแต่งก็ต้องแต่ง! ส่วนเื่ตัดญาติ ข้ายังไม่ตาย พวกเ้าก็อย่าได้หวัง!”
อวิ๋นเหลียนเอ๋อร์เองก็เด็ดเดี่ยวไม่แพ้กัน นางประกาศกร้าว “จะให้ข้าแต่งหรือ งั้นพวกท่านจะแบกศพข้าเข้าบ้านหรือ?”
เมื่อเห็นว่านางพูดอย่างเด็ดเดี่ยว เฉาซื่อก็ร้องไห้ออกมาทันที ชาติที่แล้วนางทำกรรมอันใดไว้ ชาตินี้ผลกรรมถึงได้มาตกอยู่กับลูกสาวของนางเช่นนี้
อวิ๋นโส่วเย่าจ้องมองเถาซื่อด้วยดวงตาแดงก่ำ “ถ้างั้นก็เอาชีวิตข้าไปด้วยเลย!”
อวิ๋นหลานเอ๋อร์เป็คนใจร้อน นางจึงะโขึ้นว่า “เอาชีวิตข้าไปด้วย ในเมื่อทุกคนในบ้านถูกพวกท่านบีบบังคับให้ตายกันหมดแล้ว ข้าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปทำไม หากต้องลงนรก ครอบครัวเราก็ไปด้วยกัน!”
ทุกคนในบ้านถูกทำให้จนตรอก ยิ่งไปกว่านั้น เื่ที่อวิ๋นเจียวเคยพูดไว้ ชาวบ้านที่มามุงดูต่างก็ไม่โง่ ทุกคนรู้ดีว่าเถาซื่อกับอวิ๋นเจวียนเอ๋อร์้าอะไร
ที่แท้ก็้าสูตรเม่าไช่เท่านั้น งั้นเื่ที่ว่าอวิ๋นเหลียนเอ๋อร์ไปยั่วยวนเจียงเทียนเป่า คงไม่ต้องพูดถึงแล้วกระมัง? แน่นอนว่าต้องเป็แผนของสองแม่ลูกคู่นี้ ที่วางกับดักหลอกลวงอวิ๋นเหลียนเอ๋อร์ บาปกรรมจริงๆ!
ขณะที่ทุกคนกำลังวิพากษ์วิจารณ์ สายตาที่มองผู้เฒ่าอวิ๋นกับเถาซื่อก็เต็มไปด้วยความดูถูก
หัวหน้าตระกูลและผู้ใหญ่บ้านไม่คิดว่าบ้านหลังนี้จะมีนิสัยเด็ดขาดเช่นนี้ หากเกิดเหตุการณ์รุนแรงถึงขั้นฆ่าล้างครัวเรือนขึ้นมาจริงๆ ไม่ว่าจะเป็ผู้ใหญ่บ้าน หรือหัวหน้าตระกูลอวิ๋น ต่างก็ต้องถูกตำหนิในศาลาว่าการอย่างแน่นอน
“โส่วเย่า เหลียนเอ๋อร์ พวกเ้าอย่ากลัว ข้าผู้เป็หัวหน้าตระกูลยังไม่ตาย พวกมันไม่มีทางรังแกพวกเ้าได้!”
ผู้ใหญ่บ้านเอ่ยเสริม “ถูกต้อง เื่นี้ให้ข้ากับหัวหน้าตระกูลจัดการเอง แถมยังมีชาวบ้านอยู่เป็พยาน ใครก็ตามที่กล้าบีบบังคับพวกเ้า ข้าจะจัดการมันเอง” พูดจบก็จ้องมองผู้เฒ่าอวิ๋นเป็พิเศษ
ผู้เฒ่าอวิ๋นใบหน้าเปลี่ยนสีสลับไปมา ริมฝีปากขมุบขมิบ สุดท้ายก็ยอมอ่อนข้อลง “เ้าสาม เหลียนเอ๋อร์ก็เป็หลานสาวของข้า ข้าย่อมต้องหวังดีกับนาง เพียงแต่เื่มันมาถึงขั้นนี้แล้ว ทางเดียวที่เหลียนเอ๋อร์จะรอดได้ก็คือแต่งงานกับเทียนเป่า”
“ส่วนเื่สูตรเม่าไช่ หากเ้ารองเต็มใจมอบให้เหลียนเอ๋อร์เป็ของขวัญแต่งงานก็ดี หากไม่เต็มใจก็ช่างมันเถิด เ้าวางใจ ต่อให้ไม่มีสูตรเม่าไช่ ข้าก็จะให้เทียนเป่ารับเหลียนเอ๋อร์เป็ภรรยาให้ได้”
เถาซื่อมองผู้เฒ่าอวิ๋นอย่างไม่อยากเชื่อ “ตาแก่นี่เ้าพูดอะไรออกมา? ไม่มีสูตรเม่าไช่แล้วเทียนเป่าจะแต่งงานกับหญิงสาวคนไหนก็ได้ ทำไมต้องแต่งงานกับยัยเด็กไร้ค่าอวิ๋นเหลียนเอ๋อร์ด้วย?”
ผู้เฒ่าอวิ๋นถลึงตาใส่นาง “หุบปากไปซะ!”
จากนั้นก็หันไปมองอวิ๋นโส่วจง “เ้ารอง เหลียนเอ๋อร์เป็หลานสาวแท้ๆ ของเ้า หากเ้าเห็นแก่น้องสามของเ้า และสงสารหลานสาวคนนี้ ก็มอบสูตรเม่าไช่ให้นางเป็ของขวัญแต่งงานเถิด ถือว่าเป็ทรัพย์สมบัติติดตัวให้เหลียนเอ๋อร์ อย่างน้อยหลังจากแต่งงานไปแล้ว นางจะได้มีชีวิตที่ดีขึ้นบ้าง เพราะ... เพราะตอนนี้นาง...”
อวิ๋นโส่วเย่าได้ยินดังนั้นก็ะโด้วยความโกรธ “เหลียนเอ๋อร์บอกว่าไม่แต่งงาน!”
อวิ๋นโส่วจงตบบ่าอวิ๋นโส่วเย่าเบาๆ เพื่อปลอบประโลมให้น้องชายที่กำลังโกรธจัดสงบสติอารมณ์ลง
“ท่านพ่อ เหลียนเอ๋อร์บอกว่าไม่แต่งงาน ตอนนี้น้องสามก็สามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้ จะเลี้ยงดูเหลียนเอ๋อร์ไปตลอดชีวิตก็ไม่ใช่ปัญหา ส่วนสูตรเม่าไช่ นั่นเป็ของเจียวเอ๋อร์ ข้าไม่มีทางมอบให้ใครทั้งนั้น”
เื่สูตรเม่าไช่ ครอบครัวอวิ๋นโส่วจงไม่ได้ปิดบัง ในยุคนี้ ตราบใดที่เป็ครอบครัวที่มีฐานะหน่อย บุตรสาวมักจะมีสูตรอาหารติดตัวสักหนึ่งหรือสองสูตร เพื่อที่เวลาแต่งงานไปอยู่บ้านสามีจะได้มีของติดตัวไป ไม่ถูกคนอื่นดูถูก
ดังนั้นการที่อวิ๋นเจียวมีสูตรเม่าไช่ ให้คนรู้ก็ไม่เป็ไร แต่คำพูดของอวิ๋นโส่วจง เมื่อตกไปถึงหูของคนอื่นๆ กลับกลายเป็สูตรเม่าไช่เป็ของที่พวกเขาเตรียมไว้ให้อวิ๋นเจียว ไม่มีทางมอบให้คนนอกเด็ดขาด
หญิงสาวในหมู่บ้านไหวซู่ ต่างพากันอิจฉาอวิ๋นเจียวมากขึ้นไปอีก เจียงต้าไห่ได้ยินดังนั้นก็ร้อนใจ เขาต้องได้สูตรเม่าไช่มาให้ได้ คนที่ไปขายเม่าไช่ในตำบลคือคนบ้านใหญ่กับบ้านสาม เขาไม่คิดเลยว่าสูตรนี้จะเป็ของบ้านสอง
เื่ราวบานปลายมาถึงขั้นนี้ ต่อให้อยากถอนตัวก็ยากแล้ว เขาจึงร้อนใจยิ่งนัก “พี่รอง เื่นี้ค่อยๆ พูดกันเถิด ท่านดูสิ เจียวเอ๋อร์ยังเด็ก กว่าจะแต่งงานออกเรือนก็อีกหลายปี เช่นนั้นตอนนี้ท่านมอบสูตรเม่าไช่ให้เหลียนเอ๋อร์ไปก่อน ส่วนใน่หลายปีนี้ ค่อยหาสูตรลับอื่นให้เจียวเอ๋อร์ก็ยังทัน...”
เขายังพูดไม่ทันจบ อวิ๋นเจียวก็พึมพำขึ้นมา “พี่เหลียนเอ๋อร์ไม่อยากแต่งงานก็ไม่ต้องแต่งสิ ไม่ใช่ว่ายังมีเื่ตัดญาติอีกเื่หรือ? พวกท่านอยากได้สูตรเม่าไช่ เหตุใดไม่ใช้เื่ตัดญาติมาต่อรองเล่า?”
เถาซื่อเกลียดอวิ๋นเจียวเข้ากระดูกดำ “ยัยเด็กสาร... ยัยเด็กแสบนี่ เ้ามันใจดำจริงๆ รู้จักแต่ยุยงให้ลูกชายข้าตัดญาติ!”
ผู้เฒ่าอวิ๋นเอ่ยเสริม “เื่ตัดญาติไม่มีทางเป็ไปได้อย่างเด็ดขาด!”
อวิ๋นเจียวพึมพำ “สูตรเม่าไช่ พวกท่านอยากได้ก็เอาไป ไม่อยากได้ก็ช่าง”
เจียงต้าไห่ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที นี่เป็การยอมแลกสูตรเม่าไช่กับการตัดญาติอย่างนั้นหรือ? ดีมาก! อวิ๋นเหลียนเอ๋อร์จะไม่แต่งงานก็ช่าง แต่เขาต้องได้สูตรเม่าไช่มา เขารีบส่งสายตาให้กับอวิ๋นเจวียนเอ๋อร์
อวิ๋นเจวียนเอ๋อร์รีบไปเกลี้ยกล่อมเถาซื่อ “ท่านแม่ ลองคิดถึงน้องห้าที่กำลังเรียนหนังสือดูสิ ตั้งหนึ่งร้อยตำลึงเงินเชียวนะเ้าคะ”
แต่เถาซื่อก็ไม่ยอมง่ายๆ หากตัดญาติแล้ว อวิ๋นโส่วเย่าก็จะไม่ใช่ลูกชายของนางอีกต่อไป!
เื่ตัดญาติเป็เื่ใหญ่เกินไป หัวหน้าตระกูลอวิ๋นจึงรีบออกมายับยั้ง “โส่วเย่า อย่าให้ถึงขั้นต้องตัดญาติขาดมิตรกันเลย เ้าไตร่ตรองให้ดีอีกครั้งเถิด”