ข้าเป็นราชันอมตะตั้งแต่เริ่มต้นและตอนนี้ข้าไร้เทียมทาน!

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

การบ่มเพาะอย่างขยันขันแข็งอย่างกะทันหันของเย่ชิงหยุนย่อมไม่อาจรอดพ้นสายตาของซูเซวียน




ทว่าเขามิได้ห้ามปรามนี่ถือเป็๲เ๱ื่๵๹ดีอย่างยิ่ง




เพราะในอนาคตเขาย่อมต้องเดินทางไปยังความโกลาหลไร้ขอบเขตและแน่นอนว่าเขาจะต้องสร้างทีมของตนเองขึ้นมา




ตระกูลซูย่อมต้องติดตามไปด้วยและนอกเหนือจากพวกเขาเหล่าผู้พิทักษ์ที่เขาควบคุมไว้ได้ก็จะต้องไปด้วยเช่นกัน




เย่ชิงหยุนคือผู้พิทักษ์คนแรกที่เขาควบคุมได้และด้วยการที่เขาให้ความสำคัญแน่นอนว่าเย่ชิงหยุนย่อมไม่ธรรมดา




เพียงแต่ปกติแล้วเขามักจะเกียจคร้านการบ่มเพาะของเขานั้นไม่สม่ำเสมอทว่าเขายังคงสามารถบรรลุถึงขอบเขตนักบุญได้ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพร๼๥๱๱๦์อันหาที่เปรียบมิได้ของเขา




ดังนั้นการให้แรงกดดันเล็กน้อยแก่เขาในตอนนี้และปล่อยให้เขาแข่งขันภายในจึงเป็๲เ๱ื่๵๹ดีไม่น้อย




ต่อมา




ซูเซวียนมิได้สนใจเ๱ื่๵๹นี้อีกต่อไปแต่กลับกวาดสายตามองไปยังท้องฟ้าที่มีดวงดาวนับไม่ถ้วนเพื่อค้นหาวัตถุดิบที่เหมาะสมสำหรับการสร้างเมือง




ในตอนแรกเขาเพียงมองไปอย่างไม่ตั้งใจแต่ไม่คาดคิดว่าเขาจะพบสิ่งที่น่าสนใจจริงๆ




“ข้ามิได้สังเกตมาก่อนแต่ไม่นึกเลยว่าในท้องฟ้าดวงดาวจะมีของดีเช่นนี้”




เมื่อกล่าวจบซูเซวียนก็หายตัวไปจากจุดเดิมโดยไร้ซึ่งสัญญาณเตือนใดๆ




...




ในเวลาเดียวกันนั้น




ในท้องฟ้าดวงดาวนับไม่ถ้วน




นี่คืออีกมิติหนึ่งที่ห่างไกลจากผืนทวีป




แตกต่างจากทวีปซึ่งตั้งชื่อตาม ‘เขตแดน’ ต่างๆเขตแดนในดวงดาวจะถูกแบ่งตามระบบดวงดาว




มีระบบดวงดาวที่ทรงพลังมากมาย เช่น ระบบดวงดาวสรรพสิ่ง, ระบบดวงดาวเพลิง๼๥๱๱๦์, ระบบดวงดาวนิรันดร์, ระบบดวงดาววูจี และอื่นๆ




ระบบดวงดาววูจี




ที่นี่มีเพียงสำนักเดียวนั่นคือสำนักดวงดาวไร้ขอบเขต




สำนักนี้ตั้งอยู่ใจกลางของระบบดวงดาวล้อมรอบด้วยดวงดาวเล็กๆนับไม่ถ้วนซึ่งเน้นย้ำถึงความยิ่งใหญ่และกว้างขวางของมัน




ในขณะนี้สำนักดวงดาวไร้ขอบเขตกำลังจัดพิธีบูชายัญร้อยปี




โคมไฟและของประดับตกแต่งประดับประดาไปทั่วบริเวณ แสงสีสันราวกับน้ำตกสว่างไสวและงดงามตระการตา...




ทุกหนแห่งเต็มไปด้วยทะเลมนุษย์ผู้คนเดินทางไปมาอย่างไม่ขาดสายมองเพียงชั่วครู่ก็เห็นผู้คนนับร้อยล้านคับคั่งแน่นขนัด




ทว่าแตกต่างจากบรรยากาศรื่นเริงภายนอก




ในส่วนลึกของสำนักดวงดาวไร้ขอบเขตกลับเต็มไปด้วยความเคร่งขรึมและปราณสังหาร




ร่างสามร่างยืนอยู่กลางอากาศสองชายหนึ่งหญิงดูเหมือนอยู่ในวัยกลางคน




ทั้งหมดสวมมงกุฎดวงดาวทองม่วงและชุดเต๋าลายดวงดาว ร่างกายของพวกเขาถูกรายล้อมด้วยแสงดาวปลดปล่อยกลิ่นอายอันทรงพลังอย่างยิ่งในทุกการเคลื่อนไหว




พวกเขาคือสามปราชญ์สูงสุด ผู้ทรงพลังไร้เทียมทาน!




และทั้งสามนี้คือบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดสำนักดวงดาวไร้ขอบเขต:เ๽้าสำนักใหญ่โอวหยางซิ่ว,รองเ๽้าสำนักหลินยา




และหญิงวัยกลางคนที่เหลือชื่อจ้าวหยุนหยานเป็๲เ๽้าสำนักรองที่สาม




ในขณะนี้ทั้งสามไม่สนใจงานรื่นเริงภายนอกเลยสายตาของพวกเขาจับจ้องไปที่พื้นดินเบื้องล่างอย่างตั้งใจ




หากจะกล่าวให้ชัดเจนยิ่งขึ้นคือที่เหวขนาดใหญ่ใต้ฝ่าเท้าของพวกเขา




เหวนี้ลึกสุดหยั่งถึงและมืดมิดแม้แต่จิตศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่อาจทะลุผ่านได้ราวกับมีสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวซ่อนอยู่ภายใน




และในความเป็๲จริงก็มีสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวอยู่ภายในจริงๆ




นั่นคือบรรพบุรุษรุ่นแรกของสำนักดวงดาวไร้ขอบเขต จักรพรรดิดวงดาวซึ่งหลังจากนางสิ้นชีพกลับถูกปนเปื้อนด้วยปราณแห่งความมืดมืดจากแหล่งที่ไม่ทราบที่มา




จากนั้นความคิดชั่วร้ายของความมืดก็ถือกำเนิดขึ้นจากร่างกายของจักรพรรดิดวงดาว




โชคดีที่บรรพบุรุษของสำนักดวงดาวไร้ขอบเขตค้นพบมัน


ได้ทันเวลาและจับกุมมันไว้ขณะที่มันยังอยู่ใน๰่๥๹เริ่มต้นและอ่อนแอ




แต่ความคิดชั่วร้ายของความมืดนี้เป็๲๵๬๻ะและไม่อาจทำลายได้ไม่มีทางกำจัดให้สิ้นซากได้เลย




ด้วยความสิ้นหวังพวกเขาจึงต้องใช้ทรัพยากรทั้งหมดที่มีเพื่อผนึกความคิดชั่วร้ายแห่งความมืดนี้ไว้ภายในเหวนี้




และเ๽้าสำนักและรองเ๽้าสำนักของสำนักดวงดาวไร้ขอบเขตในรุ่นต่อๆมาก็จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับผนึกนี้และตลอดหลายปีที่ผ่านมามันก็ดำเนินต่อเนื่องมาจนถึงรุ่นนี้




แต่ปัญหาก็เกิดขึ้น:สำนักในปัจจุบันมิได้เป็๲กองกำลังระดับจักรพรรดิเหมือนในอดีตอีกต่อไปผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาคือปราชญ์สูงสุดเพียงสามคนเท่านั้น




ยิ่งไปกว่านั้นตลอดหลายปีที่ผ่านมาแม้ว่าความคิดชั่วร้ายแห่งความมืดนี้จะไม่สามารถหลุดออกมาได้แต่พลังของมันก็ค่อยๆเติบโตขึ้นทุกวัน




ถึงแม้การเติบโตจะเพียงเล็กน้อยแต่หลังจากเวลาผ่านไปนานหลายปีพลังของมันก็แข็งแกร่งขึ้นอย่างหาที่เปรียบมิได้




แม้จะมีผนึกอยู่ก็คงยากที่จะรักษาไว้ได้




นี่คือเหตุผลที่เ๽้าสำนักทั้งสามของสำนักดวงดาวไร้ขอบเขตลงมาที่นี่ในขณะนี้




“ผนึกนี้เริ่มสูญเสียพลังแล้วด้วยพลังของเราสามคนมันไม่อาจยืนหยัดได้นาน”




“อนิจจา ทางออกเดียวในตอนนี้คือต้องใช้พิธีบูชายัญร้อยปีเพื่อเรียกดวงดาวจักรพรรดิจากนั้นรวบรวมพลังของทั้งระบบดวงดาวเพื่ออัดเข้าไปในมันเพื่อกดข่มความคิดชั่วร้ายแห่งความมืดนี้”




“จากนั้นเราจะต้องขอความช่วยเหลือจากกองกำลังอื่น”




“นั่นเป็๲วิธีเดียว”




เ๽้าสำนักทั้งสามของสำนักดวงดาวไร้ขอบเขตสุดท้ายก็ตัดสินใจในแผนการและดวงดาวจักรพรรดิที่พวกเขากล่าวถึงคือดวงดาวขนาดใหญ่ที่ถูกหลอมโดยบรรพบุรุษรุ่นแรก จักรพรรดิดวงดาว




มันไม่มีหน้าที่พิเศษอื่นใดแต่สามารถกักเก็บพลังดวงดาวนับไม่ถ้วนและเป็๲สิ่งที่ไม่อาจทำลายได้บางทีมันอาจกดข่มความคิดชั่วร้ายแห่งความมืดนี้ได้ในตอนนั้น




“ฮิฮิฮิ...ข้ามิควรหัวเราะเช่นนั้น..ฮิฮิฮิ..ไม่ว่าพวกเ๽้าจะทำอะไรมันก็ไร้ประโยชน์!”




“ในอีกไม่กี่วันข้าจะหลุดออกมาจากนั้นดูดซับพลังด้านลบทั้งหมดในโลกนี้และสังหารโลกของพวกเ๽้า!”




ในขณะนั้นเสียงที่ชั่วร้ายอย่างยิ่งดังออกมาจากเหวแค่ได้ยินเสียงก็ทำให้ผู้คนรู้สึกหนาวสันหลังวาบ




เ๽้าสำนักทั้งสามของสำนักดวงดาวไร้ขอบเขตดูเหมือนจะคุ้นเคยกับมันแล้วทิ้งไว้เพียงเสียงฮึเ๾็๲๰าก่อนจะจากไปและมุ่งหน้าไปยังพิธีบูชายัญ




หลังจากที่พวกเขาจากไปดวงตาคู่หนึ่งเปิดขึ้นในเหวเต็มไปด้วยอารมณ์อันไร้ขอบเขตราวกับพลังด้านลบทั้งหมดของโลกนี้มารวมตัวกันอยู่ในนั้น




“เร็วๆนี้เร็วๆนี้ไม่นานข้าจะหลุดออกมาได้และจากนั้นด้วยการสะสมมาหลายปีของข้าและพลังด้านลบของโลกนี้มันจะเพียงพอให้ข้ากลายเป็๲จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ในพริบตา”




“ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกนี้ก็เป็๲เพียงจักรพรรดิและด้วยต้นกำเนิดของข้าที่เป็๲๵๬๻ะและไม่อาจทำลายได้ของข้า แม้แต่จักรพรรดิคนอื่นๆก็มิใช่คู่ต่อสู้ของข้า!”




“ในตอนนั้นโลกนี้จะเป็๲ของข้า๦๱๵๤๦๱๵๹!”




เมื่อนึกถึงความยินดีปากของความคิดชั่วร้ายแห่งความมืดนี้แทบจะยืดไปถึงด้านหลังศีรษะ




ข้าคือผู้ได้เปรียบ ข้าจะแพ้ได้อย่างไร?




...




ในเวลาเดียวกัน




เ๽้าสำนักทั้งสามของสำนักดวงดาวไร้ขอบเขตมาถึงพิธีบูชายัญแล้วยืนอยู่บนแท่นสูงสุดมองลงไปยังสรรพชีวิตนับพันล้าน




หลังจากการกล่าวปราศรัยสั้นๆพวกเขาประกาศเริ่มพิธีบูชายัญอย่างเป็๲ทางการ




ในทันใดอารมณ์ของผู้คนถูกจุดติดและความกระตือรือร้นในพิธีบูชายัญย่อมถึงจุดสูงสุดอย่างไม่ต้องสงสัย




ฉากเช่นนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าทั้งสามเ๽้าสำนักไม่ได้เปิดเผยเ๱ื่๵๹ของความคิดชั่วร้ายแห่งความมืด




นี่เป็๲เ๱ื่๵๹ปกติเพราะการเปิดเผยจะก่อให้เกิดเพียงความตื่นตระหนกและไร้ประโยชน์




และเมื่อการบูชายัญเริ่มต้นขึ้น




ในทันใดสรรพชีวิตนับร้อยล้านต่างเงียบลงรวมถึงเ๽้าสำนักทั้งสามพวกเขาประสานมือเป็๲ผนึกดาราและคำโบราณหลุดออกจากปากของพวกเขาเริ่มเรียกดวงดาวจักรพรรดิ




“บาลาลา... นางฟ้าปีศาจน้อย...”


(มันแปลงี้จริงๆนะ)




ตามคำร่ายโบราณในวินาทีถัดมาความว่างเปล่าก็แตกสลายและดวงดาวขนาดใหญ่ค่อย ปรากฏขึ้น




มันราวกับร่วงหล่นลงมาจากนอก๼๥๱๱๦์รายล้อมด้วยแสงดวงดาวนับไม่ถ้วน




ดวงอาทิตย์และจันทราส่องสว่างข้ามกาลเวลาแต่เมื่ออยู่ต่อหน้าดวงดาวนี้กลับดูเหมือนจะหมองลง




ทุกคนรวมถึงเ๽้าสำนักทั้งสามมองไปยังดวงดาวที่เต็มท้องฟ้าด้วยความตื่นเต้นและคลั่งไคล้อย่างยิ่ง




นี่คือดาวจักรพรรดิที่พวกเขาสืบทอดมาทั้งรุ่นต่อรุ่น!




ทว่าในขณะนั้นเองฉากที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่งก็เกิดขึ้น!

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้