ชายในชุดผ้าคลุมดำรับรู้ได้ถึงการลอบโจมตี จึงดึงแขนกลับมาและยกมือขึ้นตอบโต้ศัตรู
จากมุมนี้หานโม่เห็นว่าคนเ่าั้มีทั้งหมดด้วยกันห้าคน เป็ชายสามคนและหญิงสองคน
ดูเหมือนพวกเขาจะรู้จักกับชายชุดผ้าคลุมดำเป็อย่างดีหรืออาจจะเคยประมือกันมาก่อน ทุกกระบวนท่าล้วนตั้งใจโจมตีไปยังจุดตายของชายชุดผ้าคลุมดำทั้งสิ้น
ตอนแรกชายชุดผ้าคลุมดำใเล็กน้อย แต่ในไม่ช้าเขาก็เริ่มรับมือกับพวกเขาได้
เมื่อคนเ่าั้เห็นเช่นนี้ก็ไม่รีรอที่จะเปิดฉากการโจมตีใหม่อีกครั้ง
“พวกเ้าเป็ใคร?!” ชายชุดผ้าคลุมดำหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อยเพราะถูกขัดจังหวะ
หนึ่งในห้าคนของกลุ่มคนที่เข้ามาโจมตีเป็ชายวัยกลางคน เขาะโใส่ชายชุดผ้าคลุมดำว่า "เ้าไม่ต้องรู้ชื่อพวกข้าหรอก สิ่งที่ควรรู้คือพวกข้ามาที่นี่เพื่อขจัดภัยอันตรายและผดุงความยุติธรรม!"
ชายชุดผ้าคลุมดำหัวเราะ " ขจัดภัยอันตรายให้กับผู้คน? พวกเ้าน่ะหรือ?"
ในขณะที่พูดเขาก็หมุนตัวหันไปมองผู้คนที่ยังคุกเข่าอยู่บนพื้นและเอ่ยอย่างเย้ยหยันต่อไปว่า "พวกเขาไม่รู้หรอกว่าพวกเ้ากำลังช่วยอยู่!"
ผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มนั้นะโขึ้นมาเสียงดัง "พวกเขากำลังตกอยู่ในภวังค์ ตราบใดที่เ้าตายพวกเขาจะกลับมาเป็ปกติแน่นอน!"
ชายชุดดำหัวเราะเสียงดัง "งั้นหรือ? เช่นนั้นมาดูกันว่าพวกเ้าจะทำเช่นนั้นได้หรือไม่ เป็แค่กลุ่มเล็กๆ กล้าพูดใหญ่โตเหลือเกิน!"
ในตอนแรกฝีมือของทั้งสองฝ่ายค่อนข้างสูสีกัน หลังจากพูดจบการโจมตีของชายชุดผ้าคลุมดำก็รุนแรงขึ้น ทั้งห้าคนก็รับมือไม่ไหว
หานโม่ใเล็กน้อยกับการลงมือของชายชุดผ้าคลุมดำ
ฝีมือของชายผู้นี้แข็งแกร่งนัก แต่ท่าทางการเคลื่อนไหวของเขาทำให้หานโม่รู้สึกคุ้นเคย
“อ๊าก......”
หานโม่เงยหน้าขึ้นและมองเห็นว่าชายคนหนึ่งในห้าคนนั้นถูกฝ่ามือของชายชุดดำซัดเข้าที่หน้าอกจนกระเด็นไปกระแทกต้นไม้ เขากระอักเืออกมาแล้วหมดลมหายใจไปทันที
การตายของเพื่อนทำให้แววตาของอีกสี่คนที่เหลือแฝงไปด้วยความเ็ปและยิ่งทวีความเคียดแค้นต่อชายชุดดำมากขึ้นไปอีก
"ฆ่ามัน!”
ทุกคนะโออกมาด้วยความโกรธและพุ่งเข้าหาชายชุดดำด้วยกำลังทั้งหมด
หานโม่มองดูคนเหล่านี้เริ่มต้นต่อสู้กับชายชุดผ้าคลุมดำอีกครั้ง พลางถอนหายใจ
ชายชุดผ้าคลุมดำแข็งแกร่งมากเกินไป แม้ว่าการโจมตีประสานของพวกเขาทั้งสี่คนจะดูซับซ้อนยิ่งขึ้นกว่าเดิม ทว่าผลลัพธ์ก็ไม่ดีขึ้นมากนัก
“อ๊าก......”
เป็อย่างที่หานโม่คาดไว้ ชายชุดผ้าคลุมดำสามารถปลิดชีพคนในกลุ่มนี้ได้อีกสองคน ดังนั้นชายหนึ่งคนและหญิงหนึ่งคนที่เหลืออยู่จึงพยายามดิ้นรนอย่างสุดชีวิต
"ิเยว่ ระวัง!" ชายคนนั้นะโขึ้นมาเสียงดังและะโมาอยู่เบื้องหน้าผู้หญิงคนสุดท้าย หญิงสาวที่ชื่อิเยว่ยังไม่ทันได้กระพริบตา หูของนางก็ได้ยินเสียงคล้ายกับบางอย่างถูกแทงจนทะลุ
นางก้มหัวลงมองบริเวณหน้าอก ชายตรงหน้านางโดนมือของชายชุดผ้าคลุมดำแทงหน้าอกจนทะลุมาด้านหลัง เมื่อเขาดึงมือออกไปเืจากาแนั้นกระเด็นโดนหน้านางไม่น้อยเลย
ิเยว่มองเห็นชายชุดผ้าคลุมดำกำลังพุ่งตรงเข้ามาอีกครั้งผ่านทางรูที่หน้าอกของคนในกลุ่มนาง
ร่างของชายคนนั้นล้มลงไปกับพื้น เขาตายก่อนที่จะได้ส่งเสียงใดๆ ด้วยซ้ำ
ดวงตาของิเยว่เบิกกว้าง น้ำตาและโทสะพรั่งพรูออกมาพร้อมๆ กัน นางยกกระบี่ขึ้นและพุ่งเข้าหาชายชุดดำโดยไม่คิดถึงอะไรอีก
คนในกลุ่มของนางไม่สามารถทำอะไรชายชุดผ้าคลุมดำได้เลยแถมยังถูกฆ่าจนสุดท้ายเหลือนางเพียงผู้เดียว แต่นางไม่สามารถเป็คู่ต่อสู้ของชายชุดผ้าคลุมดำได้ การเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียวของเขาทำให้กระบี่ของิเยว่หลุดออกจากมือ ในขณะเดียวกันมืออีกข้างหนึ่งก็บีบคอของิเยว่เอาไว้
"อั่ก......"
ใบหน้าของิเยว่เปลี่ยนเป็สีแดงอย่างรวดเร็วเพราะหายใจไม่ออก
เมื่อหานโม่เห็นสิ่งนี้นางก็ไม่หลบซ่อนอีกต่อไป สองเท้าก้าวออกไปทันที
ตอนนี้ชายชุดผ้าคลุมดำกำลังหันหลังให้นาง นี่เป็โอกาสที่ดีสำหรับการโจมตี!
มีเสียงดัง "ปัง" พลังลมปราณของหานโม่โจมตีเข้าที่ด้านหลังของชายชุดผ้าคลุมดำจนโซซัดโซเซ เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะมีคนอื่นนอกจากห้าคนนี้ ทันทีที่เขาลดความระมัดระวังตัวลงก็ถูกหานโม่ลอบโจมตีได้สำเร็จ
ิเยว่หลุดออกจากเงื้อมมือของชายชุดผ้าคลุมดำ ขาของนางไม่มีแรงจนแทบทรุดลงไปกับพื้น
หานโม่เดินเข้าไปพยุงิเยว่เอาไว้ก่อนที่นางจะล้มลงไปบนพื้น ในตอนนั้นเองชายชุดดำก็ตั้งหลักได้และตอบโต้กลับมา เขาตั้งใจโจมตีเข้าที่หัวของหานโม่ด้วยความเกรี้ยวกราด
หานโม่ใช้พลังลมปราณออกมาโดยไม่รู้ตัวเพื่อป้องกันจุดตายของตนเอง ชายชุดผ้าคลุมดำโจมตีใส่ม่านพลังลมปราณของหานโม่จนเกิดเสียงดัง "ปัง" แหวนโค่งเจียนบนนิ้วของหานโม่เปล่งแสงสีฟ้าออกมาวูบหนึ่ง อีกฝ่ายใจนถอยหลังไปสองสามก้าวแล้วกระอักเืออกมา
ชายชุดดำไม่คาดคิดว่าหานโม่จะแข็งแกร่งขนาดนี้ ดังนั้นเขาจึงหยุดโจมตีใส่หานโม่แล้วหนีหายไป
หลังจากที่ชายชุดดำหนีไป หานโม่ก็กระอักเืออกมา
นางรู้สึกว่าลมปราณในร่างกายของตัวเองกำลังแสบร้อน
ความแข็งแกร่งของฝ่ามือชายชุดดำน่าประหลาดใจมาก แม้ว่าจะมีม่านพลังจากแหวนโค่งเจียนคอยป้องกันเอาไว้ แต่หานโม่ก็ยังได้รับาเ็
หลังจากที่พักได้ครู่หนึ่งพละกำลังของนางก็ฟื้นคืนกลับมา หานโม่ออกมาจากป่าโดยแบกิเยว่ไว้บนหลัง
ค่ำคืนนี้ผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว
หานโม่สังเกตเห็นว่าชายหนุ่มเ่าั้กลับมาที่หมู่บ้านได้เองหลังจากชายชุดดำจากไป ดูเหมือนพวกเขาจะไม่สนใจเื่อื่นๆ นอกจากชายชุดดำและกองทัพอิ่นเท่านั้นที่พวกเขาให้ความสนใจ
เมื่อเห็นเช่นนี้หานโม่ก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
เป็เื่ดีที่ในหมู่บ้านไม่มีความวุ่นวายอะไรเกิดขึ้นเพราะตอนนี้นางกำลังได้รับาเ็ ถ้าคนในหมู่บ้านเกิดคลุ้มคลั่งขึ้นมาก็ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาสามารถทำสิ่งใดได้บ้าง แต่ทุกอย่างยังอยู่ในความเรียบร้อยถือว่าเป็เื่ดี
หลังจากรักษาอาการาเ็ของตนเองจนหายดีแล้ว หานโม่ก็มองไปยังหญิงสาวที่ชื่อ ิเยว่
รูปร่างของนางไม่ได้โดดเด่นอะไร แต่ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความกล้าหาญบางอย่าง แต่คิ้วที่กำลังขมวดแน่นทําให้ความกล้าหาญบนใบหน้าของนางลดลงเล็กน้อย ดูน่าสงสารจนทำให้ผู้ที่พบเห็นอยากจะเข้าไปปลอบประโลม
หานโม่เช็ดใบหน้าของนางด้วยผ้าชุบน้ำสะอาด เสื้อผ้าของนางเต็มไปด้วยเื แต่หานโม่คิดว่าตอนนี้นางกำลังปลอมเป็ผู้ชายจึงไม่ควรแตะต้องเสื้อผ้าและร่างกายของสตรี ดังนั้นนางจึงเลือกที่จะปล่อยมันทิ้งไว้แบบนั้น
แสงแดดค่อยๆ เปลี่ยนจากความอบอุ่นเป็ร้อนผ่าว หานโม่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งเมื่อเห็นว่าใกล้เที่ยงวันแล้ว นางจึงไปปลุกิเยว่ที่กำลังหลับอยู่
เมื่อเอื้อมมือออกไปกำลังจะถึงตัวคนตรงหน้า จู่ๆ ิเยว่ก็กรีดร้องและลืมตาตื่นขึ้นมา
ิเยว่ค่อนข้างประทับใจในการกระทำของหานโม่ หากเมื่อคืนชายชุดผ้าคลุใดำไใ่ถูกลอบโจมตีจากทางด้านหลัง นางก็อาจจะถูกบีบคอจนตายไปแล้ว
เมื่อตั้งสติได้ ิเยว่ก็สงบจิตใจลงอย่างรวดเร็วและมองหานโม่ด้วยความลำบากใจ "ข้าขอโทษ"
หานโม่ส่ายหัวและมองไปยังิเยว่ "เ้ารู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือไม่?"
ิเยว่ส่ายหัว
อาการาเ็ของนางไม่ได้ร้ายแรงนัก ส่วนที่เจ็บที่สุดในร่างกายคือบริเวณลำคอที่ถูกชายชุดผ้าคลุมดำบีบก่อนหน้านี้
เวลานี้รอยช้ำนั้นดูเหมือนจะได้รับการรักษาเรียบร้อยแล้วมันยังรู้สึกเจ็บเล็กน้อย จึงไม่ร้ายแรงเท่าตอนแรก
“ขอบคุณท่านมากที่ช่วยข้าไว้”
นางจ้องไปยังใบหน้าของหานโม่
เมื่อคืนนี้รอบข้างมืดเกินไปนางจึงมองไม่เห็นรูปลักษณ์ของหานโม่ได้อย่างชัดเจน แต่ตอนนี้นางเห็นแล้วว่าคนตรงหน้ามีริมฝีปากแดงระเรื่อ ผิวพรรณขาวเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล อีกทั้งยังมีรูปร่างที่สง่างามชวนน่าหลงใหลมาก
นางอดที่จะตกตะลึงไม่ได้
ผู้ชายที่หล่อเหลาเช่นนี้เป็การยากที่จะทำให้ผู้คนไม่หวั่นไหว
