“เพราะเหตุใดจึงครึ่งวันเท่านั้น? ยี่สิบอีแปะทำทั้งวันก็ได้”
“ตอนนี้ใกล้ถึงเวลาเก็บเกี่ยวแล้วคงไม่สามารถปล่อยให้ต้นพืชของชาวบ้านแห้งตายอย่างสูญเปล่า” กงเช่อส่ายศีรษะ
นายอำเภอคิดในใจ ช่างเป็คนโง่ที่มีเงินเยอะจริงๆหากเป็ไปตามที่อีกฝ่ายกล่าว เกรงว่าการประกาศเช่นนี้คงมีคนสนใจมากมายนับไม่ถ้วน!
“องค์รัชทายาทช่างมีเมตตายิ่งนัก ข้าขอขอบคุณแทนประชาชนเมืองซิงไว้ณ ที่นี้!” เขากล่าวออกมา แม้ว่าเขาไม่เห็นด้วยกับอีกฝ่ายเลย
กงเช่อพยักหน้าจากนั้นจึงให้นายอำเภอรีบพาคนไปตรวจสอบพื้นที่สองริมฝั่งแม่น้ำดูสถานการณ์อย่างชัดเจนแล้วให้กลับมารายงาน นายอำเภอรับคำกงเช่อจึงคลึงหัวคิ้วแล้วเดินกลับไป
ขณะที่เดินผ่านเรือนที่พักของกงอี่โม่ เขาหยุดยืนอยู่บริเวณนั้นอยู่เป็นานสุดท้ายก็ไม่ได้ก้าวเข้าไปด้านในแม้แต่ก้าวเดียว
หากมองว่าเป็น้องสาว แล้วทำไมเขาต้องเพิ่มความลำบากใจให้ตัวเองโดยการไปพบหน้านางบ่อยๆด้วยล่ะ?
สายตาของกงเช่อสะท้อนประกายเ็ปอยู่ชั่วครู่จากนั้นจึงเดินกลับไปยังที่พักของตน
ทว่าเวลานี้กงอี่โม่กำลังยุ่งมาก!
ชาติที่แล้วนางเคยใช้ดินปืนทำะเิมาแล้วแม้ว่าเกือบะเิตัวเองจนตาย ทว่าอย่างน้อยนางก็มีประสบการณ์มาก่อนตอนนี้นางจะระวังให้มากขึ้น จึงไม่น่าจะเป็อันตราย
แต่น่าเสียดายในชาติที่แล้วดินปืนถูกนำมาใช้เพื่อฆ่าคน ดังนั้นจึงมีผู้ตายด้วยฝีมือของนางทั้งทางตรงทางอ้อมเป็จำนวนนับไม่ถ้วนมิน่า... สุดท้ายกงเช่อจึงบอกว่านางมีจิตใจโเี้อำมหิต
กงอี่โม่ปัดความคิดเ่าั้ทิ้งไปนางเริ่มตั้งใจผสมส่วนประกอบต่างๆ เข้าด้วยกันอันที่จริงในยุคสมัยนี้ก็เริ่มมีแนวความคิดเกี่ยวกับดินปืนแล้วเพียงแต่ถูกนำมาใช้งานไม่มากนัก ส่วนใหญ่พวกเขาใช้ดินปืนเหล่านี้ในการหลอมยาตันให้ก่อไฟหรือทำดอกไม้ไฟแม้ว่าจะนำมาใช้ในสนามรบก็เป็เพียงการจู่โจมด้วยเปลวเพลิงเท่านั้นจึงมีอานุภาพไม่รุนแรงนัก
ทว่าหลังจากถูกกงอี่โม่พัฒนาขึ้นแล้วะเิเหล่านี้จึงมีอานุภาพทำลายล้างสูงสมชื่อ อีกทั้งยังทำให้ผู้คนหวาดกลัว
เพราะในแม่น้ำมีตะกอนและหินกรวดสะสมมาเป็เวลาหลายปีหากต้องใช้แรงงานคนในการขุดขึ้นมาจริงๆ ก็ยังไม่รู้ว่าต้องขุดกันเป็เวลานานเท่าใดอีกทั้งการขุดแม่น้ำในพื้นราบ หากใช้ดินปืนะเิผิวหน้าดินให้อ่อนตัวลงการขุดก็จะทำได้สะดวกขึ้นเป็อย่างมาก
ขณะที่กงอี่โม่กำลังยุ่งวุ่นวายอยู่นั้นกลับมีคนผู้หนึ่งเดินเข้ามาอย่างเงียบๆ พร้อมกระซิบอยู่ข้างหูของนาง
“องค์หญิง มีจดหมายมาจากแดนประจิม!”
กงอี่โม่ดวงตาเป็ประกาย!
ในที่สุดกงเจวี๋ยก็ถึงแดนประจิมแล้วหรือ? ทำไมจึงใช้เวลานานขนาดนี้? ด้วยเหตุนี้นางจึงรีบเปิดจดหมายออกเมื่ออ่านแล้วจึงพบว่าเป็จดหมายที่เขียนด้วยลายมือของกงเจวี๋ยตามที่คาดไว้
เพราะอีกฝ่ายเป็เด็กที่กงอี่โม่เลี้ยงมาด้วยตัวเอง นางคาดไม่ถึงว่าเมื่อไม่ได้พบหน้าระยะหนึ่งนางก็คิดถึงเขาอยู่เหมือนกัน
ในจดหมายไม่ได้กล่าวอะไรมากนักดูเหมือนว่าอ๋องแดนประจิมจะปิดเื่นี้ได้อย่างดีเขาจะต้องไม่รู้เื่ราวของนางอย่างแน่นอนเมื่อคิดถึงท่าทางเป็กังวลตามปกติของกงเจวี๋ย นางจึงคลี่ยิ้มออกมา จนกระทั่งดวงตาของนางกวาดตาอ่านถึงสองบรรทัดสุดท้ายนางจึงแสดงสีหน้าแปลกใจขึ้นมา
เขา้ากุมอำนาจร้านค้าในเมืองหลวงทั้งหมด? หรือว่าทางแดนประจิมจะเกิดเื่แล้ว? เขาเงินขาดมือ?
ทว่าในเวลาเดียวกันนี้ อ๋องแดนประจิมก็กำลังตกตะลึงมากเขามองกงเจวี๋ยด้วยท่าทางที่พูดไม่ออก
“เ้าบอกว่าเ้า้าเก็บสัญญาทั้งหมดของเมืองหลวงไว้เองอย่างนั้นหรือ?”
เขาแสดงสีหน้าแปลกไปเดิมที่นี้กำลังยุ่งกับปัญหาภัยแล้งและปัญหาโรคระบาดอยู่แต่พอปัญหาเหล่านี้เริ่มคลี่คลายแล้ว หลานชายคนนี้กลับเอ่ยถึงเื่นี้ขึ้น ราวกับอีกฝ่ายไม่เชื่อใจเขาทำให้เขาเสียใจ
“ท่านตา ข้าแค่ไม่อยากถูกพวกท่านร่วมมือกันปิดบังข้าเท่านั้นเอง!” กงเจวี๋ยนั่งอยู่หน้าโต๊ะ เขามองอีกฝ่ายด้วยสายตาเ็า
คำพูดของกงเจวี๋ยทำให้อ๋องแดนประจิมแสดงสีหน้าลำบากใจนี่คือความคิดขององค์หญิง คาดไม่ถึงว่าผู้ที่ต้องรับเคราะห์ก็คือเขา
“พวกเรากลัวว่าหากเ้ารู้เื่นี้แล้วเ้าจะเป็กังวลทุกคนต่างรู้ว่าการกลับไปก่อนกำหนดย่อมมีโทษปะาชีวิต!”
“ท่านก็รู้ว่าข้าอยากกลับไปก่อนกำหนดด้วยหรือ?!”
“ถ้าเช่นนั้นแล้วท่านรู้ไหมว่าเพราะเหตุใดข้าจึงไม่ได้กลับไป?” กงเจวี๋ยหลุบตาพร้อมส่งยิ้ม
ั์ตาพยัคฆ์ของอ๋องแดนประจิมจ้องไปที่อีกฝ่ายดูเหมือนไม่ค่อยเข้าใจนัก
กงเจวี๋ยแสดงสีหน้านิ่งเฉยทว่าหากสังเกตอย่างละเอียดจะเห็นถึงความทุกข์ใจของเขา
“ข้ายังเล็กและไร้ประโยชน์ ตอนนี้ข้าไม่อาจต่อต้านแม้กระทั่งท่านและเสด็จพี่หากข้าเลือกกลับไป แล้วข้าจะทำอะไรได้ล่ะ?”
คำพูดของกงเจวี๋ยทำให้อ๋องแดนประจิมรู้สึกสงสารและรู้สึกผิดเขาอดคิดไม่ได้ว่า... หรือว่าการกระทำก่อนหน้านี้ได้ทำร้ายความรู้สึกของเด็กหนุ่มคนนี้ไปแล้ว
กงเจวี๋ยยิ้มเยาะเย้ยตนเอง เขามองอีกฝ่ายด้วยสายตาราบเรียบน้ำเสียงกลับหนักแน่นขึ้นเรื่อยๆ
“ดังนั้นหลายวันมานี้ข้าจึงคิดมาตลอดข้าควรทำอย่างไรจึงจะไม่ถูกควบคุมอีก”
ดูเหมือนว่าอ๋องแดนประจิมจะเข้าใจความทุกข์ใจและความโกรธของกงเจวี๋ยเขากล่าวขึ้น “เ้าจะเก็บไว้ก็ได้ เพียงแต่เ้าควรบอกองค์หญิงสักหน่อย”
“ข้าบอกแล้ว” กงเจวี๋ยหยิบถ้วยชาขึ้นมาพร้อมกล่าวอย่างเรียบๆ
คำพูดของเขาทำให้อ๋องแดนประจิมถึงกับทำหน้าไม่ถูกเด็กหนุ่มตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าจะควบคุมทุกสิ่งอย่างด้วยตัวเองจริงๆถึงอีกฝ่ายอยากเก็บเองก็ไม่เป็ไรเพราะไม่ว่าอย่างไรสองปีมานี้เด็กน้อยทั้งสองก็ทำกำไรให้กับเขามาไม่น้อย! ขณะที่กล่าวนั้นเขาจึงให้ฮูหยินของเขาไปหยิบกล่องใส่สัญญา
ทว่าเมื่อกงเจวี๋ยรับกล่องมาแล้ว สีหน้าของเขาพลันเปลี่ยนไปดูครุ่นคิดถึงอะไรบางอย่างในชั่วพริบตา
เขายิ้มอย่างอดไม่ได้
ที่แท้ขอแค่กุมทุกอย่างไว้ในมืออย่างแ่าจึงจะมีอำนาจตัดสินใจใช่ไหม?!
“ท่านตาโปรดวางใจ เมื่อก่อนแบ่งผลประโยชน์เช่นไรต่อไปก็ยังแบ่งผลประโยชน์เช่นเดิม นอกจากนี้ข้ายังต้องขอให้ท่านตาช่วยชี้แนะ” เขาเงยหน้ามองอ๋องแดนประจิมพร้อมกล่าวขึ้นเนื่องจากได้ปลดปล่อยความกดดันภายในใจ เขาจึงส่งยิ้มสดใสออกมา
ทั้งๆ ที่อายุเพียงสิบเอ็ดปีเท่านั้น แต่เขากลับสุขุมเยือกเย็นแก้ปัญหาจากต้นเหตุ อ๋องแดนประจิมถอนหายใจบุตรสาวของเขาที่อ่อนแอมาั้แ่เด็กกลับให้กำเนิดบุตรชายที่มีลักษณะเช่นนี้ออกมา
“ได้ ส่วนตอนนี้ข้าจะพาเ้าไปร่วมงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จเดิมทีก็มีปัญหาภัยแล้งอย่างหนัก ต่อมาก็มีโรคระบาดเกิดขึ้นเป็วงกว้างแต่เ้ามาในครั้งนี้กลับสามารถช่วยแก้ปัญหาใหญ่ให้ชาวบ้านได้สำเร็จชาวบ้านต่างคิดถึงเ้า! พวกเขาอยากร่วมฉลองกับเ้าตอนนี้เ้าเป็ที่รู้จักไปทั่วแล้ว เ้าต้องคว้าโอกาสที่ดีเช่นนี้ไว้ให้ได้ล่ะ!” เขาตบบ่ากงเจวี๋ยเบาๆ
กงเจวี๋ยพยักหน้าอย่างว่าง่ายทว่าในตำแหน่งที่อ๋องแดนประจิมมองไม่เห็นสายตาของเขามีแต่ความเ็าและความเ้าเล่ห์!
ภัยในแดนประจิมถือเป็การสร้างชื่อให้กับเขาเป็ก้าวแรกเขาจะต้องใช้ประโยชน์จากจุดนี้ให้ดี เขาจะต้องใช้ประโยชน์ให้ถึงที่สุด
...
เพราะกงอี่โม่ยุ่งกับงานโดยไม่รู้ตัวนางจึงพลาดเื่ราวบางอย่างไป เมื่อกงอี่โม่คิดได้อีกครั้งนางก็ไม่ได้เจอหน้ากงเช่อเป็เวลากว่าครึ่งเดือนแล้ว
เพียงไม่นานก็สามารถรวบรวมคนงานได้แปดหมื่นคนกงอี่โม่รู้สึกว่าจำนวนเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว นางจึงให้คนปลดป้ายประกาศออก
นางเลือกฤกษ์ดีในการะเิดินส่วนวันที่เริ่มทำการขุดจะเป็วันถัดมาหลังจากนางะเิดินแล้วทว่าในวันฤกษ์ดีนั้น กงอี่โม่และผู้คนกลุ่มหนึ่งเดินทางไปยังริมแม่น้ำแยงซี
ที่นี่คือจุดสิ้นสุดของคลองขนส่งอวี้หลงเน่ย และเป็ตำแหน่งที่คลองขนส่งอวี้หลงเน่ยกับแม่น้ำแยงซีเมื่อมองสุดสายตาจึงเห็นกระแสน้ำไหลมา
ในสมัยโบราณ น้ำยังคงใสสะอาดมาก เนื่องจากที่นี่เป็จุดกันปริมาณน้ำจึงเพียงพอ มีสายน้ำไหลต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุด
ทว่าที่พวกเขาเดินทางมาที่นี่ในเวลานี้ก็เพราะกงอี่โม่กล่าวว่านาง้าทดลองวิธีการขุดที่นางกล่าวถึง
แม้ว่ากงเช่อจะไม่รู้ว่านางซื้ออะไรมาตลอดทางทว่าเพราะเขาเชื่อมั่นในกงอี่โม่อย่างเต็มที่ จึงไม่ได้กังวลว่าความคิดของนางจะไม่สำเร็จแต่ผู้ที่รู้ว่ากงอี่โม่ซื้ออะไรมาบ้างอย่างหลี่เคอและคนอื่นๆกลับไม่ค่อยมั่นใจนัก
พวกเขาคิดว่าผงสีดำเ่าั้จะส่งผลได้แค่ไหนอย่างมากก็แค่เกิดเป็ประกายเพลิงเท่านั้น แต่ที่นี่มีน้ำเยอะขนาดนี้แค่จะให้เกิดเปลวเพลิงยังไม่น่าเป็ไปได้
ทว่าหลี่เคอกลับมองกงอี่โม่ด้วยสายตาสงสัยทุกครั้งที่ออกไปซื้อของนั้น กงอี่โม่จะเดินทางตัวคนเดียว หรืออีกนัยหนึ่งก็คือนางจะต้องผสมบางสิ่งบางอย่างลงไปในดินปืนไม่รู้ว่าดินปืนที่ถูกนางพัฒนาขึ้นมาจะมีลักษณะเช่นไร
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้