ฉันหันไปมองเจียงเหยี่ยนที่ยืนมองหน้าเซวียนหยวนเฉิน“รุ่นพี่เซวียนหยวนมีธุระอะไรกับเธอรึเปล่า” เซวียนหยวนเฉินค่อยๆ กดอารมณ์ที่เย็นะเืนั้นไว้แล้วยิ้มเ็าส่งมาให้ฉัน
“อย่าคิดว่าหาหอพักได้แล้วจะได้อยู่ที่นี่ผ่านด่านไปให้ได้ก่อนเถอะ” จู่ๆ เขาก็โยนจดหมายฉบับหนึ่งใส่ฉันและหันหลังเดินจากไปก่อนที่จะขึ้นไปนั่งบนรถปีศาจนั่นยกขาไขว่ห้างหยิบหนังสือขึ้นมาอีกครั้งแล้วมองฉัน “อย่าตายล่ะ” พอพูดจบรถปีศาจคันนั้นก็พาเขาบินขึ้นไปบนท้องฟ้า
เจียงเหยี่ยนค่อยๆ ปล่อยมือที่จับฉันไว้เหมาเหมาและซืออีนั่วก็ค่อยๆ เดินออกมาจากด้านหลังของชิงิฉันก้มลงหยิบจดหมายที่หล่นอยู่บนพื้น และในตอนที่เปิดออกก็เห็นตัวหนังสือที่เขียนเอาไว้บนกระดาษว่า“ขอให้นักศึกษาใหม่ทุกคนมารวมกันที่หอประชุมหลิงเซียวเพื่อเตรียมตัวเข้ารับการทดสอบ”
“การทดสอบสำหรับนักศึกษาใหม่” เหมาเหมาใและทุกคนก็พากันมองมาที่จดหมายในมือฉันด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียดในทันที
การทดสอบนักศึกษาใหม่นี่มันคืออะไรอีกล่ะเนี่ยทดสอบก่อนเข้าเรียนงั้นเหรอ
นี่ฉันต้องเข้าร่วมทุกการทดสอบเลยสินะ
ตอนนี้เราทุกคนนั่งรวมกันอยู่ที่โซฟาในห้องนั่งเล่นทุกคนไม่มีใครพูดอะไรออกมา บรรยากาศเปลี่ยนเป็อึดอัดขึ้นมาทันที
ซืออีนั่วกลับมาเป็เด็กออทิสติกที่เอาแต่หลบอยู่ด้านหลังงูขาวของเขาอีกแล้วเหมาเหมาก็เอาแต่นั่งก้มหน้าไม่กล้าพูดอะไรออกมา เจียงเหยี่ยนก็เอาแต่ดูดนม...เอ่อไม่ใช่สิเืต่างหากล่ะ ชิงิก็นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่อย่างจริงจัง
นี่ทุกคนเป็อะไรกันไปหมด
รู้สึกว่าการทดสอบสำหรับนักศึกษาใหม่จะไม่ใช่เื่ง่ายๆเลยสินะ
โดยเฉพาะสีหน้าของชิงินั้นทำอย่างกับจะมีคนตายอย่างนั้นแหละ
“นี่ทุกคนเป็อะไรกันทำไมไม่พูดอะไรเลยล่ะ” ฉันอดสงสัยไม่ได้เลยพูดทำลายบรรยากาศนี้ขึ้นมา
ซืออีนั่วไม่กล้าเงยหน้าเขาแอบมองฉันอยู่ด้านหลังของเสี่ยวไป๋ แต่เสี่ยวไป๋กลับเอนหัวลงไปซบเหมาเหมาที่นั่งอยู่ข้างๆมัน เหมาเหมาทึ้งหัวตัวเองด้วยความยุ่งยากใจและก็หันไปสบตาเจียงเหยี่ยน
ดูเหมือนว่าคนที่จะบอกทุกอย่างในหอพักนี้น่าจะเป็เจียงเหยี่ยนสินะ
เจียงเหยี่ยนวางถุงเืลงและมองหน้าฉันด้วยความกังวล“ที่จริงแล้วการทดสอบสำหรับเด็กใหม่มันไม่ยากหรอก”
“เห็นไหมล่ะ ฉันว่าแล้ว” ฉันถอนหายใจอย่างโล่งอกมองพวกเขายิ้มๆ “สอบข้อเขียนหรือสัมภาษณ์ล่ะ”
สีหน้าเจียงเหยี่ยนดูเครียดขึ้นมาในทันทีเหมือนกับสีหน้าของชิงิที่ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนว่าฉันจะไม่ชีวิตรอดกลับมา
“มันคือการ...จับผี” ทันทีที่เสียงเขาเงียบลง ร่างทั้งร่างของฉันก็นิ่งไปทันที
จะ จะ...จับผีเนี่ยนะ
ตอนนี้สมองฉันเบลอไปเลย เหมือนกับหน้าจอคอมที่ไม่มีสัญญาณตอบกลับ
แต่จะว่าไปแล้วนี่มันยังมีอะไรที่ไม่ปกติอีกล่ะ
ที่นี่คือมหาลัยเทพและปีศาจนะ
แล้วการทดสอบความสามารถในการจับผีของนักศึกษาใหม่นี่มันคงไม่ใช่เื่แปลกอะไรหรอก
การสอบข้อเขียนหรือการสอบสัมภาษณ์อะไรพวกนั้นมันคือการสอบของคนในโลกมนุษย์และต่อให้เป็โลกมนุษย์มหาลัยที่ดังๆ ก็ยังต้องมีการทดสอบความสามารถเลย
ทุกคนรวมทั้งเจียงเหยี่ยนต่างมองหน้าฉันด้วยความกังวลเจียงเหยี่ยนพูดต่อ “เธอไม่เหมือนกับนักเรียนทุกคนที่อยู่ในมหาลัยเทพและปีศาจแห่งนี้พวกเราทุกคนอยู่ที่นี่ั้แ่เด็ก ถ้าพูดกันตามรูปแบบวิธีการสอนในโลกมนุษย์ตอนเข้าอนุบาลพวกเราก็เริ่มรับรู้ถึงความสามารถของตัวเองแล้ว พอเริ่มเข้าเรียนประถมเราก็เรียนรู้วิธีควบคุมพลังของตัวเองและความรู้ทั่วไปดังนั้นพอเรียนจบชั้นประถมเราก็เลยพอมีความสามารถขั้นพื้นฐานในการล่าปีศาจและจับผีกันแล้วนี่เป็ครั้งแรกเลยที่เราเห็นคนอายุเยอะแบบเธอเข้ามาเรียนที่นี่” เจียงเหยี่ยนพูดจบด้วยความรู้สึกประหม่า
ฉันมองหน้าทุกคนเหมาเหมาก็มีสายตาที่ดูกังวลและประหม่าเช่นกัน
ฉันพอจะเข้าใจแล้วว่า ทำไมตอนอยู่ที่หอพักผู้โดยสารถึงได้มีคนบอกว่าฉันแก่ที่แท้พวกเขาก็อยู่ที่นี่มาั้แ่เด็กนี่เอง
“ไม่ผ่านการทดสอบมันเป็แค่เื่เล็ก...” เจียงเหยี่ยนมองฉันด้วยความเป็ห่วง "แต่เรากลัวว่ามันจะเป็อันตรายต่อชีวิตเธอ"
อะไรนะ!
นี่คือฉันต้องเสี่ยงชีวิตในการเข้ามาเรียนในมหาลัยเหรอเนี่ย
ประโยคที่เขาพูดออกมาทำให้ฉันอยากจะหนีไปซะั้แ่ตอนนี้เลย
“อย่ากลัว” จู่ๆ ชิงิก็พูดขึ้นมานิ่งๆน้ำเสียงทุ้มต่ำของเขาเรียบนิ่งเหมือนกับใบหน้าที่นิ่งขรึมของเขาทำให้รู้สึกว่าปลอดภัยแต่ว่าพอเขาพูดสองคำนั้นจบก็ไม่มีคำพูดอะไรออกมาอีกเลยทำเพียงแค่ส่งสายตาที่ให้กำลังใจมาให้ฉัน
“ชิงิพูดถูกอย่ากลัว” เจียงเหยี่ยนเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ความกังวลที่มีก่อนหน้านี้หายไปเลย แล้วหันมามองหน้าฉันอย่างจริงจัง “พลังของผีมันก็มาจากความกลัวของคน”
ที่แท้ ที่ชิงิบอกกับฉันว่าอย่ากลัวคือไม่ได้หมายความว่าไม่ต้องกลัวการทดสอบแต่คือไม่ให้ฉันกลัวผี
“ใช่ๆๆ” เหมาเหมาดูตื่นเต้นขึ้นมาทันที “พี่เสี่ยวหลันปกติแล้วระดับของผีที่ใช้ในการทดสอบนักศึกษาใหม่จะไม่น่ากลัวแค่พี่ไม่กลัวมันแล้วก็อย่าเอาพลังทั้งหมดให้มัน มันก็ทำอะไรพี่ไม่ได้แล้ว”
"ถูกต้องแล้ว"เจียงเหยี่ยนพยักหน้าจริงจัง "ยิ่งเธอกลัวมันพลังของมันที่จะเข้าใกล้เธอก็ยิ่งมากขึ้น และมันจะทำให้เธอเห็นภาพหลอน มนุษย์ที่โดนผีฆ่าตายส่วนใหญ่ก็เพราะว่าตัวเองเกิดภาพหลอน ถ้าเธอไม่กลัวมัน มันก็ทำอะไรเธอไม่ได้"
“อ๋อ อ๋อ อ๋อ” ฉันพยักหน้าเหมือนจะพยายามทำความเข้าใจ ก็หมายความว่า ความกลัวเป็ที่มาที่จะทำให้ผีมีพลังขึ้นมานี่เอง
“ผีก็คือิญญาของคนหลังจากที่ตายไปแล้วถ้าจะให้พูดกันตามหลักวิทยาศาสตร์มันก็คือกลุ่มพลังงานแม่เหล็กกลุ่มหนึ่ง” จู่ๆ เจียงเหยี่ยนก็พูดถึงหลักวิทยาศาสตร์ขึ้นมา ทำให้ฉันรู้สึกมึนขึ้นมาทันที
เขายกถุงเืในมือขึ้นดูดจากนั้นก็อธิบายต่อด้วยสีหน้าจริงจัง“และความกลัวก็เป็แค่กลุ่มพลังงานกลุ่มหนึ่งเหมือนกันพวกผีมันจะมีความรู้สึกไวต่อพลังงานกลุ่มนี้มันสามารถดูดกลืนพลังงานกลุ่มนี้แล้วทำให้มันแข็งแรงขึ้นมาได้ พอมันแข็งแรงขึ้นมันจะสามารถควบคุมประสาทเธอได้ทำให้เธอเห็นภาพหลอนและแม้แต่จุดมุ่งหมายของเธอมันก็ควบคุมได้ เธอเข้าใจรึยัง”
ฉันมองเขาอึ้งๆตกลงที่นี่มันคือมหาลัยเทพและปีศาจหรือว่ามหาลัยเทคโนโลยีฮาร์วาร์ดกันแน่เนี่ยทำไมฉันถึงรู้สึกว่าฉันมาอยู่ผิดที่ผิดทางกันนะ
ฉันกะพริบตาปริบๆ “เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้วแค่ไม่กลัวผีไม่ต้องให้พลังงานกับมัน”
“อื้ม” ชิงิพยักหน้าอย่างหนักแน่น
“โอ้โหพี่เสี่ยวหลันฉลาดมาก” เหมาเหมาตบมือด้วยความตื่นเต้น
ฉลาดบ้านเธอสิแค่บอกว่าอย่ากลัวก็พอแล้วจะพูดถึงทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ขึ้นมาทำไม ฉันเกือบจะมึนแล้วนะดีนะที่สมองฉันกลั่นกรองข้อมูลได้เร็ว
“พี่เสี่ยวหลันพี่เก่งมาก” ซืออีนั่วหลบอยู่ข้างหลังงูขาวนั่น และมองหน้าฉันอย่างกล้าๆกลัวๆ
นี่เรียกว่าเก่งแล้วเหรอ
แต่พวกนายเป็ทั้งเทพทั้งปีศาจเลยนะ
แล้วฉันล่ะ
“นักศึกษาใหม่ทุกคนโปรดทราบการทดสอบกำลังจะเริ่มแล้ว ขอให้รีบมาพร้อมกันที่หอประชุมหลิงเซียวด้วยค่ะ” ทันใดนั้นก็ราวกับมีเสียงจากฟ้าแทรกทะลุลงมาจากหลังคาบ้านที่พวกเรานั่งอยู่
“เริ่มแล้ว!” เหมาเหมาลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นเต้นสีหน้าแสดงความตื่นเต้นออกมายิ่งกว่าอะไรทั้งหมด “พี่เสี่ยวหลันสู้ๆ นะ”
เจียงเหยี่ยนลุกขึ้นยืน “เดี๋ยวก่อน”
ทุกคนมองไปทางเขาด้วยความสงสัย เขาพลิกตัวลงกลางโต๊ะสองสามทีและวางกระดาษยันต์ใบหนึ่งลงตรงหน้าฉัน“เอานี่ไปถ้าสู้มันไม่ได้ให้เอากระดาษยันต์นี้แปะที่ตัวเธอ ผีจะมองไม่เห็นเธอ แล้วเธอค่อยรีบหนีออกมาถึงแม้จะได้คะแนนไม่สูงแต่ก็น่าจะพอผ่านมาได้”
ฉันรับกระดาษยันต์แผ่นนั้นมาดูนั่งอึ้งอยู่สักจึงพักเงยหน้ามองเขา “นายไม่มีของที่จะทำให้ฉันกำจัดผีได้เลยเหรอ”
สีหน้าของเขาดูกระอักกระอ่วนอย่างบอกไม่ถูก“เอ่อ...ฉันว่าเธอ…น่าจะเอายันต์ไปแปะบนตัวมันไม่ได้หรอก” พูดจบเขาก็ยกถุงเืขึ้นมาดูดต่อโดยที่ไม่กล้ามองหน้าฉัน