2 ปีต่อมาิเทียนเยว่ลืมตาขึ้นอีกครั้งเขาขมวดคิ้วเล็กน้อย
ตบะไม่ก้าวหน้าแล้ว! ระดับมหายานระยะสมบูรณ์
ตรวจสอบซักพักิเทียนเยว่ก็ได้ทรายว่าตนเองมีดวงชะตาไม่มากพอที่จะพิสูจน์เซียน...เื่นี้ไม่เกี่ยวกับคุณสมบัติ
'จำต้องรอให้ถังจื่อดำเนินการเสร็จ...หรือจะไปหาศิษย์มาเพิ่มดี' ิเทียนเยว่ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะตัดสินใจเดินทางไปหาิเหยา สาวน้อยผู้เก็บตัว
...
ณ ป่าลึกแห่งหนึ่ง ถ้ำเล็กๆ ิเหยานั่งสมาธิอยู่ ผ่านมานานปีหน้าตานางยังคงดูเ็าเช่นเดิม ต่างจากคนอื่นก็เพียงแค่นางแทบไม่ต่างจากเมื่อหลายปีก่อนเลยแม้แต่น้อย
นางลืมตาขึ้นทันที ที่ััได้ว่ามีคนกำลังเข้ามาใกล้นากรีบเก็บข้าวของเตรียมตัวหนีทันที ตอนนี้นางเป็ถึงตัวตนระดับฝ่าด่านเคราะห์์ขั้นสองแล้ว แต่นิสัยกลัวคนของนางนั้นก็ยังไม่หายไป ทั้งยังทวีคูณมากขึ้นจากฉากในวันที่ถังจื่อทำลายสำนักของนาง...
"เ้านี่นะ เหมือนข้าเสียจริง..." ิเทียนเยว่ใช้พลังเวทหยุดยั้งิเหยาไว้ไม่ให้เหาะหนีไป
"...ทะ...ท่านอาจารย์" ิเหยาพูดตะกุกตะกัก แววตาโล่งใจขึ้นเล็กน้อย
"พี่ใหญ่ไม่ปกติแล้วเ้าค่ะ" ิเหยาพูดทุกอย่างที่อัดอั้นออกมา กล่าวต่อว่าถังจื่อมากมาย ทั้งยักงกล่าวต่อว่าิฝานด้วยเ้าพี่ชายอายุเท่ากันผู้นี้ หายตัวไปนานจู่ๆก็มาไล่สังหารนางอย่างบ้าคลั่ง
ิเทียนเยว่ได้ฟังก็สงสารนางยิ่ง นางเป็คล้ายเป็ภาพสะท้อนของิเทียนเยว่ที่ไม่มีระบบ ต้องระหกระเหเร่ร่อนไปทั่วเสาะหาสถานที่เงียบสงบฝึกบำเพ็ญ
หลังจากฟังเื่ราวอยู่นานสองนานิเหยาก็เล่าจบแล้ว
"...เ้ากลับไปทีู่เาสงบจิตเถิดอย่างน้อยอยู่ที่นั่นก็ปลอดภัยสงบใจบำเพ็ญได้" ิเทียนเยว่ยิ้มเล็กน้อยกล่าวขึ้น
หลังจากิเหยาได้ยินก็ขอบคุณยกใหญ่เตรียมพร้อมออกเดินทางทันที
...
กลับมายัง ูเาสงบจิต ตลอดเวลาที่เดินทางกลับมา ิเทียนเยว่ได้เปิดหูเปิดตาแล้ว เขาคิดว่าตัวเองขี้กลัวแล้ว สาวน้อยนางนี้อาการหนักกว่าเขาเสียอีก...แม้จะเป็ตัวตนระดับฝ่าด่านเคราะห์แล้วแต่ก็หวาดกลัวทุกสิ่งอย่าง สัตว์อสูรที่บังเอิญผ่านทางหากหลบเลี่ยงไม่ได้นางมักจะใช้พลังเต็มที่ ทำลายล้างสัตว์อสรูไม่เหลือแม้แต่ซากตลอด ขณะที่เหาะกลับมาก็มักจะมองซ้ายมองขวาอยู่เรื่อย
ทำเอาิเทียนเยว่รู้สึกผิดที่ปีนั้นปล่อยนางออกมาข้างนอกทั้งที่ไม่อยากเช่นนี้...
เมื่อถึงยอดเขาแล้วิเหยาก็กลับไปบำเพ็ญเช่นเดิมในกระท่อมที่นางเคยอาศัยเมื่อยังเยาว์วัย
ิเทียนเยว่กำลังจะบอกให้นางไปเยี่ยมหลานเสียหน่อยแต่ก็ไม่ทันแล้ว แม่หนูนี่ปิดด่านเร็วเสียยิ่งกว่าเขาอีก..
ด้วยเหตุนี้เขาจึงมีแผนจะให้นางไปเป็อาจารย์ในสำนักเสียเลย อย่างน้อยๆต้องดัดนิสัยขี้ระแวงเกิดขนาดนี่เสียหน่อย
ดันใดนั้นิเทียนเยว่ พลันขมวดคิ้วเขาแผ่จิตััไปยัง จักรวรรดิฉางจิ่ว เขาพบว่าผู้คนในเมืองมากกว่าครึ่งสิ้นใจไปแล้ว
ต้นเหตุนั้นมาจากสิ่งมีชีวิตประหลาดสีดำทมิฬ รูปร่างบิดเบี้ยว ไล่ฆ่าสังหารชาวบ้าน และผู้ฝึกตนมากมายราวผักปลา..
"ิฝานหรือ" ิเทียนเยว่แสดงสีหน้าบิดเบี้ยว เมืองสังเกตดูดีๆเขาถึงได้จำศิษย์ผู้นี้ของเขาได้จากคนที่เขาคิดว่าเป็ตัวเอกของโลกตอนนี้เป็เพียงสัตว์ประหลาดไร้สติเท่านั้น
ิเทียนเยว่ไม่รอช้าเคลื่อนย้ายไปยังจักรวรรดิฉางจิ่วทันที
บัดซบ หลานข้ายัไม่ทันโตเลย!
เขาพุ่งตัวไปหาิหลิงทันที เขาพบว่ากลิ่นอายของิหนิงหนิงในตอนนี้อ่อนแอยิ่ง เขาพลันขมวดคิ้วแน่นยิ่งกว่าเดิม
...
...
ภายในเมือง
"หนิงเอ๋อร์ทนหน่อยนะ" ิหลิงที่ตอนนี้กำลังอุ้มิหนิงหนิงผู้กำลังหอบหายใจอย่างโรยรินอยู่ด้านหลังมืออีกข้างอุ่มดรุจณีน้อยที่กำลังร้องไห้เอาไว้แน่นอวว่าคือิฉางเอ๋อร์...
"จิ๊ๆ ข้าแค่เล่นด้วยนิดหน่อยก็จะตายเสียแล้ว ไม่ใช่ว่ารู้จักกับข้าหรือ" ก้อนเนื้อประหลาดสีดำที่ค่อยๆเดินตามมาอย่างสบายๆกล่าวขึั้นด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ...
ิหลิงไม่ตอบอันใดเพียงแต่วิ่งสุดชีวิตเท่านั้น
ฉึก! ของเหลวสีดำพุ่งเข้าไปแทนที่ขา ของิหลิงเบาๆ แต่ก้ทำให้เกิดแผลลึกขึ้น
'อึก...' ิหลิงไม่ร้องออกมาเลยพยายามวิ่งต่อไปเท่านั้น อีกฝ่ายไม่ได้้าฆ่าเขาในทันทีแต่้าทรมารเข้าเล่นเท่านั้น
'บัดซบ มันเป็ตัวอะไรกัน' ิหลิงได้แต่โห่ร้องอยู่ในใจที่เขาเป็ห่วงที่สุดในตอนนี้คือลูกเมีย ตัวเขาตายได้แต่ทั้งคู่ต้องรอด!
ทันใดนั้นเองกลันมีเสียงแหลมดังขึ้นมาจากข้างหู
วิ๊ง~~~ ิเทียนเยว่พุ่งมาพร้อมกับกระบี่ผ่าดาราในมือ ด้วยความเร็วที่สามารถผ่าได้แม้แต่อากาศ
ปัง! ิเทียนเยว่ใช้กระบี่ฟันเข้าที่ของก้อนของเหลวสีดำอย่างรุนแรงจนมันกระเด็นลอยไปไกล กระจัดกระจายเป็ชิ้นเล็กชิ้นน้อย
อีกมือพลันใช้พลังเวทรักษาชีวิตของิหนิงหนิงและเคลื่อนย้ายทั้งสามไปยังูเาสงบจิต ในทันใด
...
"ฮิฮิฮิ๊ เหมือนจะมีคนรู้จักมาอีกแล้ว" ของเหลวสีดำเคลื่อนตัวเขามาประกอบกันปรากฏเป็ร่างของิฝานที่ตอนนี้ไม่ใช่แม้แต่มนุษย์เสียด้วยซ้ำ เป็เพียงของเหลวสีดำแปลกๆที่จำลองร่างกายให้มีบางส่วนคล้ายกับิฝานเฉยๆ
"ศิษย์เอ๋ย เ้าไปไกลถึงเพียงนั้นได้เยี่ยงไร" ิเทียนเยว่กำกระบี่ในมือแววตาเศร้าสร้อยยิ่ง...เด็กน้อยที่เขาเลี้ยงมากับมือยามนี้ไม่มีตัวตนอยู่แล้ว...
"ศิษย์หรือ??? อ๋อเ้าเป็คนที่ไอเ้าตาแดงผู้นั้นเรียกว่าอาจารย์นี่เอง มันผนึกข้าเสียตั่งหลายรอบ น่ารำคาญเสียจริง" ิฝานแสยะยิ้มเอียงคอ นำเสียงเต็มไปด้วยความหงุดหงิดและสับสนวุ่นวาย
"ช่างเถิด มาเล่นกับข้าหน่อยดีกว่า เนื้อเ้าดูน่าอร่อยดีนี่!" ิฝานเลียริมฝีปากก่อนจะสะบัดมือเบาๆปรากฏเป็หนามแหลมสีดำมากมายทิ่มแทงไปยังิเทียนเยว่อย่างต่อเนื่อง
ิเทียนเยว่ไม่ได้พูดอะไรเพียงตวัดกระบี่ในมือทำลายหนามแหลมอย่างไม่ยากเย็น เขาหรี่ตามองิฝานด้วยแววตาครุ่นคิดเขากำลังคิดหาวิธีสังหารอีกฝ่ายอยู่...ใช่แล้ว สังหารสิ้น
'ไม่มีแม้แต่ดวงิญญาด้วยซ้ำ...' ิเทียนเยว่ ลอบคิดในขณะที่กำลังปัดป้องหนามแหลมมากมายอย่างง่ายดายอยู่ นี่เป็เหตุที่เขาไม่สามารถสำผัสถึงตัวอีกฝ่ายได้แต่แรก เพิ่งรู้ตัวในตอนที่ิหนิงหนิงโดนทำร้ายเท่านั้น ไร้ิญญา ร่างกายก็เปรียบดังไอน้ำไร้รูปร่างแน่นอน
"เฮี๊ยกกกก" ิฝานส่งเสียงประหลาดออกมาท้องฟ้าพลันแปลเปลี่ยนเป็สีดำทมิฬร่วงลงมาใส่ิเทียนเยว่เป็เส้นตรง
ิเทียนเยว่แหงนหน้ามอง พลันส่งกระแสจิตหาถังจื่อในทันใด เพราะเขาไม่มีวิชาผนึกใดๆ ทั้งยังไม่มีวิธีสังหารอีกฝ่ายด้วย
ฉิ้ง! ิเทียนเยว่ตั่งท่าเตรียมร่ายรำกระบี่
กระบี่ทลายิญญา กระบวนท่าที่ 10 - กระบี่สลายจิต
ทันใดนั้นเองแสงวูบพลันปรากฏขึ้นท้องฟ้าพลันแยกออกเป็หกเหลี่ยม ท้องฟ้าสีดำทมิฬพลันกลับเป็ขาวโพลนในทันใด
"เห้ย เ้าขี้โกงเมื่อครู่เ้าทำสิ่งใดลงไป" ิฝานะโโลดเต้นอย่างใ พลันกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น อารมณ์ผันแปรสับสนวุ่นวายไปหมด
ิเทียนเยว่ไม่รอช้า ใช้พลังเวทคลุมไว้รอบกายของิฝ่านสะกดไม่ให้อีกฝ่ายหนีไปไหนได้ ทั้งยังปิดกั้นเสียไม่ให้อีกฝ่ายได้พล่ามอะไรออกมาด้วย
พูดจาแปลกประหลาดด้วยใบหน้าของศิษย์ต้น ในใจิเทียนเยว่เ็ปอย่างมาก...
ผ่านไปไม่นานนักถังจื่อก็มารับตัวิฝานไปผนึกอีกครั้ง ิเทียนเยว่ได้แต่มองด้วยสายตาซับซ้อน...
มีแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น!
เมื่อิเทียนเยว่กลับมายังูเาสงบจิตก็พบว่าิเหยาออกมาดูแลน้องๆของนางแล้ว ไม่มีอะไรต้องห่วงอีก
ิเทียนเยว่พยักหน้าให้ทั้งสี่เล็กน้อย ิฉางเอ๋อร์หมองิเทียนเยว่ด้วยสายตาสงสัย นางยังเป็เพียงเด็กน้อยที่ไม่รู้ความมากนักิเทียนเยว่ไม่ได้กล่าวอะไรเพียงลูบหัวนางแล้ะรีบเข้าสู่สภาวะบำเพ็ญในทันที
หน้าที่ปลอบขวัญมอบให้เป็งานของิเหยาอย่างไรเสียเด็กคนนี้ก็ต้องรับมือผู้คนเสียบ้าง ขนาดเด็กน้อยอย่างิฉางเอ๋อร์นางยังไม่กล้าเข้าไปทักทายเสียด้วยซ้ำ...
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็ความรับผิดชอบของเขา
หากเขาไม่ปล่อยเด็กทั้งสองออกจากบ้านในปีนั้นเื่ราวก็คงไม่บานปลายเละเทะเช่นนี้
หากเขาไม่หวังใช้งานเด็กให้ไปหาผลกุศลมาให้ ทุกคนคงไม่ต้องฆ่าฟันกันเช่นนี้
หากเขาแข็งแกร่งกว่านี้คงลบล้างจิตอัปมงคลนั่นได้อย่างง่ายดาย
ทั้งหมดนี้....เป็ความผิดของข้าเอง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้