ครึ่งเดือนต่อมา เมืองจูเซียน ตระกูลเนี่ย
จางเสินซวีบีบพัดกระดาษสีขาวที่ถือไว้แน่นก่อนหรี่ตามองศิษย์ตระกูลเนี่ย
“เนี่ยเทียนป้ายังไม่กลับมาอีก?” จางเสินซวีถามเสียงเย็น
“ท่านเซียนจาง หลายวันที่ท่านจากไป นอกจากออกค้นหาตัวองค์หญิงโยวเยว่แล้ว พวกเราก็ยังรอฟังข่าวจากท่านประมุขเหมือนกันขอรับ เวลาผ่านมาเกินครึ่งเดือนแล้ว ยังไม่มีข่าวอะไรจากท่านประมุขเลย พวกเรา พวกเรา…!” ศิษย์ตระกูลเนี่ยทุกคนต่างตัวเนื้อสั่น
ด้านหลังจางเสินซวี ศิษย์พรรคอีกาทองคำอีกคนก็ขมวดคิ้วเอ่ย “ศิษย์พี่จาง หรือเ้าเนี่ยเทียนป้านั่นตามหาตัวองค์หญิงโยวเยว่ไม่เจอเลยหนีไปแล้ว?”
ใบหน้าจางเสินซวีแข็งทื่อ เนี่ยเทียนป้าหนีไปแล้ว? แล้วป้ายคำสั่งอีกาทองคำของข้าล่ะ?
ตุบ!
ศิษย์ตระกูลเนี่ยต่างพากันคุกเข่าโขกศีรษะทันที “ท่านเซียนจางได้โปรดระงับโทสะ ท่านประมุขไม่หนีไปไหนเด็ดขาด ตระกูลเนี่ยเรายังอยู่ที่นี่ ท่านประมุขไม่มีทางทอดทิ้งพวกเรา!”
แต่ผ่านมาเกินครึ่งเดือนแล้ว ต่อให้หาตัวองค์หญิงโยวเยว่ไม่พบ อย่างน้อยก็ควรกลับมารายงานข้าบ้าง ป้ายคำสั่งอีกาทองคำข้าก็ยังอยู่ในมือเ้า
ป้ายคำสั่งอีกาทองคำข้ามีอยู่ใบเดียว ถ้าหากถูกประมุขตระกูลผู้ฝึกฌานตัวจ้อยขโมยไป มันจะไม่กลายเป็ตัวตลกหลังกลับไปถึงพรรคอีกาทองคำหรอกหรือ?
“ฮึ่ม ไปตามหาเนี่ยเทียนป้าให้ข้า ไม่อย่างนั้นข้าจะล้างบางตระกูลเนี่ย!”
“ขอรับ!” ศิษย์ตระกูลเนี่ยต่างพากันคุกเข่าโขกศีรษะ
“ศิษย์พี่จาง ท่านมอบป้ายคำสั่งอีกาทองคำของตัวเองให้ผู้อื่นใช้หรือ?” ศิษย์น้องทางด้านหลังถาม
จางเสินซวีใบหน้าแข็งค้าง ศิษย์น้องของมันก็คาดเดาได้แล้ว จางเสินซวีจะตอบรับเื่น่าขายหน้านี้เช่นไร? มันทำได้เพียงปั้นหน้าเ็าเข้าสู้
“เมื่อไม่กี่วันก่อนข้าเห็นคนถือป้ายคำสั่งอีกาทองคำของท่าน พอถามว่าจะไปไหนมันก็ไม่ได้ตอบ นั่นไม่ใช่ศิษย์พี่เป็คนสั่งการหรอกเรอะ?” ศิษย์น้องถามอย่างสงสัย
“เ้าว่าอะไรนะ? เ้าเห็นป้ายคำสั่งอีกาทองคำข้า?” จางเสินซวีชะงักไป
“ใช่แล้ว! พอถามไปแล้ว นอกจากไม่ตอบข้า พวกมันยังด่าข้าด้วย! บอกว่าข้าเป็แค่ศิษย์กระจอกชั้นต่ำ มีสิทธิ์อะไรมาถามมันที่ถือป้ายคำสั่งระดับสูง? ข้า…เพราะเห็นแก่หน้าท่าน ข้าเลยไม่ได้ใส่ใจเอาความพวกมัน!” ศิษย์น้องเล่า
“แล้วคนผู้นั้นหน้าตาอย่างไร? เป็เนี่ยเทียนป้าหรือไม่?” จางเสินซวีถาม
ศิษย์ตระกูลเนี่ยรีบนำภาพเหมือนของเนี่ยเทียนป้ามาให้ทันที
“อืม ดูเหมือนจะไม่ใช่ ข้าจำหน้าตาไม่ค่อยได้ แต่ไม่ใช่เนี่ยเทียนป้าในภาพเหมือนนี่แน่นอน!” ศิษย์น้องตอบ
จางเสินซวีเลิกคิ้วสูง “แล้วเกิดอะไรขึ้นกับเนี่ยเทียนป้า?”
“โอ้?”
“ที่ไหน? พวกมันอยู่ที่ไหน?” จางเสินซวีมองศิษย์น้องเขม็ง
“พวกมันรึ? ตอนนี้ข้าไม่รู้แล้ว แต่ดูจากทิศทางของพวกมัน ยามนี้สมควรกำลังเดินทางไปยังพรรคเทพหมาป่า์!” ศิษย์น้องทบทวนความคิด
“ทางไปพรรคเทพหมาป่า์? หรือจะเป็องค์หญิงโยวเยว่? ไม่ได้การ!” จางเสินซวีหน้าเปลี่ยนสี
ขณะเอ่ยคำจางเสินซวีก็โบกมือ
“แกว๊ก!”
นกกระเรียนสองตัวโฉบลงมาจากฟากฟ้า
“ไป พาข้าไป!” จางเสินซวีะโขึ้นไปบนนกกระเรียนก่อนะโสั่ง
นกกระเรียนคู่นั้นพลันทะยานขึ้นฟ้าสูง เหาะมุ่งหน้าไปทางเหนือ
หลังผ่านไปสิบแปดวัน พวกหวังเค่อทั้งสามก็มาถึงด้านนอกพรรคเทพหมาป่า์
พรรคเทพหมาป่า์กว้างใหญ่ไพศาลยิ่ง ข่ายปราณขนาดั์โอบล้อมมหาบรรพตไว้ทุกทิศทาง ทั้งยังมีหมอกหนาปกคลุมไม่ให้คนนอกมองเห็นสภาพความเป็ไปในพรรค ด้านนอกพรรคยังมีอนุสรณ์ขนาดั์ตั้งตระหง่านดูยิ่งใหญ่สุดประมาณ
ไม่ไกลจากพรรคเทพหมาป่า์ยังมีเมืองเซียนนามว่า ‘หลางเซียน’ อยู่!
เพราะเมืองหลางเซียนตั้งอยู่ใกล้กับพรรคเทพหมาป่า์ ทำให้ผู้ฝึกฌานมากมายต่างลงหลักปักฐานกันในเมือง จนเมืองหลางเซียนใหญ่โตกว่าเมืองจูเซียนอย่างเทียบไม่ติด
ศิษย์พรรคเทพหมาป่า์เองบางครั้งก็ลงมาหาซื้อสมุนไพรวิเศษหรือวัตถุดิบทั้งหลาย การมีเมืองเซียนตั้งอยู่ข้างพรรคทำให้ชีวิตสุขสบายขึ้นมาก ทำให้พรรคยอมรับเมืองหลางเซียนที่ตั้งอยู่ใกล้เคียง
พวกหวังเค่อเดินทางมาถึงเมืองหลางเซียนก่อนจะพักอยู่ในจวนหลังใหญ่
“พี่หวัง ตระกูลหวังท่านช่างลึกลับนัก เมืองหลางเซียนทุกตารางนิ้วล้วนสูงค่าดั่งทอง ตระกูลหวังท่านซื้อคฤหาสน์หลังโตปานนี้ได้อย่างไร? แถมยังใกล้กับพรรคเทพหมาป่า์เสียอีก? ถึงกับมองเห็นประตูทางขึ้นบรรพตเซียนพรรคเทพหมาป่า์ด้วยซ้ำ!” จางเจิ้งเต้ากล่าวห่างออกไปไม่ไกล
องค์หญิงโยวเยว่ที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเดินเข้ามาสมทบ
หวังเค่อนั่งอยู่ในสวนหย่อมพลางฟังรายงานจากลูกน้องคนหนึ่ง
“เ้าออกไปก่อน!” หวังเค่อสั่งลูกน้อง
“ขอรับ ท่านประมุข!” ศิษย์ตระกูลหวังถอยไปอย่างนอบน้อม
ศิษย์ตระกูลหวังคนนี้ย่อมไม่ใช่ศิษย์ตระกูลหวังจากเมืองจูเซียน แต่เป็คนที่หวังเค่อส่งมาประจำการอยู่เนิ่นนานมาแล้ว มันตั้งรกรากอยู่ในเมืองนี้มาหลายปี ย่อมไม่มีใครเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของมันกับหวังเค่อได้
“เมื่อสิบปีก่อนข้าคิดอยากฝากตัวเข้าร่วมพรรคเทพหมาป่า์ ข้าย่อมต้องหาลู่ทางเตรียมไว้ั้แ่เนิ่นๆ!” หวังเค่ออธิบาย
“หวังเค่อ ข้ารู้แล้วว่าท่านมีความลับเยอะ ยังมีอะไรอีกที่ข้าไม่รู้อีก? จริงหรือเปล่าที่ท่านส่งลูกน้องไปประจำการทั้งเจ็ดสิบสองเมืองเซียนทั่วสิบหมื่นมหาบรรพต?” จางเจิ้งเต้าถามอย่างใคร่รู้
หวังเค่อกลอกตาโดยไม่ตอบคำ เื่แบบนี้มันจะเล่าออกมาง่ายๆ ได้อย่างไร?
“หวังเค่อ พวกเรามาถึงด้านนอกพรรคเทพหมาป่า์แล้ว ทำไมถึงไม่ขึ้นูเาไปเลยเล่า? จะรั้งรออยู่นี่ไปไย?” องค์หญิงโยวเยว่ถาม
“ข้ามีนิสัยชอบทำการอย่างมั่นคง ก่อนอื่นต้องดูสถานการณ์ให้ถี่ถ้วนก่อนจะเข้าฝากตัวเป็ศิษย์ เหอะ โชคดีนักที่ข้าได้ข่าวมาแล้ว!” หวังเค่อยิ้มขื่น
หวังเค่อมององค์หญิงโยวเยว่ด้วยสีหน้าซับซ้อน
“มีเื่อันใด?” องค์หญิงโยวเยว่ถามอย่างสับสน
“ตอนนี้ข้าเข้าใจแล้วว่าพรรคอีกาทองคำออกประกาศจับท่านทำไม!” หวังเค่อยิ้มเจื่อน
“เพราะ?” องค์หญิงโยวเยว่ถามอย่างงุนงง
“ข้าจำได้ท่านเล่าว่าศิษย์พี่ใหญ่พรรคเทพหมาป่า์เคยไล่จีบท่านใช่หรือไม่? ตอนนั้นเสด็จแม่ท่านไม่ยินยอม ครั้งนี้้ท่านมาเยือนพรรคเทพหมาป่า์เพื่อหวังสานสัมพันธ์ในกาลก่อนใช่หรือเปล่า?” หวังเค่อมองหน้าองค์หญิงโยวเยว่พลางถาม
“ถูกต้อง ศิษย์พี่ใหญ่พรรคเทพหมาป่า์ นามมู่หรงลวี่กวง บรรลุถึงขั้นดวงธาตุทองคำ ในกาลก่อนตอนเขาจีบข้า เขาได้เข้าร่วมเป็แม่ทัพใหญ่ให้ราชวงศ์ชือกุ่ย ข้าขอร้องเสด็จแม่หลายครั้งแต่ไม่เคยได้รับอนุญาต ศิษย์พี่บอกว่าเขาจะรักเพียงข้าคนเดียวชั่วชีวิต และจะรอจนกว่าเสด็จแม่จะยอมรับ เขาจะส่งรถม้าแปดเกวียนมาสู่ขอข้า!” องค์หญิงโยวเยว่มีท่าทีขวยเขินเล็กน้อย
“มู่หรงลวี่กวงรักท่านปานนั้น ไฉนถึงปล่อยให้พรรคอีกาทองคำจับท่านไป?” จางเจิ้งเต้าสงสัย
“ต้องเป็เพราะศิษย์พี่มู่หรงไม่ทราบเื่รางวัลนำจับแน่!” องค์หญิงโยวเยว่รีบออกตัวปกป้องอีกฝ่าย
“ผ่านมานานขนาดนี้มันยังไม่รู้อีก?” จางเจิ้งเต้าเริ่มไม่เชื่อถือ
“จางเจิ้งเต้า ถ้าเ้าใส่ร้ายศิษย์พี่มู่หรงอีก ข้าจะไม่ไว้หน้าแล้วนะ!” องค์หญิงโยวเยว่จ้องเขม็ง
“ไม่พูดแล้ว ไม่พูดก็ได้!” จางเจิ้งเต้าพลันเงียบปากไปก่อนมองหวังเค่อ “พี่หวัง ท่านยังไม่ได้เล่าเลย เหตุใดพรรคอีกาทองคำถึงได้ออกประกาศจับองค์หญิงโยวเยว่!”
“เพราะพรรคอีกาทองคำ้าหยุดไม่ให้องค์หญิงโยวเยว่ไปยังพรรคเทพหมาป่า์ในวันพรุ่งนี้!” หวังเค่อที่เงียบมานานเอ่ยปากในที่สุด
“เพราะเหตุใด?” องค์หญิงโยวเยว่ถามด้วยสีหน้าเหม่อลอย
“เพราะพรุ่งนี้เป็วันวิวาห์ใหญ่ของมู่หรงลวี่กวงอย่างไร!” หวังเค่ออธิบาย
“งานวิวาห์? พี่มู่หรงจะแต่งงาน? เป็ไปไม่ได้ เ้าล้อข้าเล่นรึ?” องค์หญิงโยวเยว่ตัวแข็งทื่อ
“มู่หรงลวี่กวง? มันตบแต่งกับใคร?” จางเจิ้งเต้าถามอย่างใคร่รู้
“ศิษย์พรรคอีกาทองคำ จางหลี่เอ๋อร์!” หวังเค่ออธิบาย
“จางหลี่เอ๋อร์? ศิษย์พี่หญิงใหญ่แห่งพรรคอีกาทองคำ? ข้าได้ยินว่านางเป็นางโจร จู่ๆ ก็จะมาแต่งงาน? นี่จะเป็ไปได้อย่างไร?” จางเจิ้งเต้าอุทานอย่างแตกตื่น
“มู่หรงลวี่กวงกับจางหลี่เอ๋อร์กำลังจะแต่งงานกัน พินิจแล้วบางทีอาจเป็การแต่งทางการเมือง พรรคอีกาทองคำให้ความสำคัญกับงานแต่งนี้มาก แน่นอนพวกมันต้องไม่ยอมให้ใครมาถล่มงาน พรรคเทพหมาป่า์เองก็คาดหวังกับงานแต่งของทั้งคู่มากจึงยอมทำเป็หลับหูหลับตาไว้ น้องชายของจางหลี่เอ๋อร์ จางเสินซวีถึงกับเป็คนเสนอรางวัลประกาศจับองค์หญิงโยวเยว่ด้วยตัวเอง ทั้งหมดก็เพื่อไม่ให้องค์หญิงไปพังงานแต่ง!” หวังเค่ออธิบาย
“จางหลี่เอ๋อร์มีน้องชายด้วย? จางเสินซวี? ทำไมข้าถึงไม่รู้? ข้าเหมือนไม่เคยรู้จักคนชื่อนี้มาก่อน หรือมันจะมาจากนอกสิบหมื่นมหาบรรพต?” จางเจิ้งเต้าขมวดคิ้วใช้ความคิด
“ลูกน้องข้าไปสอบถามข่าวคราวมาแล้ว จางเสินซวีเพิ่งกลับมาจากนอกสิบหมื่นมหาบรรพตเพื่องานแต่งของพี่สาว! มันไม่เคยปรากฏตัวมาก่อน ดังนั้นทางพรรคอีกาทองคำจึงได้มอบป้ายคำสั่งอีกาทองคำให้มันพิสูจน์ตัวตนจะได้เดินทางโดยสะดวก!” หวังเค่ออธิบาย
“ป้ายที่อยู่กับเนี่ยเทียนป้าน่ะรึ?” จางเจิ้งเต้าชะงักไป
“มิผิด เนี่ยเทียนป้ากับลูกน้องมันถูกจางเสินซวีส่งมาตามหาพวกเรา ต่อหน้าจางเสินซวี เนี่ยเทียนป้าเจอแค่นิ้วมืออีกฝ่ายก็แพ้ไม่เป็ท่าแล้ว! เ้าเสินซวีผู้นี้สมควรเป็ยอดฝีมือระดับดวงธาตุทองคำ!” หวังเค่อขมวดคิ้ว
“เป็ไปไม่ได้ เป็ไปไม่ได้ เ้าโกหกข้า! พี่มู่หรงจะแต่งงานกับหญิงอื่นได้ยังไง? เขาบอกว่าจะตบแต่งข้าพร้อมส่งรถม้าแปดเกวียนมาสู่ขอ เป็ไปไม่ได้!” สองตาองค์หญิงโยวเยว่แดงก่ำ
“ท่านหมายความว่าต่อให้พวกเราไปถึงหน้าประตูพรรคเทพหมาป่า์และอีกฝ่ายรู้ว่าองค์หญิงโยวเยว่มา พวกมันก็ยังไม่ปล่อยให้เราเข้าไป?” จางเจิ้งเต้าถามด้วยสีหน้าเหม่อลอย
“เ้าคิดว่าไงล่ะ?” หวังเค่อถามเสียงเข้ม
“แล้วจะทำยังไงกันดี?” จางเจิ้งเต้าดูเลิ่กลั่ก
การเปิดเผยตัวองค์หญิงโยวเยว่ตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากโยนนางเข้าใส่กับดัก คิดเฝ้ารอการปกป้องจากพรรคเทพหมาป่า์รึ พรรคเทพหมาป่า์ไม่แยแสองค์หญิงโยวเยว่ด้วยซ้ำ
“จางเจิ้งเต้า ข้าจะถามเ้าอีกครั้ง เ้ามั่นใจแน่นะว่าประมุขพรรคเทพหมาป่า์จะปกป้ององค์หญิงโยวเยว่และยืนหยัดเคียงข้างนาง?” หวังเค่อจ้องหน้าจางเจิ้งเต้าพร้อมถามเสียงเข้ม
“ข้าสาบาน ข้าขอสาบานด้วยชีวิต! นี่เป็เื่จริง! ถ้าหากประมุขพรรคเทพหมาป่า์ทราบว่าองค์หญิงโยวเยว่ถูกเขี่ยทิ้ง มันจะต้องช่วยเหลือนางแน่! ข้าสัญญาเลย! เื่นี้ประมุขพรรคเทพหมาป่า์ไม่มีส่วนรู้เห็นด้วย ไม่อย่างนั้นมันไม่มีทางปล่อยให้ศิษย์ตัวเองทำเื่บ้าบอตามใจแน่!” จางเจิ้งเต้าสาบาน
หวังเค่อมองหน้าจางเจิ้งเต้าอยู่พักใหญ่ก่อนจะยอมทำใจเชื่อ เพราะถ้าหากพวกมันยังช่วยเหลือส่งตัวองค์หญิงโยวเยว่ให้เข้าพรรคเทพหมาป่า์ พวกมันก็นับว่าเดิมพันสูงเกินตัวไปแล้ว
“หวังเค่อ เ้าพาข้าเข้าไปในพรรคเทพหมาป่า์ที ข้าอยากเจอพี่มู่หรง ข้าอยากพบเขาแล้วถามซึ่งหน้า ทำไม! ข้าอยากถามเขาว่าทำไม!” องค์หญิงโยวเยว่ฉวยแขนเสื้อหวังเค่อไว้ด้วยสายตาวิงวอน
องค์หญิงโยวเยว่เองก็เข้าใจว่าต่อให้นางไปปรากฏตัวหน้าประตูทางขึ้นเขาพรรคเทพหมาป่า์ นางก็ไม่มีทางเข้าไปได้ ความหวังเดียวตอนนี้เหลือแค่หวังเค่อแล้ว
“องค์หญิงโยวเยว่ พรรคเทพหมาป่า์เป็พรรคเซียนชั้นแนวหน้าของสิบหมื่นมหาบรรพต ประตูทางขึ้นหุบเขาเซียนนอกจากมีศิษย์พรรคคอยเฝ้ายามแล้วยังปกคลุมด้วยข่ายปราณคุ้มกัน พวกเราเข้าไปไม่ได้หรอก ถ้าหวังเค่อเข้าไปได้ มีหรือมันจะต้องรอคอยถึงสิบปี! ข้าคิดว่าพวกเราคอยอยู่ที่นี่ไปก่อน ประมุขพรรคเทพหมาป่า์จะต้องออกจากด่านกักตนแน่! เมื่อประมุขพรรคออกมาแล้ว พวกเราค่อยขึ้นเขาดีหรือไม่?” จางเจิ้งเต้าพยายามเกลี้ยกล่อม
“ไม่เอา ไม่เอา พรุ่งนี้พี่มู่หรงก็จะแต่งงานแล้ว เขาบอกเขาอยากแต่งกับข้า แล้วทำไมถึงไปแต่งกับผู้อื่น? ทำไมข้าถึงต้องคอยมองดูที่นี่ด้วย? ข้าอยากจะถามเขาต่อหน้า อยากได้ยินคำตอบจากเขา!” องค์หญิงโยวเยว่กล่าวอย่างเศร้าสร้อยด้วยตาแดงก่ำ
จางเจิ้งเต้าได้แต่ทำหน้าจนใจ แล้วพวกเราจะเข้าไปยังไงก่อน?
อีกด้านหนึ่ง หวังเค่อขมวดคิ้วมุ่นก่อนจะลุกขึ้นเดินไปเดินมา
“ฮืออ ท่านแม่ไม่้าข้า พวกขุนนางกับขุนพลต่างหักหลังข้า ตอนนี้แม้แต่พี่มู่หรงก็ยัง…!” องค์หญิงโยวเยว่พลันคุกเข่าร้องไห้ออกมา
“ไม่ต้องร้อง!” หวังเค่อสูดหายใจลึก
องค์หญิงโยวเยว่มองหวังเค่อด้วยดวงตาเปียกชุ่ม
“ข้าจะพาท่านเข้าไปเอง!” หวังเค่อสูดหายใจก่อนกล่าวเสียงเข้ม
“พี่หวัง ท่านเสียสติไปแล้วรึ? วันนั้นท่านเคยเข้าพรรคเทพหมาป่า์ได้รึไง? ตอนนี้ทั้งพรรคอีกาทองคำและพรรคเทพหมาป่า์ต่างก็เฝ้าดูอยู่ ท่านกลับบอกว่าจะพาองค์หญิงโยวเยว่ขึ้นเขาเข้าพรรคได้? นี่จะเป็ไปได้อย่างไร?” จางเจิ้งเต้าไม่เชื่อ
“ไม่มีอะไรเป็ไปไม่ได้ ข้าผู้แซ่หวังรักษาคำพูดเสมอ พวกเราไม่เพียงจะเข้าไป แต่ยังจะเดินอาดเข้าประตูหน้าขึ้นเขาไปอีกด้วย! ไม่ใช่แค่นั้น แต่ข้ายังจะทำให้ศิษย์พรรคเทพหมาป่า์ต้องมาเรียงแถวต้อนรับพวกเราเข้าไป!” หวังเค่อพูดอย่างจริงจัง
ดวงตาองค์หญิงโยวเยว่เปียกชุ่ม “ขอบคุณนะหวังเค่อ!”
จางเจิ้งเต้าเองก็อ้าปากค้าง “จบสิ้นแล้ว หวังเค่อเสียสติไปแล้ว!”
