ร้านหอมละมุน
กรุ๊ง กริ๊ง ~ เสียงกระดิ่งที่อยู่ตรงประตูทางเข้าของร้านดังขึ้นเนื่องจากร่างบางเพิ่งหมุนตัวเดินกลับเข้าร้านของตนไป เธอหอบถุงขยะใบใหญ่ออกมาทิ้งด้านนอกก่อนจะพลิกแผ่นป้ายที่ห้อยอยู่ตรงกระจกกลับด้านเป็อีกฝั่งหนึ่งเพื่อบอกว่าร้านของเธอยังไม่เปิดให้บริการ
มีเสียงนกร้องแทรกเข้าหูบางเป็ระยะเนื่องจากยังเป็เวลาเช้าตรู่ คนตัวเล็กเดินกลับเข้ามาในครัวด้านหลังร้านแล้วเอื้อมตัวจับเอาผ้ากันเปื้อนสีชมพูน่ารักมาสวมเข้าที่ตัวเพื่อเริ่มอบขนมตามออเดอร์ที่ถูกสั่งเข้ามาวันนี้จากอาธเนศ
วันนี้ร้านของเธอต้องปิดให้บริการครึ่งวันเช้าเพราะต้องจัดชุดพักเบรกสองร้อยชุดให้ทันและไปส่งก่อนเที่ยงตรงตามที่อาธเนศได้นัดหมายกับเธอไว้ มือบางเทส่วนผสมที่ชั่งตวงมาอย่างดีลงแป้นพิมพ์รูปดอกไม้จนครบตามจำนวน ก่อนจะส่งมันเข้าเตาที่อุ่นรอไว้แล้วเมื่อยี่สิบนาทีก่อนหน้า พอจัดการเทขนมจนครบสองร้อยชิ้น ไมอาก็เดินไปหยิบแก้วพลาสติกมาวางเรียงลงบนโต๊ะเพื่อเตรียมจะเทกาแฟสดที่สกัดรอเอาไว้ั้แ่ตอนเธอตื่นนอน…
จนเวลาล่วงเลยไปเกือบสิบเอ็ดโมงเช้าไมอาก็บรรจุทุกอย่างเข้าแพ็กเรียบร้อยเหลือเพียงเรียกรถให้เข้ามารับตัวเธอกับชุดพักเบรกที่หน้าร้าน
“อีกไม่ถึงสิบนาทีรถก็ถึงแล้วนี่นา งั้นออกไปยืนรอข้างหน้าดีกว่า” เสียงหวานเอ่ยบอกกับตัวเองพร้อมกับหิ้วถุงเต็มไม้เต็มมือเดินออกไปที่หน้าร้านกาแฟของตน
หญิงสาวยืนรออีกเพียงไม่กี่นาทีรถที่เธอเรียกผ่านแอปพลิเคชันก็เข้ามาจอดเทียบตรงหน้า เธอเปิดประตูขึ้นรถด้วยท่าทางคล่องแคล่วถึงแม้จะมีของพะรุงพะรังแต่ก็ไม่ได้เป็อุปสรรคกับร่างเพรียวแม้แต่น้อย
ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงสาวน้อยหน้าตาสะสวยก็มายืนอยู่ที่หน้าตึกระฟ้าใจกลางเมืองหรือบริษัทของอาธเนศ…ขาเรียวก้าวเดินเข้าไปด้วยความมั่นใจเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอต้องเข้ามาส่งขนม เธอเลยรู้ดีว่าต้องขึ้นไปที่ชั้นไหนของตึกสูงนี้
“อ้าว หนูไมอามาพอดีเลย ตรงต่อเวลาจริงๆ” อาธเนศเอ่ยทักเธอทันทีที่ร่างบางเดินพ้นออกมาจากลิฟต์ตัวใหญ่
“สวัสดีค่ะ ให้ไมอาวางไว้ที่โต๊ะตรงนี้เลยไหมคะ”
แม้ในมือจะมีของที่ต้องถือมากมายแต่สาวน้อยก็ยังยกมือไหว้ผู้ชายตรงหน้าอย่างนอบน้อม
“ใช่ๆ แต่เดี๋ยวอาช่วยเราดีกว่า มาๆ”
หนุ่มวัยสี่สิบต้นๆ ที่ดูหนุ่มกว่าวัยเดินตรงเข้ามาหาพร้อมกับแย่งของในมือที่เธอถืออยู่ไปทำให้มือของเขาจับเข้าที่มือของเธออย่างเลี่ยงไม่ได้…
ไมอาส่งยิ้มบางๆ ให้กับผู้ชายตรงหน้าแล้วดึงมือของตัวเองออกอย่างสุภาพ เธอไม่ได้ไร้เดียงสาถึงขนาดจะดูไม่ออกว่าอาธเนศมีพฤติกรรมบางอย่างที่ไม่เหมาะสมกับตัวเธอ ไม่ว่าจะเป็สายตาหรือการกระทำในบางครั้ง
“เหนื่อยไหมหนูไมอา ต้องตื่นมาทำให้อาั้แ่เช้าเลยสิ เยอะขนาดนี้” เสียงที่ดูมีอำนาจตามวัยวุฒิเอ่ยถามเธอ
“ไม่เลยค่ะ ปกติก็ต้องตื่นแต่เช้ามาอบขนมเตรียมเปิดร้านอยู่แล้ว”
ใบหน้าสวยพูดบอกไปตามจริงกับกิจวัตรของเธอที่ต้องทำทุกวัน
“ถ้าเหนื่อยก็บอกอา มาทำงานกับอาก็ได้จะได้ไม่ต้องลำบากตื่นแต่เช้ายืนหลังขดหลังแข็ง…มันเสียสุขภาพ”
“ขอบคุณอามากๆ เลยนะคะ แต่ไมอาว่าไมอารักร้านหอมละมุนมากๆ คงทิ้งไม่ได้” เสียงหวานตอบกลับด้วยความหนักแน่นในจุดยืนของตัวเอง
“อืม ถ้าเปลี่ยนใจก็บอกอานะ…ทั้งหมดนี่สามหมื่นใช่ไหม บัญชีเดิมนะ”
“ใช่ค่ะ”
อาธเนศไม่ได้ตื๊ออะไรเธอต่อเขาเพียงส่งยิ้มด้วยแววตาสื่อความหมายให้ซึ่งเธอก็เลือกที่จะทำเป็ไม่เห็นมัน ก่อนที่มือถือที่อยู่ในมือของเธอจะสั่นขึ้นพร้อมกับยอดเงินห้าหมื่นถูกโอนเข้ามา…
ทุกครั้งที่มีออเดอร์จากอาธเนศ ไม่ว่าค่าชุดพักเบรกที่เธอจัดจะราคาเท่าไหร่ อาก็จะโอนยอดเกินมาเสมอแล้วบอกว่าเป็ค่าแรงต่างหากของเธอขอแค่เธอเอามันเข้ามาส่งด้วยตัวเองก็พอ ไม่ใช่ว่าไม่เคยปฏิเสธแต่พูดไปกี่ครั้งก็ไม่เป็ผลเธอเลยไม่เอ่ยอะไรอีกทำเพียงแค่ขอบคุณเขา
“ขอบคุณอาธเนศนะคะที่เอ็นดูร้านเล็กๆ ของไมอา” มือเรียวยกขึ้นประกบกันแล้วก้มไหว้เขาด้วยความจริงใจ
“เราเป็เด็กน่ารัก แค่นี้ยังน้อยไป”
คนตัวเล็กสะดุ้งเล็กน้อยที่อยู่ดีๆ มือของอาก็ลูบลงที่ศีรษะของเธอในจังหวะที่กำลังก้มหัวอยู่ทำให้ร่างบางถอยตัวกลับมาเล็กน้อยตามสัญชาตญาณ แต่มือของผู้ชายตรงหน้าก็ยังไม่ละห่างออกไป เขาเอาแต่ลูบผมนุ่มสลวยของไมอาแล้วจ้องมองใบหน้าสวยอยู่แบบนั้น
“เอ่อ ไมอาขอตัวก่อนนะคะ พอดีต้องกลับไปเปิดร้าน่บ่ายต่อ”
“อืม เอาสิ กลับดีๆ ล่ะ…อ๋อ เดี๋ยวสิหนูไมอา”
“…คะ?” ตากลมสวยมองมือของอาธเนศที่คว้าจับต้นแขนของเธอไว้ในจังหวะที่กำลังจะหมุนตัวเดินออกไป
“เย็นนี้หนูว่างหรือเปล่า เราไปกินข้าวด้วยกันสักมื้อดีไหม เดี๋ยวอาไปรับ” ั์ตาเ้าเล่ห์ของชายวัยเลขสี่เป็ประกายขึ้นทันที
“เอ่อ…พอดี”
“คุณธเนศสวัสดีครับ อ้าวไมอา มาส่งขนมหรอ”
“อ๋อ ใช่ค่ะพี่นนท์ พอดีอาสั่งชุดพักเบรกตั้งสองร้อยชุดแหนะ”
หญิงสาวที่กำลังอยู่ในสถานการณ์น่าอึดอัดใจรีบตอบกลับชายหนุ่มอีกคนที่เพิ่งโผล่เข้ามาในวงสนทนา ทำให้ผู้มีศักดิ์เป็ลูกของคุณหญิงย่ารีบแปรเปลี่ยนสีหน้าและแววตาให้กลับมาเป็ปกติเพื่อไม่ให้คนของพระราชวังสังเกตอะไรในตัวเขาได้
“งั้นหนูขอตัวก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ”
“ผมด้วยครับคุณธเนศ สวัสดีครับ”
นนท์และไมอาเดินออกมาพร้อมกันโดยมีสายตาของอาธเนศมองตามมาและั์ตาคมอีกคู่หนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังกำแพงก็จ้องมองลอบสังเกตเหตุการณ์ทั้งหมดอยูู่ไม่ต่างกัน…
“พี่ไปก่อนนะ พอดีมากับคุณคามินน่ะ” นนท์บอกกับสาวน้อยที่เดินอยู่ข้างกายเขา
“อ๋อ ค่ะ ขอบคุณพี่นนท์นะ”
ชายหนุ่มพยักหน้าให้เธอแล้วทั้งคู่ก็แยกย้ายกันตรงนั้น นนท์เดินย้อนกลับไปทางเดิมก่อนจะเลี้ยวไปอีกฟากหนึ่งของอาคารก็เจอกับร่างสูงของเ้าชายคามินยืนล้วงกระเป๋ารอเขาอยู่
“ขอโทษที่ให้รอนะครับ ให้ผมพากลับวังเลยไหม”
“อืม ไปตามผู้หญิงที่ชื่อไมอามาด้วยสิ เธอก็น่าจะกลับไปที่ร้านกาแฟเหมือนกันไม่ใช่หรอ” เสียงทุ้มพูดพร้อมกับหันใบหน้าหล่อกลับมามองผู้ชายอีกคนที่อายุเท่ากับเขา
“เอ่อ…มันจะดีหรอครับ” ถึงแม้ในใจเขาจะเป็ห่วงสาวเ้าของร้านอยู่ไม่น้อยแต่ยังไงก็ต้องคิดถึงความเหมาะสมไว้ก่อน
“ไม่ต้องคิดขนาดนั้นหรอก ให้นั่งหน้าไปกับนายสิ”
“…ครับ”
ทันทีที่ได้รับคำยืนยันจากผู้มีอำนาจนนท์ก็เร่งสาวเท้าเดินไปตามทางที่ร่างเล็กเพิ่งออกไป
ภายในรถโรลส์รอยซ์
ตอนที่พี่นนท์วิ่งกลับมาตามเธอเพื่อให้กลับไปพร้อมกันเธอก็ลืมไปเลยว่าเขามาพร้อมกับผู้ชายคนนั้นที่เธอเผลอไปว่ากลิ่นตัวของเขาที่ร้านกาแฟ ทำให้ั้แ่ออกมาจากบริษัทของอาธเนศจนถึงตอนนี้ที่รถกำลังเลี้ยวเข้าเขตของพระราชวังไม่มีบทสนทาใดๆ เกิดขึ้นเลยระหว่างคนทั้งสามคน…
รถหรูราคาหลายสิบร้านขับเข้ามาเทียบจอดที่หน้าร้านหอมละมุน สาวเ้าของร้านปลดเข็มขัดที่คาดพาดตัวอยู่ออกก่อนจะหันไปขอบคุณผู้ชายทั้งสองคนที่อนุญาตให้เธอนั่งมาด้วย
“ขอบคุณพี่นนท์…เอ่อ ขอบคุณเ้าชายด้วยนะคะ” เสียงหวานอึกอึกพูดออกไปโดยไม่กล้ามองสบตากับผู้ชายตัวสูงด้านหลัง เธอเพียงส่งยิ้มให้พี่นนท์คนขับแล้วลงจากรถมา
จากนั้นรถหรูขับเคลื่อนแล่นเข้าไปภายในรั้วของวังทันทีที่ประตูรถถูกปิดสนิท…
“นายสนิทกับไมอาหรอ” เสียงทุ้มเข้มถามคนขับรถของตัวเอง
“ครับ ผมเพิ่งเข้ามาในวังได้ไม่กี่ปีแต่คนที่จะเจอกันบ่อยๆ ก็จะมีป้าช่อ ต้นอ้อแล้วก็ไมอา เลยค่อนข้างสนิทครับ” เขาตอบออกไปตามความจริง
“อืม”
คามินตอบเพียงเท่านั้นแล้วไม่ได้ถามอะไรต่อจนรถมาจอดสนิทที่หน้าประตูชายหนุ่มก็ก้าวขาลงมาแล้วเดินขึ้นบันไดเพื่อไปที่ห้องนอนของตัวเอง
ห้องนอนคามิน
“ดูท่าน่าจะมีคนสนใจยัยนั่นต่ำๆ ก็สองคนสินะ…หึ”
ชายหนุ่มพูดออกมาโดยตาคมก็มองเงาสะท้อนของตัวเองบนกระจกก่อนจะยกยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย…
อาของเขาแล้วคนหนึ่ง ส่วนอีกคนเห็นจะเป็นนท์อย่างปฏิเสธไม่ได้เพราะถึงขนาดขอปลีกตัวจากเขาเพื่อไปช่วยผู้หญิงคนนั้นออกมาจากการเข้าหาของอาธเนศเลยทีเดียว
อืม…ก็ไม่ได้สวยขนาดนั้นซะหน่อย