หรงจิ่งยิ้มพร้อมกับส่ายหน้า
"แม้ข้าไม่เปิดดู ข้าก็รู้ว่าข้างในคือสิ่งใด มิใช่อะไรนอกจากของบำรุงร่างกาย แต่ว่าแม่นางเป็หมอย่อมรู้ว่าร่างกายอ่อนแอไม่จำเป็ต้องบำรุง เวลานี้ข้าเสียเืมากไม่อาจบำรุงให้กลับมาแข็งแรงในเร็ววัน ของบำรุงเหล่านี้ข้ากินเข้าไปก็ไม่ใช่เื่ที่ดี แม่นางเก็บเอาไว้เถอะ เก็บไว้ใช้กับคนอื่น ไม่แน่อาจจะช่วยชีวิตคนได้อีกหลายคน"
"ท่านไม่ต้องเปิดดูหรือ?" มั่นใจขนาดนี้เลยหรือว่าข้างในคือยาบำรุง? หากเป็อย่างอื่นเล่า?
หรงจิ่งยิ้มด้วยความมั่นใจ "หากไม่เชื่อ แม่นางเปิดดูได้"
ตำแหน่งของท่านจ้าวในตระกูลหรงช่างแปลกพิลึกยิ่งนัก ทั้งที่วิชาการแพทย์ล้ำเลิศน่าจะได้รับความสำคัญ แต่กลับถูกเครือญาตินอกสายเืกดขี่ ก่อนที่หรงจิ่งจะกลายเป็นายน้อย ความจริงแล้วชีวิตของท่านจ้าวนั้นลำบากยิ่งนัก หมอเซียนเป็เพียงชื่อเรียกเท่านั้น
ดังนั้นท่านจ้าวจึงรักหรงจิ่งเหมือนหลานชายตนเอง าเ็เพียงเล็กน้อยก็ปวดใจไปครึ่งค่อนวัน ด้วยนิสัยเช่นนี้ของเขา หรงจิ่งจึงมั่นใจมากว่าของในห่อผ้าคืออะไร ทั้งยังปฏิเสธเสียงหนักแน่น
ในอดีตท่านจ้าวก็บำรุงร่างกายของเขามาโดยตลอด เขาทนมามากพอแล้ว ผู้ใดใคร่กินก็กิน ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะไม่มีวันกิน!
เมื่อหรงจิ่งว่าเช่นนั้นซ่งอวี้ก็ไม่เกรงใจ นางเปิดห่อผ้าออก เป็ตามที่เขาบอก สิ่งที่อยู่ในห่อผ้าล้วนเป็สมุนไพรบำรุงร่างกาย ทั้งยังมีของบำรุงอื่นๆ นอกจากสมุนไพรอีกหลายอย่าง ทั้งรังนก โสม เขากวางอ่อนและเห็ดหลินจือ นอกจากนี้ยังมีบัวหิวมะด้วย
ของบำรุงร่างกายทุกอย่างล้วนราคาแพงหูฉี่ แต่หรงจิ่งกลับยกให้นาง สมกับเป็คุณชายผู้ร่ำรวย!
ซ่งอวี้เก็บห่อผ้าเงียบๆ แล้วส่งคืนให้เขา "ไม่ได้ทำคุณงามความดีใด ไม่อาจรับไว้ได้ ของเหล่านี้แพงหูฉี่ ท่านเอากลับไปเถอะ"
โบราณกล่าวไว้ รับของผู้อื่นต้องคอยให้เกียรติ กินของผู้อื่นต้องคอยพูดประจบ แม้ของเหล่านี้จะดีเลิศ แต่หลังจากรับไว้แล้วย่อมมีปัญหาตามมาไม่น้อย ไม่รับจะเป็การดีที่สุด
"หรือชีวิตของข้าจะไม่มีค่าเท่าของบำรุงร่างกายเหล่านี้?" หรงจิ่งยิ้มอย่างไม่ยี่หระ เขาไม่ปลายตามองของบำรุงแม้แต่น้อย
"แม่นางช่วยชีวิตข้า ข้ายังไม่เคยให้สิ่งใดตอบแทนแม่นางเลย แม้ข้าจะรู้ดีว่าตอนที่ช่วยข้าแม่นางไม่ได้หวังสิ่งใด แต่ข้าไม่อาจรับการช่วยเหลือของแม่นางโดยไม่ตอบแทนได้"
"ถือว่าเพื่อความสบายใจของข้า แม่นางรับเอาไว้เถอะ อย่างมากยามท่านจ้าวถามว่าของบำรุงเหล่านี้อยู่ที่ใด ท่านก็ช่วยข้าปิดบัง บอกว่าข้ากินหมดแล้วก็พอแล้ว"
ซ่งอวี้หมดคำจะพูด "..."
คุณชายท่านนี้กินของดีเป็เื่ปกติ จึงรังเกียจของเหล่านี้ ดังนั้นจึงร้อนใจอยากจะโยนมาให้นาง ให้นางเป็คนจัดการ?
สุดท้าย ของบำรุงทั้งหมดก็ตกอยู่ในมือของซ่งอวี้
ความสัมพันธ์ของทั้งสองไม่ได้อึดอัดเช่นตอนแรกแล้ว ซ่งอวี้ดูออก คล้ายว่าหรงจิ่งอยากจะสนิทสนมกับนาง
แม้ซ่งอวี้จะไม่รู้ว่าหรงจิ่งคิดอะไรอยู่ แต่นางไม่ปฏิเสธเจตนาดีของผู้อื่น ด้วยเหตุนี้ทั้งสองจึงพูดคุยกันมากขึ้น ทั้งยังหยอกล้อกันเป็ครั้งคราว
บางครั้งยามซ่งอวี้ศึกษาวิชาการแพทย์ แล้วมีเื่ไม่เข้าใจ นางก็จะไปถามหรงจิ่ง ทั้งสองมักจะขัดแย้งกันเื่สมุนไพรบางตัว ทะเลาะกันเพราะอาการป่วยของบางโรค ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน
ก็ได้ ทั้งหมดนี้เป็เื่ที่เกิดขึ้นในตอนหลัง สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือต้องจัดการเื่วุ่นวายที่ตระกูลฉีก่อ
เวลาหนึ่งวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว เมื่อตระกูลหรงส่งคนมาที่อำเภอ ท่านจ้าวก็รีบให้คนมาส่งข่าวซ่งอวี้ เพื่อให้นางไปรับพวกเขา
ซ่งอวี้เดินทางเข้าไปในอำเภอด้วยความรู้สึกที่คล้ายกับว่าตนกลายเป็คนค้าทาสไปแล้ว
ครั้งนี้หลังจากหรงจิ่งถูกรอบทำร้าย ทางด้านตระกูลหรงขุ่นเคืองอย่างมาก
ทายาทรุ่นนี้ คนที่สามารถฝากฝังตระกูลเอาไว้ได้มีเพียงหรงจิ่งคนเดียวเท่านั้น หากเกิดเื่ขึ้นกับเขา ไม่แน่ว่าความรุ่งโรจน์นับร้อยปีของตระกูลหรงอาจจะสูญสิ้นลงได้
ด้วยเหตุนี้ คนที่ตระกูลหรงส่งมาในครั้งนี้จึงเป็ยอดฝีมือ ไม่ว่าจะเป็วรยุทธ์หรือความสามารถในการรวบรวมข่าวสารก็ล้วนเก่งกาจ
ซ่งอวี้บอกสิ่งที่ตน้าให้ท่านจ้าวฟังอย่างละเอียด ดังนั้นผู้คุ้มกันทั้งสองคนจึงปลอมตัวเป็ทาส ถูกส่งตัวไปให้คนค้าทาส รอซ่งอวี้มาเลือกโดยเฉพาะ
การไปรับใช้ข้างกายหรงจิ่งด้วยวิธีนี้ปลอดภัยที่สุด ทั้งยังไม่มีวันเปิดเผยตัวตนของเขา
สำหรับหรงจิ่งแล้ว ผู้คุ้มกันสองคนนี้สำคัญมาก สำหรับซ่งอวี้พวกเขาก็สำคัญมากเช่นเดียวกัน หากนางอยากจะให้แผนการของตนสำเร็จลุล่วง เช่นนั้นก็้าความช่วยเหลือจากผู้คุ้มกันทั้งสอง ด้วยเหตุนี้นางจึงใส่ใจกับเื่นี้เป็อย่างมาก
หลังจากมาถึงอำเภอ ซ่งอวี้ไปก็หาท่านจ้าวก่อน ท่านจ้าวพาคนมาให้ซ่งอวี้ดูหน้าก่อน เพื่อเลี่ยงไม่ให้ซื้อทาสมาผิดคน หลังจากนั้นพวกนางก็จะตรงไปยังที่ค้าทาส แล้วซื้อตัวผู้คุ้มกันทั้งสองคนอย่างแยบยล
ท่านจ้าวบอกหญิงค้าทาสั้แ่เมื่อวานแล้วว่าเขาจะมาซื้อทาสวันนี้ ดังนั้นการปรากฏตัวของท่านจ้าวจึงไม่ได้ทำให้หญิงค้าทาสแปลกใจ แต่ว่ามีคนมาเลือกทาสก่อนพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงจำต้องรอ
"คนนี้ รวมถึงคนนี้ ข้าจะซื้อทั้งหมด" เสียงแหลมดังขึ้น แค่ฟังก็เดาออกว่าเ้าของเสียงต้องเป็คุณหนูตระกูลใหญ่อย่างแน่นอน
หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงของหญิงค้าทาสตามมา เสียงของนางคล้ายว่ากำลังลำบากใจเล็กน้อย
"คนโง่เขลาทั้งสองคนนี้เข้าตาคุณหนูหรูเยียนถือเป็วาสนาของพวกเขา แต่...แต่คุณหนูก็ทราบดี ร้านค้าทาสของข้า คนที่มาล้วนยินดีที่จะเป็ทาส ด้วยเหตุนี้พวกเขายินดีหรือไม่ยินดีขายตัวให้คุณหนู คุณหนูไม่อาจตัดสินได้"
ช่างหายากนัก ในเมื่อตั้งใจขายตัวเป็ทาสแล้ว แต่กลับเลือกคนซื้อเนี่ยนะ? ต่อมความสงสัยในใจของซ่งอวี้ถูกกระตุ้น นางเดินเข้าไปสองสามก้าวเพื่อที่ตนจะได้มองเห็นเหตุการณ์ด้านในชัดเจนยิ่งขึ้น
ความจริงแล้วทาสส่วนมากล้วนไม่ต่างจากที่นางมาซื้อเมื่อคราวก่อน แค่ว่าตอนนี้ตำแหน่งคนซื้อทาสเปลี่ยนเป็สตรีคนอื่นก็เท่านั้น
ดวงหน้าของสตรีคนนี้งดงาม คิ้วยาวดั่งบรรพต ผิวพรรณเปล่งปลั่ง แม้ไม่ใช่หญิงงามสุดในแผ่นดินแต่ก็ถือว่าเป็หญิงงาม ทว่าความโอหังบนใบหน้าของนางและสีหน้าเหยียดหยามผู้อื่นเช่นนี้กำลังทำลายความงามของนางจนหมดสิ้น
ขณะที่ซ่งอวี้กำลังวิจารณ์รูปโฉมของสตรีในใจ ท่านจ้าวก็เดินมากระซิบข้างหูด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีนัก
"แย่แล้ว นางคือคุณหนูหรูเยียน นางชอบซื้อบุรุษรูปร่างกำยำ"
อ่อ เข้าใจแล้ว สตรีจอมบงการนี่เอง แต่นี่ไม่ใช่เื่ใหญ่ ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกนาง ที่พวกนางมาซื้อทาสก็แค่ทำพอเป็พิธีเท่านั้น
ท่านจ้าวมองสีหน้าที่คล้ายจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจของซ่งอวี้ก็รู้ทันทีว่านางไม่เข้าใจ เขาจึงพูดให้ชัดเจนมากขึ้น "เ้ามองให้ดี เวลานี้นางยืนอยู่ตรงหน้าผู้ใด"
ลูกศิษย์ของตนคนนี้ ด้านวิชาการแพทย์นั้นกล่าวได้ว่ามีพร์ ทุกครั้งยามสอนและยามสอบท่านจ้าวล้วนััได้ถึงความก้าวหน้าของซ่งอวี้ แต่ด้านอื่นนั้น
หึๆ ไม่พูดดีกว่า พูดแล้วปวดใจยิ่งนัก
ซ่งอวี้คิดไม่ถึงว่าเวลานี้ท่านจ้าวกำลังตำหนินาวในใจ นางมองไปตามทางที่ท่านจ้าวชี้ก็ไม่สบอารมณ์ขึ้นมาทันที นี่คือคนที่ตระกูลหรงเตรียมไว้ให้นางไม่ใช่หรือ? หรือว่าคนที่คุณหนูหรูเยียนจอมโอหังคิดอยากจะซื้อกลับไปคือพวกเขาทั้งสองคน?
ซ่งอวี้ที่ตอนแรกอยากจะดูเื่สนุกอยู่ข้างๆ ตอนนี้ไม่มีอารมณ์แล้ว นางเลิกคิ้วขึ้นแล้วเดินเข้าไปไม่สนใจว่าการค้าขายด้านในเสร็จสิ้นหรือยัง ไม่เข้าไปไม่ได้แล้ว สองคนนี้เกี่ยวข้องกับแผนการในอนาคตของนาง จะปล่อยให้ถูกผู้อื่นซื้อไปได้อย่างไร