ตอนที่ 2
ตกค่ำก็นั่งดื่มอย่างที่ตกลงกันไว้ที่ห้องนั่งเล่น ระหว่างนั่งดื่มก็ดูหนังและพูดคุยกันไปด้วย ฟาร์เริ่มเอาเบียร์ออกจากตู้แช่ทีละขวด ดื่มกันไปดื่มกันมาสรุปพอนับขวดดูดีๆ พบว่าดื่มเบียร์ไปเกือบลัง นอนหลับสบายจนเช้าตื่นมาก็เจอหน้าไอ้ฟาร์ก่อนเป็สิ่งแรก ทั้งคู่อาบน้ำด้วยกันอย่างทุกวัน เป็ภาพที่เห็นสัดส่วนร่างกายของกันและกันแต่ก็ไม่เคยพิสวาทกันเอง พอแต่งตัวเสร็จต่างคนก็ต่างแยกย้ายไปทำงานของตัวเอง
“สวัสดีครับพ่อ” เกอร์มาถึงบริษัทก่อนเวลานัดหมายกับพ่อ สร้างความแปลกใจให้ฟร้อนไม่น้อยเพราะพอมาถึงเกอร์ก็เดินเข้าลิฟต์ตรงขึ้นชั้นบริหารเลยซึ่งเธอก็ห้ามไว้ไม่ทัน ลิฟต์เปิด เกอร์ก็เดินตรงไปยังห้องทำงานของพ่อทันที พ่อรู้ดีว่าลูกชายและลูกสาวไม่ชอบความวุ่นวายจึงไม่แปลกที่หลายคนจะไม่รู้จักเกอร์เพราะลำพังแค่บริษัทของตัวเองก็ค่อนข้างวุ่นวายพอแล้ว และคนภายในบริษัทรู้ว่าพ่อของเขามีลูกแต่ไม่เคยพามาแนะนำตัวอย่างเป็ทางการ ยกเว้นคนที่สนิทกับพ่อจริงๆ เวลาออกงานส่วนใหญ่แม่ก็จะไปกับพ่อเสมอ
“มาไวดี” พงศ์มองลูกชายั้แ่หัวจรดเท้าแล้วยกยิ้ม การแต่งตัวคือนักธุรกิจที่ดูภูมิฐานสมเป็ลูกของประธานบริษัท
“จะสายได้ไงล่ะครับ เข้าบริษัทพ่อวันแรก” เกอร์ตอบแล้วยกยิ้มตามที่ชอบทำ บริษัทพ่อเขาเคยมาแต่ไม่บ่อยนักและครั้งนี้ฐานะของเขามันต่างจากเดิม
“หึ” พงศ์ขำในลำคอ
“นี่ตรี เลขาของพ่อ จำได้ไหม?” พงศ์แนะนำคนที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้อง
“จำได้สิครับ สวัสดีครับอาตรี” เกอร์ยกมือไหว้สวัสดีอาตรีด้วยความเคารพ ั้แ่จำความได้ก็เห็นอาตรีทำงานอยู่กับพ่อของเขาแล้ว
“สวัสดีครับโตขึ้นเยอะน่ะเรา” ตรีเอ่ยทักทายหลายชายอย่างเอ็นดู
“ครับ อาตรีก็ยังหล่อเหมือนเดิม” เกอร์ถึงกับต้องเอ่ยชม เพราะอายุอาตรีน่าจะอ่อนกว่าพ่อแค่ปีเดียวแต่กลับดูแลตัวเองอย่างดีทำให้ยังหล่อเหลา แถมสาวๆ ติดเพียบ
“คุณเกอร์ก็พูดเกินไป” ตรีพูดยิ้มๆ
“เรียกเกอร์เฉยๆ ก็พอครับอา อย่าเรียกคุณเลย” เกอร์ บอกอย่างเกรงใจ จะให้คนที่เราเคารพเรียกเราว่าคุณก็ดูแปลกๆ
“ครับ” ตรี
“ห้องประชุมพร้อมยังตรี?” พงศ์หันไปถามเลขาของตัวเอง
“เรียบร้อยแล้วครับ” ตรีตอบพร้อมกับหยิบแฟ้มเอกสารที่ต้องใช้ในการประชุม
“งั้นไปกัน” พงศ์
จากนั้นทั้งสามคนก็เดินเข้าห้องประชุมไปพร้อมกัน ทุกคนในห้องประชุมต่างลุกขึ้นทักทายและทำความเคารพ หลังจากที่ทักทายเสร็จแล้วทั้งหมดก็นั่งลง
“นี่เกอร์ ลูกชายเพียงคนเดียวของผมและเขาคือคนที่จะมาดูแลบริษัทนี้ต่อจากผมในอนาคต” พงศ์เอ่ยแนะนำลูกชายให้ผู้บริหารระดับสูง ผู้จัดการ รวมถึงหัวหน้างานแต่ล่ะฝ่ายที่อยู่ในห้องประชุม
“สวัสดีครับ ผมเกอร์ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยน่ะครับ” เกอร์ลุกขึ้นยืนสวัสดีด้วยความสุภาพ
“ด้วยความยินดีครับ / ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”
จากนั้นตรีก็แนะนำชื่อของแต่ละคนพร้อมตำแหน่งงานที่ทำในบริษัทให้เกอร์ได้ทราบ
“เกอร์ถ้าลูกมีความคิดเห็นอะไรก็เสนอได้เพื่อความก้าวหน้าของบริษัท ไม่ต้องเกรงใจ” พงศ์หันมาพูดกับลูกชาย เกอร์ก็พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ
“ทุกคนก็เหมือนกันสามารถออกความคิดเห็นและพูดคุยกันได้ ไม่ใช่พอเขาเป็ลูกชายผมก็เห็นด้วยไปเสียหมด” พงศ์หันไปพูดกับทุกคนที่อยู่ในห้องประชุมให้รับทราบโดยทั่วกัน
“รับทราบค่ะ / รับทราบครับ”
“งั้นเรามาเริ่มประชุมกัน” พงศ์
หลังจากนั้นก็นั่งประชุมยาวกันถึงเที่ยงเพราะมีหลายอย่างที่ต้องปรับปรุงเพราะในบริษัทมีทั้งบุคลากรที่เป็เจนเนอเรชั่นใหม่และเจนเนอเรชั่นเก่าจึงไม่แปลกที่บริษัทยังมีบางอย่างที่ล้าหลัง ในการประชุมมีหลายคนที่เห็นด้วยและบางคนที่ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เกอร์ได้พูดเสนอในที่ประชุมเพราะพวกเขามองไม่เห็นภาพ พอมองในมุมกลับกันเกอร์ก็เห็นด้วยกับคนส่วนน้อยนี้และไม่มองข้ามเื่เล็กๆ น้อยๆ พ่อของเขาเลยให้เขากลับมาเตรียมเอกสารและพรีเซนเทชั่นสำหรับโปรเจ็คที่เขาได้เสนอไปเพื่อนำมาในประชุมกันใหม่ในครั้งหน้า และมันไม่ยากเลยเพราะเขามีระบบที่เขาทำมันสำเร็จแล้วจากธุรกิจของตัวเอง เพียงแค่ต้องปรับเปลี่ยนจากเดิมเพราะสินค้าที่นำเข้ามาเป็สินค้าคนละประเภท
วันนี้เกอร์ต้องทานมื้อเที่ยงกับพ่อที่บริษัท เพราะตอนเย็นพ่อต้องพาลูกชายไปแนะนำตัวแต่ล่ะแผนกให้พนักงานได้รู้จัก ซึ่งข้อนี้เกอร์เข้าใจดีต่อให้เรามีตำแหน่งที่สูงแค่ไหนก็ตามแต่องค์กรต้องขับเคลื่อนด้วยพนักงานั้แ่ระดับล่างสุดจนถึงบนสุดดังนั้นเขาจึงต้องเรียนรู้และรู้จักทุกฝ่าย
แต่สิ่งที่ได้เมื่อพ่อพาเกอร์มาแนะนำ…..
“นี่เหรอลูกท่านประธาน หน้าตาดีมากราวกับเทพบุตร”
“เออๆ หล่อมากเวอร์แก”
“หล่อวัวตายควายล้มเลยอะ”
“เหมือนดาราเลย”
“แก คนนี้แหละพ่อของลูกฉัน”
“เพ้อเจ้อ ต้องได้ฉันสิ”
“เื่แบบนี้ใครดีใครได้”
“หล่อแบบแซ่บซี๊ด กล้ามต้องแน่นแน่เลย” เกอร์กระตุกยิ้มมุมปากเท่ๆ เมื่อเสียงกระซิบกระซาบดังให้ได้ยินเบาๆ และไม่ว่าจะเดินไปแผนกไหนก็ได้ยินแต่คำพูดทำนองนี้ ถ้าสาวๆ ในออฟฟิศเห็นกลุ่มของเพื่อนเขาไม่กรี๊ดจนสลบไปเลยหรือไง เพราะแต่ละคนหล่อยิ่งกว่าดาราเสียอีก
“ดูเหมือนลูกจะเสน่ห์แรง” พงศ์พูดกับลูกชายอย่างขำขัน
“ได้เืพ่อมาเต็มๆ” เกอร์ยิ้มรับคำชมพร้อมแกล้งแซวคนเป็พ่อ
“ไม่เถียง แต่แกห้ามเอาคนในบริษัทขึ้นเตียงเด็ดขาดน่ะ เื่นี้พ่อขอ” พงศ์มองหน้าลูกชายแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขาไม่อยากให้มีปัญหาในอนาคตหากลูกชายตัวดีของเขาจะมีใครเป็ตัวเป็ตน เพราะเท่าที่รู้มาลูกชายเขาเสน่ห์เหลือล้นไม่แพ้เพื่อนๆของเขาเลย
“เข้าใจครับ พ่อกลัวจะมีปัญหาใช่ไหม?” เกอร์พยักหน้ารับ เขาเข้าใจดีเพราะเื่ของพายุถือว่าเป็ตัวอย่างที่ดีของความยุ่งเหยิงในบริษัท กว่าจะเคลียร์ได้ก็ไม่ง่ายเลย
“ใช่” พงศ์พยักหน้า
“ครับผมรับปาก” ครับ
กว่าพ่อจะพาเกอร์ทัวร์ไปทั่วทุกแผนกก็เกือบบ่ายสอง ต่อด้วยเข้าไปดูในส่วนของโรงงานพอเสร็จก็เย็นพอดีได้เวลาเลิกงานของใครหลายๆ คน ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน
กลับมาถึงคอนโดก็เจอฟาร์ถึงก่อนแล้ว ฟาร์เดินไปเปิดตู้เย็นหยิบเบียร์เย็นๆ มาสองกระป๋อง เดินมาหาเกอร์ที่นั่งอยู่บนโซฟาเบสที่ห้องรับแขกแล้วยื่นเบียร์ให้ไป
“ขอบใจ” เกอร์รับแล้วเปิดดื่มทันที ใจคอมันจะไม่ให้เขาได้ดื่มน้ำเปล่าเลยหรือไง วันๆมีแต่แอลกอฮอล์ แต่ก็ดีเหมือนกันเพราะรู้สึกสดชื่นดีเหมือนได้เพิ่มพลังชีวิต
“หน้าตาเหนื่อยมาเลยน่ะมึง นี่แค่วันแรกน่ะ ปัญหาเยอะเหรอว่ะ?” ฟาร์ถามอย่างเป็ห่วงที่เพื่อนรักมีสีหน้าเครียดปนเหนื่อยล้า
“ก็ไม่ขนาดนั้น แต่ต้องแก้ระบบว่ะ บริษัทพ่อกูบางอย่างก็ยังล้าหลัง และมีบางส่วนที่ทันสมัยอยู่บ้าง แต่ก็ต้องแก้เยอะอยู่ดี” เกอร์บ่นอย่างเหนื่อยหน่ายเมื่อนึกถึงภาระงานที่ต้องเจอ พรุ่งนี้คงต้องเรียกทีมวางระบบมาคุย
“มึงก็ใช้ระบบเดียวกันกับที่มึงนำเข้าแอลกอฮอล์สิว่ะ จะยากอะไร” ฟาร์มองหน้าเพื่อนรักยิ้มๆ
“กูก็คิดไว้อย่างนั้น แต่ก็ยังต้องปรับหลายอย่าง” เกอร์บอกอย่างเซ็งๆ ยกเบียร์ขึ้นกระดกลงคอไปหลายอึก
“ค่อยๆ ทำ ค่อยๆ คิด” ฟาร์พูดอย่างให้กำลังใจ
“หน้ากูเหนื่อยมาก?” เกอร์เลิกคิ้วถามฟาร์ด้วยความอยากรู้ว่าเขาทำสีหน้ายังไงถึงทำให้ฟาร์เป็ห่วง
“เออ มึงไม่รู้” ฟาร์ตบบ่าเกอร์เบาๆ อย่างให้กำลังใจ
“คงเพราะเป็บริษัทพ่อมั้งกูเลยกดดันเพราะอยากให้ทุกอย่างออกมาดีที่สุด และอีกอย่างวันนี้เดินทั้งวัน เหนื่อยสัส! พ่อพากูเดินทั่วทั้งบริษัทและโรงงานเลย” เกอร์พูดอย่างเหนื่อยอ่อน วันนี้สูบพลังเขาไปมากจริงๆ ดีแค่ไหนที่โรงงานสร้างอยู่ในบริเวณเดียวกับตัวบริษัทไม่อย่างนั้นต้องเสียเวลานั่งรถอีก
“ผ่อนคลายเชื่อกู แล้วทุกอย่างจะออกมาดี” ฟาร์ยิ้มบางๆมองเกอร์ด้วยสายตาอ่อนโยน นานๆ จะเห็นเพื่อนรักจริงจังกับอะไรแบบนี้ ครั้งล่าสุดคงเป็ตอนที่มันพยายามสร้างบริษัทนำเข้าแอลกอฮอล์ขึ้นมาเองซึ่งก็ผ่านมาหลายปีแล้วจนตอนนี้ทุกอย่างมั่นคงดีแล้ว
“นั่นสิน่ะ” เกอร์ยกเบียร์ขึ้นดื่มจนหมดกระป๋องแล้วโยนลงถังขยะลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวเพราะคืนนี้มีนัด
@คลับธีร์
คืนนี้ก็มีนัดเหมือนกับทุกคืน แต่คืนนี้มีเฉพาะพวกเราเท่านั้น เควินอยู่คลับของตัวเอง วิสกี้และฟีนิกซ์ก็คงอยู่นั่นด้วย พายุพาเอฟมาด้วย เอฟคือเด็กที่พายุไปตกมาได้จากทริปกระบี่ หลังๆ มานี้พามาด้วยบ่อย แต่ส่วนมากก็ตี้ด้วยกันทั้งกลุ่ม พวกเราไม่เคยซีเรียสเื่แบ่งกันกินแบ่งกันเอา เรียกได้ว่าแฟร์ๆ กันเสมอ รอบก่อนพาเอฟมาด้วยก็ทะเลาะกับฟีนิกซ์ยกใหญ่ เคลียร์กันไปกี่ท่าก็ไม่รู้เพราะฟีนิกซ์จัดหนักจัดเต็มจนเพื่อนของเขาจมเตียง ต้องลางานพักตูดไปหลายวัน แต่คืนนี้ดูเหมือนพายุจะมีเื่เครียดมากๆ และกำลังจะหาเื่ใส่ตัวอีกแล้ว ถ้าให้เดาเื่ที่ทำให้มันเป็ได้ขนาดนี้ก็คงไม่พ้นเื่เกี่ยวกับฟีนิกซ์แน่นอน ดื่มกันไปได้พักใหญ่พายุก็เริ่มเมาแล้วมือก็กดโทรหาฟีนิกซ์ไปด้วย ตอนแรกก็ไม่ยอมโทรเองหรอกจะให้ธีร์โทรให้ แต่พวกเพื่อนๆ แซวไปแซวมาสรุปโทรเอง ส่วนเอฟคือนั่งคอตกสงสัยหลงรักพายุเข้าแล้วจริงๆ
“กลับ” นั่นคือคำพูดของฟีนิกซ์เมื่อเห็นภาพที่เมียตัวเองกำลังซบไหล่ของผู้ชายคนอื่น สายตาที่ฟีนิกซ์ใช้มองเอฟดูไม่เป็มิตรนักจนเอฟต้องกระเถิบตัวออกห่างจากพายุทันที จากนั้นฟีนิกซ์ก็ประคองพายุกลับคอนโด
มีเพียงคนเดียวในโต๊ะที่แสยะยิ้มด้วยความถูกใจ เพื่อนเขาพยศเก่ง เจอกับคนแบบฟีนิกซ์นั่นแหละเข้ากันที่สุดแล้ว
“กูว่าเดี๋ยวพวกแม่งทะเลาะกันอีกแน่” ฟาร์พูดขึ้นอย่างเป็ห่วงมองหลังเพื่อนรักอย่างพายุจนสุดสายตา
“เออชิปหายแน่” เกอร์พยักหน้าแล้วพูดอย่างเห็นด้วยพร้อมยกเหล้าเข้มๆ ขึ้นดื่ม
“เตรียมตัวไปเยี่ยมพายุเลยมึง” ธีร์ที่เพิ่งเดินกลับมาจากห้องน้ำแต่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดพยักหน้าขำๆ ดูก็รู้ว่าฟีนิกซ์หึง เพื่อนเขาก็ไม่รู้ใช้ตาไหนมอง เขาค่อนข้างมั่นใจว่าฟีนิกซ์เป็คนรักษาคำพูด เพราะก่อนเมาพายุเล่าให้ฟังว่าฟีนิกซ์มีคนอื่น แต่พวกเราทั้งหมดไม่คิดอย่างนั้น
“ดูจากสีหน้าฟีนิกซ์ กูว่าจมเตียง” จากที่ดูฟาร์มั่นใจว่า ฟีนิกซ์จัดเพื่อนเขาหนักกว่ารอบก่อนแน่ พายุก็หาเื่จริงๆ
“เพราะผม?” เอฟถามทุกคนอย่างงงๆ พร้อมชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง สาเหตุมาจากเขางั้นเหรอ คำพูดของพี่ๆ ในกลุ่มดูน่ากลัวไม่น้อย เขาแอบเป็ห่วงพี่พายุจัง แต่เขาไปกับผัวเขาเน้อะ
“เออ ผัวเขาหึงขนาดนั้น” เกอร์ว่าเอฟอย่างไม่จริงจังนักมองอีกฝ่ายเหมือนเด็กน้อย
“มันไม่มีอะไรเลยเว้ยพีี่ พี่ฟีนิกซ์เข้าใจผิด เมื่อกี้พี่ธีร์ไปเข้าห้องน้ำ พี่พายุแค่มึนหัวเลยพิงผมแทนเฉยๆ” เอฟอธิบาย ซึ่งทุกคนรู้ความจริงที่เป็แต่ฟีนิกซ์ไม่รู้
“ถ้ามึงเป็ผัวมัน มึงจะคิดงี้ป้ะ?” ฟาร์เลิกคิ้วถาม จ้องหน้าเอฟอย่างเ้าเล่ห์
“ไม่ครับ” เอฟตอบแบบไม่ต้องคิดสักนิด ถ้าเขาเป็ผัวพี่พายุ เอาจริงเขาก็หึงเหมือนกัน ก็เมียซบอกผู้ชายอื่น
“เออ นั้นแหละที่กูพูด” เกอร์ยกแก้วเหล้าขึ้นชนกับทุกคนในโต๊ะแล้วดื่มจนหมดแก้ว
“ก็ได้แต่หวังว่ามันคงจะเคลียร์กันดีๆ” ดินที่เงียบอยู่นานพูดขึ้น
“พายุยิ่งยั่วโมโหเก่ง กูว่ายังไงก็จมเตียง” ธีร์ยกยิ้มกรุ้มกริ่ม
“พี่ฟีนิกซ์คงไม่ใจร้ายขนาดนั้นมั้งครับ” เอฟยิ้มแหย๋ๆ
“น้อยไปสิมึง” เกอร์ยิ้มขำ เขาจำสภาพเพื่อนรักหลังผ่านพ้นศึกรักในแต่ละครั้งได้ดี
“รักกัน แต่เสือกไม่พูด” ดินพูดเสียงเรียบ ต่างฝ่ายต่างรักแต่กลับไม่พูด
“ผมอกหักจริงๆ สิน่ะ” เอฟคอตกพูดขึ้นอย่างเซ็ง จริงๆมันก็หมดหวังั้แ่ตอนเที่ยงที่พี่พายุมาหาเขาด้วยอาการแย่แบบนั้นแล้ว ดูก็รู้ว่ารักพี่ฟีนิกซ์มากแค่ไหน ต่อให้เขาพยายามแทรกกลางก็ไม่มีทางได้ใจของพี่พายุมา เพราะงั้นเขาคงต้องทำใจ
“มาเดียวพวกกูดามเอง” ฟาร์พูดแล้วยกยิ้มกรุ้มกริ่มสบตากับเกอร์เป็นัย
“หึ แน่อยู่แล้ว ว่าแต่คืนนี้กี่คนครับ?” เอฟถามพวกพี่ๆ แล้วยิ้มร่ากลบเกลื่อนความเสียใจ
“กูไม่สะดวก ตี 1 ต้องไปคลับเค” ธีร์ปฏิเสธขึ้นคนแรกคืนนี้เขานัดกับเคเอาไว้แล้ว ถ้าธุระอื่นที่สำคัญเขาก็พร้อมยกเลิกนัด เพราะสำหรับเขาเพื่อนมาก่อนอย่างอื่นเสมอ แต่ถ้าเหตุผลที่ยกเลิกนัดเพราะตี้เซ็กส์มีหวังเคได้ยิงเขาทิ้งแน่ รายนั้นขี้หึงไม่ต่างจากฟีนิกซ์หรอกสมกับที่เป็ญาติกัน
“ไปหาผัวอีกแล้ว” ฟาร์แซวเพื่อนรักทันทีเมื่อได้ยินเหตุผลที่ใช้ปฏิเสธ
“เสือก” ธีร์ด่ากลับทันควัน ยกเหล้าขึ้นดื่มแก้เขิน ความจริงต้องบอกว่าด่ากลบเกลื่อนถึงจะถูก
“ติดผัว” เกอร์แซวขึ้นอีกคน ส่วนดินก็ได้แต่มองเพื่อนยิ้มๆ
“สรุป กู ไอ้ฟาร์ มึง น่าจะไอ้ดินอีกคน” เกอร์พูดสรุปหลังจากที่ดินพยักหน้า
“มึงคนเดียวโอเค?” ฟาร์ถามเอฟที่นั่งดื่มเหล้าอยู่ พอหมดก็ให้ธีร์เติมให้
“ขอแรงๆ น่ะพี่ อยากลืมว่ะ” เอฟพูดจบก็ยกเหล้าเพียวขึ้นดื่มหมดแก้วกระแทกแก้วลงโต๊ะจนเกิดเสียงดังแต่ทุกคนก็ไม่ได้ว่าอะไร
“เสียใจขนาดนั้นเลย?” เอฟพยักหน้ารับคำถามของฟาร์อย่างไว หน้ามันคือหงอยเหมือนหมาถูกเ้าของทิ้งถึงจะทำท่าทียิ้มแย้มก็ตามแต่ดูรู้เลยว่าหลงพายุเข้าจริงๆ
สำหรับเอฟถึงจะเป็่เวลาสั้นๆ แต่เขาก็รู้สึกหลงรักพายุจริงๆ
“หึ จะจัดให้ถึงใจ” เกอร์พูดด้วยความหมั่นเขี้ยว
“คืนนี้กูสนุกด้วยไม่ได้แล้ว ติดธุระด่วน” ดินที่ลุกขึ้นไปคุยธุระเดินกลับมาที่โต๊ะแล้วบอกฟาร์กับเกอร์
“สำคัญ?” ฟาร์
“อืม” ดิน
“เออๆ แล้วจะกลับเลย?” ฟาร์
“อืม เจอกันพรุ่งนี้” ดินตอบพร้อมเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋ากางเกง
“ขับรถดีๆ” ดินพยักหน้ารับคำพูดของเกอร์แล้วเดินไปที่ลานจอดรถทันที
“งั้นพวกเราขึ้นไปสนุกด้วยกันข้างบน มึงเอาป่ะยังพอมีเวลา?” เกอร์ก้มมองนาฬิกาข้อมือแล้วพูดกับธีร์ด้วยน้ำเสียงเ้าเล่ห์
“ไม่อะ กูขึ้นไปอาบน้ำล่ะไปเลย” ธีร์ปฏิเสธเพราะรู้นิสัยกามของตัวเองดีถ้าตี้แล้วอารมณ์ไม่สงบเขาไม่พอ
“เค” ในเมื่อเพื่อนไม่เล่นด้วยเกอร์ก็ี้เีตื้อต่อ
ทั้งสี่คนขึ้นลิฟต์ไปพร้อมกัน ธีร์ลงชั้นสามที่ห้องส่วนตัวของตัวเอง ส่วนฟาร์ เกอร์และเอฟตรงขึ้นชั้นสี่ห้องที่จัดตี้กันในทุกครั้ง
เข้ามาในห้องเอฟก็ตรงเข้าไปอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายรวมทั้งเตรียมความพร้อมทันที หลังจากที่เอฟออกมาสิ่งแรกที่รับรู้ได้คือกลิ่นในห้องมันหอมแปลกๆ จากเดิมที่เดินเข้ามาในห้อง มองหาต้นตอของกลิ่นหอมก็เจอเครื่องพ่นน้ำหอมวางอยู่ที่โต๊ะข้างเตียง ทั้งเกอร์และฟาร์ที่นั่งจิบเหล้าชิวๆ ที่โต๊ะก็ถอดเสื้อผ้าไปล้างตัว เกอร์ที่ล้างตัวเสร็จก่อนก็ออกจากห้องน้ำ
“หึ แรงดี” ฟาร์ที่เดินออกมาจากห้องน้ำมานั่งที่เดิมมองเกอร์ที่ยืนให้เอฟดูดแก่นกายอย่างตะกระตะกราม
“เออว่ะ มองกูตาเยิ้มเลย กูเลยให้ดูดน้องชายรอมึง” น้ำหอมตัวล่าสุดที่ธีร์หามาแรงใช้ได้เพราะเขาและเกอร์เองยังรู้สึกได้ มันไม่ใช่น้ำหอมธรรมดาแต่มันคือยาปลุกเซ็กส์ในรูปแบบน้ำหอมเกรดพรีเมียร์ ไม่แปลกที่เอฟจะแสดงท่าทีแบบนั้นออกมา
“มึงเอาก่อนไหม?” เกอร์ที่ทำหน้าฟินกับลีลาลิ้นและปากของเอฟถามเพื่อนรักที่นั่งดื่มเหล้าดูดบุหรี่มองพวกเขาตาเป็มันส์
“มึงก่อนเลย” ฟาร์ยกยิ้มทิ้งบุหรี่ในมือลงที่เขี่ยหยิบคอนดอมขึ้นมาฉีกแล้วเดินไปหาทั้งคู่ เอาแก่นกายของตัวเองไปจ่อที่ปากเอฟแทน เอฟก็เปลี่ยนแก่นกายทันทีจากที่คุกเข่าก็เปลี่ยนเป็ลุกขึ้นยืนโน้มตัวไปด้านหน้าในท่าโก้งโค้งแทนและในระว่างนั้นปากก็ยังทำหน้าที่อย่างดีเยี่ยม เกอร์โน้มตัวลงใช้นิ้วกลางแทงเข้าไปในช่องทางด้านหลังของเอฟจนสุดความความยาวแล้วตามด้วยนิ้วที่สองและสามแทงเข้าออก ในขณะเดียวกันฟาร์ก็ใส่ถุงยางให้เกอร์อย่างใจเย็น รูดรึงแก่นกายเพื่อนรักแรงๆ ทั้งคู่สบตากันอย่างเข้าใจ เกอร์เดินอ้อมไปด้านหลังเอฟทั้งที่นิ้วยังคาอยู่อย่างนั้น ใช้มืออีกข้างจับแก่นกายฟาดก้นแน่นแรงๆ ดึงนิ้วออกแล้วแทนที่ด้วยแก่นกายที่ทั้งอวบหนาและยาวเข้าไปจนสุด
“อื้ออออ อือ” เสียงครางอู้อี้ของเอฟดังขึ้นเป็ระยะตามจังหวะที่เกอร์กระแทกแก่นกายเข้าออก แต่ก็ร้องดังได้ไม่มากเนื่องจากมีแก่นกายของฟาร์ที่คับเต็มปาก
เกอร์กระหน่ำแทงจนพอใจสบตากับเพื่อนรัก สลับตำแหน่งดึงคอนดอมทิ้งถังขยะแล้วให้เอฟดูดแก่นกายต่อ ส่วนฟาร์ก็สวมคอนดอมแล้วแทงเข้าช่องทางด้านหลังที่ขมิบอย่างเชิญชวน กล้ามเนื้อสะโพกแน่นๆ อวดสายตาจนฟาร์ใช้มือของตัวเองขย่ำมันแรงๆ แหวกแกมก้นออกจับไว้แน่นแล้วกระหน่ำแทงทั้งรัวและเร็วตามแรงอารมณ์ของตัวเอง แรกๆ เอฟดูดๆ เลียๆ ผ่านไปสักพักอารมณ์ของเกอร์เริ่มสูงขึ้นจับหัวเอฟไว้แน่นแล้วเป็ฝ่ายกระแทกแก่นกายเข้าออกแทน ยิ่งเห็นฟาร์เร่งจังหวะเกอร์ก็เร่งจังหวะตามทำให้เอฟสำลักน้ำมูกน้ำตาไหล
“อ่า / อึก อื้ออออออ / ซี๊ด อืม ” เกอร์เชิดหน้าครางปลดปล่อยน้ำรักเข้าโพรงปากของเอฟ บางส่วนเอฟก็กลืนลงท้องบางส่วนที่กลืนไม่ทันก็ไหลมาทางมุมปากลงมาถึงคาง เอฟสบตากับเกอร์ด้วยสายตาออดอ้อนน่าขยี้ ฟาร์ยิ่งกระหน่ำแทงทั้งรัวและเร็วเมื่อเห็นเพื่อนรักเสร็จสม มันเป็ภาพที่เพิ่มอารมณ์ความสุขได้เป็ทวีคูณจนปลดปล่อยตามออกมาในที่สุด และในจังหวะสุดท้ายเอฟเองก็ปลดปล่อยออกมาเลอะไปทั่วพื้น ฟาร์ดึงแก่นกายออกจากช่องทางด้านหลังเดินไปหยิบกระดาษทิชชู่ใช้หยิบคอนดอมถอดทิ้งถังขยะ แล้วเปลี่ยนอันใหม่แทน
“อ่าาาา อื้อออ อ๊ะ” หลังจากนั้นก็เสียวกันยาวๆ ผลัดกันวนไปอยู่อย่างนั้น เสียงครางของเอฟดังระงมไปทั่วห้องสลับกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อในแต่ละจังหวะ
“เข้าสองได้ไหมว่ะ?” เกอร์ถามเอฟด้วยน้ำเสียงหื่นกามและแววตาที่เ้าเล่ห์
“ได้พี่ แต่เบาๆ น่ะ” เอฟกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ แต่ก็อดพยักหน้ารับไม่ได้เพราะเซ็กส์ของทั้งคู่มันดีจนเขาไม่อาจปฏิเสธได้เลยจริงๆ แค่ลำพังเข้าทีล่ะคนเขายังเสียวมากขนาดนี้แล้วถ้าเข้าพร้อมกันมันจะขนาดไหน และเอฟเองก็อยากลองเพราะเขาไม่เคยให้ใครแซนวิชเหมือนกัน
“หึ จะพยายาม” เกอร์ยกยิ้มร้าย ยกมือลูบหัวเอฟอย่างเบามือ
“กูเข้าล่ะน่ะ อึดอัดหน่อยน่ะมึง” ฟาร์บอกเกอร์ที่นอนหงายอยู่ด้านล่าง เอฟอยู่ตรงกลางในท่านอนคว่ำเข้าหาเกอร์ ส่วนฟาร์ซ้อนอยู่้าจับแก่นกายค่อยๆ ดันเข้าไปในช่องทางด้านหลังของเอฟที่มีแก่นกายของเกอร์แทงคาเอาไว้ก่อนแล้วจนสุดความยาว ฟาร์และเกอร์แช่แก่นกายเอาไว้นิ่งๆ ให้เอฟได้ปรับตัวเล็กน้อย พวกเขาไม่ใจร้ายที่จะกระหน่ำแทงในทันที
“อ่าสสสสส !! ” เอฟร้องครางอย่างกลั้นไม่อยู่ มันทั้งเสียว ทั้งเจ็บ และจุก พร้อมๆ กัน เกอร์คว้าคอเอฟแล้วประกบปากจูบอย่างร้อนแรง ส่วนด้านล่างก็ผลัดกันแทงสวนแก่นกายเข้าออกพร้อมๆ กัน
“อืม / ชี๊ดดดด / อื้อออ” ทั้งสามคนครางออกมาพร้อมๆกันด้วยความเสียว
เช้ามาพวกเพื่อนๆ ต่างได้รับข่าวที่ไม่ค่อยดีนักจากธีร์ที่ติดต่อกับพายุได้ ไม่รู้ว่ารอบนี้พวกมันเคลียร์กันยังไงพายุถึงขั้นขอหนีไปพักใจถึง 6 เดือน และขอให้พวกเขาไม่ต้องตามหาถ้าสบายใจแล้วมันจะติดต่อกลับมาเอง ซึ่งตอนแรกพวกเขาแทบจะไปยิงฟีนิกซ์ด้วยซ้ำแต่ธีร์ห้ามไว้ แต่ถึงจะเป็อย่างนั้นพวกเขาทั้งกลุ่มก็ยอมรับการตัดสินใจของเพื่อนเสมอ ไม่ว่าจะเป็ยังไงก็พร้อมซัพพอร์ตเสมอ สุดท้ายพวกมันจะรักหรือเลิกกันก็ขึ้นอยู่กับคนสองคน คนนอกอย่างเราทำได้เพียงแค่มองดูเท่านั้นเพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าระหว่างทั้งคู่เกิดอะไรขึ้นบ้าง ก็ได้แต่หวังว่าสุดท้ายแล้วทุกอย่างจะจบลงด้วยดี ไม่มีใครชอบหรอกที่ต้องเห็นเพื่อนรักต้องเสียใจ
หกเจ็ดวันมานี้เกอร์วุ่นวายอยู่กับการวางแผน พูดคุย ประชุม สรุปงานกับลูกน้อง แต่ก็ถือว่าคืบหน้าไปกว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ส่วนฟาร์ก็ยุ่งไม่น้อยไปกว่ากัน ทำให้เกอร์กับฟาร์ได้เจอกันแค่เวลานอนเท่านั้น และในแต่ละคืนได้นอนกันไม่ถึงแปดชั่วโมง
“ถึงไหนแล้วงานบริษัทพ่อมึง” ฟาร์ถามเกอร์ขึ้นในขณะที่กำลังอาบน้ำด้วยกัน หน้าเพื่อนเหนื่อยจนเขาต้องถาม
“เกินครึ่งทางแล้ว เหลือไม่เยอะ” เกอร์
“ให้กูช่วยไหม? งานกูเสร็จแล้ว” ฟาร์
“ก็ดี จะได้เสร็จเร็วๆ” เกอร์
ถึงใครหลายคนจะโอเคแล้วกับโปรเจ็คงานที่เขาเสนอไป หนึ่งในนั้นรวมพ่อเขาด้วย แต่สำหรับเกอร์ยังมองว่ามันยังมีข้อผิดพลาดอยู่ เลยต้องแก้ไขแล้วแก้ไขอีกจนกว่าจะพอใจ และกว่าสองสัปดาห์หฤโหดจะผ่านพ้นไปได้ทำเอาเกอร์เหนื่อยไม่น้อย และสองสัปดาห์ที่ผ่านมาแทบไม่ได้ปาร์ตี้เลย เวลาพักผ่อนก็แทบจะไม่มี
“กูกลัวแต่กูอยากฟังนี่หว่า”
………………………………………………..
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้